ไม่อยากลุ้นแชมป์ ! สิงห์ เมาหมัด บุกโดน ม้าขาว ดีดกะโหลก 2-0 ฮัดชินสัน ซัดทีมเก่า
เหมือนจะเมาหมัดยังไม่หายจริงๆสำหรับ เซลซี นับตั้งแต่ถูกจับตามองให้เป็นทีมที่จะก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์กับ ลิเวอร์พูล ผลงานของพวกเขาก็เหมือนเครื่องยนต์สะดุดแก้ไม่ได้มาตลอด ซึ่งเกมที่น่าจะทำให้ทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เรียกความมั่นใจกลับมาได้ นั่นก็คือการบุกไปเยือน อิปสวิช ทาวน์ ทีมหนีตกชั้น ที่ยังไม่ชนะใครเลยในการเล่นในบ้านตัวเอง แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้ว บทสรุป90นาที กลายเป็นทีมม้าขาว ที่รวมพลังกันสู้สุดใจปราบ เซลซี ไปได้เบาะๆ 2-0
เซลซี ที่สะดุดในลีก มา2นัดติด ต้องการเก็บ3แต้มเป็นอย่างมากในการกลับมาลุ้นแชมป์ หรือรวมไปจนถึง การกลับมารักษาพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้เหนียวแน่น โดยโปรแกรมส่งท้ายปีของพวกเขาคือการบุกไปเยือน ทีมอันดับ 19 อิปสวิช ทาวน์
การจัดทัพ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ยังมาในระบบเก่ง 4-2-3-1 มีเซอร์ไพรส์ตรงที่ ตำแหน่งโกลให้โอกาส ฟิลิป จอร์เกนเซ่น ลงเฝ้าเสาในพรีเมียร์ลีกนัดแรก แบ็กขวาขัดตราทัพใช้ อั๊กเซล ดิซาซี่ แบ็กซ้าย มาร์ก กูกูเรย่า คู่เซ็นเตอร์ ลีวาย โควิลล์ กับ โทซิน อดาราบิโอโย่ มิดฟิลด์ มอยเซส ไกเซโด้ ยืนกับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ
ปีกขวา โนนี่ มาดูเอเก้ - ปีกซ้าย ชูเอา เฟลิกซ์ เพลย์เมคเกอร์ตัวเก่ง โคล พาลเมอร์ และหน้าเป้า มีการโรเตชั่น คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ลงตัวจริงแทน นิโคลัส แจ็คสัน ฝั่งเจ้าบ้าน มาในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน แต่ทว่าในเกมบางสถานการร์ก็ปรับเป็น 5-4-1
โกลใช้ตัวสำรองอย่าง คริสเตียน วอลตัน แบ็กขวา-ซ้าย ดารา โอเช กับ ลีฟ เดวิส ปราการหลังตัวกลาง เจค็อบ กรีฟส์ กับ ลุค วูลเฟ่นเด้น ห้องเครื่อง แซม มอร์ซี่ และ เยนส์ คายุสต์ ตัวปั้นเกม โอมารี ฮัทชินสัน ลงเจอทีมเก่า ตัวรุกฝั่งซ้าย นาธาน บรอดเฮด ฝั่งขวา เวส เบิร์นส์ และกองหน้าตัวเป้า เลียม ดีแร็ป
สิ้นเสียงนกหวีดเริ่มเกมจาก จอห์น บรู้คส์ เจ้าบ้าน อิปสวิช ทาวน์ มาเหนือเมฆเหมือนกัน เพราะเปิดเกมบุกเข้าใส่ นึกว่าจะมาเล่นแบบอุดระวังตัว ซึ่งก็ได้ผลจริงๆเพราะเซลซี น่าจะไม่คิดว่าทีมของ คีแรน แม็คเคนน่า จะมาไม้นี้ และก็ขึ้นนำไปก่อนทันที เมื่อ เลียม ดีแร็ป ได้หลุดเข้าไปแตะหลบ จอร์เกนเซ่น และเกิดการสัมผัสตัวขึ้น กลายเป็นจุดโทษ
ตัวของ ดีแร็ป เอง ลุกมาสังหารเข้าไป ขึ้นนำ 1-0 น.12 หลังจากนั้น ดีแร็ป ก็เกือบจะกดเบิ้ลให้ตัวเองได้ แต่ ยอร์เกนเซ่น เซฟปลายมือ ฝั่งสิงห์บูลส์ ก็ได้ตอบโต้บ้างจากฟรีคิกของ พาลเมอร์ ที่ไปชนเสา รวมถึงลูกยิง ของ ชูเอา เฟลิกซ์ ที่ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายแล้ว แต่โดน VAR ยึดคืนเพราะล้ำหน้า
ซึ่งท้ายครึ่งแรก พาลเมอร์ ก็มาได้โอกาส ยิงเน้นๆในเขตโทษแต่ทว่า วอลตัน ที่วันนี้ผีเข้ายังเซฟได้ จบ45นาทีแรก เจ้าบ้านนำ 1-0 ครึ่งหลัง เซลซี ก็ยังบุกอย่างต่อเนื่อง และเกือบได้จาก มาดูเอเก้ แต่ คริสเตียน วอลตัน ยังปิดมุมเสาแรกได้เป็นอย่างดี
และแล้วเกมที่เหนือกว่า อั๊กเซล ดิซาซี่ ก็มาสร้างจุดเปลี่ยน (ที่แย่) จนได้ เมื่อส่งบอลคืนหลังไม่ดี เบาเกิน ทั้งที่ไม่มีใครกดดัน เข้าทาง ดีแร็ป แล้วจ่ายต่อให้ ฮัทชินสัน แตะหลบ อดาราบิโอโย่ ยิงเรียดเสียบมุมเข้าไป ฉีกหนีห่างเป็น 2-0 น.55
หลังจากตามหลังถึง2เม็ด นายใหญ่ มาเรสก้า ก็มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นในอีก10นาทีต่อมา เจดอน ซานโช่ และ นิโคลัส แจ็คสัน ถูกส่งมาแทน เฟลิกซ์ และ เอ็นคุนคู แต่ทว่าก็ไม่ได้ปรับแผนการเล่นหรือโหลดตัวรุกเพิ่มแต่อย่างใด ทั้งที่ตามหลัง2เม็ด โดย แจ็คสัน ยังได้หลุดไปยิงแต่หลุดกรอบไป แต่ทว่าก็เป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
ช่วงท้ายเกม แข้งเซลซี หงุดหงิดกันระนาวเลย กับจังหวะฟาวล์ต่างๆ จนทำให้โดยใบเหลืองกันถ้วนหน้าทั้ง กุสโต้ - โควิลล์ - เอ็นโซ่ และท้ายที่สุดจบเกม 90นาที และทดเวลาบาดเจ็บอีก7นาที อิปสวิช ทาวน์ สร้างเซอร์ไพรส์ เปิด พอร์ตแมน โร้ด เอาชนะเซลซีไปได้ 2-0 รักษาความหวังในการรอดตกชั้นมี 18แต้ม ขึ้นมาอยู่อันดับ18 ส่วน สิงห์บูลส์ น่าจะบอกลาเรื่องการลุ้นแชมป์กับลิเวอร์พูลได้เลย
อิปสวิช มาเหนือเมฆ บวกเล่นเจียมตัวขึ้น
เป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะตกชั้นเลย สำหรับ อิปสวิช ทาวน์ เพราะสไตล์การเล่นพวกเขาค่อนข้างบ้าบิ่นไปหน่อย ทั้งที่ตัวนักเตะเอกศักยภาพไม่ถึง นั่นทำให้เวลาเปิดเกมบุกพวกเขา โดนสวนคืนมาเสียประตูเป็นว่าเล่น แต่ทว่าก็เห็นสัญญาการเปลี่ยนแปลงเล็กๆมาบ้างแล้ว กับเกมบุกแพ้ อาร์เซน่อล 1-0 นั่นก็คือ ม้าขาวดูเน้นความรัดกุมก่อนเป็นอันดับแรก
กับเซลซี ถือว่ามาเหนือเมฆเหมือนกันที่พวกเขาเล่นใหญ่ เปิดเกมบุกเข้าใส่ทีมเยือนตั้งแต่ต้นเลย เพราะการเจอทีมใหญ่ อิปสวิช ต้องเล่นตั้งรับเหนียวแน่นไปก่อน นั่นทำให้ทีมของ มาเรสก้า ปรับกระกวนท่าไม่ทัน เพราะคิดว่าเจ้าบ้านจะมาอุดเต็มที่
และม้าขาว ก็มาได้จุดโทษและขึ้นนำไปก่อน จากจุดโทษของ เลียม ดีแร็ป น.12 นั่นทำให้เข้าเกมแพลนของ คีแรน แม็คเคนน่า เลย หลังจากช่วง น.20 เป็นต้นไปเจ้าบ้านเน้นเกมรับเต็มที่ ค่อยหาจังหวะสวนโจมตี บางทียืนเป็น 5-4-1 ก็มี
ซึ่งหนึ่งผู้เล่นที่ต้องชื่มชมมากๆของเจ้าบ้านเห็นทีจะเป็นโกลตัวสำรองอย่าง คริสเตียน วอลตัน ที่เซฟอุตลุตทั้ง ลูกซ้ำจ่อๆของ เอ็นคุนคู ปัดลุกยิงเน้นๆของ พาลเมอร์ ออกหลัง หรือลูกซัดมุมแคบของ เฟลิกซ์ ก็ไม่ผ่านมือ วอลตัน เช่นเคย รวมถึงลูกมุมแคบจาก มาดูเอเก้ อีกทีในครึ่งหลัง
อิปสวิช แม้ชื่อชั้นนักเตะพวกเขาจะเป็นรองหลายๆทีม แต่เรื่องหัวจิตหัวใจนักสู้ แข้งม้าขาว ก็แสดงให้เห็นมาแทบทุกนัด แม้ว่าจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ผลลัพธ์ 2-0 ทำให้นี่คือการคว้าชัยในเกมลีกในบ้าน พอร์ตแมน โร้ด ครั้งแรกซีซั่นนี้ และหายใจคล่องคอขึ้นมากับการแซง เลสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นมาอยู่อันดับ18 ตามหลังอันดับ17 วูล์ฟแฮมป์ตัน เพียงแค่แต้มเดียว
พาลเมอร์ คนเดียวแบกไม่ไหว
แม้ว่าจะไม่มีประตูและแอสซิสต์ ในเกมที่บุกแพ้ อิปสวิช ทาวน์ แต่ทว่าในเรื่องฟอร์มส่วนตัวความอันตรายและอิมแพคต่อเกมแล้ว โคล พาลเมอร์ ยังทำได้ดีเสมอ เพื่อนร่วมทีมรายอื่นๆความเฉียบคมหายไป รวมไปจนถึงสร้างความแต่งต่างเวลาเกมตื้อๆไม่ได้เลย
อดีตดาวรุ่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีโอกาสได้จบสกอร์4ครั้ง ใกล้เคียงสุดเห็นทีจะเป็นลูกฟรีคิกที่เขี่ยเปลี่ยนจุดแล้วยิงเร็วไปชนเสา และน่าเสียดายที่ลูกตักข้ามฟากให้ เฟลิกซ์ ส่งบอลไปตุงตาข่ายถูกยึดคืน เพราะล้ำหน้าไปก่อน รวมถึงท้ายครึ่งแรก โคล พาลเมอร์ ได้วางเท้าปั่นแต่ วอลตัน ยังบินเซฟได้
ตลอดทั้งเกม พาลเมอร์ จ่ายบอลคีย์พาสได้ถึง4ครั้ง เป็นนักเตะที่เสียบอลยาก จังหวะต้องเอาตัวรอดจากการโดนบีบหรือเข้าบอลเร็วจากคู่แข่งมีให้เห็นเป็นระยะๆ จริงๆทีมสิงห์บูลส์ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสจบสกอร์เลย แต่ทว่าพวกเขาพลาดกันไปเอง
เอ็นคุนคู ที่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ยังหวังพึ่งพาอะไรไม่ได้ ส่วนตัวสำรองที่ลงมาอย่าง เจดอน ซานโช่ และ นิโคลัส แจ็คสัน ก็เงียบเชียบไปหน่อย มีจังหวะหนึ่ง " ไอ้แจ็ค " ได้หลุดเดี่ยวไปยิงแต่ไม่เข้า แม้จะเป็นจังหวะล้ำหน้า ก็ตอกย้ำว่า ศูนย์หน้าชาวเซเนกัลรายนี้ ยังมีปัญหาเรื่องความชัวร์ในการจบสกอร์จังหวะสำคัญๆจริงๆ
สำหรับหรับ ชานโช่ ไม่ต้องสงสัยอยู่แล้วในเรื่องของการเข้าระบบทีม ฟอร์มเป็นพระเอกในเกมบุกชนะสเปอร์ส 4-3 แต่ทว่าเอาในเรื่องของจำนวนประตูและแอสซิสต์ เจ้าตัวผลิตออกมาได้น้อยไปหน่อย 2ประตู 3แอสซิสต์ จากการลงเล่นในลีกตัวจริง 9นัด และสำรองอีก4นัด
ดิซาซี่ สร้างจุดเปลี่ยน แนวรับสิงห์ชอบมีคนแจก
จริงๆถ้าไม่นับช่วง20นาทีแรก ที่ตามอยู่ 0-1เซลซี มีโอกาสหลายครั้งมากๆที่จะตีเสมอ อิปสวิช ทาวน์ เพราะเจ้าบ้านเองหลังจากที่บุกหนักในช่วงแรก ก็ถอนเกียร์ผ่อนคันเร่ง เน้นเกมรับมากขึ้น กลายเป็นทีมเยือนที่ครองบอลได้ และสร้างโอกาสได้เป็นระยะๆ
ออกสตาร์ทครึ่งหลังเซลซี เกือบได้ประตูตามเจ๊าติดๆกันทั้ง ลูกโหม่งของ เฟลิกซ์ ที่โดนสกัดบนเส้น และลูกยิงมุมแคบของ มาดูเอเก้ ที่ถูกโกลเจ้าบ้านเซฟได้ แต่ทว่าอยู่ดีๆก็มีจุดเปลี่ยนของเกมเกิดขึ้น และเป็นทางฝั่งของเซลซีเองที่ สงเคราะห์ให้
บอลไม่มีอะไร ไม่มีผู้เล่นม้าขาววิ่งเข้ามากดดัน อั๊กเซล ดิซาซี่ ที่ถูกขัดตราทัพไปเล่นแบ็กขวา จ่ายบอลคืนหลังเบา จนไปเข้าทาง ดีแร็ป ซึ่ง ดิซาซี่ เองก็พยายามแก้ตัว วิ่งไปซ้อนประกบอีกตัวต่อมาที่ได้บอลอย่าง ฮัทชินสัน
แม้จะประกบได้ แต่ ดิซาซี่ ก็ปล่อยให้ อดีตเด็กเก่าเซลซีรายนี้ พลิกหนีนิดเดียวเกิดช่องว่างยิงเรียดบดเสาไกลไปดื้อๆ ซึ่งประตู2-0 ดังกล่าวเล่นเอาเซลซี ดึงโมเมนตัมกลับเข้าสู่เกมไม่ได้เลย ซึ่งการเสียประตูในลักษณะนี้ความผิดพลาดส่วนบุคคลในแนวรับคืออะไรที่เราได้เห็นจากเซลซีบ่อยมาก
โรเบิร์ต ซานเชส ที่มีลูกเหนียวๆก็มีออกบอลแจกหมูๆเช่นกัน หรือในนัดกับ สเปอร์ส มาร์ก กูกูเรย่า มีช็อตลื่นถึง2ครั้ง และเป็นเหตุทำให้ทีมต้องเสียทั้ง2ประตู ซึ่งแนวรับของเซลซี ยังดูไม่นิ่งจริงๆ คู่เซ็นเตอร์ หากไม่เจ็บไม่แบน มีเพียง ลีวาน โควิลล์ เท่านั้น ที่จะได้ยืนตัวจริงตลอด ส่วนในรายของ โทซิน เมื่อคืนเจ้าตัวเอาชนะความแข็งแกร่งของ ดีแร็ป ไม่ได้เลย
ฮัทชินสัน กฎยิงประตูทีมเก่า / ดีแร็ป อึดถึกทน
ฟอร์มดีกับการเล่นแบบยืมตัวจากเซลซี จนทำให้ โอมารี ฮัทชินสัน ได้รับการเซ็นสัญญาซื้อขาดจาก อิปสวิช ทาวน์ ด้วยค่าตัวที่แพงระดับ 22.5ล้านปอนด์ (รวมแอด-ออน) แต่ทว่าตัวของดาวรุ่งรายนี้ ยังโชว์ฟอร์มได้ไม่เท่ากับตอนเล่นใน แชมเปี้ยน ชิพ เลย (10ประตู 5แอสซิสต์)
ก่อนเกมเมื่อคืน ฮัทชินสัน ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีก17นัด และพึ่งกดไปได้ประตูเดียว นั่นก็คือนัดที่เปิดบ้านเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 และผลงานภาพรวมกับม้าขาวยังไม่ปังเลยเมื่อเทียบกับความคาดหวัง
เกมดวลกับเซลซี แน่นอนว่าน่าจะทำให้เจ้าตัว มีแรงฮึดขึ้นมาบ้างในการดวลกับทีมเก่า ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆกับ กฎการยิงประตูทีมเก่า แข้งวัย21ปี ใช้โอกาสที่มีเพียงครั้งเดียว แปรเปลี่ยนเป็นสกอร์ให้ทีมได้ เมื่อล็อกหลบดึงหลอก ดิซาซี่ เพียงเล็กน้อย และยิงบดเบียดเสาเข้าไป
ส่วนอีกคนที่น่าชื่นชมมากๆของม้าขาว นั่นก็คือกองหน้าอย่าง เลียม ดีแร็ป หลังจากที่คลำเป้าในลีกไม่ได้มา6นัดติดต่อกัน เจ้าตัวก็กลับมาทำประตูได้อีกครั้งจากจุดโทษ และก็เป็น อดีตดาวรุ่งเรือใบรายนี้แหละที่เป็นคนเรียกจุดโทษได้เอง
นอกจากนี้ยังเป็นคนแอสซิสต์ให้ ฮัทชินสัน ซัดประตูตอกฝาโรงได้อีกด้วย ดีแร็ป ยังโดดเด่นในเรื่องของ ความแข็งแกร่ง อึด ถึก ทน เบียดบังบอลจากคู่เซ็นเตอร์เซลซีได้อย่างไม่มีปัญหา แถมยังเอาชนะลูกกลางอากาศได้3ครั้ง 1ประตูเมื่อคืน ทำให้ยอดรวมในลีกของ ดีแร็ป เท่ากับ7ประตู จาก18นัด ซึ่งเป็นสถิติที่ไม่เลวเลยกับการเป็นศูนย์หน้าทีมน้องใหม่
มาเรสก้า เริ่มโดนตั้งคำถามจริงจัง
ตอนทีมผลงานดีปรกติแล้ว ก็ไม่มีใครตั้งคำถามอะไรหรอกสำหรับ ตำแหน่งกุนซือ แต่ทว่าเมื่อทีมฟอร์มผลงานย่ำแย่ติดต่อกันหลายนัด ผู้จัดการทีมนี่แหละจะถูกตั้งคำถามและถูกเพ่งเล็งก่อนใครเพื่อน นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับเซลซี
หลังจากที่มีช่วงฟอร์มกระฉูดแตกชนะ5นัดรวดในพรีเมียร์ลีก จนพุ่งพรวดขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูง และถูกคาดหวังว่านี่แหละคือคู่แข่งที่จะมาลุ้นแย่งแชมป์กับลิเวอร์พูล แต่ทว่าพอถูกแสงสปอตไลท์จับจ้อง เซลซี ของ มาเรสก้า ก็ออกอาการเป๋เข้าข้างทางเลย
บุกเสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0 เล่นในบ้านพ่าย ฟูแล่ม 1-2 และล่าสุดโดน อิปสวิช ทาวน์ อัด 2-0 ไม่มีเกมไหนเลยที่สิงห์น้ำเงินเล่นได้น่าประทับใจ ทั้งที่ตามชื่อชั้นคู่แข่ง เซลซี เหนือกว่าและสามารถจะเอาชนะได้หมด
เกมกับม้าขาวเห็นได้ชัดว่า เซลซี วางแพลนมาอย่างหนึ่ง คาดว่าเจ้าบ้านจะมาเล่นเกมอุด แต่เจอเซอร์ไพรส์โดนบุกเข้าใส่ยับๆ เลยตั้งกระบวนท่าไม่เป็นเลย ซึ่งก็ต้องตำหนิ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ด้วยที่ไม่มีการแก้เกมหรือปรับแท็กติกให้เห็น ยังเล่นแบบเดิม
หรือในเรื่องการเปลี่ยนตัว กุนซือชาวอิตาเลี่ยน ทั้งที่ตามหลังถึง2เม็ด แต่ทว่าไม่ได้เลือกปรับแผนการเล่น หรือโหลดตัวรุกมากขึ้น เป็นการเปลี่ยนตัวตามตำแหน่ง ไม่ได้ถอดแนวรับแล้วส่งตัวรุกหวังทำประตูเข้ามาเพิ่ม แจ็คสัน มาแทน เฟลิกซ์ - ซานโช่ แทน เอ็นคุนคู - เนโต้ แทน มาดูเอเก้ และ กุสโต้ แทน ดิซาซี่
ซึ่งเอาจริงๆเกมกับ อิปสวิช เป็นโปรแกรมที่เหมาะอย่างยิ่งที่จะทำให้เซลซี เรียกความมั่นใจกลับมาได้ แต่ทว่ากลับกลายเป็นเสียโมเมนตัม ทำแต้มหลุด3นัดรวด เรื่องการลุ้นแชมป์ต้องเบรกเอาไว้ก่อนเลย เพราะตามหลังจ่าฝูงลิเวอร์พูล มากถึง10แต้ม แถมยังแข่งมากกว่าอยู่ 1นัด
สิ่งที่ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ต้องโฟกัสมากๆ ณ ตอนนี้ นั่นก็คือการรักษาพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะพวกเขาอยู่อันดับ4 นำอันดับ5และ6อย่าง นิวคาสเซิ่ล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียงแค่1และ4แต้มเท่านั้น และโปรแกรมนัดต่อไปของเซลซี ถือว่าไม่ง่ายเลยต้องบุกไปเยือน คริสตัล พาเลซ ที่ค่อยๆดีขึ้นมาเรื่อยๆ
- คอลัมน์นิสต์
- พรีเมียร์ลีก คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล เซลซี อิปสวิช ทาวน์ เอ็นโซ่ มาเรสก้า โคล พาลเมอร์ คีแรน แม็คเคนน่า เลียม ดีแร็ป
- 56
- 31 ธ.ค. 2567 15:40