เรือ -นิว จี้หลังมาแล้ว ! สิงห์ ยังไม่เฮ พาเลซ ตามเจ๊า 1-1 ท้ายเกม มาเตต้า ชาร์จ นิ่มๆ
เรื่องลุ้นแชมป์ ณ ตอนนี้ ต้องพักไปก่อนจริงๆสำหรับเซลซี เพราะหลังจากที่ก้าวขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูง และถูกคาดหวังว่าจะขับเขี่ยวแย่งแชมป์กับลิเวอร์พูล หลังจากนั้นพลพรรคสิงห์บูลส์ ก็เครื่องสะดุดรัวๆเลย เพราะ3นัดล่าสุดเซลซี ไม่สามารถเก็บ3แต้มเข้ากระเป๋าได้เลย ทั้งที่โปรแกรมไม่ได้ยากมาก ล่าสุดเกมวันเสาร์ที่ต้องบุกไปเยือน คริสตัล พาเลซ ทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ก็ยังไม่สามารถบุกไปคว้าชัยได้ หลังโดนลูกตีเสมอท้ายเกมของเจ้าบ้าน เจ๊ากันไป 1-1
เซลซี ที่สะดุดมา3นัดติด พวกเขา ต้องการเก็บ3แต้มให้ได้เป็นอย่างมาก เพราะคู่แข่งลุ้นท็อปโฟร์ พื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่าง นิวคาสเซิ่ล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำแต้มจี้หลังเข้ามาแล้ว ซึ่งบททดสอบของพวกเขาคือการบุกไปเยือน คริสตัล พาเลซ
เกมที่ เซลเฮิร์ด ปาร์ค เอ็นโซ่ มาเรสก้า จัดทัพในระบบ 4-2-3-1 โกล โรเบิร์ต ซานเชส กลับมาเฝ้าเสาอีกครั้ง แบ็กซ้าย - มาร์ก กูกูเรย่า แบ็กขวา มาโล่ กุสโต้ คู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟ ลีวาย โควิลล์ จับคู่กับเด็กดาวรุ่งอย่าง จอช อาเชียมปง มิดฟิลด์คู่กลาง มอยเซส ไกเซโด้ ยืนคู่ เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ 3ประสานแนวรุก เปโดร เนโต้ - โคล พาลเมอร์ - เจดอน ซานโช่ และหน้าเป้า นิโคลัส แจ็คสัน
ส่วน คริสตัล พาเลซ แม้อันดับจะยังไม่ดี แต่ผลงาน 1-2เดือนที่ผ่านมา กระเตื้องขึ้นมาก ระบบการเล่น โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ เลือกใช้แผน 3-4-2-1 ผู้รักษาประตู ดีน เฮนเดอร์สัน 3เซ็นเตอร์ฮาร์ฟ คริส ริชาร์ดส์ - มักซ็องซ์ ลาครัวซ์ - มาร์ค เกฮี วิงแบ็กซ้าย-ขวา ดาเนียล มูนญอซ กับ ไทริค มิเชลล์ มิดฟิลด์คู่กลาง ชีค ดูกูเร่ กับ เจฟเฟอร์สัน เลอมาร์
2ตัวรุกหลังกองหน้า อิสไมล่า ซาร์ กับ เอเบเรชี่ เอเซ่ ศูนย์หน้าตัวเป้า ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า สิ้นเสียงเป่านกหวีดเริ่มเกมของ ทิม โรบินสัน เป็นเซลซีมีสัญญาณที่ดีมากๆในการคัมแบ็ก เพราะพวกเขาคึกคักต่อบอลได้อย่างลื่นไหล มีลุ้นก่อนจาก ลูกยิงของ เจดอน ซานโช่ แต่ข้ามคานไป
แต่แล้วฤทธิของ ซานโช่ ก็มาเห็นผล โควิลล์ จ่ายบอลมาให้ ซานโช่ ที่หลอกปล่อยบอลแล้ววิ่งอ้อทไปตามเก็บบอลลากจี้มาทางเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจ่ายเข้าในให้ โคล พาลเมอร์ จับบอลแล้วกดเรียดเข้าประตูไปสุดสวย ขึ้นนำ 1-0 น. 14
หลังจากนั้นสิงห์น้ำเงินก็เกือบจะได้เม็ด2หลายรอบ ทั้งจาก แจ็คสัน และ พาลเมอร์ ที่เข้าชาร์จหน้าเขตโทษไม่ถึง รวมถึงกองหลังดาวรุ่งอย่าง อาเชียมปง ที่โขกลูกเตะมุมออกไปนิดเดียว เจ้าบ้านมาได้ลุ้นบ้างหลังผ่าน น.30 เป็นต้นไป จากลูกสอดขึ้นมาของ เอเซ่ แต่ โกล ซานเชส ยังป้องกันได้ จบ45นาทีแรก เซลซี บุกนำ1-0
ครึ่งหลังกลับกลายเป็น พาเลซ ที่ดูดีกว่าชัดเจน บวกกับกุนซือเซลซี เอ็นโซ่ มาเรสเก้า ไม่ปรับแผนหรือวิธีการเล่นแต่อย่างใด ทำให้ทัพปราสาทเรือนแก้ว ได้ลุ้นอยู่เป็นระยะทั้งจาก เอเซ่ ที่ได้ยิงหน้เาเขตโทษ แต่บอลหลุดเสาไปนิดเดียว รวมถึงลูกฟรีคิกกองหลังอย่าง ริชาร์ด ได้เติมขึ้นมาโหม่งแต่ ซานเชส ปัดออกไปได้
หลังผ่าน15นาทีครึ่งหลัง สิงห์บูลส์ ก็เริ่มจะโต้ตอบอะไรได้บ้าง และเกือบได้จุดโทษจากจังหวะที่ เนโต้ โดน มิเชลล์ เสียบในเขตโทษ แต่ VAR เช็กแล้วไม่มีอะไร เซลซี เกือบได้เม็ดที่2ฝังมากๆ นิโคลัส แจ็คสัน โฉบมายิงเสาแรก แต่บอลเบียดเสาสองออกไปนิดเดียว
และด้วยความไม่เด็ดขาดของเซลซี ก็ทำให้พวกเขาโดนลงโทษจนได้ ซาร์ จ่ายบอลให้ เอเบเรชี่ เอเซ่ เข้าไปในเขตโทษ ก่อนตบเข้ากลางให้ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ยิงง่ายๆไม่เหลือ ตีเสมอ1-1 น.82 หลังจากนั้น เซลซี ก็เกือบเหลือผู้เล่น10คน เอ็นโซ่ ที่มีใบเหลืองอยู่แล้ว ไปเข้าบอลช้าอันตราย แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร จบเกม เสมอกันไป 1-1 และนี่คือนัดที่4ติดต่อกันแล้วที่ สิงห์น้ำเงินไม่ชนะใครในลีก
ฝั่ง กูกูเรย่า โดนโจมตีหนัก
จริงๆนัดนี้ถือว่า เอ็นโซ่ มาเรสก้า วางแผนการเล่นมามีการปรับรายละเอียดนิดหน่อยเหมือนกัน โดบเฉพาะตำแหน่งแบ็กซ้าย-ขวา ทีทั้ง มาร์ก กูกูเรย่า และ มาโล กุสโต ที่แม้จะเติมสูง แต่ทว่าไม่ต้องอิน-เวิร์ด มาเข้าตรงกลางเหมือนหลายๆนัดทีผ่านมา
เมื่อคืน45นาทีแรก ถือว่า " แบ็กหัวฟู " ทำผลงานน่าพอใจสำหรับการเติมขึ้นสูงไปช่วยงาน เจดอน ซานโช่ แต่ทว่าทีเด็ดดีขาดลูกพลิกแพลงไม่มีเท่าไหร่ แถมเวลาเติมสูงแล้วลงไม่ทัน เป็นงานงอกที่ ซานโช่ จะต้องวิ่งมาช่วยซ้อนอีกแรง
ครึ่งหลัง โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ที่แก้เกมปรับวิธีการเล่น จนทำให้ พาลเลซ กลับมาโขยกทีมเยือนอยู่ฝ่ายเดียว โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งซ้ายของ มาร์ก กูกูเรย่า ที่เล่นเกมรับได้ไม่กระชับเลย เราจะเห็นได้ว่าบอลเปิดจากฝั่งซ้ายเซลซี มีมาให้เห็นเป็นระยะๆ
วิงแบ็กขวาเจ้าบ้านอย่าง ดาเนียล มูนญอซ ได้เจาะได้ตั้งเป้าครอสบอลอยู่บ่อยครั้ง แต่ทว่าทำได้ไม่คมเอง หรือประตูตีเสมอ1-1 ของ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ตัวของ กูกูเรย่า ไปยืนอยู่ด้านหลังทำให้ ศูนย์หน้าพาเลซ ได้แทป-อิน เข้าไปง่ายๆ
ส่วนฝั่งขวาอย่าง มาโล กุสโต้ แม้จะไม่ได้ผิดพลาดอะไรชัดเจน แต่สิ่งที่แบ็กชาวฝรั่งเศสต้องระมัดระวังมากๆ นั่นก็คือความชัวร์ในการจ่ายบอลยังพื้นที่แดนตัวเอง มีการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกันเล็กๆน้อยๆกับ โรเบิร์ต ซานเชส
ซานเชส เซฟดี แต่ออกบอลด้วยเท้าโคตรน่าหวาดเสียว
เกมที่บุกไปแพ้ อิปสวิช ทาวน์ สบายๆ 0-2 เอ็นโซ่ มาเรสก้า ให้โอกาสในการเฝ้าเสาเป็นของ ฟิลิป จอร์เกนเซ่น แต่ทว่าเมื่อคืน โรเบิร์ต ซานเชส ก็กลับมาเป็นมือ1อีกครั้ง และสิ่งที่ ซานเชส ทำได้พัฒนาขึ้นมากๆในฤดูกาลนี้ นั่นก็คือ การเซฟ
เซฟจุดโทษมีให้เห็น หรือลูกบิน เหาะเหินเดินอากาศ ปัดลูกยิงที่น่าเข้าสุดๆ ก็มีให้เห็นเป็นระยะๆ เมื่อคืน โรเบิร์ต ซานเชส ก็มีลูกเซฟสวยๆทั้ง หยุดลูกหมายกระดกข้ามหัวของ เอเซ่ รวมถึงปัดลูกโหม่งของ ริชาร์ด ได้อย่างว่องไว หรือลูกยิงช่วงทดเจ็บของ มักซ็องซ์ ลาครัวซ์ ก็รับได้ตามมาตรฐานเข้าซอง ไม่มีกระฉอก
แต่สิ่งหนึ่งที่โกลชาสเปน ทำให้แฟนบอลเซลซี ต้องคอยลุ้นอย่างหวาดเสียวตลอดนั่นก็คือ ความชัวร์ในเรื่องการจ่ายบอล เพราะเมื่อจะเซ็ตเกมจากหลังโดยมี ซานเชส เป็นส่วนร่วม มักจะมีช็อตพลาดให้เห็น
เมื่อคืนก็มีช็อตที่ ซานเชส ไม่เข้าใจกันกับ กุสโต หรือลูกที่เสียประตู ก็เป็น โรเบิร์ต ซานเชส ที่แหละที่จ่ายบอลค่อนข้างยัดให้ พาลเมอร์ (พาลเมอร์ พยายามเล่นยากเองด้วย) จนโดนฉกบอล และโดนตีเสมอในที่สุด
จังหวะวางบอลยาว หรือแม้แต่ขว้างบอล ทุกอย่างของ ซานเชส เกี่ยวกับการจ่ายบอลสุ่มเสี่ยงที่จะโดนคู่แข่งฉกได้ หรือทำให้เพื่อนร่วมทีมลำบากตลอดเลย ซึ่งกับ พาเลซ เมื่อคืน โกลมือ1เซลซี รายนี้ ได้ออกบอลยาวมากถึง 9ครั้งด้วยกัน
ถ้า แจ็คสัน คม สิงห์จะสบายๆกว่านี้
ถ้าเทียบกับฤดูกาลที่แล้ว 2023-2024 ต้องบอกว่า นิโคลัส แจ็คสัน พัฒนาการขึ้นมาดีมากๆ ในเรื่องของการเข้าใจเกม และสถิติการทำประตู และคู่ควรเหมาะสมที่จะได้ออกสตาร์ทตัวจริงก่อน คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู เพราะทำอ็อปชั่นความเป็นกองหน้าได้หลายหลายมากกว่า
ก่อนเกมกับ คริสตัล พาลเลซ นิโคลัส แจ็คสัน ยิงไปแล้วถึง 9ประตู กับอีก3แอสซิสต์ จาก 18นัดที่ได้ลงสนามในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ ซึ่งก็เป็นผลงานรูปธรรมที่พัฒนาขึ้นมากๆ และยังประสานงานกันได้เข้าขารู้ใจกับ โคล พาลเมอร์ และ เจดอน ซานโช่
แต่ทว่าหลายๆนัด " ไอ้แจ็ค " ก็ยังมีจุด่อนให้เห็นมาตลอดนั่นก็คือ ความคมหรือวิญญาณ เพชฌฆาต ในการจบสกอร์ แจ็คสัน ยังไม่ใช่ผู้เล่นประเภทพึ่งพาได้ยามที่สถานการณ์หน้าสิวหน้าขวาน ประตูที่ตัดสินเกมหรือเปลี่ยนรูปโฉมเกม หอกชาวเซเนกัล ยังทำไม่ได้
กับ พาเลซ จริงๆ ตอนที่นำ1-0 นิโคลัส แจ็คสัน มีโอกาสมากๆที่จะฝังเป็น2-0 เมื่อ พาลเมอร์ แทงบอลคิลเลอร์พาสให้หลุดเดี่ยว หลอกเอาชนะกองหลังได้แล้ว มุมเสาไกลเปิด แต่ทว่าเจ้าตัวกลับไปเลือกดีดปั่นไซด์ด้วยขวาบอลหลุดออกกรอบไป ทั้งที่ตอนล็อกมุมเปิดขนาดนั้นแล้ว ถ้าซัดด้วยซ้ายยังมีเปอร์เซ็นต์จะตุงตาข่ายสูงกว่า
หรือในครึ่งหลัง ช่วง น.70 ที่ ไกเซโด้ จ่ายบอลเข้ามาในเขตโทษ แจ็คสัน ที่สอดขึ้นมาเอาบอลอย่างดี และเลือกซัดด้วยซ้ายไปเสาสอง บอลเฉียดออกไปนิดเดียว หรือย้อนไปครึ่งแรก ลูกสูตรฟรีคิก ที่ เนโต้ โหม่งเสยมาข้างหลัง แจ็คสัน วิ่งเข้ามาแปมุมแคบออกข้างไปแบบไม่ได้ลุ้น
เอเซ่ ตัวจี๊ด ตัวป่วน / พาเลซ ค่อยๆฟื้น
ยังถือว่าไม่เข้าฟอร์มเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับมาตรฐานที่ผ่านมา ที่เคยทำได้สำหรับ เอเบเรชี่ เอเซ่ มีบางช่วงบางตอนความโดดเด่นในแนวรุกไปตกอยู่ที่ อิสไมล่า ซาร์ มากกว่า แต่ทว่าฟอร์ม 3-4นัดหลัง ตัวรุกเบอร์10รายนี้ ก็ดีวันดีคืนขึ้นมา
โดยตำแหน่งการยืนของ เอเซ่ ทำให้ได้ดวลวัดฝีเท้ากับ กุสโต ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องลำบากเท่าไหร่ แถมจังหวะที่ กุสโต เติมสูงก็ทำให้ เอเซ่ มีเวลา มีพื้นที่ให้คิดโจมตีสบายๆ ตลอดทั้งเกม สตาร์พาเลซรายนี้ มีโอกาสจบสกอร์มากถึง 4ครั้ง
ต้นครึ่งหลัง เอเซ่ มีโอกาสมากๆ จะลูกสอดขึ้นมายิงจากจังหวะตบเข้ากลางของ มูนญอซ แต่ยิงหลุดโคนเสาไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด 84นาที ที่ได้อยู่ในสนาม เอเซ่ จ่ายบอลคีย์พาสไปได้มากถึง4ครั้ง
ประตูตีเสมอ 1-1 ก็ต้องชมเจ้าตนด้วยที่ใจกว้างเป็นแม่น้ำ ตบเข้ากลางกลายเป็น แอสซิสต์ให้ มาเตต้า ได้ยิงง่ายๆ เข้าไป ซึ่งตัวของ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า เมื่อคืนก็โดดเด่นมากๆในเรื่องลูกกลางอากาศ เพราะเอาชนะการดวลไปได้มากถึง 8ครั้ง
ส่วน คริสตัล พาเลซ แม้จะยังอยู่ที่อันดับที่ 15ของตาราง แต่ทว่าผลงานของพวกเขาระยะหลังดีมากๆ 9นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก ทีมของ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ แพ้เพียงแค่ 1นัด ชนะ3 และเสมอ5 กลายเป็นอีกหนึ่งทีมที่ทีมไหนเล่นด้วย ต้องเจอกับความยากลำบากเสมอ
สิงห์ เลิกมองลุ้นแชมป์ ระวังพื้นที่ ยูซีแอล ให้ดี
เรื่องลุ้นแชมป์บี้กับลิเวอร์พูล คงไม่ต้องพูดถึงแล้วสำหรับเซลซี ณ วินาทีนี้ เพราะพวกเขาตามหลังหงส์แดงมากถึง 9แต้ม แถมยังแข่งมากกว่า ถึง2นัด 4นัดหลังสุดในลีกของเซลซี แม้โปรแกรมไม่ยาก แต่ทว่าพวกเขาสะดุดหมดเลย
เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0 / แพ้ ฟูแล่ม 1-2 / แพ้ อิปสวิช ทาวน์ 0-2 และเมื่อคืนเจ๊ากับ คริสตัล พาเลซ โดย4นัดดังกล่าว สิงห์น้ำเงิน เล่นดีเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น กับทอฟฟี่สีน้ำเงิน นอกนั้นผิดฟอร์มหมดเลย
เหมือนหมากเกมแพลนของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า คู่แข่งจะทยอยกันจับทางได้แล้ว หลายๆนัดโค้ชชาวอิตาเลี่ยน เริ่มต้นได้ดี แต่ทว่าระหว่างเกมที่ทีมเพลี้ยงพล้ำเสียเปรียบ เจ้าตัวกลับไม่ยอมเปลี่ยนแท็กติกหรือแก้เกม ปล่อยให้คู่แข่งนวดไปเรื่อยๆ เกมกับ พาเลซ ก็เป็นแบบนั้น
45นาทีหลัง " ดิ อีเกิ้ลส์ " โถมโจมตีเข้าใส่เป็นละลอก แต่ มาเรสก้า ก็ยังนิ่งเฉย โดยเฉพาะปัญหามิดฟิลด์คู่กลาง หากเป็น ไกเซโด้ กับ เอ็นโซ่ จะโดนคู่แข่งแทงทะลุหรือแหวกเข้ามาตลอด รวมถึงการเปลี่ยนตัวที่ช้า หรือเปลี่ยนตามตำแหน่งเกินไปไม่พลิกแพลงมีให้เห็นตลอด 4เกมหลัง
บวกกับความที่เซลซี เป็นทีมเด็กมีแต่แข้งวัยรุ่น นั่นจึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ ที่พวกเขาจะหลุดโมเมนตัมยาวหากไม่ชนะติดๆกัน บวกสควอดทีมของพวกเขาก็ไม่ใหญ่พอด้วย
ปัจจุบันแม้สิงห์บูลส์ จะอยู่อันดับ4 มี36แต้ม จาก20นัด แต่สถานการณ์การลุ้นท็อปโฟร์ของพวกเขาน่าเป็นห่วงไม่น้อย เพราะอันดับ5 นิวคาสเซิ่ล ที่แรงมากๆชนะมา6นัดรวด จี้เหลือมาเพียงแค่1แต้ม ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ชนะ2เกมติด ไล่มาเหลือเพียงแค่ 2แต้มเท่านั้น
- คอลัมน์นิสต์
- คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก เซลซี คริสตัล พาเลซ เอ็นโซ่ มาเรสก้า โคล พาลเมอร์ เอเบเรชี่ เอเซ่ นิโคลัส แจ็คสัน
- 75
- 05 ม.ค. 2568 15:42