ความกดดันเล่นงาน ! สิงห์ สะดุดต่อเนื่อง ฟูแล่ม บุกเชือด 2-1 มูนิซ กด น.90+5
เมื่อถูกโฟกัสจับจ้องว่าจะกลายเป็นทีมลุ้นแชมป์ ความกดดันดังกล่าวก็เหมือนจะเล่นงานเซลซี เข้าให้แล้วจริงๆ เพราะสัปดาห์ก่อนหน้า ทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ทำได้เพียงแค่บุกไปเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 0-0 ก่อนที่ในวันบ็อกซิ่ง เดย์ พลพรรคสิงห์บูลส์ จะเปิดกล่องของขวัญให้แฟนๆ ด้วยการเล่นยังถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ลอนดอน ดาร์บี้ กลับปราชัยให้กับ ฟูแล่ม ไป 1-2 ทั้งที่เป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน แต่ทว่ามาโดนทีเด็ดของ 2ตัวสำรองทีมเยือนท้ายเกม
เซลซี ต้องการเก็บ 3แต้มอีกครั้ง หลังสะดุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกขาเปิดบ้านต้อนรับเพื่อนร่วมกรุงลอนดอน ฟูแล่ม การจัดทัพ เอ็นโซ่ มาเราก้า จัดชุดที่ดีที่สุดมาในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู โรเบิร์ต ซานเชส แบ็กซ้ายขวา มาร์ค กูกูเรย่า และ มาโล่ กุสโต้ คู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟ ลีวาย โควิลล์ ผนึกกำลังกับ โทซิน อดาราบิโอโย่
มิดฟิลด์คู่กลาง เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ กับ มอยเซส ไกเซโด้ 3ประสานแนวรุก เปโดร เนโต้ - โคล พาลเมอร์ และ เจดอน ซานโซ่ กองหน้าตัวเป้า นิโคลัส แจ็คสัน ทางฟากฟูแล่ม ของ มาร์โก ซิลวา ปรับมาเล่นในระบบ 5-4-1 ผู้รักษาประตู แบร์นด์ เลโน่
3ปราการหลัง โยอาคิม อันเดอร์เซ่น -อิสซ่า ดิย็อป และ คาลวิน บาสซี่ย์ วิงแบ็กซ้ายขวา แอนโทนี่ โรบินสัน กับ ติโมตี กัสตาญ มิดฟิลด์คู่กลาง ซาช่า อิลิช กับ อันเดรียส เปเรยร่า ปีกซ้ายขวาซึ่งเป็นสายถึกทั้งคู่ อดาโม่ ตราโอเร่ และ อเล็กซ์ อิโวบี้ กองหน้าตัวเป้า ราอูล ฮิเมเนซ
เริ่มเกมมาต้องบอกว่ามีโอกาสใส่สกอร์กันทั้งคู่เลย ทั้งจากจังหวะยิงตามน้ำของ โคล พาลเมอร์ และลูกยิงในเขตโทษของ ราอูล ฮิมิเนซ แต่ทว่าโกลของทั้งสองฝั่งก็ยังเซฟไว้ได้เข้าซอง และแล้วความสามารถเฉพาะตัวของ พาลเมอร์ ก็มาทำให้สิงห์น้ำเงินขึ้นนำ 1-0 เมื่อชิ่ง1-2 กับ แจ็คสัน ลากหนี 2ผู้เล่นฟูแล่ม ก่อนแปลอดขา ดิย็อป เข้าไปง่ายๆ น.16
หลังจากนั้นก็แลกหมัดกันเลย ฟูแล่ม มีโอกาสตีเสมอได้ถึง2ครั้ง จากจังหวะแหวกยิง ของ บาสซี่ย์ และจังหวะหลุดไปยิงเฉี่ยวเสาของ ฮิมิเนซ ด้านเซลซี ก็มีโอกาสได้เม็ด2เหมือนกัน ลูกสูตรฟรีคิก เอ็นโซ่ หยอดเข้าไปให้ กูกูเรย่า สอดขึ้นมาโหม่ง แต่ทว่าติดเซฟ เลโน่ จบ45นาทีแรก จึงเป็นเจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0
ครึ่งหลัง แม้ว่ารูปเกมจะยังสูสี โต้กันไปมา แต่ทว่าโอกาสจะแจ้งของ สิงห์น้ำเงิน ยังมีมากกว่า ทั้งลูกวางเท้ายิงนอกกรอบเขตโทษของ เอ็นโซ่ แต่ทว่า เลโน่ บินเซฟได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง หรือจังหวะโขกของ โควิลล์ แม้บอลจะตุงตาข่ายไปแล้ว แต่ทว่าก็เป็นช็อตล้ำหน้าอย่างชัดเจน
บอลที่สวนกันไปมาเป็นปิงปอง ฟูแล่ม ก็ได้โอกาสจะแจ้งเช่นกันทั้งกับ จังหวะปั่นไซด์ยิงของ อิโวบี้ แต่หลุดเสาแรกไปไม่ไกล โรบินสัน เติมสอดขึ้นมาในเขตโทษ จับบอลห่างเพียงนิดเดียว กลายเป็น ซานเชส ที่ออกมาปิดมุมเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม
และแล้วความพยายามของฟูแล่มก็เป็นผล โรบินสัน หลุดไปทางริมเส้น ก่อนเปิดบอลไปเข้าหัว กัสตาญ โหม่งสวนย้อนทางไปให้ แฮร์รี่ วิลสัน ตัวสำรอง โขกระยะจ่อๆ3หลา ชนเสาเข้าไป ตีเสมอ 1-1 น. 82 ณ ตอนนั้นเซลซี ก็พยายามอย่างมากที่จะเอาประตูนำ เพื่อคว้า 3แต้มอีกครั้ง ทำให้เกมค่อนข้างเปิด และหลังของทีมสิงห์บูลส์เอง ก็ลอยสูง
สุดท้ายด้วยการดันสูงของเซลซี นั่นแหละทำให้ ฟูแล่ม ได้สวนกลับ ซาช่า อิลิช หลุดมาทางขวา ก่อนจ่ายทะลุด้านข้างเข้ามาให้ ตัวสำรองอีกราย โรดริโก้ มูนิช ที่จังหวะแรกเหมือนจับบอลไม่ดี แต่ยังยิงเรียดผ่านมือ ซานเชส เสียบมุมเข้าไป แซงนำ 2-1 น. 90+5 และคว้า 3แต้มกลับออกไปได้
ไม่ว่าสิงห์จะดีหรือแย่ แต่ พาลเมอร์ ไม่เคยเป๋
ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว 2023-2024 ช่วงที่เซลซี ยังเป็นจ่าฝูงแดนใต้ ก่อนมาเร่งฟอร์มท้ายซีซั่นจนเข้าป้ายเป็นที่ 6ของตาราง นักเตะสิงห์บูลส์ฟอร์มตกกันแทบทั้งทีม แต่ก็ยังมี โคล พาลเมอร์ นี่แหละที่ยังเสกได้ทุกนัด จากผลงาน 22ประตู 11แอสซิสต์ จาก33นัด ในลีก
พอมาซีซั่้นนี้ภายใต้การคุมทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า พาลเมอร์ ถูกปรับบทบาทจากตัวด้านข้าง หุบเข้ากลางมาเป็นเพลย์เมคเกอร์หรือเบอร์10 แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้แข้งเบอร์20รายนี้ ฟอร์มดร็อปหรือแผ่วแต่อย่างใด
ประตูที่ พาลเมอร์ กดได้เมื่อคืนนั้น ยอดเยี่ยมมากๆ เพราะแหวกหนี2มิดฟิลด์ของฟูแล่ม อย่าง เปเรยร่า และ อิลิช อย่างนุ่มนวล ก่อนบรรจงแปด้วยขวา ลอดขา ดิย็อป แม้น้ำหนักไม่แรงมาก แต่ทว่าทิศทางนั้นดีพอที่จะหนีมือ เลโน่ เข้าไปเสียบตาข่าย
แนวรุกของเซลซี นัดกันเล่นไม่ออกแทบทุกรายทั้ง แจ็คสัน - เนโต้ รวมไปจนถึง ซานโช่ มี พาลเมอร์ รายเดียวเท่านั้น ที่พร้อมจะสร้างความแตกต่างได้ อดีตดาวรุ่ง แมนฯ ซิตี้ สร้างโอกาสยิงให้ตัวเองถึง5ครั้ง เรียกฟาวล์ได้3หน
1ประตูที่ทำได้เกมกับ ฟูแล่ม ทำให้ โคล พาลเมอร์ สร้างอีกหนึ่งสถิติใหม่ของสโมสรเซลซี นั่นก็คือการเป็นผู้เล่นที่ยิงประตูได้มากที่สุดใน1ปีปฎิทิน (2024) นั่นก็คือ 26ประตู ทำลายสถิติของ จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัดเซลเบงค์ ที่ซัดไปได้25ประตู ในปฎิทินปี 2001
บอลโต้ไปมา กลางสิงห์ดูไม่สมดุล
ดูจะยังเป็นปัญหาโลกแตกของเซลซี ในฤดูกาลนี้ สำหรับการหามิดฟิลด์คู่กลางที่สมดุลที่สุด ซึ่งช่วงที่เวิร์คที่สุดเห็นทีจะเป็นการจับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ยืนคู่กับ โรเมโอ ลาเวีย แล้วขยับ มอยเซส ไกเซโด้ ไปเล่นต่ำเป็นแบ็กขวา แล้วค่อยอิน-เวิร์ดเข้ามาช่วยตรงกลางอีกแรง
เมื่อคืนกับ เจ้าสัวน้อย เอ็นโซ่ มาเรสก้า จัดมิดฟิลด์เป็น เอ็นโซ่ กับ ไกเซโด้ ส่วน ลาเวีย ยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ ทำให้ไม่มีชื่ออยู่ในทีม ในเรื่องของเกมบุก การลำเลียงบอลขึ้นไปบนแดนหน้า เซลซี ดูไม่มีปัญหาอะไรหรอก
แต่ทว่าในเรื่องของการชะลอเกมคู่แข่ง ภาระหน้าที่หนัก กลับกลายเป็นของ ไกเซโด้ คนเดียว เพราะ เอ็นโซ่ ไม่ใช่มิดฟิลด์ประเภทผึ้งงาน ส่งผลให้จังหวะแทงสวนจากตรงกลางมาของทีมเยือนอันตรายสุดๆ
นอกจากนี้แล้ว จุดที่พลาดมากๆของเซลซีเมื่อคืนนั่นก็คือ ทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เวลาที่ตัดบอลได้ พวกเขาแทบไม่ดึงจังหวะ หรือครองบอลให้ช้าลงเลย มีแต่จะสวนกลับคืนไปรวดเดียว ทั้งที่จริงต้องมีผ่อนหนักผ่อนเบาบ้าง ดูเร่งและรีบกันไปหมด
รวมไปจนถึงตอนนำ 1-0 พวกเขาที่ยังไม่ชัวร์ว่าจะคว้า3แต้มได้ นายใหญ่ มาเรสก้า ก็ไม่ได้ปรับเปลี่ยนทัพอะไรในแดนกลาง หรือปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นเลย ทั้งที่เห็นว่า ฟูแล่ม ได้สวนมาเป็นระยะ จากจังหวะที่เซลซี จะเข้าทำเร็วและโดนตัดบอล ตักวางยาวข้ามมาหน้า
ริมเส้น อิโวบี้ - อดาม่า เร็วและปั่นป่วนจริงๆ
3แต้ม ที่ไปควักมาจาก เดอะ บริดจ์ นอกจากต้องชื่นชม แผนแท็กติกของ มาร์โก ซิลวา แล้ว ผู้เล่นในแนวรุกของฟูแล่ม โดยเฉพาะตัวริมเส้น ที่เป็นทั้งสายจี๊ดและสายถึกอยู่ในตัวคนเดียวกันอย่าง อดาม่า ตราโอเร่ และ อเล็กซ์ อิโวบี้ นั่นปั่นป่วนเจ้าบ้านได้จริงๆ
โดยเฉพาะฝั่งซ้าย ทั้ง อิโวบี้ และ โรบินสัน คอมโบกันดีเหลือกัน ปีกชาวไนจีเรีย อาศัยความใหญ่เร็วและถึก เล่นงาน กุสโต้ ได้หลายจังหวะ เมื่อคืน อเล็กซ์ อิโวบี้ เลี้ยงบอลผ่านผู้เล่นเซลซี มากถึง4ครั้ง จ่ายคีย์พาส 4หน มีหุบเข้าในบางครั้ง ให้ แอนโทนี่ โรบินสัน เติมสูงมาเป็นเหมือนปีกเลย
อิโวบี้ เกือบซัดประตูให้ทีมกระท่อมน้อยเหมือนกัน จากจังหวะได้ปั่นโค้งด้วยขวา บอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว หลายสถานการณ์ ฟูแล่ม เหมือนได้รุม 2-1 ใส่ กุสโต้ จนหลายจังหวะ เปโดร เนโต้ ต้องลงมาช่วยซ้อน
ส่วนอีกข้างของ อดาม่า ตราโอเร่ ด้วยความที่ มาร์ค กูกูเรย่า มักจะอิน-เวิร์ด หุบเข้ามาเล่นตรงกลาง นั่นทำให้ปีกสายถึกและเร็วรายนี้ มีพื้นที่ให้ได้ใช้ความเร็วเล่นงานอยู่เป็นระยะๆ แต่ทว่าไปเสียเองหรือทำไม่ได้เนียนกริบจังหวะสุดท้าย
ส่วน วิงแบ็กซ้ายอย่าง ติโมตี กัสตาญ ที่ปรกติเป็นสำรอง เติมเกมบุกดีมาก เป็นคนโหม่ง แอสซิสต์ ให้ วิลสัน ตีเสมอ วิงแบ็กชาวเบลเยี่ยม เคลียร์บอลได้ถึง5ครั้ง และมีสมาธิมากๆ กับการรับมือ เจดอน ซานโช่
ซิลวา วางแผนเกมรับเยี่ยม เลโน่ เหนียวหนึบ
ปรกติแล้ว ฟูแล่ม พวกเขาเป็นทีมที่มีความยืดหยุ่นพอสมควรนะ เพราะสามารถเล่นได้ทั้งในระบบ 4-2-3-1 และ 5-4-1( 3-4-2-1) ก่อนยกพลมาเยือน สแตมฟอร์ด บริดจ์ 2นัดล่าสุดที่เจ้าสัวน้อยเจอกับทีมใหญ่ พวกเขาเจ๊าได้ทั้ง ลิเวอร์พูล ( 2-2) และ อาร์เซน่อล (1-1)
เมื่อคืนกับ เซลซี กุนซือ มาร์โก ซิลวา เน้นรัดกุมปลอดภัยไว้ก่อน เพราะเล่นในระบบ3เซ็นเตอร์ มีทั้ง โยอาคิม อันเดอร์เซ่น -อิสซ่า ดิย็อป และ คาลวิน บาสซี่ย์ ซึ่งก็ทำผลงานได้ดีแทบยกแผง โดยเฉพาะในรายของ ดิย็อป ที่แม้จะโดน พาลเมอร์ ยิงลอดขา
ดิย็อป คือคนที่โดดเด่นมากๆในแนวรับ โดยเฉพาะจังหวะเคลียร์บอลอันตรายๆ ได้ถึง5ครั้ง และประสานงานกับ บาสซี่ย์ - อันเดอร์เซ่น ใส่กุญแจมือ นิโคลัส แจ็คสัน ไม่ให้สร้างความอันตรายใดๆ ทางด้าน บาสซี่ย์ แม้จะเป็นกองหลัง แต่ก็มีแหวกเข้าไปยิงอย่างสวย ดีที่ ซานเชส ยังเหนียวหนึบ
สำหรับ กุนซือ มาร์โก ซิลวา ต้องบอกว่า เกมแพลนวันนี้ วางมาเอาชนะ เอ็นโซ่ มาเรสก้า จริงๆ เพราะแม้จะเล่นเกมบุก แต่แนวรับไม่รั่ว วิงแบ็กถ้าฝั่งใดฝั่งหนึ่งบุก อีกฝั่งจะดร็อปต่ำลงมา รวมถึงดึงความสนใจจาก ปีกเซลซี อย่าง เนโต้ ให้ต้องลงมาเล่นเกมรับช่วยแบ็ก ทำให้ริมเส้นชาวโปรตุเกส แทบจะหมดพลังงาน หากต้องเล่นเกมบุกสวนกลับ
ฟูแล่ม แม้บุกมาเยือน แต่พวกเขาครองบอลได้มากกว่า นิดหน่อย 53% และที่สำคัญนายด่าน แบร์นด์ เลโน่ ก็มี3เซฟสำคัญ 3ช็อตทั้ง จังหวะสอดมาโหม่งฟรีคิกของ กูกูเรย่า ลูกวางเท้ายิงราวๆ 22หลา ของ เอ็นโซ่ และลูกตามซ้ำจ่อๆของ ซานโช่ ช่วง น.90 ที่สกอร์ยังเสมอกัน1-1
หรือความกดดันเล่นงานเซลซี มาเรสก้า แก้เกมไม่เวิร์ค
หลังจากที่ชนะรวดมา 5นัดรวดในพรีเมียร์ลีก และทำแต้มจี้ลิเวอร์พูล ให้หวาดเสียวระดับหนึ่ง แม้ว่าจะแข่งมากกว่า สัปดาห์ที่แล้ว พวกเขามีโอกาสโยนความกดดันให้หงส์แดง ด้วยการขึ้นนำเป็นจ่าฝูงก่อนด้วยซ้ำ แต่ทว่าเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ไม่ได้เสมอ 0-0 ส่วนทีมของ อาร์เน่อ สล็อต ไม่พลาดทำแต้มฉีกหนีห่างมากออกไปอีก เพราะบุกหักคอไก่ 6-3
เมื่อคืนกับ ฟูแล่ม โอเค แม้จะเป็นเกมที่ไม่ง่ายเพราะเจ้าสัวน้อยของ มาร์โก ซิลวา คือทีมที่เล่นด้วยยากอยู่แล้ว แต่การได้เล่นในบ้านก็น่าจะทำให้ สิงห์น้ำเงิน เบียดเก็บ3แต้มได้ สุดท้ายแพ้คา เดอะ บริดจ์ ไป 1-2
เอาจริงๆ ไม่ใช่สกอร์เท่านั้นที่แพ้ รูปเกมต้องบอกว่าครึ่งหลังเหมือนสลับฝั่งกันว่าใครเป็นทีมใหญ่ทีมเล็กเลย เพราะทีมเยือนขึงเกมเข้าใส่เป็นระยะๆ เกมแพลนของ กุนซือ มาร์โก ซิลวา กดเจ้าบ้านเซลซีได้อย่างอยู่หมัด
ซิลวา ดึงให้ ปีกของเซลซี ต้องทำงานหนักช่วยแบ็ก ทำให้จะเติมเกมรุกแต่ละทีต้องใช้พลังงานเยอะสุดๆ รวมถึงการเล่นแบบ เคาน์เตอร์ เพรสซิ่ง ที่เสียบอลแล้ว รีบแย่งกลับทันที ก็ได้ผลมากๆ (เล่นเหมือนทีมใหญ่)
ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะความกดดัน ที่ถูกมองว่าก้าวขึ้นมาท้าทายแชมป์เปล่า ทำให้สิงห์บูลส์ ออกอาการเป๋และเกร็งอย่างชัดเจนใน2นัดหลัง ส่วนกุนซือ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ต้องบอกว่าแท็กติกของเขาแพ้ มาร์โก ซิลวา ชัดเจน จนล่าสุดตามหลังลิเวอร์พูล ที่แข่งน้อยกว่าพวกเขาอยู่1นัด มากถึง7แต้ม เข้าให้แล้ว
และที่สำคัญคือกุนซือดาวรุ่งชาวอิตาลี กลับไม่เปลี่ยนตัวหรือแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นเลยใน45นาทีหลัง เล่นแบบเดิมวิธีเดิม แถมยังเปลี่ยนตัวเพียงแค่1รายเท่านั้น นั่นก็คือ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ลงมาแทน แจ็คสัน น.73
โดยที่ข้างสนามมีตัวรุกที่อาจสร้างความแตกต่างได้ทั้ง ชูเอา เฟลิกซ์ และหอกดาวรุ่งที่พึ่งกด แฮตทริก ในเกม ยูโรป้า ลีก ได้อย่าง มาร์ก กิลล์ ที่แม้ยังเด็ก แต่ก็น่าจะมีทั้งความสดและความกระหายมากๆ
- คอลัมน์นิสต์
- คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก เซลซี ฟูแล่ม เอ็นโซ่ มาเรสก้า มาร์โก ซิลวา โคล พาลเมอร์ โรดริโก้ มูนิซ
- 42
- 27 ธ.ค. 2567 15:27