ตีตั๋วรอบ16ทีม ! เยอรมัน ทุบ ฮังการี นิ่ม 2-0 กุนโดกัน ทั้งยิงและจ่าย

นัดแรกเล่นได้สมราคาความเป็นเจ้าภาพและเต็งแชมป์ ยูโร2024 จริงๆ สำหรับทีมชาติเยอรมันนี ในยุคของกุนซือรุ่นใหม่ ยูเลี่ยน นาเกิลส์มันน์ เพราะเปิดหัวด้วยการถล่มเอาชนะทีมบอลสไตล์โบราณอย่าง สก็อตแลนด์ ไปขาดลอย 5-1 แมตช์ที่2ที่จะดวลกับฮังการี หากว่าทัพอินทรีเหล็กเก็บ3แต้มได้ พวกเขาก็จะตีตั๋วไปเล่นรอบน็อกเอ้าท์ 16ทีมทันที และท้ายที่สุด เยอรมันก็ทำได้ ด้วยการทุบฮังการี ไปเบาะๆ2-0 ชนิดที่ต้นเกมมีต้องเสียวหน่อย

 

เยอรมันนี เจ้าภาพ ตีตั๋วเข้าสู่รอบ 16ทีมสุดท้ายได้เป็นทีมแรก หลังเอาชนะ ฮังการี ไป 2-0 โดยทีมเมืองเบียร์ได้2ประตูจาก จามาล มูเซียล่า น.22 และ อิลคาย กุนโดกัน น.67 โดยทีมของ นาเกิลส์มัน เมื่อคืน เล่นได้โดดเด่นหลายราย โดยเฉพาะแนวรับอย่าง โยนาธาน ทาห์ 
 

ก่อนเกมการจัดทัพ ทีมแชมป์โลกปี 2014 ใช้11ตัวผู้เล่นชุดเดิมกับนัดที่ถลุงสก็อตแลนด์ 5-1 แนวรุกมากันครบมือทั้ง ไค ฮาแวร์ตช์  - อิลคาย กุนโดกัน - ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ และ จามาล มูเซียล่า ทางฝั่งของ ฮังการี ด้วยความปราชัยดังกล่าว ส่งผลให้มีโอกาสสูงมากๆ ที่พวกเขาจะตกรอบเร็ว แม้ว่าในทัวร์นาเม้นต์นี้ อันดับ3 ที่ดีที่สุด4จาก6กลุ่ม จะยังผ่านเข้ารอบก็ตาม



โดยเริ่มเกมต้องบอกว่าพลพรรค " แม็กยาร์ " มีโอกาสที่จะชิงขึ้นนำก่อนเหมือนกัน แต่โดนทั้งความหนึบของ มานูเอล นอยเออร์ และกองหลังอย่าง โยนาธาน ทาห์ สกัดไว้ได้
 

โดมินิค โซบอสไล สตาร์เด่นจากลิเวอร์พูล พยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ไม่สามารถช่วยทีมชาติบ้านเกิดได้ รวมไปจนถึงระหว่างเกม "โซโบ " ก็มีช็อตจ่ายบอลพลาดให้เห็นเวลาจะสวนกลับเช่นกัน ส่วนกุนซือของฮังการี มาร์โก รอสซี่ ก็ออกมาตำหนิผู้ตัดสินอย่าง แดนนี่ มัคเคลี่ ที่เป้าเข้าข้างทีมเจ้าบ้านไปหน่อย

ส่วนทัพอินทรีเหล็กที่ช่วงแรกแม้จะโดนฮังการี บดพุ่งเข้าใส่ แต่ทว่าแนวรับของพวกเขายังคงไว้ใจได้ จนมาอาศัยความสามารถเฉพาะตัวและทีมเวิร์คที่ดีกว่า เผด็จศึกคู่แข่งไป 11ผู้เล่นตัวจริงของเยอรมัน ทำกันได้ดีเกือบทุกตำแหน่ง แต่ทว่าอาจจะยกเว้น2แนวรุกอย่าง เวียร์ตซ์ และ ฮาแวร์ตช์ ที่โชว์ฟอร์มกันไม่ออก
 

ส่วนเหล่าบรรดาตัวสำรองอย่าง คริส ฟูห์ริช - ลีรอย ซาเน่ และ นิคลาส ฟูลล์ครูก ลงมาแล้วก็ส่วนร่วมกับทีมน้อยไปหน่อย อาจจะด้วยเพราะรูปเกมที่นำห่างแล้ว ทำให้เยอรมันไม่ได้โหมเกมบุกมากมายนักด้วย จบเกม รางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ก็ตามคาดว่าเป็นของ อิลคาย กุนโดกัน ผู้ที่ทั้งยิงและจ่าย 
 

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน (A) สก็อตแลนด์ สวมหัวใจนักสู้เสมอกับ สวิตเซอร์แลนด์ ไป 1-1 ทำให้นอกจากเยอรมัน ที่ผ่านเข้าไปเล่นรอบ16ทีมเรียบร้อยแล้ว ทีมแดนนาฬิกา ที่เก็บได้4แต้ม จาก2นัด ขาข้างหนึ่งก็เข้าไปรอบน็อกเอ้าท์แล้วเช่นกัน ซึ่งอย่างน้อยก็ได้ลุ่นในฐานะอันดับ3ที่ดีที่สุด
 

กุนโดกัน ทั้งยิงและจ่าย คว้า MOTM

นัดแรกที่ถลุงเอาชนะ สก็อตแลนด์ ไปเมามัน 5-1 เหล่าบรรดาแนวรุกหน่วยล่าสังการของเยอรมัน ยิงได้กันหมดเลยทั้ง มูเซียล่า - เวียร์ตซ์ - ฮาแวร์ตช์ หรือแม้กระทั่งตัวสำรองอย่าง ฟูลล์ครูก มีเพียง กุนโดกัน (ที่ยืนสูงเป็นเบอร์10) เท่านั้นที่ไม่มีสกอร์
 

ซึ่งก่อนมาทัวร์นาเม้นต์ ยูโร 2024 อิลคาย กุนโดกัน แม้จะฟอร์มไม่เปรี้ยงเท่ากับสมัยที่อยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่กับบาร์เซโลน่า แม้จะดร็อปลงมาบ้าง แต่ทว่าผลงานยังใช้ได้เลย 5ประตู กับอีก 9 แอสซิสต์ จาก 36นัดในลาลีก้า
 

ประตูขึ้นนำ1-0 ต้องให้เครดิต กุนโดกัน เลย ที่มีทั้งความขยันและเหลี่ยมบอลที่ดีกว่าไปเบียดแย่งบอลมาจาก วิลลี่ ออร์บาน ไหลคืนให้ จามาล มูเซียล่า ยิงเข้าไป ก่อนที่ดาวเตะจากบาร์เซโลน่ารายนี้ จะสอดเข้ามายิงเรียดเม็ดที่ 2ตอกฝาโรง จากลูกตัดในเข้ามาของแบ็กซ้าย มักซิมิเลียน มิตเทิลสตัดท์
 

1ประตู 1แอสซิสต์ ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์เลย สำหรับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของ อิลคาย กุนโดกัน แข้งวัย33ปี แม้ว่าจะไม่ได้มีจุดเด่นเรื่องความเร็ว แต่สิ่งที่ทำได้ยอดเยี่ยมตลอดนั่นก็คือ เซ็นส์เรื่องฟุตบอล โดยเฉพาะการสอดเข้าไปหาพื้นที่ในเขตโทษ โดยเฉพาะประตู 2-0 กุนโดกัน ทำให้เห็นบ่อยครั้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ บาร์เซโลน่า 
 

รูปแบบการเล่นของ กุนโดกัน ทำให้เหล่าบรรดาเริมเส้นอย่าง มูเชียล่า และ เวียร์ตซ์ มีพื้นที่ได้เล่นกระชากมากขึ้น รวมไปจนถึงการสอดหาตำแหน่งในเขตโทษ ทำให้แนวรับคู่แข่งเกิดความลังเลสับสนเหมือนกัน
 

มูเซียล่า ยิง2นัดติด แรงต่อเนื่องจากเกมแรก

ก่อนทัวร์นาเม้นต์จะเริ่มต้นเป็นหนึ่งในบรรดาแข้งดาวรุ่งที่ถูกจับตามองเป็นลำดับต้นๆเลยสำหรับ จามาล มูเซียล่า ซึ่งแม้จะวัยเพียงแค่ 21ปี แต่ทว่าเจ้าตัวก็มีประสบการณ์ในนามสโมสรอย่างโชกโชน กับ บาเยิร์น มิวนิค เพราะลงเล่นให้เสือใต้ไปแล้วมากถึง163นัด
 

นัดเปิดหัวยูโร 2024 มูเซียล่า กดไป1เม็ด และมีอิมแพคต่อทีมแดนไส้กรอกมากๆ จนคว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครอง มาเกมกับ ฮังการี จามาล มูเซียล่า ก็ยังสานต่อผลงานเพลงแข้งแจ่มอีกครั้ง เมื่อซัดประตูเปิดตัว1-0
 

ดาวเตะจาก บาเยิร์น มิวนิค มีความคล่องตัว เร็ว ทักษะเชิงลูกหนังดี เพราะฉะนั้นเวลาลากจี้บอลตรงริมเส้นทั้งฝั่งซ้ายและขวาเล่นเอาวิงแบ็กซ้าย-ขวาอย่าง มิลอส เคอร์เคซ และ เบนเดกุซ โบลล่า หัวหมุนเลย รวมไปจนถึงเหล่า3เซ็นเตอร์ด้วย
 

ประตู 2-0 ก็เป็น มูเซียล่า ที่จ่ายออกข้างให้แบ็กซ้าย มักซิมิเลียน มิตเทิลสตัดท์ ทำแอสซิสต์ให้ กุนโดกัน  ความนิ่งเวลาได้บอลคือสิ่งที่เจ้าหนูดาวรุ่งรายนี้ทำได้เกินอายุมากๆ ทั้งเกม (75นาที) มูเซียล่า ได้โอกาสยิงไป3ครั้ง ผ่านบอลแม่นยำ 86%
 

ส่วนผู้ที่ลงไปแทนอย่าง คริส ฟูห์ริช ตัวรุกจาก สตุ๊ตการ์ท รวมถึงสำรองอีกรายรุ่นพี่ร่วมสโมสรอย่าง ลีรอย ซาเน่ ไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันหรือ หรือประติดประต่อกับเพื่อนร่วมทีมได้เลย

 

ทาห์ สานต่อฟอร์มแกร่งจาก เลเวอร์คูเซ่น

หากใครไม่ได้ตามดูบุนเดสลีก้า คงจะงงเหมือนกันว่าในทัวร์นาเม้นต์ยูโร 2024นี้ เซ็นเตอร์ตัวจริงที่ยืนคู่กับ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ คือใคร สำหรับ โยนาธาน ทาห์ ที่เป็นตัวหลักของทีมชาติเยอรมันนีมาได้สักพักแล้ว กับฟอร์มอันโดดเด่นกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
 

ทาห์ ที่ออกสตาร์ทตัวจริงร่วมกับ รูดิเกอร์ ทำให้เซ็นเตอร์ของทัพอินทรีเหล็กเป็นในไทป์สูงใหญ่หมดเลย ซึ่ง โยนาธาน ทาห์ นั้นมีส่วนสูงถึง 195 เซ็นติเมตร น้ำหนักร่วมๆ90กิโลกรัม แต่ทว่าในเรื่องของความเร็ว สปีดต้น นั้นไม่ได้เชื่องช้าเลย
 

จริงๆ ฮังการี มีโอกาสชิงจังหวะขึ้นนำเยอรมันก่อนด้วยซ้ำ จากลูกยิงของ โบลล่า แต่ทว่าติดบล็อกขา โจนาธาน ทาห์ หรือแม้กระทั้งจังหวะสวนกลับ น.29 ที่ " แม็กยาร์ " ได้สวนกลับ ได้ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ทว่าก็เป็น ทาห์  ที่มาขวางทันได้อย่างสุดยอดอีกรอบ
 

อีกจุดที่แนวรับของเลเวอร์คูเซ่นทำได้ดีนั่นก็คือ จังหวะวางบอลยาวของฮังการี แล้วมีพื้นที่ช่องว่างให้ต้องดวลกับคู่แข่ง ทาห์ ที่มีสปีดความเร็ว ดักจังหวะชิงบอลได้ก่อนอย่างหมดจด ทาห์ เคลียร์บอลได้ถึง5ครั้ง - บล็อกบอล1ครั้ง และตัดบอลได้2หน
 

ส่วนคู่ขาอย่าง อันโตนิโอ รูดิเกอร์ แม้นัดแรกจะมีจุดด่างพร้อยกับการเข้าประตูตัวเองในนัดแรก การโดนใบเหลืองแรก น.27 ในเกมเมื่อคืนทำให้ กองหลังจาก เรอัล มาดริด รายนี้กังวลเหมือนกัน กับการดวลแบบ1ต่อ1 แต่ภาพรวมก็ยังทำได้ดี ด้วยรูปเกมที่ครองบอลขึงเข้าใส่ ทำให้ทั้ง ทาห์ และ รูดิเกอร์ ได้ยืนสูงขึ้นมาเลยครึ่งสนามเลย
 

เยอรมัน ตีตั๋วเข้ารอบ16ทีม นาเกิลส์มันน์ ยังมีของให้เล่น

แม้ว่าก่อนมาทัวร์นาเม้นต์ยูโร 2024 ที่ตัวเองรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ จะไม่ได้ถูกมองว่าเป็นเต็ง1เทียบเท่ากับ ฝรั่งเศสและอังกฤษ แถมเมื่อช่วงปลายปี 2023 ในเกมอุ่นเครื่องเยอรมัน แพ้รวดต่อทั้ง ออสเตรีย (2-0) และ ตุรกี ( 2-3) แต่ทว่าในปฎิทินปี 2024 พวกเขาก็กลับมาฟอร์มดีเพราะมีทั้งเอาชนะทีมยักษ์ใหญ่อย่าง ฝรั่งเศส (2-0) และ เนเธอร์แลนด์ (2-1)
 

การได้เป็นเจ้าบ้านในทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ ทำให้เยอรมันนี ได้บัฟจากเสียงเชียร์แฟนบอลเป็นอย่างมาก ส่วนในเรื่องฟอร์มการเล่น พวกเขาก็ไฉไลใช้ได้เลยทั้งถล่ม สก็อตแลนด์ 5-1 และเมื่อคืน ฮังการี 2-0
 

ทัพอินทรีเหล็ก ภายใต้การทำทีมของกุนซือวัยรุ่นยุคใหม่ ยูเลี่ยน นาเกิลส์มันน์ ดูมีความทันสมัยเป็นบอลสมัยใหม่มากขึ้น ไม่เหมือนยุคก่อนๆที่ ทีมเวิร์คเยี่ยม วินัยเด่น แต่ทว่าขาดตัวจี๊ดจ๊าด พลิกแพลง ในทีมชุดนี้ก็มีอย่าง จามาล มูเซียล่า และ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ รวมถึงสำรองอย่าง ลีรอย ซาเน่
 

รวมถึงแบ็กซ้าย-ขวา ของพวกเขาอย่าง มักซิมิเลียน มิตเทิลสตัดท์ และ โยซัว คิมมิซ ก็มีความสมัยใหม่ และเน้นเกมรุกมากๆ โดยเฉพาะแบ็กจากสตุ๊กการ์ตที่ก่อนมาทัวร์นาเม้นต์นี้ เด่นมากๆกับสโมสร
 

การครองบอล ต่อบอล และค่อยๆนวด นี่คือสิ่งที่ทัพอินทรีเหล็กทำได้ดีอยู่แล้ว ใน2นัดแรกที่ผ่านมา แต่ก็อาจจจะต้องระวังหน่อยในเรื่องของ เซ็นเตอร์ที่ยืนสูงมีสิทธิโดนวางยาวใช้ความเร็วสวนกลับได้
 

จุดเดียวที่ดูยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ ของทีมแชมป์โลก4สมัย นั่นก็คือ ตำแหน่งศูนย์หน้าที่ใช้ ไค ฮาแวร์ตช์ ยืน ยังดูไม่มีบทบาทกับเพื่อนร่วมทีมเท่าที่ควร ส่วนหน้าเป้าแบบโบราณสูงใหญ่อย่าง นิคลาส ฟูลล์ครูก ก็ใช้ได้ในบางแท็กติกเท่านั้น และตัวของ ฟูลล์ครูก แม้นัดแรกจะยิงประตูได้ แต่ก็เป็นคนที่มีส่วนร่วมกับเพื่อนร่วมทีมน้อยไปหน่อย

 

ต้นเกมฮังการี มีโอกาส โซบอสไล คนเดียวไม่ไหว

ก่อนทัวร์นาเม้นต์จะเริ่มต้นขึ้น ฮังการี ของ กุนซือ มาร์โก รอสซี่ ถูกยกให้เป็นหนึ่งในทีมว่าที่ม้ามืดของ ยูโร 2024 เลย เพราเป็นบอลเล่นสนุกเร้าใจ รวมไปจนถึง11นัดหลังสุดรวมทุกรายการ พวกเขาแพ้เพียงแค่1นัด ชนะ 7 / เสมอ3 และแพ้ 1
 

แถมในรอบคัดเลือกยูโร 2024 พวกเขายังเข้ามาในฐานะแชมป์กลุ่ม (G) อีกด้วย และรอบสุดท้ายฮังการี ถูกจับให้อยู่ในกลุ่ม เอ ซึ่งดูจากคู่แข่งในกลุ่ม นอกจากเยอรมัน พวกเขามีศักยภาพที่จะเก็บแต้มและเข้ารอบต่อไปได้เลยกับ สวิตเซอร์แลนด์ แล สก็อตแลนด์
 

แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม เปิดหัวมา2นัด ขุนพล " แม็กยาร์ " กลับแพ้รวดเลย โอกาสตกรอบสูงเหนือเกิน หรือถ้าจะลุ้นเข้ารอบได้เหลือเพียงแค่การเป็นอันดับ3ที่ดีที่สุด 4จาก6กลุ่ม ซึ่ง ฮังการี ที่แพ้รวดประตูได้เสียตอนนี้ -4 เข้าให้แล้ว
 

เกมเมื่อคืนกับเยอรมัน ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่มีโอกาส เริ่มมาไม่ถึง1นาที เกือบจะขึ้นนำไปก่อนด้วยซ้ำ แต่โดนความยอดเยี่ยมของ มานูเอล นอยเออร์ ป้องกันไว้ รวมไปจนถึงจังหวะจะได้หวดเหน่งๆในเขตโทษ ก็โดน โยนาธาน ทาห์  มากันไว้ได้ทันอย่างหวุดหวิดถึง2ช็อต
 

รวมไปจนถึงในขณะที่ตามหลังอยู่เพียงลูกเดียว ฟรีคิกของ โซบอสไล ก็โดน นอยเออร์ ปัดได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังลุกมาปิดมุมลูกซ้ำต่อเนื่องของ บาร์นาบาส วาร์ก้า ได้อย่างรวดเร็ว หรือลูกโหม่งซ้ำไปซุกก้นตาข่ายของ โรลันด์ ซัลไล ก็โดนจับล้ำหน้าไปก่อน
 

2นัดที่ผ่านมา ฮังการี ก็เล่นในรูปแบบที่ตัวเองถนัดหากเจอทีมที่ชื่อชั้นเหนือกว่า นั่นก็คือรับแล้วสวนกลับนั่นแหละ แต่ทว่าแนวรับของพวกเขานั้นก่อความผิดพลาดง่ายเหลือเกิน เม็ดแรก วิลลี่ ออร์บาน โดนเหลี่ยมบอลเบียดของ กุนโดกัน เม็ดสอง 3เซ็นเตอร์ ก็ปล่อยให้ กุนโดกัน ได้พื้นที่ยืนยิงโล่งๆในเขตโทษ