โอนาน่า ร่างแจก ! ผี หืดจับ พลิกแซง พัลเซ่น 2-1 ฮอยลุนด์ ซุปเปอร์ซับกดเบิ้ล
เจอทีมจากลีกระดับที่อ่อนชั้นกว่า แถมไม่ได้มีนักเตะชื่อดังอะไรภายในทีม แต่ทว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องออกแรงเลือดตาแทบกระเด็นเลยทีเดียวกว่าจะเอาชนะ วิคตอเรีย พัลเซ่น ทีมจาก สาธารณรัฐ เช็ก ไปได้ 2-1 ซึ่งรูปเกมของปีศาจแดงดูสะเปะสะปะมากๆ แถมยังโดนขึ้นนำไปก่อนด้วยซ้ำ ดีที่ รูเบน อโมริม รีบแก้เกม จนได้ ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง สวมบทซุปเปอร์ซับ เหมาทำคนเดียว2ประตู เก็บ3แต้มได้สำเร็จ
ใน เวที ยูโรป้า หลัง หลังจากที่เอาชนะมา2นัดหลังสุด ทำให้สถานการณ์ของปีศาจแดงคลี่คลายขึ้นมาก โดยเกมที่6บน เวทีถ้วยเล็กยุโป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องบุกไปเยือน วิคตอเรียน พัลเซ่น ทีมจากประเทศ สาธารณรัฐ เช็ก
การจัดตัวผู้เล่น เหมือน รูเบน อโมริม จะพยายามหา11ตัวผู้เล่นที่ดีที่สุดตามเดิม ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงหลายตำแหน่งจากเกมที่พ่าย น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ คาบ้าน 2-3 ผู้รักษาประตู ยังคงวางใจใช้ อ็องเดร โอนาน่า 3เซ็นเตอร์แบ็กเป็น นุสแซร์ มาซราวี - มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ และ ลิซานโดร มาร์ติเนซ
วิงแบ็กซ้าย ให้โอกาส ไทเรลล์ มาลาเซีย อีกครั้ง ดิโอโก้ ดาโล่ต์ ที่ไม่เจ็บไม่ป่วยได้เล่นวิงแบ็กฝั่งขวา มิดฟิลด์คู่กลางใช้งาน บรูโน่ แฟร์นันเดซ กับ กาเซมิโร่ สองแนวรุกตัวบน มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อาหมัด ดิยาโล่ หน้าเป้ากลับมาเป็น โจซัว เซิร์กเซ่
ส่วนเจ้าบ้าน พัลเซ่น มาในระบบหลัง3 เช่นกัน (3-4-3) ผู้เล่นตัวจริงมีชื่อคุ้นหูเพียงแค่แนวรุก มาเตย์ วีดร้า กองหน้าที่เคยค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกับเบิร์นลี่ย์ เท่านั้น เป่านกหวีดเริ่มเกมมา แม้ชื่อชั้นนักเตะดรีกรีต่างๆของ แมนฯยูไนเต็ด จะดีกว่า แต่ทว่ารูปเกมกับสูสีและนัวมากๆ
ผู้มาเยือนจากอังกฤษ ทำได้แค่จ่ายบอลคืนหลังเสียส่วนใหญ่ แถมผู้เล่นของพวกเขายังรับส่งบอลได้แย่สุดๆไม่มีความแม่นยำ หากเร่งจังหวะหรือทำเร็ว จะทำบอลเสียทันที แม้ว่าจะครองบอลได้ดีกว่าเป็นระยะ แต่หาจังหวะจบสกอร์ได้ใกล้เคียงเพียงแค่2ครั้งเท่านั้นจ่าก เซิร์กเซ่ และ บรูโน่ แต่ทว่าก็ต้องระวังจังหวะสวนของเจ้าบ้านเช่นกัน จบ45นาทีแรก สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0 ชนิดที่ชวนให้หลับสุดๆ
ครึ่งหลังด้วยรูปเกมที่น่าเบื่อ อ็องโดร โอนาน่า กลัวแฟนบอลไม่ตื่นเต้น และเหมือนจะยังหลอนกับความผิดพลาดในเกมกับ ฟอเรสต์ จนมาแจกโชคให้คู่แข่งอีกครั้ง เมื่อออกบอลไปเข้าทางนักเตะเจ้าบ้านง่ายๆ กลายเป็น พาเวล ซูลช์ ที่ดักบอลได้ แล้วจ่ายเข้ากลางให้ วีดร้า ยิงหมูๆ ขึ้นนำ 1-0 น.48
หลังจากนั้นสักระยะหนึ่ง อโมริม ก็ไม่นิ่งนอนใจ ทยอยเปลี่ยนตัวสำรองลงมาเปลี่ยนเกมทั้ง มานูเอล อูกาเต้ - เมสัน เมาท์ - ราสมุส ฮอยลุนด์ หรือแม้กระทั่ง อันโตนี่ และสุดท้ายแล้ว ด้วยความสามารถเฉพาะตัวของ อาหมัด ก็มาทำให้ทีมตีเสมอได้ เมื่อวิ่งสอดไปยิงติดเซฟของ มาร์ติน เจดลิชก้า และก็เป็น ฮอยลุนด์ ตามซ้ำเข้าไป 1-1 น.62
ยูไนเต็ด ที่เริ่มครองเกมได้ ก็มีโอกาสลุ้นแซงเป็นระยะ เมาท์ ที่ได้โอกาสเหน่งๆ2ครั้ง แต่ทว่าก็ตอกย้ำความเป็นนักเตะธรรมดาของเจ้าตัว ยิงไปติดเซฟโกลเจ้าบ้านทั้ง2หน ก่อนท้ายที่สุดแล้วลูกฟรีคิกสูตรของ บรูโน่ จะเห็นผล เล่นเร็วให้ ฮอยลุนด์ พักบอล เข้าไปยิงด้วยซ้ายหักมุมเข้าไปขึ้นนำ 2-1 น.88
หลังจากนั้นเจ้าบ้านก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เดินหน้าบุกเต็มสูบ ทำให้ปีศาจแดงได้สวนเหน่งๆ 2ครั้ง ชนิดที่ตัวผู้เล่นจังหวะหลุดมาเยอะกว่า แต่ทว่าจังหวะสุดท้ายไปตกม้าตายจ่ายพลาดจ่ายล้น ยิงไม่คมแบบน่าเขกกะโหลกสุดๆ ยังดีที่จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ พัลเซ่น ไปได้หืดจับ 2-1 ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ7ของตาราง ยูโรป้า ลีก
โอนาน่า แจกอีก เป๋ต่อเนื่องจากเกม ฟอเรสต์
เอาจริงๆนับตั้งแต่ต้นปีใหม่ ฤดูกาลที่แล้ว 2023-2024 อ็องเดร โอนาน่า ก็โชว์เซฟมาตลอด แทบไม่มีช็อตพลาดให้เห็น เรียกได้ว่าเป็น " เดอะ แบก " ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เงียบๆได้เลย จนฟอร์มหนึบรันยาวมาในซีซั่นใหม่นี้ แต่ทว่าหลังนัดที่พลาดกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ " บิ๊กโอ " ก็เป็นแบบที่กังวลจริงๆ
นอกจากกะทิศทางลูกส่ายตรงๆของ มอร์แกน กิ๊บส์บ ไว้พลาด เกมดังกล่าว โอนาน่า ก็มีช็อตลนๆให้เห็นหลายครั้ง ทั้งประตู 3-1ที่ไปกั๊กกันเองกับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ รวมไปจนถึงท้ายเกมที่อยู่ดีๆ ไปเล่นเกมยื้อเวลา ตั้งเตะไม่ตรงจุดจนต้องโต้เถียงกับกรรมการ
ทว่าอย่างไรก็ตาม เกมไปเยือน วิคตอเรีย พัลเซ่น กุนซือ รูเบน อโมริม ยังคงไว้ใจ อ็องเดร โอนาน่า ให้เฝ้าเสาต่อ และตลอด90นาที ไม่มีลูกยากอะไรให้ นายด่านชาวแคเมอรูนรายนี้ต้องออกแรงเซฟ
แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้ว โอนาน่า ก็มาทำในสิ่งที่แฟนผีทั้งกลัวและกังวลนั่นก็คือการออกบอลจากแดนหลัง ซึ่งเป็นจังหวะที่ไม่มีอะไรกดดันเลย แต่ประมาท จ่ายไปเข้าทาง พาเวล ซูลช์ ง่ายๆ ก่อนจะตบเข้ากลางให้ วีดร้า ยิงไม่เหลือ
แม้ว่าจะเก็บไปได้ถึง 6คลีนชีตในพรีเมียร์ลีก แต่สภาพจิตใจและความนิ่งของ โอนาน่า ถ้าเกิดเสียสูญหรือมีช็อตหมูหกให้เห็น ก็มักจะเกิดขึ้นซ้ำได้รัวๆจริง และก็ต้องมาดูว่า เกมบุกไปเยือน ซิตี้ วันอาทิตย์นี้ อ็องเดร โอนาน่า จะเรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้หรือไม่ หรือจะหลุดยาวเหมือนต้นซีซั่นก่อน
แรชฟอร์ด ไม่มีสัญญาณอะไรที่เป็นบวก / แข้งรายอื่นๆที่ไม่น่าได้ไปต่อ
ในยุคของกุนซือ รูเบน อโมริม ที่ให้นักเตะทุกคนได้รับโอกาสลงสนามเพื่อพิสูจน์ตัวเอง รวมถึงเพื่อตัวกุนซือชาวโปรตุเกสเอง จะได้หา11ตัวผู้เล่นที่ดีที่สุด มาร์คัส แรชฟอร์ด เหมือนจะทำผลงานได้น่าประทับใจเพียงแค่เกมที่่ชนะ เอฟเวอร์ตัน 4-0 ในบ้านเท่านั้น (ยิง2ประตู)
แต่ทว่าเกมอื่นๆต้องบอกว่า " ดร.แรช " ช่างทำตัวน่าผิดหวังจริงๆ ซึ่งก็ทำมาตลอดนั่นแหละ เมิ่อคืนกับ พัลเซ่น ดาวเตะเบอร์10รายนี้ ก็ลงเล่นโดยที่ภาษากายแย่มากๆ (อีกครั้ง) ขนาดเจอทีมที่อ่อนชั้นกว่า ผู้เล่นดีกรีน้อยกว่า แรชฟอร์ด ยังเล่นออกมาให้สูสีใกล้เคียงกันได้เลย
จังหวะดวล1-1 อย่างหวังเลยว่าเจ้าตัวจะเลี้ยงผ่าน มีช็อตหนึ่งที่ได้หลุดไปเปิดด้านข้าง หมายจะตบเข้ากลางมาให้ บรูโน่ แต่เปิดปลิ้นออกหลังไปอย่างน่าเกลียดสุดๆ เหมือนไม่พกใจลงสนามไปเมื่อคืน ยิ่งมีข่าวว่าทีมจะพร้อมขาย เลยใจลอยหมดใจไม่รู้ใช่เปล่าเหมือนกัน
การเจอทีมที่อ่อนชั้นกว่า นักเตะเหล่านี้ที่ได้พิสูจน์ตัวเอง ครั้งแล้วครั้งเหล่า ก็ทำให้ผิดหวังเหมือนเดิมทั้ง ดิโอโก้ ดาโล่ต์ แม้จะได้เล่นวิงแบ็กขวาข้างถนัด แต่ทุกอย่างก็ยังมั่วเหมือนเดิม ยังชอบจ่ายตัดเข้ากลางให้เพื่อนลำบากเล่นๆ
ไทเรลล์ มาลาเซีย แม้จะฟิตกลับมาแต่คุณภาพก็ได้แค่นี้และ ส่วน เมสัน เมาท์ ก็ยิ่งตอกย้ำความเป็นนักเตะธรรมดาดาดๆ เมื่อได้โอกาสยิงลุ้นเป็นประตูมากๆ2ครั้ง แต่ยิงได้ธรรมดาทื่อๆแบบที่ทำให้เห็นมาตลอด
ฮอยลุนด์ แรงกระหาย ตอบแทนด้วย2ประตู
ด้วยสไตล์การเล่น ต้องบอกว่าทำให้เมื่อยืนหน้าเป้าเทียบกัน จะเห็นได้ชัดเจนว่า ราสมุส ฮอยลุนด์ ดูจะมีพิษสงและอันตรายกว่า โจซัว เซิร์กเซ่ จริงๆ ด้วยที่ " อาจารย์ดู๋ " บอกด้วยตัวเองว่าเป็นกองหน้าประเภท 9.5 ที่ต้องคอยลงมาเชื่อมบอลพักบอล ทำให้ไม่ได้อยู่ตำแหน่งประจำการในเขตโทษเท่าไหร่
45นาทีแรก หอกผมฟูเล่นใช้ได้นะในฐานะกองหน้าที่ต้องคอยเชื่อมบอลพักบอล นอกกรอบเขตโทษ แต่ทว่าพอมาครึ่งหลังนี่หนักเลย บังบอลไม่ได้ สปีดช้า แถมยังจ่ายบอลเสียเป็นระยะๆ นั่นทำให้ท้ายที่สุดแล้ว เซิร์กเซ่ ต้องถูกถอดออก น.61 ให้เมาท์ มาแทน
โดยเกมหลังจากที่มี ฮอยลุนด์ ยืนค้ำเป็นหน้าเป้า ทำให้ปีศาจแดง มีเป้าหมายในเกมรุกมากขึ้น เซ็นเตอร์ของเจ้าบ้านก็ต้องระแวดระวังกว่าเดิม และ หอกดาวรุ่งชาวเดนมาร์ก ก็ตีเสมอ1-1 ให้กับทีมได้ จากการอยู่ถูกที่ถูกเวลา ซ้ำลูกยิงของ อาหมัด
และสุดท้าย ราสมุส ฮอยลุนด์ ก็มาทำประตูชัย3แต้มให้กับ ทีมเมื่อรับลูกสูตรฟรีคิกเร็วจาก บรูโน่ พักบอล แล้วหักยิงด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเฉียบคม 2-1 แต่ถึงกระนั้นก็ดี ฮอยลุนด์ ควรจะทำประตูได้ก่อนหน้านั้นแล้วทั้ง ลูกชาร์จ จ่อๆในเขตโทษไม่โดน และลูกรับส้มหล่นหลุดเดี่ยวจากการจ่ายบอลพลาดของเจ้าบ้าน
แถมช่วงท้ายเกม สวนกลับ มาผู้เล่นมากกว่าทีมเจ้าบ้าน 3-2 แต่เพื่อนร่วมทีมไม่จ่ายให้ซะงั้น จนหลังเกมได้เห็นเจ้าตัวไปโวยกับ อาหมัด อยู่เหมือนกัน ฮอยลุนด์ อาจไม่ได้เพอร์เฟ็คส์มาก แต่ทว่าด้วยสไตล์การเล่นของเจ้าตัวที่เป็นเบอร์9ขนานแท้ บวกแรงกระหายเวลาได้ลงสนาม ก็ดูอันตรายและคุกคามคู่แข่งมากกว่า เซิร์กเซ่ เป็นไหนๆ
อโมริม แก้เกมใช้ได้ มี 6ผู้เล่นตัวหลักแล้ว
ต้องบอกว่า ทุกนัดตั้งแต่ รูเบน อโมริม เข้ามารับงานเป็นนายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาดเดาไม่ได้เลยสำหรับ 11ผู้เล่นตัวจริงของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะโค้ชหนุ่มชาวโปรตุเกสรายนี้ สลับสับเปลี่ยนนักเตะเป็นว่าเล่นเพื่อทดลงทีม
ถ้าจะดูให้ชัดๆทีละเกม จะเห็นได้ว่า รูเบน อโมริม น่าจะได้ตำแหน่งที่ชัวร์และลงตัวแล้ว4รายเท่านั้น นั่นก็คือนายด่าน อ็องเดร โอนาน่า และเซ็นเตอร์3ตัวที่คาดว่าจะเป็นตัวจริงนับจากนี้คือ นุสแซร์ มาซราวี - มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ และ ลิซานโดร มาร์ติเนซ
ส่วนอีก2รายที่การันตีตัวจริง แต่ทว่าตำแหน่งการเล่นยังไม่ชัวร์ นั่นก็คือ บรูโน่ แฟร์นันเดซ และ อาหมัด ดิยาโล่ โดยนอกจากนั้นเป็นเหมือนการจับปูใส่กระด้ง โดยเฉพาะตัวแหน่งวิงแบ็กซ้าย-ขวา ที่สลับกันลงสนามเป็นว่าเล่น
อีก5ตัวผู้เล่นคือ 11ตัวจริงที่ อโมริม ยังเลือกไม่ได้ หรือนักเตะเองยังไม่ตอบโจทย์ ถึงกระนั้นก็ดีเกมเมื่อคืน อดีตกุนซือ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ก็แก้เกมใช้ได้เลยนะ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เล่นไม่ออก แถมยังอารมณ์ร้อน มีแววจะโดนใบเหลือง2 ถูกเปลี่ยนออกไป รวมไปจนถึง ดาโล่ต์ - เซิร์กเซ่ นักเตะเหล่านี้เมื่อออกจากสนามทีมเล่นดีขึ้นทันที
อันโตนี่ ที่แม้ไม่ดีมาก มียิงข้ามคานออกไปไม่ได้ล้นถึง2ครั้ง แต่ก็เล่นวิงแบ็กขวาได้ไหลลื่นกว่า ดาโล่ต์ เป็นไหนๆ รวมไปจนถึง ราสมุส ฮอนลุนด์ นี่คือการแก้เกมที่ถูกต้อง เพราะลงมายิงเบิ้่ลพาทีมคว้า 3แต้ม
ถึงกระนั้นก็ดี ณ ตอนนี้ หลังผ่านมา 6นัด ต้องบอกว่า อโมริม เจอโครงหลัก11ผู้เล่นตัวจริง ทั้งน้อยไปหน่อยและช้าไปหน่อย เหมือนจะได้โครงมาเพียง 6คนเท่านั้นจาก11 ขาดอีก5ตำแหน่ง ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องเข้าใจโค้ชวัย39ปีรายนี้ ด้วยที่ผู้เล่นปีศาจแดงชุดปัจุบันคุณภาพต่ำเหลือเกิน
วีดร้า คนเดียวที่คุ้นชื่อ บอลที่ต่างเล่นผิดพลาดทั้ง2ทีม
แม้ว่าดีกรี ณ ปัจจุบัน วิคตอเรีย พัลเซ่น จะเป็นรองจ่าฝูงลีก สาธารณรัฐ เช็ก แต่ทว่าด้วยชื่อชั้นของทีมและคุณภาพของนักเตะ ต้องบอกว่ายังดูห่างชั้นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้จะเป็นช่วงขาลงอยู่เยอะเลยทีเดียว แต่ทว่าพอไปฟัดกันในสนามกลับสูสีกันซะงั้น
กาเซมิโร่ -บรูโน่ แฟร์นันเดซ แย่งปั๊มบอลจังหวะขลุกขลิก ได้สูสีใกล้เคียงกับผู้เล่นทีมเจ้าบ้าน ชนิดที่หมดเชิงหมดราคากันไปเลย หรือถ้าจะเอาจริงๆแล้วจังหวะ50/50 เป็น พัลเซ่น ที่ทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ
ส่วนในเรื่องของการรับส่งบอล มีผิดพลาดระดับอนุบาล ให้เห็นทั้ง2ฝั่ง ทำให้เราได้เห็นรูปเกมที่ค่อนข้างนัวกันอยู่ตรงกลางสนาม เตะอัด ปั๊มบอลกันไปมา เป็นเกมที่โชว์ให้เห็นถึงความผิดพลาด ความไม่ชัวร์ของทั้งสองฝั่งจริงๆ
โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่โดนนำ 1-0 พวกเขาออกอาการลนลานอย่างน่าเกลียด โดนเจ้าบ้านบุกต่อเนื่อง หรือครองบอลกดเข้าใส่อยู่กว่า10นาทีม ลูกทีมของ รูเบน อโมริม พาบอลออกมาไม่พ้นแดนกลางเลย เป็นภาพที่น่าหดดู่ยิ่งนัก
ฝั่งเจ้าบ้าน มีเพียง ตัวรุก มาเตย์ วีดร้า ที่เคยเล่นกับ วัตฟอร์ดและเบิร์นลี่ย์ ที่พอมีชื่อเสียง และก็ทำได้1ประตู เมื่อคืน ส่วนที่ต้องปรับมือให้สุดๆสำหรับผู้เล่นของ วิคตอเรีย พัลเซ่น นั่นก็คือ โกลอย่าง มาร์ติน เจดลิชก้า ที่เซฟลูกยิงของ เมสัน เม้าท์ ได้อย่างอยู่หมัดทั้ง2ครั้ง และปัดลูกยิงของ อาหมัด ก่อนที่จะมาเข้าทาง ฮอยลุนด์ เป็นประตู
- คอลัมน์นิสต์
- ยูโรป้า ลีก วิคตอเรีย พัลเซ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล รูเบน อโมริม ราสมุส ฮอยลุนด์ มาร์คัส แรชฟอร์ด
- 88
- 13 ธ.ค. 2567 15:16