อาร์เซน่อล (PRL-2) vs นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (PRL-5)

วันอังคารที่ 7 มกราคม 2568
คิกออฟ เวลา 03.00 น.
สนาม : เอมิเร็ตส์ สเตเดี้ยม

อัตราต่อรอง : อาร์เซน่อล ต่อ 0.5/1

อาร์เซน่อล
มีความกังวลเล็กน้อยเมื่อ มิเกล อาร์เตต้า เปลี่ยนตัวผู้ทำประตู อีธาน เอ็นวาเนรี ในครึ่งแรกในเกมเสมอกับ ไบรท์ตัน หลายคนคิดว่ามันเป็นผลมาจากใบเหลืองของเขา แต่เฮดโค้ชทีม อาร์เซน่อล ก็ยืนยันข่าวแย่ๆ ในเวลาต่อมาว่า แข้งอายุ 17 ปีได้รับบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ ซึ่งแม้ว่า เอ็นวาเนรี ยังไม่ถูกตัดออกจากทีมไปในทันที แต่การพลิกกลับมาลงสนามในเวลากระชั้นชิดทำให้เขาเกิดความสงสัยอย่างมาก เช่นเดียวกับ ไค ฮาแวร์ตซ์ ยังต้องแข่งกับเวลาเพื่อพิสูจน์ความฟิตของเขาหลังจากพลาดเกมติดต่อกันเนื่องจากอาการป่วย แต่ทั้ง บูกาโย่ ซาก้า (แฮมสตริง), ราฮีม สเตอร์ลิง (เข่า), เบน ไวท์ (เข่า) และ ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ (เข่า) ยังคงหายตัวไป แม้ว่า สเตอร์ลิง อาจพร้อมลงสนามในเกมเอฟเอ คัพ นัดเปิดสนามกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดสัปดาห์นี้ และ ยูร์เรียน ทิมเบอร์ กลับมาจากโดนแบนแล้ว

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
นิวคาสเซิ่ล จะต้องลงเล่นเกมนี้โดยไม่มีฟันเฟืองสำคัญ 2 คนในเลกแรก โดย ฟาเบียน ชาร์ และ บรูโน่ กิมาไรส์ กำลังรับโทษแบนเฉพาะการแข่งขันจากการเก็บใบเจากการโดนใบเหลืองสะสม 2 ใบในเกมคาราบาว คัพ นัดที่เจอกับ เบรนท์ฟอร์ด รอบที่แล้ว และทั้ง 2รายจะหายไปจากเกมนี้ร่วมกลับ เอมิล คราฟธ์ (ไหล่), นิค โป๊ป (เข่า), คัลลัม วิลสัน (ต้นขา) และ จามาล ลาสเซลล์ส (เข่า) อยู่ในรายชื่อผู้ที่ไม่ได้ลงสนามเนื่องจากอาการบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม สเวน บ็อทมัน ที่หายเจ็บระยะยาวกลับมาลงสนามในเกมล่าสุด ซึ่งการบังคับให้เปลี่ยนตัวเขาในเกมชนะ สเปอร์ส นั้นคิดว่าเป็นเพียงตะคริวเท่านั้น แต่คงเป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่เห็นแนวรับชาวดัตช์รายนี้ออกสตาร์ทต่อเนื่อง ดังนั้น ลอยด์ เคลลี อาจมาเติมเต็มช่องว่างของ ชาร์ ในแนวรับ ขณะที่ ฌอน ลองสต๊าฟฟ์ และอดีตแข้ง "ปืนใหญ่" อย่าง โจ วิลล็อค จะต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งของ กิมาไรส์

ผลงาน 6 นัดหลังของ อาร์เซน่อล (DWWWWD)
เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0 (ห)
ชนะ พาเลซ 3-2 (ห) (ลีกคัพ)
ชนะ พาเลซ 5-1 (ย)
ชนะ อิปสวิช 1-0 (ห)
ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-1 (ย)
เสมอ ไบรท์ตัน 1-1 (ย)

ผลงาน 6 นัดหลังของ นิวคาสเซิ่ล (WWWWWW)
ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 4-0 (ห)
ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-1 (ห) (ลีกคัพ)
ชนะ อิปสวิช 4-0 (ย)
ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-0 (ห)
ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-0 (ย)
ชนะ สเปอร์ส 2-1 (ย)

ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
02/11/24    (PRL) Newcastle 1 - 0 Arsenal
25/02/24    (PRL) Arsenal 4 - 1 Newcastle
05/11/23    (PRL) Newcastle 1 - 0 Arsenal
07/05/23    (PRL) Newcastle 0 - 2 Arsenal
04/01/23    (PRL) Arsenal 0 - 0 Newcastle
17/05/22    (PRL) Newcastle 2 - 0 Arsenal
27/11/21    (PRL) Arsenal 2 - 0 Newcastle

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
อาร์เซน่อล (4-3-3) : ดาบิด รายา - ยูร์เรียน ทิมเบอร์, วิลเลียม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส, ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี - มาร์ติน โอเดการ์ด, โธมัส ปาร์เตย์, เดแคลน ไรซ์ - กาเบรียล มาร์ติเนลลี, กาเบรียล เชซุส, เลอันโดร ทรอสซาร์

นิวคาสเซิ่ล (4-3-3) : มาร์ติน ดูบราฟก้า - คีแรน ทริปเปียร์, ลอยด์ เคลลี, แดน เบิร์น, ลูอิส ฮอลล์ - ฌอน ลองสต๊าฟฟ์, ซานโดร โตนาลี, โจเอลลินตอน - เจค็อบ เมอร์ฟี่, อเล็กซานเดอร์ อิซัค, แอนโธนี่ กอร์ดอน

ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน

แนวโน้มของเกม
นิวคาสเซิ่ล กำลังลงเล่นด้วยความมั่นใจเต็มล้น จากชัยชนะ 6 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ แต่ เอ็ดดี ฮาว อาจพาทีมยึดแนวทางการเล่นที่รัดกุมมากขึ้นที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ครั้งนี้ เนื่องจากไม่มีทั้ง ฟาเบียน ชาร์ และ บรูโน่ กิมาไรส์ ผู้ทรงอิทธิพลอยู่ในทีม

ในขณะที่ อาร์เซน่อล แทบจะไม่มีทีมใดที่สามารถต่อสู้กับพวกเขาได้ในรังเอมิเรตส์ และยังคงหาเส้นทางในการทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไร้เงา บูกาโย่ ซาก้า

เมื่อพิจารณาจากทั้งหมดนี้ เลกแรกย่อมมีแนวโน้มจะเสมอที่สกอร์ต่ำ และไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าสำหรับฝั่ง "เดอะ แม็กพายส์" ก่อนกลับมาที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
อาร์เซน่อล 1-1 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด