คาบ้าน จนชิน ! เจ้าป่า โหด บุกหลอนผี คารัง 3-2 โอนาน่า ตรงมีแจก
ยังไงกันเนี่ยสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้ว่าจะเปลี่ยนกุนซือจาก เอริก เทน ฮาก มาเป็น รูเบน อโมริม ผลงานของพวกเขาก็ยัง3วันดี4วันไข้เหมือนเดิม โดยเฉพาะในแนวรับรูปแบบการป้องกัน ดูพร้อมมากๆสำหรับให้คู่แข่งได้โจมตีอย่างสนุกสนาน ล่าสุดปีศาจแดง ก็ต้องพบความปราชัยในพรีเมียร์ลีกเป็นนัดที่2ติดต่อกัน หลังเปิดบ้านโดน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ บุกมาหลอนถึงที่ 3-2
กลางสัปดาห์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพึ่งจะบุกไปแพ้ อาร์เซน่อล ถึง เอมิเรต สเตเดี้ยม มา 2-0 เกมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วันเสาร์นี้ น่าจะเป็นโปรแกรมที่ทำให้พวกเขาเรียกความมั่นใจกลับมาได้บ้าง กับการต้อนรับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
การจัดทัพ รูเบน อโมริม ยังมาในระบบเก่ง 3-4-2-1 นายด่าน อ็องเดร โอนาน่า - 3ปราการหลัง เลนี่ โยโร่ - ลิซานโดร มาร์ติเนซ และ มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ วิงแบ็กซ้ายขวา ดิโอโก้ อาโล่ต์ ขัดตราทัพ (อีกแล้ว ) อาหมัด ดิยาโล่ มิดฟิลด์คู่กลาง ค็อบบี้ ไมนู ผนึกกำลังกับ มานูเอล อูกาเต้
2ตัวรุกหลังกองหน้า บรูโน่ แฟร์นันเดซ และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ศูนย์หน้าตัวเป้า ราสมุส ฮอยลุนด์ ฟากผู้มาเยือน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ หลังจากที่เคยขึ้นไปท็อปโฟร์ของตาราง ผลงานของ" เจ้าป่า " ก็แผ่วลงเรื่อยๆ ก่อนเจอ แมนฯยู 4นัดหลังในลีก พวกเขาแพ้ถึง3
การมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กุนซือ นูโน่ เอสปิริโต้ มาในระบบเก่ง 4-2-3-1 นำโดยสตาร์ตัวชูโรงอย่าง คริส วู้ด - มอร์แกน กิ๊บส์ ไวน์ และ คัลลัม ฮัดสัน โอดอย และแล้วเริ่มเกมกันมาได้เพียง90นาที จุดสลบของปีศาจแดงก็เผยออกมาให้เห็นอีกรอบ จากลูกเตะมุม นิโกล่า มิเลนโควิช ขึ้นโขกเอาชนะ ลิซานโดร เข้าไป1-0 เพียง น.2
ทว่าอย่างไรก็ตาม น.18 แมนฯยู ก็มาตามตีเสมอได้ 1-1 จาก ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่ตามซ้ำลูกยิงของ การ์นาโช่ เข้าไป หลังจากนั้นก็รูปเกมค่อนข้างน่าเบื่อบอลของเจ้าบ้านถูกส่งคืนหลังตลอด และมีที่ใกล้เคียงสุดๆกับ ลูกฟรีคิกของ บรูโน่ ที่ซัดแฉลบไปชนคาน จบ45นาทีแรก ด้วยสกอร์ 1-1
เริ่มครึ่งหลังมา นักเตะเจ้าบ้านก็สมาธิกันไม่ดีเหมือนเดิม น.48 ฟอเรสต์ ก็ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 เมื่อ บรูโน่ จ่ายบอลพลาก มอร์แกน กิ๊บส์ ไวท์ ได้บอลแล้วลากเข้าไปยิงหน้าเขตโทษ บอลพุ่งส่ายนิดๆ แต่ทว่า โอนาน่า กลับกะบอลพลาด ปล่อยผ่านทิ้งตัวไปอีกทาง กลายเป็นประตู
หลังจากนั้น แมนฯยู ก็ต้องมาช็อกกันอีกรอบ จากลูกครอสทางด้านขวา บอลลอยมาเข้าหัว คริส วู้ด บอลไม่แรงมากๆ แต่ทว่าทั้ง โอนาน่า และ ลิซานโดร เหมือนสื่อสารกันไม่ดีไปกั๊กกัน ปล่อยบอลเข้าประตูไป ฉีกหนีเป็น 3-1 น54
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม ปีศาจแดง ก็ยังพอกลับมามีความหวังอีกครั้ง อาหมัด ทำสวย และไหลบอลให้ บรูโน่ ยิงเข้าไปเต็มข้อ ไล่มา 2-3 น.62 หลังจากนั้น รูเบน อโมริม ก็มีการเปลี่ยนตัวหวังแก้เกมหลายราย ได้ลงสนามทั้ง แม็คไกวร์ - มัซราวี - เมาท์ - แรชฟอร์ด รวมไปจนถึง โจซัว เซิร์กเซ่
แต่ทว่าด้วยประสิทธิภาพการรับส่งบอลของพวกเขา ที่ไม่แม่นยำ ทำให้จังหวะสุดท้ายที่หวังจะเล่นเร็ว ก็ก่อความผิดพลาด ทั้งที่ตามหลังอยู่1ประตู ส่งผลให้เกมบุกไม่คืบหน้าไปไหนเลย มีลุ้นจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด แต่ทว่าถากเสาออกไป
จบเกมจึงเสมอกันไป 1-1 นั่นทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หล่นมาอยู่ที่อันดับ13 แพ้ไปแล้วถึง 6จากเพียง 15นัด และในฤดูกาลนี้ปีศาจแดง ยังไม่เคยเอาชนะในพรีเมียร์ลีกได้2นัดติดต่อกันเลย สำหรับ ฟอเรสต์ 3แต้ม ทำให้" เจ้าป่า " ขึ้่นมาอยู่ที่5ของตาราง
โอนาน่า กลับมาหลุดปล่อยไก่
เอาจริงๆฤดูกาลใหม่ 2024-2025นี้ อ็องเดร โอนาน่า น่าจะเป็นหนึ่งผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เลย เพราะลดละเลิก อาการตรงเป็นตุงแล้ว แถมยังมีช็อตบินเซฟมหัศจรรย์สวยๆให้เห็นอีกด้วย มิหนำซ้ำ " บิ๊กโอ " ยังเก็บได้ได้ถึง 6คลีนชีต ในพรีเมียร์ลี มากกว่าทุกโกลราย
จริงๆ โอนาน่า มีสัญญาณเตือนเรื่องนี้มาก่อน ตั้งแต่ในเกมแพ้อาร์เซน่อล 0-2 แล้ว โอเคว่า ส่วนหนึ่งต้องตำหนิการจัดระเบียบแผงรับในการตั้งรับลูกตั้งเตะด้วย แต่ทว่า อ็องเดร โอนาน่า ก็ไม่ค่อยจะออกมาชกบอล หรือทำอะไรให้ทีมได้เปรียบเท่าไหร่
เริ่มเกมมาเพียง2นาที (90 วินาที) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มาเสียประตู จากลูกเตะมุมเลย จากจังหวะโขกของ มิเลนโควิช ส่วนประตูนำ 2-1 อีกครั้งของ มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ ก็เป็นการฉายภาพซ้ำช่วงแรกๆที่ โอนาน่า ย้ายมาจาก อินเตอร์ มิลาน เลย
ลูกซัดนอกกรอบเขตโทษของ กิ๊บบ์ส-ไวท์ แม้จะส่ายนิดๆ แต่มันก็มาแทบจะตรงตัวโกลชาวแคเมอรูน แต่ทว่าเจ้าตัวกลับขาตาย ล้มไปผิดทางซะงั้น ซึ่งเป็นอีกประตูที่ส่งผลต่อโมเมนต์ตัมของเกม
ส่วนเม็ด 3-1 ลูกโขกของ คริส วู้ด เอาจริงๆเป็นทั้งการสื่อสาร และการกะจังหวะบอลที่พลาด บอลไม่ได้แรง ตกพื้น1จังหวะ ก่อนเข้าประตูด้วยซ้ำ แต่ทั้ง โอนาน่า และ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ไปปล่อยตกพื้นกั๊กกันเอง
แถมในเรื่องของการเล่นบอล โอนาน่า ดองบอลไว้กับตัวเองนานไปหน่อย ทั้งที่สกอร์ตามหลังอยู่ รวมไปจนถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ยังไปเถียงทะเลาะกับผู้ตัดสินจนทำให้เสียเวลาไปมากโขอีกด้วย สรุปแล้วนี่คือวันที่ไม่ดีเท่าไหร่ของโกลเบอร์24รายนี้
ลูกเซ็ตพีชโคตรจุดอ่อนผี
จุดสลบหนึ่งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์แผลมาให้เห็นลากมาตั้งแต่ยุค โอเล่ กุนนาร์ โซลชา และ เอริก เทน ฮาก นั่นก็คือการรับมือลูกตั้งเตะ ที่ไม่เคยทำได้สักที แทบทุกเกมต้องมีจังหวะเสียวๆให้คู่แข่งได้โขกลุ้นทำประตูตลอด
กลางสัปดาห์กับอาร์เซน่อล พวกเขาก็โดนทะลวงตาข่าย 2เม็ด ที่มีที่มาจากลูกเตะมุม และตลอดทั้งเกมจังหวะเตะมุม10กว่าครั้งของปืนใหญ่ได้ลุ้นได้เสียวแทบทุกดอก เรียกได้ว่าโดนเตะมุมแต่เสียวเหมือนโดนจุดโทษได้เลย
เกมนี้กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ก็เช่นกัน เพียงแค่ 90วินาที นิโกล่า มิเลนโควิช ได้โขกเต็มแรงเข้าไป โดยตัวประกบก็ดูไม่สมน้ำสมเนื้อเหลือเกิน เพราะเป็น ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่สูงเพียง 175 ซม.จะไปเอาอยู่อะไร
ลูก 3-1 คริส วู้ด ก็เอาชนะ เลนี่ โยโร่ ในการดวลลูกกลางอากาศได้ นอกจากนี้แล้วเกมครอสริมเส้นโยนเข้ามาของ ฟอเรสต์ ก็ดูจะอันตายๆสุดๆ โชต้า ซิลวา ที่แม้ตัวเล็ก แต่ก็ยังได้โขกชนคาน วิงแบ็กฝั่งซ้ายที่เป็น ดาโล่ต์ ช่างปล่อยให้คู่แข่งได้โยนเข้ามาแบบสบายๆตลอด ไม่มีบีบมุม หรือลูกหนักกดดันแต่อย่างใด
ส่วนอีกรายที่เหมือนจะออกอาการมาสักระยะนั่นก็คือ เดอ ลิกต์ ที่ทั้งช้าและอืดอาด การจะให้เซ็นเตอร์ชาวดัตช์รายนี้ ยืนตรงกลางในระบบหลัง3 ดูคุณสมบัติเจ้าตัวจะยังไม่ครบเท่าไหร่ โดยเฉพาะในเรื่องของการบัญญาการจัดระเบียบ
เหตุผลที่ผีเล่นเกมรุกได้ช้า
สังเกต ว่า ในยุค เอริก เทน ฮาก ปีสุดท้าย แนวรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มักจะเข้าทำจังหวะสุดท้ายในเขตของคู่แข่ง จะทำกันช้ามากๆ ทำได้ดีแค่ในจังหวะสวนกลับที่มีทั้งพื้นที่และเวลาให้ หรือแนวรับคู่แข่งยืนไลน์สูง แต่ทว่าพอเจอคู่แข่งที่ตั้งใจเล่นเกมรับและไม่พลาดให้ นัดนั้นปีศาจแดงจะเหนื่อยตกเลยทันที
ที่จริง รูเบน อโมริม ก็พยามให้แข้งอสูรแดงเข้าทำเร็วในพื้นที่สุดท้ายนั่นและ แต่ทว่าด้วยคุณภาพนักเตะที่จำกัด เวลาที่ต้องเล่นบอลเร็ว มักจะไปลงเอยด้วยการโดนบีบหรือทำบอลเสียไปเอง นั่นจึงทำให้ เราเห็น แมนฯยู เล่นเกมบุกได้อย่างเนิบนาบ
กับ ฟอเรสต์ โอเคว่าพวกเขาครองบอลได้มากกว่าทีมเยือนจริง แต่เป็นบอลผ่านไปมาแดนหลังไม่ได้คืบหน้าไปไหน เหล่ากองหลังอย่าง เดอ ลิกต์ (69ครั้ง) และ เยโร่ (44ครั้ง) จึงได้บอลมากเป็นพิเศษ ทั้งที่ถูกถอดออกตั้งแต่ยังไม่ทัน น.70
การเล่นช้าเข้าทำช้า อาจเป็นการลดความเสี่ยงในการเสียบอลแล้วโดนสวนกลับก็เป็นได้ เนื่องด้วย รูเบน อโมริม อาจจะรู้ขีดจำกัดของนักเตะชุดนี้จริงๆ ระบบที่ทำได้ดีกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน อาจไม่เข้ากับแข้งปีศาจแดงชุดนี้
อีกหนึ่งจุดด้อยของ แมนฯยู มากๆ นั่นก็คือนักเตะของพวกเขาเป็นประเภทที่แย่งบอลไม่เก่ง ทำให้เวลาคู่แข่งครองบอล แล้วเอาบอลกลับมายาก ดูจะมีเพียง มานูเอล อูกาเต้ ที่พอทำให้ในทีมชุดนี้ เพราะฝั่ง กาเซมิโร่ ก็โรยมากแล้ว
หรือหลัง3 อโมริม ต้องใช้เวลาจูนมากกว่าที่คิด
การเข้ามากลางฤดูกาล และต้องเปลี่ยนระบบการเล่นจาก แบ็กโฟร์ เป็น 3เซ็นเตอร์ นั่นจึงเป็นสิ่งที่ต้องปรับจูนโมดิฟาย ทดลองทีมกันมากโขเลยทีเดียว นั่นจึงทำให้ รูเบน อโมริม ที่3นัดแรกกับ อิปสวิช ทาวน์ -โบโด กลิมท์ และ เอฟเวอร์ตัน เป็นเหมือนการ ปรี-ซีซั่น
นั่นจึงทำให้เราได้เห็นกุนซือหนุ่มชาวโปรตุเกส ไม่ได้มีเวลาทดลองทีมแบบปรี-ซีซั่น เลย นักเตะในทุกนัดมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมากทีละ5-6 คน และถึงตอนนี้ก็ดูเหมือน อโมริม ยังไม่ได้ผู้เล่นนักเตะที่ถูกใจเป็นโครงไว้มากนัก
3เซ็นเตอร์ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นเป็นระบบจริงจังหนสุดท้ายต้องย้อนไปไกลถึง ปี 2014 ที่ หลุยส์ ฟาน กัล เข้ามารับตำแหน่งนู่นเลย 5นัดผ่านไป ผู้เล่นพันธุ์อสูรแดง ดูจะยังงๆกับระบบนี้หน่อย โดนเฉพาะ3เซ็นเตอร์ที่ยังไม่กลมกล่อมเท่าไหร่
รวมไปจนถึงบทบาทของเซ็นเตอร์ที่เปลี่ยนไป เนื่องด้วยเพราะเหลือมิดฟิลด์เพียง2คน นั่นทำให้เซ็นเตอร์1ราย ต้องดันขึ้นไปช่วยด้วย หรือการยืนตำแหน่งเวลาเช็กล้ำหน้าต่างๆ อย่าเผลอห้อยยืนต่ำถ้าเพื่อนขยับขึ้น
ส่วนจุดที่ตำหนิ รูเบน อโมริม เมื่อคืนก็มีเหมือนกัน โอเคว่าปรกติเล่นในระบบหลัง3 ในสถานการณ์ที่ทีมตามหลัง นายใหญ่แดนฝอยทอง น่าจะลองถอดเซ็นเตอร์ออกหนึ่งราย แล้วเติ่มตัวรุกลงมา เพราะตอนนั้นหลัง3แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว แต่ทว่า อโมริม ดันเลือกถอด บรูโน่ แฟร์นันเดซ ออก แล้วให้ เซิร์กซี่ มาแทน ไม่ได้ปรับแผนการเล่น
วู้ด เจ้าเวหา & กิ๊บบ์ส-ไวท์ เร็วจี๊ด ควงกันเด่น
ฤดูกาลนี้โดดเด่นเป็นสง่าในแดนหน้าจริงๆสำหรับ คริส วู้ด เพราะผลิตสกอร์เป็นว่าเล่นให้กับทีม 1ประตูที่ทำให้เมื่อคืน ทำให้หอกร่างยักษ์ กดไปแล้วถึง10ประตู ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ มีเพียงแค่ เออร์ลิง อาลันด์ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (13ประตู) เท่านั้นที่ยิงได้มากกว่า
นอกจากนี้ทำให้ยอดรวมของ คริส วู้ด ในสีเสื้อทีม " เจ้าป่า " ในเวทีพรีเมียร์ลีก เท่ากับ25ประตูเข้าให้แล้ว มากที่สุดของสโมสรอีกด้วย ( ยุคพรีเมียร์) การโหมเอาชนะ โยโร่ ที่ตัวบางเล็กกับประตู 3-1 ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรเลย
โอกาสตลอดทั้งเกมแค่2ครั้ง ดาวยิงวัย33ปี แปรเปลี่ยนออกมาเป็น1ประตู แม้ว่าภาพรวมจะมีส่วนร่วมกับเกมน้อยหน่อยได้สัมผัสบอลเพียง 14ครั้ง และมีแค่2หน ที่ได้สัมผัสบอลในเขตโทษเจ้าบ้าน
ส่วน มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ ที่คือเกมที่โดดเด่นมากๆของแข้งเลือดผู้ดี มีความเร็วความคล่อง มีทั้งประตูและแอสซิสต์ ลูกแรกถือว่ามีดวงเล็กน้อยเพราะลูกซัดของเจ้าตัวไม่ได้หนีมือโกลมาก แต่ โอนาน่า กลับขาตายพลาดเอง
จังหวะครอสแอสซิสต์ ต้องบอกว่าน้ำหนักและทิศทางเพอร์เฟ็คส์ เหลือเกินในการเข้าหัว คริส วู้ด ให้เข้าระยะทำการ กิ๊บบ์ส-ไวท์ มีลูกเปิดครอสบอลสวยๆให้เห็น3ครั้ง แถมยังเอาชนะการครองบอลได้มากถึง5หน อีกด้วย
- คอลัมน์นิสต์
- คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ รูเบน อโมริม อ็องเดร โอนาน่า คริส วู้ด บรูโน่ แฟร์นันเดซ
- 119
- 08 ธ.ค. 2567 13:06