วัดกันต่อที่แอนฟิลด์ ! ไก่ หลังพิการ กระต๊าก เชือด หงส์ 1-0 เบิร์กวาลล์ ฮีโร่
หวังว่าจะปลดล็อกคว้าแชมป์แรกให้ได้ นับตั้งแต่ปี 2009 สักที สำหรับ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส ทีมอาภัพแชมป์ ตอนนี้พวกเขาเข้าใกล้มากๆที่จะคว้าถ้วยโทรฟี่สักที เพราะในรายการ คาราบาว คัพ ไก่เดือยทอง เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศ แต่ทว่าก็ต้องมาชนกับทีมสุดแกร่ง นำโด่งจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีก อย่าง ลิเวอร์พูล โดยเกมแรกทีมของ อังเก้ ปอสเตโคกูล อาศัยความได้เปรียบที่เล่นในบ้าน เฉือนเอาชนะหงส์แดงไป 1-0
สเปอร์ส เล่นในรอบรองชนะเลิศ น้าแอ๊ดคัพ เกมแรกที่บ้านของตัวเอง พวกเขาจัดตัวผู้เล่นที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเฉพาะแผงหลังที่น่ากังวล เพราะ2ตัวหลักอย่าง คริสเตียน โรเมโน่ และ มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน มีอาการบาดเจ็บ
การจัดทัพ " น้าแอนจ์ " มาในระบบ 4-3-3 โกลให้เป็น อันโตนิน คินสกี้ ที่พึ่งย้ายมาได้ไม่กี่วันเดบิวต์เฝ้าเสาเลย คู่เซ็นเตอร์ ราดู ดรากูชิน กับ อาร์ชี่ เกรย์ แบ็กขวา เปโดร ปอร์โร่ แบ็กซ้าย เจด สเปนซ์ 3ขุมพลังในแดนกลาง อีฟส์ บิสซูม่า -โรดีโก้ เบนตากูร์ และ ลูคัส เบิร์กวาลล์
แนวรุก ซน ฮึง -มิน กับ เดยัน คูลูเชฟสกี้ ศูนย์หน้าตัวเป้า โดมินิค โซลันกี้ ฟาก ลิเวอร์พูล ที่พึ่งเสมอในแดงเดือดมา ทำให้ กุนซือ อาร์เน่อ สล็อต มาในระบบ 4-2-3-1 มีการโรเตชั่น นักเตะหลายตำแหน่ง นายด่าน ยังคงเป็น อลิสซง เบ็คเกอร์ แบ็กขวา - ซ้าย คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์ กับ คอสตาส ซิมิกาส เซ็นเตอร์ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เป็นตัวยืน จับคู่กับ จาเรลล์ ควอนซ่า
มิดฟิลด์ ไรอัน กราเฟนแบร์ค- อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ส่วน เคอร์ติส โจนส์ ยืนสูงเป็นเพลย์เมคเกอร์ 3ตัวบน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ -โคดี้ กัคโป และ ดิโอโก้ โชต้า หลัง สจ๊วต แอตเวลล์ เป่านกหวีดเริ่มเกมมาได้เพียง 5นาที เบนตากูร์ ก็เจ็บจนต้องถูกหามออกจากสนาม จากจังหวะพยายามเล่นลูกโหม่ง ทำให้ต้องปฐมพยาบาลกันยกใหญ่ สุดท้ายเล่นต่อไม่ไหว เป็น เบรนเน่น จอห์นสัน ลงมาบู๊แทน น.15
หลังจากนั้นทั้งสองฝั่งก็มีโอกาสลุ้นประตูจาก โซลันกี้ ที่ติดเซฟแต่ล้ำหน้าไปก่อน และ ซาลาห์ ได้ซัดหน้ากรอบเขคโทษออกหลังไป ลิเวอร์พูล ก็มีเปลี่ยนตัวเร็วเหมือนกัน เพราะ ควอนซ่าห์ เจ็บเล่นต่อไม่ไหว ให้ วาตารุ เอ็นโด มาเล่นแทน น.26
หงส์แดงยังได้ลุ้นประตูเป็นระยะๆ ทั้งจากลูกโขกของ แม็ค อัลลิสเตอร์ และท้ายครึ่งแรก2ครั้งของ กัคโป ที่ทั้งติดเซฟ และซัดออกไปเอง จบ45นาทีแรก จึงเสมอกันอยู่ที่ 0-0 เข้าครึ่งหลัง อลิสซง เบ็คเกอร์ ก็เกือบแจกโชคให้เจ้าบ้าน เมื่อพยายามล็อกบอลหน้าเขตโทษ ดีที่ ฟาน ไดค์ มาช่วยเคลียร์ได้ทัน
ทีมของ สล็อต น่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆจากบอลครอสชอง ซิมิกาส เลยมาถึง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ตัวสำรอง จับบอลแล้วยิงไปที่เสาไกล ดีที่ ดรากูซิน ที่วันนี้เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง ไปดักรอสกัดบนเส้นได้หวุดหวิด
โดยฝั่งสเปอร์ส หวังเล่นงานผู้มาเยือน ด้วยการโยนยาวบอลไดเร็คข้ามหัวกองหลัง และก็เกือบได้ผลจริงๆ เมื่อ ปอร์โร่ จ่ายบอลให้ โซลันกี้ ได้หลุดเดี่ยว ยิงผ่าน อลิสซง เข้าไป แต่ทว่าพอ VAR มาเช็กภาพช้าชัดเจนว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน
และแล้วด้วยความที่ลิเวอร์พูล เหมือนจะผ่อนเกม อย่างน้อยเพื่อให้ไม่แพ้ และไปเก็บนัดที่2เอาที่ แอนฟิลด์ ก็ทำให้พวกเขาโดนลงโทษจนได้ โซลันกี้ ที่พลิกบอลในเขตโทษ ก่อนคืนมาให้ ลูคัส เบิร์กวาลล์ ที่วันนี้ค่อนข้างเด่น แปเสียบเสาแรกเข้าไป ขึ้นนำ 1-0 น.86
จริงๆลิเวอร์พูล ก็เกือบได้ประตูตีเสมอเช่นกันในช่วงทดเวลาบากเจ็บ ดิอ๊าซ ได้ลากจากริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนเปิดเข้ามาให้ นูนเญซ ที่ต้องเล่นท่ายากเพราะบอลย้อนหลัง ดีดย้อนหลัง ดีที่ คินสกี้ ยังไม่เหม่อป้องกันไว้ได้ หมด90นาที จึงเป็น ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส ที่เอาชนะไปได้ 1-0 ในรอบตัดเชือก คาราบาว คัพ นัดแรก
ไก่ หลังพิการ แต่ ดรากูซิน ดีเกินคาด
สเปอร์ส จัดได้ว่าเป็นทีมที่มีเกมรับรั่วไหลอยู่แล้ว เนื่องด้วยสไตล์การเล่นและปรัชญาของกุนซือ อังเก้ ปอสเตโคกูล เมื่อคืนการเจอกับลิเวอร์พูล ในแผงแบ็กโฟร์ รวมผู้รักษาประตู มีผู้เล่นชุดตัวจริงเพียง1คนเท่านั้นในสถานการณ์ปรกติ นั่นก็คือ เปโดร ปอร์โร่
นายด่าน ทั้ง กูเยลโม่ วิคาร์ริโด้ มือ1 และ มือ2 เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ มีอาการบาดเจ็บ นั่นทำให้เป็นโอกาสของ อันโตนิน คินสกี้ ที่ย้ายมาได้ไม่ถึง1อาทิตย์ ได้ออกมาสตาร์ทตัวจริงเลย คู่เซ็นเตอร์ ไม่มี คริสเตียน โรเมโร่ และ มิคกี้ ฟาน เดอ เฟ่น ทำให้เป็นคู่ของ ราดู ดรากูชิน กับ อาร์ชี่ เกรย์ ที่ได้เล่นร่วมกันบ่อยมากพักหลัง
แบ็กซ้ายไม่ดี เดสตินี่ อูโดกี เจ็บ เจด สเปนซ์ ที่ฟอร์มแจ่มมากระยะหลังๆ ได้โอกาสลงตัวจริงต่อเนื่อง ป๊าป ซาร์ กองกลางคนสำคัญที่สุดของทีม ก็เจ็บ ทำให้ โรดีโก้ เบนตากูร์ ที่พึ่งหายจากโทษแบน พูดเหยียดผิว เพื่อนร่วมทีม ซน ฮึง -มิน ได้เล่นแทน
แต่อนิจจา เบนตากูร์ ก็เล่นได้เพียง5นาทีเท่านั้น และถูกเปลี่ยนออก ซึ่งแนวรับชุดสำรองของ คลับไก่ เล่นเป็นพระเอกเลย โดยเฉพาะ ดรากูซิน จังหวะดวลเดี่ยวกองหลังชาวโรมาเนีย แทบจะเอาอยู่หมดเลยสกัดบอลแม่น
แถมยังเป็นคนช่วยเซฟชีวิตน้องไก่ อ่านเกมล่วงหน้าโดยการเป็นรอเคลียร์บนเส้นลูกยิงของ อาร์โนลด์ ที่เสียบเสาเข้าแน่ๆ หากไม่สกัด ดรากูซิน เคลียร์บอลได้ถึง4ครั้ง และบล็อกลูกยิง2หน แถมยังประกบกองหน้าลิเวอร์พูลอย่าง โชต้า ให้แทบจะเงียบออกไปจากเกม
คินสกี้ ย้ายมาไม่ถึง5วัน เฝ้าเสาเลย
ด้วยสถานการณ์บังคับด้วยแหละทำให้ โกลอย่าง อันโตนิน คินสกี้ ที่พึ่งเซ็นสัญญาย้ายมาจาก สปาร์ต้า ปาร์ค ได้ไม่ถึง5วัน แต่ทว่า 4วันหลังจากนั้น เจ้าตัวต้องเฝ้าเสาเป็นตัวจริงเลย โดนบททดสอบแรกที่ต้องรับมือนั่นก็คือ ทีมที่แนวรุกระดับพระกาฬอย่างลิเวอร์พูล
กูเยลโม่ วิคาริโอ เจ็บนิ้ว ส่วน เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ก็พึ่งเดี้ยงไปเหมือนกัน ซึ่งต้องยอมรับว่าตอนที่ ฟอร์สเตอร์ ลงตัวจริง นั่นเป็นจุดอ่อนจุดน่าหวาดเสียวมากๆ เพราะด้วยความช้าและการจ่ายบอลหน้าเขตโทษที่ไม่ชัวร์ ทำให้สเปอร์สได้โดนลงโทษเป็นระยะๆ
เกมแรกของ คินสกี้ ก็ต้องบอกว่าเกินคาดมากๆ สิ่งแรกคือโกลชาวเช็กรายนี้ รับมือได้ดีนั่นก็คือความนิ่ง ไม่ก่อความผิดพลาดง่ายๆ จังหวะรับบอลลูกกลางอากาศไม่มีลนลานให้เห็น หรือการยืนตำแหน่ง ก็ทำได้ดีมากๆ ลูกยิงตรงตัวแทบไม่มีกระฉอกออกมาแบบอันตรายๆ แถมยังออกบอลด้วยเท้าได้ดีและนิ่ง
หรือจังหวะที่ ซาลาห์ โยกเข้าซ้ายแล้วปั่นไกล บอลจะเสียบใต้คานเข้า แต่ คินสกี้ ก็ยังถอยไปรับมาได้ แม้จะมีกระฉอกหวาดเสียวนิดหนึ่งก็ได้ จริงๆ สเปอร์ส เกือบโดนตีเจ๊าเป็น 1-1 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จากลูกยิงแก้ไขท่ายากของ นูนเญซ แต่ โกลป้ายแดงรายนี้ ยังปัดไว้ได้
สถิติหลังเกมบอกว่า อันโตนิน คินสกี้ เซฟไปถึง6ครั้ง และเป็นเพียงผู้รักษาประตูคนที่2เท่านั้น ที่เก็บคลีนชีตได้เมื่อดวลกับลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ คนแรกก็คือ มัตช์ เซลส์ ของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่อาจหาญถึงขนาดบุกไปชนะที่ แอนฟิลด์ 1-0
ช่วงนี้ ฟาน ไดค์ ได้แบกหนักๆ
ศึกแดงเดือดที่ผ่านมา เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ -อาร์โนลด์ ได้ทิ้งงานหลายช็อตมากๆให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ได้ตามเก็บกวาดให้ เมื่อคืนก็เป็น อิบราฮิมา โกนาเต้ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองท้ายเกมและไม่ฟิตเท่าไหร่ ทำให้ VVD ต้องงานชุกเช่นเคย
ตอนแรกออกสตาร์ทเกมเป็น จาเรลล์ ควอนซาห์ แต่ทว่าเล่นไปได้เพียง 30นาที กองหลังดาวรุ่ง ก็เจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว และเป็น วาตารุ เอ็นโด ที่ลงมาขัดตราทัพเล่นเป็นเซ็นเตอร์แทน แม้ว่าหงส์แดงจะเสียประตูและแพ้ไป แต่ ฟาน ไดค์ เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ได้เลย
45นาทีหลัง เป็นวันที่แนวรับลิเวอร์พูล รวนมากๆ โดยเฉพาะการยืนตำแหน่ง เอ็นโด เล่นเซ็นเตอร์ได้ แต่เจ้าตัวก็ไม่ใช่กองหลังธรรมชาติ ทำให้มีจังหะแปลกๆ ติดๆขัดๆให้เห็น ที่เข้าตาสุดๆเห็นทีจะเป็นช็อตโชว์เหนือของ อลิสซง เบ็คเกอร์
โกลพ่อหมี หลอกล่อ ลูคัส เบิร์กวาลล์ ในเขตโทษ ครั้งแรกหลอกได้แล้ว แต่ติดประมาทจนโดนแหย่ฉกไปจากด้านหลังไปอีกที เข้าทาง เปโดร ปอร์โร่ ได้ยิงซ้ำ แต่ ฟาน ไดค์ อ่านเกมดีใช้ขาดักไว้ได้ ก่อนบีบมุมให้ ปอร์โร่ ที่ได้ซ้ำอีกครั้งชิปออกข้างไป
เมื่อคืน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่อยู่ในสนามครบ90นาที เคลียร์บอลได้4ครั้ง / บล็อกลูกยิง2หน แถมยังออกบอลจากแดนหลังได้อย่างแม่นนำ 88% เอาชนะลูกกลางอากาศได้ถึง 5ครั้ง พักหลังเหมือนคู่แข่งจะหาวิธีเจาะแนวรับลิเวอร์พูลได้ แต่ก็ยังมี ฟาน ไดค์ ที่แบกได้เป็นระยะ ไม่ให้โดนมากกว่านี้
ฮีโร่ เบิร์กวาลล์ โชคดีที่ไม่โดนแดงก่อน
ขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ สเปอร์ส ปีแรก ก็ค่อยๆดีวันดีคืนจริงๆสำหรับ เจ้าหนูวัย18ปี อย่าง ลูคัส เบิร์กวาลล์ รอบรองชนะเลิศ คาราบาว คัพ นัดแรกเมื่อคืน นี่คือการได้ออกสตาร์ทตัวจริงนัดที่8 รวมทุกรายการซีซั่นนี้ของ เบิร์กวาลล์
เบิร์กวาลล์ ได้ประสานงานกันในแนวกลางกับเหล่ารุ่นพี่อย่าง อีฟ บิสซูม่า ส่วน โรดริโก้ เบนตากูร์ ก็ได้อยู่ในสนามเพียง 5นาทีเท่านั้น สิ่งที่เจ้าหนูชาวสวีเดนมอบให้กับแดนกลางของสเปอร์สนั่นก็คือ ความสดและพลังงาน ไล่เพรสแดนกลาง แม็ค อัลลิสเตอร์ และ กราเฟนแบร์ค ไม่ให้ออกบอลถนัดๆ
ซึ่งความขยันของเจ้าตัวก็ได้ผลจริงๆ กับการไปแหย่บอลมาจากเท้าของ อลิสซง เบ็คเกอร์ จนเกือบทำให้ทีมได้ประตู ทั้งที่ช็อตแรกโดนโกลชาวบราซิลหลอกได้แล้ว ท้ายที่สุดแล้ว เบิร์กวาลล์ ก็เป็นผู้ทำประตูชัยให้กับทีม เมื่อแปบอลจาก โซลันกี้ ย้อนเสาแรกเข้าไป
เบิร์กวาลล์ เข้าแท็กเกิ้ล3ครั้ง - เคลียร์บอล2หน และจ่ายบอลคีย์พาสสวยๆ ได้3ช็อต แต่เอาจริงๆ เจ้าหนูชาวสวีเดน ถือว่าโชคดีมากๆ ที่ไม่โดนใบเหลืองที่ 2 รอดใบแดงไปอย่างหวุดหงิด ทั้งที่ช็อตดังกล่าว ไปตัดฟาวล์ ซิมิกาส ก่อนที่จะมาได้ประตูชัย
และจังหวะดังกล่าว ซิมิกาส เจ็บทำให้ต้องออกไปจากสนาม จนลิเวอร์พูล ต้องเล่น10คน และโดนโจมตีลากเจาะจากทางฝั่งซ้ายและเสียประตูในที่สุด เพราะแนวรับหงส์แดงปรับตำแหน่งการยืนตอนเล่น10คนกันไม่ทัน
คู่แข่งเริ่มเห็นจุดอ่อนแนวรับหงส์ แต่1ลูก ยังมีสิทธิยิงคืนที่แอนฟิลด์
ยังนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ด้วยแต้มที่ขาดมากๆ แม้ว่าจะพึ่งสะดุดเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก 2-2 และล่าสุดบุกไปพ่าย ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส 0-1 ใน คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก สถานการณ์ภาพรวมยังไม่ได้เสียหายอะไร
แต่สิ่งหนึ่งที่ทีมของ อาร์เน่อ สล็อต ค่อยๆเปิดแผลให้เห็นช่วงเดือนที่ผ่านมา นั่นก็คือ แนวรับที่ไม่แน่นหนาเท่าเมื่อตอนต้นฤดูกาล เอาแค่ในพรีเมียร์ลีก 6นัดหลังสุดลิเวอร์พูล เก็บคลีนชีตได้เพียงนัดเดียว เสียไปถึง 10ประตู ทั้งที่13นัดแรก พวกเขาเสียเพียง8เม็ด
แนวรับของหงส์แดง คนที่ฟอร์มสม่ำเสมอและมีมาตรฐานที่สุดช่วง1-2เดือนที่ผ่านมา เห็นจะมีแค่ ฟาน ไดค์ คนเดียว คู่มิดฟิลด์ของพวกเขาอย่าง แม็ค อัลลิสเตอร์ และ กราเวนแบร์ค เริ่มจะโดนคู่แข่งบีบเพรสบ่อยๆ ไม่ให้ออกบอลง่ายๆ
มีหลายแข้งหงส์แดงที่เริ่มฟอร์มตกทั้ง ลุยซ์ ดิอาซ -อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เมื่อคืนก็เป็น เคอร์ติส โจนส์ ที่ยืนสูงเป็นเหมือนเบอร์10 แต่ทว่าบอลไปตะกุกตะกักหรือช้าที่ " เทพโจนส์ " เสมอ มีเล่นท่ายากจนเสียของก็มี ส่วน ดาร์วิน นูนเญซ ในบทบาทตัวสำรอง ทั้งที่ได้โอกาสยิงแต่ยังสร้างความแตกต่างไม่ได้
ถึงกระนั้นก็ดีการบุกไปแพ้ คลับไก่ 1เม็ด โอกาสยังเปิดกว้างมากๆที่ลิเวอร์พูล จะกลับมายิงรัวไส้แตกที่แอนฟิลด์ เพราะคลับไก่ นั้นแพ้ทางอย่างรุนแรงในการมาเยือนสนามแห่งนี้ แต่ทว่าทีมของ อาร์เน่อ สล็อต เองก็ต้องอุดรอยรั่วในแนวรับหลังๆที่เปิดแผลให้เห็นบ่อยๆด้วยเช่นกัน
- คอลัมน์นิสต์
- คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล คาราบาว คัพ ลิเวอร์พูล สเปอร์ส ลูคัส เบิร์กวาลล์ อาร์เน่อ สล็อต เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
- 74
- 09 ม.ค. 2568 15:20