ดาโล่ต์ แดงทำเกมเปลี่ยน ! ผี 10ตัว ยันปืน 1-1 ก่อนเฮ ชนะจุดโทษ 5-3 บายินดีร์ พระเอก
แม้ว่าจะไม่ชนะมาในเกมแดงเดือด แต่ทว่าการบุกไปเจ๊าลิเวอร์พูล ถึง แอนฟิลด์ อย่างอาจหาญ 2-2 นั่นก็น่าจะทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ความมั่นใจมามากโขเลยทีเดียว โดยในเกม เอฟเอ คัพ รอบ3 ปีศาจแดง มีคิวต้องยกพลไปเยือนอาร์เซน่อล ที่กำลังฟอร์มสะดุดอยู่พอดี และสุดท้ายก็เป็นปีศาจแดงที่ผ่านเข้ารอบต่อไปได้ หลังรวมพลังใจกันสู้ เหลือ10คน แต่ยันเสมอปืนใหญ่ ได้1-1 ไปจนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ 120นาที และดวลเป้าเอาชนะจุดโทษไป 5-3 พร้อมกับค่ำคืนที่โกลมือ2อย่าง อัลตาย บายินดีร์ เป็นพระเอก
อาร์เซน่อล ที่สะดุดมา2นัดติด เจ๊า ไบร์ทตัน ในพรีเมียร์ลีกมา 1-1 และเปิดบ้านโดน นิวคาสเซิ่ล มาสอนเชิงมวย 2-0 เกม คาราบาว คัพ รอบตัดเชือกนัดแรก จะต้องเปิดบ้านวัดกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่รอบ3ของ เอฟเอ คัพ
ด้วยความที่ปืนโต มีเกมลีกสำคัญ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ กับ สเปอร์ส กลางสัปดาห์ ส่งผลให้ตัวกุนซือ มิเคล อาร์เตต้า ต้องมีการโรเตชั่นบางตำแหน่ง ระบบ 4-3-3โกล ดาบิด ราย่า แผงแบ็กโฟร์ไล่จากซ้ายไปขวา ยอร์เรียน ทิมเบอร์ - วิลเลี่ยม ซาลีบา - กาเบรียล มากัลเญส และเจ้าหนู ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี่ ที่ได้รับโอกาส
มิดฟิลด์ มิเกล เมรีโน่ - จอร์จินโญ่ และ มาร์ติน โอเดการ์ด ปีกซ้าย กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ -ปีกขวา กาเบรียล เซซุส หน้าเป้า ไค ฮาแวร์ตช์ ฝั่งปีศาจแดง ยังยึดมั่นในระบบ 3-4-2-1 ตำแหน่งผู้รักษาประตู ให้โอกาส อัลตาย บายินดีร์ เฝ้าเสาแทน อ็องเดร โอนาน่า สามเซ็นเตอร์แบ็ก มาตไตส์ เดอ ลิกท์ - แฮร์รี่ แม็คไกวร์ - ลิซานโดร มาร์ติเนซ วิงแบ็กซ้ายขวา ดิโอโก้ อาโล่ต์ กับ นุสแซร์ มาซราวี
มิดฟิลด์ตรงกลาง มานูเอล อูกาเต้ ยืนกับ ค็อบบี้ ไมนู สองตัวรุกหลังกองหน้า บรูโน่ แฟร์นันเดซ และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ หัวหอกเป็น ราสมุส ฮอยลุนด์ เริ่มเกมมาต้องบอกว่าเป็นตามทรง เพราะปืนใหญ่ครองบอลได้มากกว่า กดฝั่งเดียว แต่ทว่าหาโอกาสเข้าทำที่เหมาะเหม่งไม่ได้จังๆ น.18 ที่ มาร์ติเนลลี่ ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้ กลับล้ำหน้าไปก่อน
ทีมเยือนได้ลุ้นบ้างเหมือนกันจาก เมนู และ การ์นาโช่ แต่ก็มีทั้งออกไปเอง และไม่เหนือบ่ากว่าแรงที่ ราย่า จะเซฟได้ ส่วนอาร์เซน่อล ที่ได้เตะมุมบ่อยมาก พวกเขาก็พยายามเน้นทุกๆช็อต แต่ไม่เป็นผล ปีศาจแดงยังช่วยกันสกัดกั้นได้ดี จบ45นาทีแรก ด้วยสกอร์ 0-0
ครึ่งหลังเกมแพลนของ ยูไนเต็ด ก็เป็นผลจากจังหวะสวนกลับ การ์นาโช่ ได้ลากบอลทางฝั่งขวา ก่อนตบเข้ากลางให้ วางเท้ายิงแบบไม่ต้องจับ ขึ้นนำ 1-0 น.52 ซึ่งลูกยิงดังกล่าวทำให้เกมน่าจะเข้าทางทีมของ รูเบน อโมริม แล้ว แต่ทว่า ดาโล่ต์ ก็มาโดนใบเหลืองที่2 กลายเป็นใบแดง จากจังหวะสไลด์เสียบบอลแบบไม่มีความจำเป็น น.61
ด้วยความได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่น 11ต่อ10 อาร์เซน่อล ก็มาตีเสมออย่างทันควัน แมนฯยู เคลียร์บอลสกัดกันไม่ขาดในเขตโทษ บอลมาเข้าทาง กาเบรียล เอี้ยวตัวยิง บอลไปแฉลบ เดอ ลิกต์ เข้าประตู ตีเสมอ 1-1 น.63 โมเมนตัมก็ไหลมาทางเจ้าบ้านเต็มๆ และน่าจะขึ้นนำ2-1 ได้สุดๆ จากจุดโทษของ โอเดการ์ด น.69 แต่ บายินดีร์ ที่อ่านทางไว้ก่อน พุ่งเซฟสุดเหยียด ได้อย่างยอดเยี่ยม
โดยช่วงท้ายเกมอาร์เซน่อล น่าจะได้ประตูชัยมากๆ จากทั้ง ลูกโขกโล่งๆของ เดแคลน ไรซ์ แต่ บายินดีร์ เซฟมือเดียวได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงลูกยิงจ่อๆของ ฮาแวร์ตช์ ในกรอบ6หลา แต่จิ้มข้ามคานออกไปเองแบบน่าเหลือเชื่อ ทำให้จบ90นาทีด้วยผล 1-1 จนต้องไปดวลกันต่อช่วง 120นาที ก็ทำอะไรกันไม่ได้
ทำให้สุดท้ายแล้ว ต้องมาฎีกา การผ่านเข้ารอบด้วยการดวลเป้า เป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เสี่ยงเหรียญได้เปรียบทั้งเลือกแดนและเลือกยิงก่อน และก็เป็นปีศาจแดงที่ยิงเข้าทั้งหมด 5คน เอาชนะไปได้ 5-3 ฝั่งปืนโต ยิงไม่เข้าเพียงคนเดียว ฮาแวร์ตช์ โดน บายินดีร์ เซฟ ส่งผลให้ แมนฯยูไนเต็ด ผ่านเข้ารอบ4ต่อไป และจับฉลากได้กลับไปเล่นในบ้านเจอ เลสเตอร์ ซิตี้ ของ รุด ฟาน นิสเตลรอย
บายินดีร์ แพสชั่นมาเต็ม แถมร่างทองเซฟจุดโทษ
ก่อนหน้านั้นถูกเรียกร้องให้ได้ เฝ้าเสาเป็นมือ1เช่นกัน สำหรับ อัลตาย บายินดีร์ แต่ทว่าเมื่อได้เล่นเป็นตัวจริงฟอร์มก็ยังไม่เข้าตานักสำหรับ นายด่ายชาวตุรกีรายนี้ ทั้งปฎิกิริยาดูช้า หรือเอาในเกม คาราบาว คัพ ที่แพ้ สเปอร์ส 3-4 บายินดีร์ ก็ปล่อยให้ลูกเตะมุมข้ามหัวมาแล้ว
เมื่อคืน รูเบน อโมริม ได้ให้โอกาส บายินดีร์ เฝ้าเสาเป็นตัวจริงก่อน อ็องเดร โอนาน่า ในเกมสุดสำคัญและกดดัน เพราะคู่แข่งคืออาร์เซน่อล และแน่นอนมากๆว่า เจ้าตัวจะโดนบททดสอบมากมาย มาจากทุกทิศทุกทางแน่ๆ
เริ่มเกมและตลอดทั้งเกมเลยก็ว่าได้ จุดเสียของ อดีตโกลเฟร์เนบาห์เช่ ทำให้เห็นตลอดนั่นก็คือการออกบอลด้วยเท้า การหวดไกลของเจ้าตัวไม่มีความแม่นยำเลย แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่สาระสำคัญเท่าไหร่
บายินดีร์ งัดเอาทุกสิ่งทุกอย่าง บินเหาะโชว์ซุปเปอร์เซฟ จนแข้งปืนโตมีท้อ ตอนที่สกอร์เสมอกันที่ 1-1 บวกตัวผู้เล่น ยูไนเต็ด เหลือ10คน อาร์เซน่อล มาได้จุดโทษ ซึ่ง ณ ตอนนั้น หาก โอเดการ์ด ซัดเข้าไปแซงนำ 2-1 ต้องบอกว่าเกมน่าจะจบแน่ๆ แต่ทว่า บายินดีร์ ไม่ยอมให้เกิดสิ่งนั้นขึ้นเมื่อเดาทางเซฟจุดโทษ ของกัปตันทีมปืนใหญ่ได้อย่างยอดเยี่ยม
แถมยังมีโคตรซุปเปอร์เซฟ กระโดดปัด ลูกโขกระยะ6หลา ของ ไรซ์ ด้วยมือเดียวได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.90 +3 ก็ล้มตัวเร็ว เซฟลูกยิงบอลเรียดจากฝั่งซ้ายของ เดแคลน ไรซ์ เจ้าเก่าได้อย่างหวุดหวิด
สุดท้ายต้องไปวัดกันในการดวลจุดโทษ และบทก็เขียนให้ อัลตาย บายินดีร์ สวมบทพระเอกจริงๆ เมื่อเอาชนะ ไค ฮาแวร์ตช์ ได้(อีกครั้ง) อ่านทางเซฟมุมซ้ายล่างได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมแพสชั่น ที่มาเต็มสุดๆ คู่ควรทุกประการกับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์
ระบบ3เซ็นเตอร์ แม็คไกวร์ สุดแกร่ง
ถ้าย้อนกลับไปสัก2 ฤดูกาลที่แล้ว ที่ เอริก เทน ฮาก เข้ามารับหน้าที่ ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยแนวทางและปรัชญาการเล่น ต้องบอกว่า แฮร์รี่ แม็คไกวร์ แทบจะหมดอนาคตเลย เพราะไม่ใช่กองหลังสมัยใหม่ ที่ออกบอลด้วยเท้าดี หรือเชิงบอลสูงอะไร
แต่ทว่าสุดท้ายแล้ว แม็คไกวร์ ก็แทบไม่เคยบ่น ทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง และกลับมายึดตำแหน่งตัวจริงได้เป็นระยะๆ ก่อนเจ็บไป พอมาในยุคของ กุนซือ รูเบน อโมริม ที่เล่นในระบบ3เซ็นเตอร์ ต้องบอกว่า เป็นแผนที่ แม็คไกวร์ คุ้นเคยอยู่แล้ว เพราะในทีมชาติอังกฤษ แกเร็ธ เซาธ์เกต ใช้งานเจ้าตัวมาก่อน
เกมกับ อาร์เซน่อล ถ้าไม่นับ บายินดีร์ ต้องบอกว่ากองหลังค่าตัว 80ล้านปอนด์ คู่ควรกับ MOTM เช่นกัน เพราะแทบทุกครั้งกับบอลเปิดของอาร์เซน่อล ชายที่ชื่อ แม็คไกวร์ สกัดกั้น หรืออ่านดักทางบอลได้ตลอด ศรีษะ เหมือนมีเรดาร์พุ่งหาลูกบอลเสมอ
ความแข็งแกร่ง ความเป็นผู้นำคอยกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมให้ 10 เต็ม10เลย โดยเฉพาะจังหวะที่ผู้ตัดสิน แอนดรูว แมดลี่ย์ เป่าจุดโทษให้แบบค้านสายตาสุดๆ แม็คไกวร์ ถึงกับฟิลขาดปรี่จะไปเอาเรื่อง ฮาแวร์ตช์ ทันทีทันใด
ตอนถูกเปลี่ยนตัวออก น.104 ให้ เลนี่ โยโร่ ลงมาแทน กองหลังเบอร์5ได้รับเสียงปรบมืออย่างล้นหลาม จากแฟนบอลปีศาจแดงที่สนาม เอมิเรต สเตเดี้ยม แม็คไกวร์ สกัดบอลได้ถึง11ครั้ง / บล็อกลูกยิง 5ครั้ง / แย่งบอลกลับคืนมาได้ 4หน และ ปล่อยให้ผู้เล่นอาร์เซน่อล เลี้ยงบอลผ่าน0 ครั้ง ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า ระบบหลัง3 เซ็นเตอร์ตัวกลาง แม็คไกวร์ คือผู้เล่นที่ดีที่สุดจริงๆ
ดาโล่ต์ 10ตัว พลิกโฉมเกม / ผีกันลูกเซ็ตพีชได้แล้ว
หลังจากที่เทพมากๆ ในเกมแดงเดือด ที่บุกไปเสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 ดิโอโก้ ดาโล่ต์ แปลงโฉมตัวเองให้กลายเป็น " ดาโลดินโญ่ " เปิดบอลด้วยซ้ายอย่างแม่นยำ ทั้งที่ปรกติต้องหักเข้าขวาตลอด แถมยังตามประกบติด ซาลาห์ เป็นเงาอีกด้วย แต่ถึงกระนั้นก็ดี ดาโล่ต์ ก็ยังเป็นคนเดิมแหละที่พร้อมผีเข้าผีออกเสมอ
ตอนที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้เกมสวนกลับ ชิงขึ้นนำอาร์เซน่อล 1-0 น.52 ต้องบอกว่า ณ ตอนนั้น รูปเกมทุกอย่าง มันน่าจะเข้าทางพวกเขามากๆ ในเกมเน้นเกมรับต่อแล้วอาศัยจังหวะฉาบฉวยในการสวนกลับ
แตทว่าเกมแพลนที่น่าจะเข้าทางดังกล่าวก็ต้องมาพังทลายลงเมื่อ ดาโล่ต์ ไปเข้าบอลอันตรายเปิดปุ่มใส่ เมรีโน่ แบบไม่จำเป็น เรียกว่าเสีย่ค่าโง่เลยก็ว่าได้ แม้ว่าจะไม่โดนคน แต่ทว่าเข้าบอลโฉ่งฉ่างอันตรายแบบนี้ ใบเหลือง-แดง คือเหมาะสมแล้ว
นั่นทำให้ ยูไนเต็ด ต้องเล่น10คน ทั้งในช่วงเวลาปรกติและ120นาที ร่วมๆแล้ว 60+7 นาที ดีที่ยังสามัคคี ช่วยกันเล่น ช่วยกันยันอยู่ หน้า-กลาง-หลัง มีส่วนร่วมกับเกมรับกันทุกคน วินัยเต็ม100
ส่วนชุดที่น่าชื่นชมของปีศาจแดงอีกอย่างเมื่อคืนกับอาร์เซน่อล นั่นก็คือการรับมือลูกตั้งเตะ เพราะลูกเตะมุม11ครั้งของเจ้าบ้าน แทบไม่มีหนไหนที่ใกล้เคียงกับการทะลวงตาข่าย โดยเฉพาะ เดอ ลิกต์ แม็คไกวร์ ที่ยืนคุมพื้นที่ได้อย่างยอดเยี่ยม บายินดีร์ ก็ออกมาชกบอลได้ แตกต่างจากเกมแรกที่แพ้ 2-0 ลูกเตะมุมของปืนใหญ่ ได้ผลถึง2ครั้ง จนกลายเป็น2ประตู
วันที่ไม่น่าจดจำจริงๆของ ฮาแวร์ตช์
หลังจบเกมที่ พ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการดวลจุดโทษ 3-5 ทำให้ต้องตกรอบ 3 เอฟเอ คัพ ไปตั้งแต่หัววัน เชื่อว่าหนึ่งในนักเตะของอาร์เซน่อล ที่น่าจะนอนไม่หลับแน่ๆ คนหนึ่งนั่นก็คือ ไค ฮาแวร์ตช์ เพราะโมเม้นต์ แย่ๆในเกม " น้องไค " มีส่วนร่วมด้วยตลอด จนพูดติดตลกได้เลยว่า เป็นหนึ่งในกองหลังปีศาจแดง ที่ช่วยเคลียร์ประตูหน้ากรอบเขตโทษได้เลย
ฮาแวร์ตช์ แม้จะยิงประตูได้เรื่อยๆ สถิติไม่ได้ขี้เหร่อะไร ซีซั่น 2024-2025นี้ กดไป 12ประตู จาก27นัด แต่ทว่าคุณสมบัติความเป็นหน้าเป้า อดีตแข้งเซลซีรายนี้ ยังขาดหายไปเยอะมากๆ โดยเฉพาะความคมในการจบสกอร์
เมื่อคืน มี2ครั้งที่ ฮาแวร์ตช์ น่าใส่ประตูให้ทีมากๆ จากบอลที่ เมรีโน่ คืนมาให้ยิงเหน่งๆ แต่กลับซัดโดนบอลไม่ดีออกหลังไป หรือช่วงท้ายเกม น.88 โอเดการ์ด อุตส่าห์เท้าชั่งทองสุดๆ ตักบอลข้ามหัว เดอ ลิกต์ฺ ให้ ฮาแวร์ตช์ ได้เอาบอลลงระยะราวๆ 5-6 หลา
แต่ทว่าตัวของ ไค ฮาแวร์ตช์ กลับจิ้มบอลจ่อๆ โด่งออกไปอย่างน่าเหลือเชื่อสุดๆ หรือก่อนหน้านั้นที่ทีมได้จุดโทษ ก็เป็น ฮาแวร์ตช์ นี่แหละที่เล่นละครตบตาพุ่งล้ม ทำให้ แม็คไกวร์ สุดเดือด ปรี่มาเอาเรื่อง พร้อมด่าว่าเป็นพวกขี้โกง
พอมาถึงฎีกา ดวลเป้า ฮาแวร์ตช์ ที่รับหน้าที่เป็นคนที่2 สีหน้าแววตาชัดเจนมากๆว่า ไม่ค่อยมีความมั่นใจเท่าไหร่ และสุดท้ายก็ยิงเรียดไปโดย บายินดีร์ อ่านทางเซฟได้จริงๆ เป็นวันที่ไม่น่าจดจำแท้ๆของเจ้าตัวขนานแท้
ปืนช่วงหัวตก เหมือนหมกมุ่นกับลูกตั้งเตะเกินไป
แม้จะพึ่งสะดุดมาก่อนหน้านั้นเพียงแค่ 2นัด นั่นก็คือ เสมอกับ ไบร์ทตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ในพรีเมียร์ลีก มา1-1 ทำให้ตามหลังจ่าฝูงลิเวอร์พูล มากถึง6แต้ม แถมยังไปแข่งมากกว่าอีก1นัด และใน คาราบาว คัพ รอบรองนัดแรก ก็เปิดบ้านโดน นิวคาสเซิ่ล บุกมาสอนเชิงเหนาะ 2-0
ไม่ใช่เพียงแค่ผลงานเท่านั้นที่แผ่วลงไป แต่เอาจริงๆซีซั่นนี้ ปืนใหญ่ ก็ดูไม่สม่ำเสมอจริงๆนะ พวกเขาไม่เคยเอาชนะใครได้เกิน3นัดในลีกติดเลย บวกกับช่วงที่ไม่มีคีย์แมนคนสำคัญ เกมรุกปืนใหญ่ดูตีบตันไปจริงๆ ทั้งตอนที่ไม่มี โอเดการ์ด และล่าสุดที่ไม่มี ซาก้า
กลับกลายเป็นว่าเหมือนอาร์เซน่อล เสียตัวตนไปมากๆ เพราะทีมของ มิเคล อาร์เตต้า เน้นสุดขีดกับการเล่นลูกตั้งเตะ ลูกเซ็ตพีช เพราะเป็นอาวุธหนักที่พวกเขาโจมตีคู่แข่งแล้วได้ผลมาเสมอ แต่ทว่านั่นเหมือนกับกลายเป็นดาบสองคม ทิ้งตัวตนการต่อบอลทำชิ่งสวยๆ เท้าสู่เท้าของตัวเองไป เล่นด้วยความเกร็งความกดดันแทน เน้นผลมากๆแทน
เอาแค่ลูกเตะมุม นัดกับปีศาจแดง 11ครั้ง " เดอะ กันเนอร์ส " ดูมุ่งมั่น ตั้งใจ เอาทุกดอกมากๆ กับการเน้นลูกตั้งเตะจนกลายเป็นเหมือนหมกมุ่นไปเลย ( DARK ART) อีกปัญหาที่ชัดเจนมากๆของ ปืนโต ณ ตอนนี้คือการไม่มีกองหน้าธรรมชาติ
ฮาแวร์ตช์ จังหวะสำคัญๆ ไม่มีวิญญาณ เพชรฆาต ส่วน กาเบรียล เชซุส ก็ยังพึ่งพาไม่ได้ แถมยังเจ็บจนต้องถูกหามออกจากสนาม และคาดว่าดาวยิงชาวบราซิลรายนี้ ส่อแววจะพักยาวด้วย เพราะฉะนั้นตลาดหน้าหนาวนี้ อาร์เซน่อล ต้องไปสอยกองหน้าขนานแท้มาอย่างเร่งด่วนแล้ว
- คอลัมน์นิสต์
- คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล เอฟเอ คัพ อาร์เซน่อล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รูเบน อโมริม มิเคล อาร์เตต้า ไค ฮาแวร์ตช์ อัลตาย บายินดีร์ แฮร์รี่ แม็คไกวร์
- 36
- 13 ม.ค. 2568 15:57