แมนเชสเตอร์ สีฟ้าอีกรอบ ! เรือ เร่งเครื่องแซง ผี ไม่ยาก 3-1 โฟเด้น กดเบิ้ล
ดาร์บี้แมตช์ เมืองแมนเชสเตอร์ หนนี้ น่าจะมีหลายทีมเอาในช่วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่น้อย ในการยกพลไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เนื่องจากต้องการให้ปีศาจแดง บุกไปดร็อปแต้ม เรือใบ เพื่อให้ ลิเวอร์พูล มีความหวังในการลุ้นแชมป์ให้สดใสกว่าเดิม รวมไปจนถึงอันดับ3อาร์เซน่อล ที่ก็ต้องการแซงทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูงบ้างเช่นกัน
การจัดทัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาในรูปแบบเต็มสูบผู้เล่นชุดฟูลทีมโดยเฉพาะในบรรดาแนวรุกที่ฟอร์มฮ็อต ณ ตอนนี้ ดาหน้ามากันครับทั้ง ฟิล โฟเด้น -เควิน เดอ บรอยน์ - และผู้พึ่งกด5ประตูใส่ ลูตัน ทาวน์ ในเกมเอฟเอ คัพ อย่าง เออร์ลิง ฮาลันด์
ส่วนผู้มาเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มาในสภาพทีมที่พิการพอสมควร เนื่องจากขาดตัวหลักหลายตำแหน่งทั้ง ลิซานโดร มาร์ติเนซ - ลุค ชอว์ และดาวยิงที่เริ่มผลิตสกอร์ได้เรื่อยๆอย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์
โดยในตำแหน่งเซ็นเตอร์ เอริก เทน ฮาก เลือกใช้ จอห์นนี่ อีแวนส์ กับคู่กับ ราฟาแอล วาราน แบ็กซ้าย เป็น วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ และปรับแท็กติกใช้ บรูโน่ แฟร์นันเดซ และ สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์ สลับกันเล่นเป็น ฟอลส์ไนน์
อย่างไรก็ตามเริ่มเกมมาก็เป็น ซิตี้ ที่ครองเกม กดใส่ยับๆ กลับมาโดนลูกสวนกลับของปีศาจแดง สวนหน้าหงายซะงั้น อ็องเดร โอนาน่า สาดบอลยาวอย่างแม่นยำให้ บรูโน่ พักบอลได้ก่อนป้ายให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก่อนที่ " แรชชี่ " จะตะบันไกลร่วม30หลา บอลพุ่งเป็นลูกปืน เช็ดคานเข้าประตูไป 1-0 น.8
แต่ทว่าหลังจากขึ้นนำ 1-0 ซิตี้ ก็ขึงเกมยับๆทันที แต่ทว่าแนวรับปีศาจแดงทั้ง ช่วยกันเคลียร์ได้ ทั้ง วาราน และ อีแวนส์ รวมไปจนถึง โอนาน่า ที่วันนี้โชว์หนึบหลายหน ทำให้จบ45นาทีแรกเป็น ผู้มาเยือนบุกขึ้นมานำไปก่อน
ครึ่งหลังก็เป็นแบบวันเวย์เลยสำหรับทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แตกต่างจากครึ่งแรกตรงที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสจะได้หลุดสวนมาบ้าง และด้วยรูปเกมที่เหนือกว่าสุดๆ ซิตี้ ที่ค่อยๆนวดก็มาตีเสมอได้ 1-1 ตั้งแต่ น.56 จาก ฟิล โฟเด้น ที่ตะบันไกลเข้าไปสุดเฉียบ น.56
ก่อนที่เจ้าหนูลูกหม้อทีมรายนี้ จะมาซัดเบิ้ลอิกเม็ดแซงนำ 2-1น.80 และก็มาได้ประตูปิดท้ายตอกฝาโรง จากความผิดพลาดของตัวสำรอง โซฟียาน อัมราบัต ที่โดน โรดรี้ ฉกบอลได้ แล้วจ่ายให้ เออร์ลิง ฮาลันด์ ยิงด้วยซ้ายเข้าไป น.90+1
จบเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ครั้งที่ 191 ชัยชนะเป็นของฝั่งสีฟ้าอย่าหมดจรด รวมไปจนถึงทำให้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังตามหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล แค่แต้มเดียว ก่อนบุกไปเยือนแอนฟิลด์ สัปดาห์หน้า ส่วน ยูไนเต็ด นี่เป็นความพ่ายแพ้ในลีก นัดที่11เข้าให้แล้ว แถมโอกาสในการทำอันดับไปเล่น ยูซีแอล ยังเลือนลางมากๆอีกด้วย
แรชฟอร์ด ยิงพุ่งเป็นลูกปืน แต่หลังจากนั้นหาย
หลังจากที่มีประเด็นพอสมควร กับคำสัมภาษณ์ล่าสุดของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ผ่านรายการทอล์คโชว์ ว่าด้วยเรื่องของสไตล์การเล่นที่ดูไม่ค่อยกระตือลือล้นเท่าไหร่ ฟอร์มขึ้นๆลงๆเป็นรถไฟเหาะ ซึ่งตัวของ " แรชชี่ " เอง ได้ออกมาอ้างว่านั่นเป็นเพราะบุคลิกความเป็น อินโทรเวิร์ท ของตนซะอย่างนั้นไป
โดยก่อนเกม ดาร์บี้แมตช์ เมืองแมนเชสเตอร์ จะเริ่มขึ้น มาร์คัส แรชฟอร์ด จัดได้ว่าเป็นผู้เล่นที่มีสถิติการล่าตาข่ายทีมบิ๊กซิกซ์พอสมควร เพราะเจ้าตัวกระทุ้งรวมไปได้ถึง29ประตู จนมาเมื่อคืน ก็เป็นเม็ดที่30ที่ แรชฟอร์ด พังสกอร์ใส่ได้
แรชฟอร์ด กดประตูที่5ในศึก แมนเชสเตอร์ดาร์บี้ เป็นผู้เล่นปีศาจแดงที่ทำได้มากที่สุดอันดับ3ในยุคพรีเมียร์ลีก รองจาก เอริก คันโตน่า (7ประตู) และ เวย์น รูนี่ย์ ( 8ประตู)
ลูกยิงที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด กดใส่ เรือใบสีฟ้านั้นงดงามเหลือเกิน เป็นการตะบันตูมเดียวร่วมๆ30หลา บอลเช็ดคานผ่านมือ เอแดร์ซอน เข้าไปชนิดที่หมดสิทธิป้องกัน น.8 โดยก่อนหน้านั้นช่วงต้นๆฤดูกาล ดาวเตะเบอร์10 เคยซัดลูกสวยๆมาแล้วในเกมกับอาร์เซน่อล
แต่ถึงกระนั้นก็ดี " ดร.แรช " หลังจากยิงแบบผีจับยัด ก็แทบจะไม่มีพิษสงอะไรเลย มีจังหวะจะได้หลุดอีก2หน แต่ทว่าทำเสียของตกม้าตายหมด รูเบน ดิอาซ อุตส่าห์พลาดให้แล้ว แต่ทว่า แรชฟอร์ด รับบอลจาก บรูโน่ ไม่ดี แต่งบอลด้วยหัว แต่ทว่ากลายเป็นแย่ย้อนหลังจนเสียของ
รวมไปจนถึงจังหวะที่ต้องสปีดวัดความเร็วกลับ ไค วอล์คเกอร์ แต่ทว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด เหมือนจะขาอ่อนแรงล้มง่ายไปหน่อย เมื่อต้องดวลกับแบ็กขวาจอมอึดรายนี้ ซึ่งจังหวะปะทะเบียดล้มนี่คือสิ่งที่เราได้เห็นตลอด แม้ว่า2-3ปีที่ผ่านมา เจ้าตัวจะมีรูปร่างที่บึกบึนขึ้นก็ตาม
โรดรี้ ทุบสถิติใหม่ คนแกร่งหัวใจไร้พ่าย
ช่วงที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป๋รัวๆ ราวๆกลางเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงต้นธันวาคม คาดว่าเป็นเพราะการขาดหายไปของห้องเครื่องคนสำคัญอย่าง โรดี้ นี่แหละ แต่ทว่าพอมิดฟิลด์ชาวสเปนรายนี้กลับมา เรือใบสีฟ้า ก็กลับมาเนี๊ยบเหมือนเดิม
ศึกผ่าเมือง แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าบ้านจะครองเกมได้เบ็ดเสร็จ เหนือผู้มาเยือน ทั้งในเรื่องโอกาสการทำประตูที่มากกว่า 16ต่อ2ครั้ง (ไม่รับที่ติดบล็อกอีก11ครั้ง) รวมไปจนถึงเปอร์เซ็นต์การครองบอลที่ข่มมิด 74 ต่อ 26
แค่ โรดรี้ คนเดียวก็อยู่หมัดแล้วในการรับมือกับแผงกลางปีศาจแดง เมื่อคืน โรดรี้ ยังมีผลงานเป็นรูปธรรมกับ 2แอสซิสต์ โดยเฉพาะเม็ดที่2 เป็นเจ้าตัวนี่แหละที่ไปฉกบอลมาจาก โซฟีาน อัมราบัต แล้วจ่ายให้ ฮาลันด์ สำเร็จโทษ
อดีตมิดฟิลด์ตราหมี ผ่านบอลมากถึง114ครั้ง แถมยังมีการวางบอลยาว เปลี่ยนฝั่งข้ามฝากมากถึง11หน โล้แนวรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้เอียงไปมา นอกจากนี้ โรดี้ ยังทำลายสถิติที่คงกะพันมา16ปี ด้วยการลงสนาม59นัด โดยที่ทีมไม่แพ้เลย ทุบสถิติเดิมของ ริคาร์โด้ คารวัลโญ่ อดีตกองหลังเซลซี ที่เคยทำไว้ 58นัด
ณ ตอนนี้ ทำเป็นเล่นไป แม่บทบาทจะเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ แต่ โรดี้ มีสถิติเกมรุกที่ไม่เลวเลย หลังผ่าน 24นัดในลีก เจ้าตัวทำไปแล้วถึง 6ประตู กับอีก5แอสซิสต์ นอกจากนี้ผลงานของ โรดรี้ ยังทำให้เจ้าตัวเป็นเต็ง1 ที่จะได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของ PFA อีกด้วย
โฟเด้น ส่อเข้าชมรมคนชอบยิงผี
ช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ 2023-2024 เหมือนจะยังไม่ร้อนแรงเท่าไหร่สำหรับ ฟิล โฟเด้น เพราะแสงไปจับที่ปีกป้ายแดงอย่าง เจเรมี่ โดกู ที่เป็นสายมุดจี๊ดจ๊าดมากกว่า แต่ทว่าพอช่วงปลายปีเป็นต้นมา ลากยาวมาจนถึงมีนาคม โฟเด้น ก็ร้อนแรงอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านั้นก็มี แฮตทริกเกมกับเบรนท์ฟอร์ด
ดาร์บี้แมตช์ เมืองแมนเชสเตอร์ โฟเด้น ไม่มีปัญหาเลยในการดวลกับ แบ็กซ้ายขัดตราทัพอย่าง วิคเอร์ ลินเดอเลิฟ แถมยังสอดเข้าไปในพื้นที่อันตรายหมายทำประตูได้ดีอีกด้วย นั่นจึงทำให้เมื่อคืน แข้งเบอร์ 47 มีโอกาสได้จบมากถึง9หน เป็นนัดที่เจ้าตัวมีโอกาสยิงมากสุดในลีกฤดูกาลนี้
เม็ดแรกของ โฟเด้น นั้นสวยสดงดงามเหลือเกิน เมื่อโยกตัดเข้าซ้าย ซัดเปรี้ยงเดียวระยะร่วม25หลา บอลหายวับไปกองก้นตาข่าย ส่วนประตูที่2ก็เป็นการเล่นอย่างเข้าขารู้ใจกับตัวสำรอง ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ สอดเข้าไปกดเรียดผ่าน โอนาน่า
ตลอด90นาทีที่อยู่ในสนาม ฟิล โฟเด้น ผ่านบอล83ครั้ง -จ่ายคีย์พาส 2ครั้ง -ครอสบอล2ครั้ง -วางบอลยาว4หน จะเห็นได้ชัดว่าเกม ซิตี้ ที่ขึ้นทางฝั่งขวา นั้นสมูธลื่นไหลกว่าทางฝั่งซ้ายของ โดกู ที่มัวแต่ยึกๆยักๆเป็นไหนๆ
โดยนับตั้งแต่ทะลุขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ โฟเด้น ก็ทะลวงตาข่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้มากถึง6ประตูเข้าให้แล้ว ทั้งที่อายุก็พึ่งจะ23ปีเท่านั้น เท่านั้นยังไม่พอที่คือประตูที่18รวมทุกรายการของ โฟเด้น ทุบสถิติยิงได้มากที่สุด 16ประตู ของฤดูกาล 2020-2021 เป็นที่เรียบร้อย
เทน ฮาก เปลี่ยนตัวถอดใจ ศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ สถิติสุดข่ม
วางเกมแพลนมาได้ดีเลยทีเดียวสำหรับ เอริก เทน ฮาก ในการมาเยือนถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม เพราะอุตส่าห์ฉวยโอกาสทำประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 ตั้งแต่ น.8 หลังจากนั้น ซิตี้ ก็เหมือนจะงงมึนๆเล็กน้อย จน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พอมีโอกาสแทงบอลให้สวนกลับเช่นกัน แต่ทว่าไปได้ไม่ถึงพื้นที่อันตรายเลยไม่ได้จบ
เกมรับที่มีวินัย บวกกับการฉวยโอกาสจังหวะสวนกลับได้ดี นั่นทำให้ปีศาจแดงรักษาความได้เปรียบขึ้นนำไปก่อน 1-0 แต่ทว่าครึ่งหลังการที่แนวรับมีวินัยน้อยลง บวกกับนักเตะรายอื่นๆน่าจะหมดแรงไล่บอล ทำให้เกมเป็นแบบวันเวย์ของฝั่งสีฟ้าเต็มระบบ
โดยช่วงที่ทีมโดนต้อนเป็นนักมวยพิงเชือก เอริก เทน ฮาก ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีการเล่นอะไรเลย จังหวะแทงบอลสวนแทบไม่มีให้เห็น ในรายของ สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์ ที่เป็นทั้งกองกลาง และกองหน้าตัวหลอก แทบหายตัวไปจากเกม
ช่วงที่เสมอกัน1-1 การที่ อีแวนส์ ถูกเปลี่ยนออกให้ดาวรุ่ง วิลลี่ คัมบวาล่า ลงมาก็พอเข้าใจได้ เพราะกองหลังชาวไอร์แลนด์เหนือ เหมือนจะมีอาการบาดเจ็บ แต่ทว่าการถอด มาร์คัส แรชฟอร์ด ออกแล้วให้ " พี่หมุน " อันโตนี่ ลงมาแทนนี่แล้วใหญ่เลย
โอเค แรชฟอร์ด แทบจะหายไปจากเกมครึ่งหลัง แต่แข้งลูกหม้อรายนี้ ยังพอมีทีเด็ดความเร็วและความเฉียบขาดเอาไว้ขู่แนวรับ ซิตี้ ถ้าได้โอกาสจังๆ แต่ในรายของ อันโตนี่ นั้นลงมาไม่มีพิษสงอะไรเลย นาธาน อาเก้ ลูบปากสบาย
นอกจากนี้ตอนที่โดนนำ 2-1 กุนซือหัวสวย เหมือนจะเปลี่ยนตัวแบบถอดใจซะงั้น ทั้งที่เวลายังเหลือร่วมๆ10นาที ไม่รวมช่วงทดเจ็บ ETH ถอด ค็อบบี้ ไมนู ออก และส่งจอมอืด โซฟียาน อัมราบัต ลงมา รวมถึงเปลี่ยน การ์นาโช่ ออกให้ โอมาริ ฟอร์สัน ลงมาแทน นี่คือการเปลี่ยนตัวแบบหมอบยอมแพ้ชัดๆ
ทั้งที่ตามหลังเพียงเม็ดเดียว น่าจะพอมีจังหวะจัดพลัดจับผลูตีเสมอได้ แต่ เอริก เทน ฮาก กลับเลือกตัวทีเด็ดที่หวังพึ่งพาสกอร์ได้ออก แล้วเอาดาวรุ่งกับ มิดฟิลด์เชิงรับเข้ามาซะงั้น และสุดท้ายก็เป็น " บังบัต " นี่แหละที่มาปิดเกมของแท้ เสียบอลจนนำไปสู่ประตูตอกฝาโรง 3-1
แมนเชสเตอรสีฟ้าเต็มรูปแบบ ความฮึกเฮิมก่อนเยือน แอนฟิลด์
ที่จริงนับตั้งแต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้ามาเป็นนายใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมือง แมนเชสเตอร์ ก็ถูกฉาบด้วยสีฟ้า เต็มรูปแบบเลย ไม่ว่าจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก 5สมัย จาก7ปี ที่ กุนซือหัวเหม่งรายนี้คุม ( ยังไม่นับฤดูกาลนี้) และผลงานส่วนตัวในการดวล ยูไนเต็ด ฝั่ง ซิตี้ ก็เป็นต่อมากๆ
เอาในเรื่องของบ่อนพนันได้ยกให้ แมนเชสเตอร์ดาร์บี้ หนนี้ แมนเชสเตอร์ซิตี้ เป็นต่อถึง 2ลูกเลยทีเดียว ซึ่งก็ถือว่าไม่แปลกเท่าไหร่ กับฟอร์มการเล่นปัจจุบันของทั้งสองทีมที่สวนทางกันอย่างสิ้นเชิง
แม้ว่าจะโดนนำไปก่อน1-0 แต่พลพรรคเรือใบสีฟ้า ไม่ได้มีอาการรวนนานเลย ยังคงครองเกมค่อยๆเซ็ตบอลต่อบอลได้เป็นระยะๆ รวมถึงหาโอกาสจบได้เรื่อยๆจนสุดท้ายมาจบที่สกอร์ 3-1 ได้แบบไม่ยากเย็นนัก
ผลลัพธ์ 3-1 นั่นเท่ากับว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คุม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบไปกลับได้ถึง 3ฤดูกาล 2018-2019 / 2021-2022 และ 2023-2024 และยังเป็นการเอาชนะปีศาจแดงในบ้านได้3เกมติดต่อกัน ได้เป็นหนแรกในรอบ 69 ปี อีกด้วย ( 4-1 / 6-3 / 3-1)
นอกจากนี้แล้ว ซิตี้ ยังทุบสถิติอันยาวนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 144นัด ที่พวกเขาจบครึ่งแรกด้วยการนำคู่แข่งแล้วไม่แพ้ใครในยุคพรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ โดยเกมต่อไปถือว่าเป็นหนึ่งในศึกชี้ชะตาแชมป์เลย เพราะต้องบุกไปเยือนลิเวอร์พูลจ่าฝูงที่ แอนฟิลด์
ซึ่งแม้ว่าลิเวอร์พูลของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะดูเป็นรองในเรื่องตัวผู้เล่นที่ยังมีบาดเจ็บและยังไม่ฟิตเต็มร้อยบางราย แต่ทว่าการได้เล่นในแอนฟิลด์ก็จะเป็นการปลุกพลังแข้งหงส์ได้เป็นอย่างดี ซึ่ง ซิตี้ น่าจะมีทางเลือกเดียวเท่านั้น นั่นคือการบุกไปควัก3แต้มให้ได้ เพื่อชิงตำแหน่งจ่าฝูงคืนมา
- คอลัมน์นิสต์
- พรีเมียร์ลีก คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟิล โฟเด้น มาร์คัส แรชฟอร์ด เอริก เทน ฮาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
- 454
- 04 ม.ค. 2567 14:13