อาร์เตต้า ยังไม่ฟื้น ! งู โรเตชั่น เขมือบ ปืน 1-0 ชัลฮาโนกูล ซัดโทษนำชัย
ชักจะไปกันใหญ่แล้วสำหรับอาร์เซน่อล สะดุดมาเป็นระยะๆในเกมพรีเมียร์ลีก หลังจากที่ขาด มาร์ติน โอเดการ์ด ล่าสุด ในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พลพรรคปืนใหญ่ก็ต้องพบกับความปราชัยหนแรก หลังบุกไปเยือน อินเตอร์ มิลาน ที่โรเตชั่นนักเตะไปครึ่งทีม แต่ก็กลายเป็น งูใหญ่ เฉือนเอาชนะพวกเขาไป 1-0 จากประตูชัยโทนจุดโทษของ ฮานคาน ชัลฮาโนกูล
อาร์เซน่อลที่สะดุดเอาชนะใครไม่ได้ในเกมลีกมา3นัด ต้องทำศึกหนักในเวที ยูซีแอล ด้วยการยกพลไปอิตาลี ดวลกับ อินเตอร์ มิลาน ในการจัดทัพกุนซือ มิเคล อาร์เตต้า จัดชุดที่ดีที่สุดลงสนาม มาในระบบ 4-4-2 โกล ดาบิด ราย่า แผงแบ็กโฟร์ แบ็กซ้าย-ขวา เยอร์เรียน ทิมเบอร์ กับ เบน ไวท์ คู่เซ็นเตอร์ กาเบรียล มากัลเญส ผนึกกำลังกับ วิลเลี่ยม ซาลิบา
แผงมิดฟิลด์ โธมัส ปาร์เตย์ กับ มิเคล มิริโน่ ปีกซ้าย กาเบรียล มาติเนลลี่ ปีกขวา บูกาโย่ ซาก้า คู่กองหน้า ไคล ฮาแวร์ตช์ คู่กับ เลอันโดร ทรอสซาร์ ทางด้านเจ้าบ้าน อินเตอร์ มิลาน เนื่องด้วยพวกเขามีโปรแกรมตัดแต้มโดยตรงกับทีมลุ้นแชมป์ด้วยกันอย่าง นาโปลี นั่นทำให้กุนซือ ซิโมเน่ อินซากี้ ได้โรเตชั่น จากชุดตัวจริงมากถึง 5ราย
เนรัซซูรี่ มาในระบบ 3-5-2 ตัวโรเตชั่นเกือบครุ่งทีม ที่ได้ลงสนามคือ แนวรับ ยานน์ บิสเซ็ค แผงมิดฟิลด์ ดาวิดเด้ ฟรัตเตซี่ -วิงแบ็กซ้าย มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน ได้ลงแทน เฟเดริโก้ ดิ มาร์โก กองหน้า เมห์ดี ทาเรมี่ สตาร์ทก่อน มาร์คัส ตูราม
ออกสตาร์ทมาช่วง15นาทีแรก กลับกลายเป็นว่า อินเตอร์ ชุดผสม เกือบได้โอกาสขึ้นนำไปก่อนถึง2คราวจาก ลูกซัดชนคานสนั่นของ เดนเซล ดุมฟรีส และลูกยิงไกลหลุดกรอบไปไม่ไกลของ ฮาคาน ซาลาโนกูล
หลังจากนั้นก็เป็นปืนใหญ่ที่เริ่มตั้งเกมได้ ครองบอลเสียเป็นส่วนใหญ่ มีลุ้นจากลูกยิงของ บูกาโย่ ซาก้า และลุ้นจุดโทษจากลูกโหม่งของ เมริโน่ ที่โดน ซามเมอร์ ออกมาชกบอลร่วงไป แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร แต่แล้ว " เดอะ กันเนอร์ส " ก็มาโดนจุดโทษเองจนได้กับจังหวะแฮนด์บอลของ เมรีโน่ เป็น ฮานคาน ชัลฮาโนกูล ซัดจุดโทษเข้าไป น.45+2 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว
45นาทีหลังเป็น อินเตอร์ มิลาน ที่ผ่อนเกม เปิดโอกาสให้ทีมของ มิเคล อาร์เตต้า บุกเป็นระยะ แต่ทว่าพวกเขาไม่คมกันเอง บวกกับเจอความหนึบของ ซามเมอร์ เซฟเอาไว้ได้ แถมนี่ก็เป็นอีกนัดที่แนวรุกปืนโต ไอเดียขาดหายจริงๆเมื่อไร้เงา มาร์ติน โอเดการ์ด ทำให้พวกเขาหวังจากลูกเตะมุม และลูกบอมบ์กลางอากาศเสียเป็นส่วนใหญ่
จังหวะได้ยิงในเขตโทษระยะ6หลาของ ไค ฮาแวร์ตช์ ก็มาโดน ดุมฟรีส สกัดบนเส้นอีก ส่วน กาเบรียล เชซุส ที่ลงสนามมาเพิ่มมิติเกมรุกตั้งแต่ออกสตาร์ท45นาทีหลัง ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก บวกกับกว่าจะแก้เกมเปลี่ยนตัวเพิ่ม " พี่ต้า " ก็ต้องรอให้ถึงนาทีที่ 80 อัพเลยทีเดียว
บวกกับทาง อินเตอร์ มิลาน ก็ได้ค่อยๆส่งเหล่าตัวจริงอย่าง ดิ มาร์โก - บาเรลล่า -มคิทาร์ยาน รวมถึง ตูราม ลงมาเพื่อครองเกมครองบอล ทำให้โอกาสของอาร์เซน่อล ก็น้อยลงและยากขึ้นไปอีก จบเกมสิ้นเสียงนกหวีดยาว90นาที จึงกลายเป็น อินเตอร์ มิลาน ที่เฉือนเอาชนะไป 1-0
นั่นทำให้งูใหญ่ ของ ซิโมเน่ อินซากี้ เก็บ10แต้ม จาก4นัด อยู่อันดับ5ของตาราง ลุ้นเป็น8ทีมที่ดีที่สุดเข้ารอบโดยอัตโนมัติ ส่วนอาร์เซน่อล ความปราชัยดังกล่าว ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาเสียหายมาก 4นัดใน ยูซีแอล มี7แต้ม อยู่อันดับ12 แต่ทว่าในเรื่องของความมั่นใจ ถือว่าช่วงนี้เป็นโมเมนตัมที่ตกมากๆของพวกเขา
งูใหญ่ เฮ2ต่อ ทั้งโรเตชั่น ทั้ง3แต้ม
ด้วยความที่สถานการณ์ใน กัลโช่ เซเรีย อา ค่อนข้างมีความสูสี อินเตอร์ มิลาน เป็นรองจ่าฝูง มีอยู่24 แต้มจาก11นัด และโปรแกรมวันอาทิตย์นี้ เป็นนัดสุดสำคัญเพราะงูใหญ่ จะได้เปิดบ้าน จูเซปเป้ เมอัซซ่า ต้อนรับการมาเยือนของจ่าฝูง นาโปลี (นำพวกเขาอยู่1แต้ม) ซึ่งผลแพ้ชนะจะตัดสินตำแหน่งจ่าฝูงได้เลย
นั่นทำให้ทัพงูใหญ่ มีการเปลี่ยนแปลงโรเตชั่นนักเตะมากถึง 5ตำแหน่ง เหล่าตัวสำรองที่ได้รับโอกาสได้แก่ กองหลัง ยานน์ บิสเซ็ค - เดนเซล ดุมฟรีส มิดฟิลด์ทั้ง ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่ และ ปิโอเต เซียลินสกี้ กองหน้าก็ เมห์ดี้ ตาเรมี่
นั่นก็ทำให้ไม่ต้องแปลกใจเลยที่ อินเตอร์ มิลาน จะไม่แกร่งเท่าปรกติ ทั้งเกมยิงเข้ากรอบแค่1ครั้ง มีทั้งช่วงที่กดอาร์เซน่อล(ต้นเกม) และโดนอาร์เซน่อล กด แต่ทว่าอย่างไรก็ตามแนวรับของงูใหญ่ ก็ยังมีมาตรฐานเชื่อขนมกินได้ ยานน์ ซามเมอร์ มีบินลูกเซฟสวยๆของ ฮาแวร์ตช์
ดุมฟรีส สกัดลูกบนเส้นได้ รวมไปจนถึงที่เด่นสุดๆเห็นทีจะเป็น ยานน์ บิสเซ็ค ที่เล่นได้อย่างแข็งแกร่งสกัดลูกอันตรายๆได้1-2 ครั้ง ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว กุนซือ ซิโมโน่ อินซากี้ ยังเขี้ยวพอ ช่วง10นาทีสุดท้าย ยอดโค้ชชาวอิตาเลี่ยนได้ทยอยส่งเหล่าตัวจริงอย่าง เฟเดริโก้ ดิ มาร์โก - เฮนริค มคิทาร์ยาน - นิโคโล่ บาเรลล่า และ มาร์คัส ตูราม ลงมาปิดเกม หรือทำให้ทีมครองบอลได้เยอะขึ้น
โดยผลเสมอว่าก็คุ้มแล้ว สำหรับการเลือกโรเตชั่น ของ " เนรัซซูรี่ " แต่ที่กลับกลายเป็น3แต้มเลย ทั้งที่พวกเขาก็ไม่ได้เล่นดีเด่นอะไรดีมาก การเชือดอาร์เซน่อล ส่งผลให้ อินเตอร์ กวาดไป10แต้ม จาก5นัด อยู่อันดับ6ของตาราง แถมแนวรับของพวกเขายังแข็งแกร่งเป็นกำแพง ยังไม่โดนใครเจาะไข่แดงเลยกับ 4นัดบนเวที ยูซีแอล
ระบบ 4-4-2 ปืน ไม่เวิร์ค ทำ ทรอสซาร์ หาย
ดูจะส่งผลกระทบหนักหนามากเกินไปแล้วสำหรับ อาร์เซน่อล ในการขาดแกนกลางสำคัญ สารตั้งต้นในการเล่นเกมรุกอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด ช่วงแรกอาจจะยังไม่เห็นผลเท่าไหร่ เพราะพวกเขาเจอทีมใหญ่ มีจังหวะให้สวนกลับ หรือทีมใหญ่เหล่านั้น (ลิเวอร์พูล-แมนเชสเตอร์ ซิตี้) ไม่ได้เน้นเกมตั้งรับ ทำให้ปืนโต มีช่องว่างให้เล่นเกมสวนกลับได้
การวางแผนนี่เป็นอีกครั้ง ที่ มิเคล อาร์เตต้า ติดตั้งระบบที่ค่อนข้างขัดใจแฟนบอล เพราะเล่นระบบ 4-4-2 ซึ่งแผนนี้แหละที่เล่นเอาพวกเขาทำอะไรไม่ถนัด ไปไม่เป็นในเกมที่แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-1 ซึ่งกับ อินเตอร์ มิลาน เมื่อคืนก็คล้ายๆกัน
ช่วง15นาทีแรกเกมเป็นของเจ้าบ้านก่อนที่ เดอะ กันเนอร์ส จะตั้งตัวได้ เอาจริงๆรูปแบบการเล่น 4-4-2 โดยปราศจาก กองกลางตัวรุกเชิงสร้างสรรค์ก็เล่นเอาอาร์เซน่อล หมดไอเดียในการเข้าทำ เพราะเหมือนว่าพวกเขาจะเน้นไปที่ลูกเปิดครอสด้านข้าง หรือลูกสูตรตั้งแตะมากกว่า
โดยเฉพาะในรายของ เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่ถูกจับไปเล่นหน้าคู่กับ ฮาแวร์ตช์ และโชว์ฟอร์มไม่ออก แข้งชาวเบลเยี่ยม ทำบอลเสียเองบ่อยครั้ง แถมยังฝืนชอบเล่นยาก จังหวะยืนตำแหน่งหรือหาช่องของเจ้าตัวในบทบาทกองหน้า ดูขัดและไม่เป็นธรรมชาติสุดๆ
82นาทีในสนาม อดีตแข้งไบร์ทตัน มีโอกาสยิงแค่ 1ครั้ง ส่วนปีกซ้ายอย่าง มาร์ติเนลลี่ ก็ดูท่าว่าจะกู่ฟอร์มกลับมาไม่ได้แล้ว ไร้อิมแพคกับทีม แม้ว่าจะได้ครอสบอลหลายหนใน45นาทีแรก แต่ครึ่งหลังก็หายไปจากเกมเลย
เมรีโน่ ยังไม่มีนัดไหนน่าประทับใจ
ถ้าดูจากตำแหน่งและสไตล์การเล่น คาดว่าอาร์เซน่อลซื้อเจ้าตัวเข้ามาเพราะหวังว่า จะให้เข้ามาเป็นอะไหล่เสียมากกว่า ในตำแหน่งของ มาร์ติน โอเดการ์ด แต่ทว่าเมื่อยอดเพลย์เมคเกอร์ชาวเดนมาร์กเจ็บยาว ทำให้ มิเกล เมรีโน่ ได้โอกาสลงตัวจริงอย่างต่อเนื่อง
ช่วงแรกก็อาจจะพอเข้าใจหน่อยว่าต้องปรับตัวเข้ากับทีมใหม่ อาจจะยังจับจังหวะเพื่อนร่วมทีมไม่ได้ แต่ทว่าเล่นไปเล่นมาก็ยังไม่ดีขึ้น แม้ว่าเกมที่เสมอกับลิเวอร์พูล 2-2 อดีตกองกลาง เรอัล โซเซียดาด จะทำประตูได้ แต่ผลงานโดยรวมถือว่าไม่ดีเลย
เมื่อคืน เมรีโน่ ได้ผนึกขุมกำลังในแดนกลางร่วมกับ โธมัส ปาร์เตย์ ทำให้หน้าที่การขับเคลื่อนเกมรุกเป็นของเจ้าตัวเต็ม ออกสตาร์ทมาถือว่าเจ้าตัวมีส่วนร่วมกับเกมพอสมควร และเกือบทำประตูได้ด้วยจากลูกโหม่ง ที่เจ้าตัวโดน ซามเมอร์ ออกมาชก จนเกือบได้จุดโทษ
แต่สิ่งหนึ่งที่ มิเคล เมรีโน่ น่ากังวลมากๆ หลังจากผ่านมาหลายๆนัด นั่นก็คือ สปีด การตัดสินใจเล่นช็อตต่างๆที่ดูช้าไปหน่อย รวมถึง เฟิร์สทัชที่แย่ ทำให้จะเล่นจังหวะต่อไปก็ลำบาก ซึ่งท้ายที่สุดแผลของ เมริโน่ ก็มาแตก เมื่อไปทำแฮนด์บอลในเขตโทษ และเสียจุดโทษ ก่อนโดน ฮาคาน สังหารเข้าไป
ความย่ำแย่ของ มิเกล เมรีโน่ ก็ถูกย้ำออกมาชัดเจนกับการเปลี่ยนตัวของ มิเคล อาร์เตต้า นี่แหละ ที่ออกสตาร์ทครึ่งหลังด้วยการ ถอดเจ้าตัวออก แล้วให้ กาเบรียล เชซุส ลงมาเล่นแทน ซึ่ง5นัดตัวจริง และอีก3ตัวสำรอง ยังมองไม่เห็นเลยว่า เมรีโน่ จะไปได้รุ่งกับปืนใหญ่
งูใหญ่แนวรับแกร่ง บิสเซ็ค ฉายแสง
แม้ว่าใน กัลโช่ เซเรีย อา อินเตอร์ มิลาน จะเสียไปมากถึง13ประตู จาก11นัด แต่ทว่าในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลับกัน แนวรับของพวกเขากลับแข็งแกร่งมากๆ 3นัดแรก พวกเขายังไมเสียสักประตูให้กับทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ - ยัง บอยส์ และ เร้ดสตาร์ เบลเกรด และก็มีแววจะโดนเจาะไข่แดงนัดกับอาร์เซน่อล นี่แหละ
การปรับทัพทั้ง3เซ็นเตอร์ และ วิงแบ็ก2ข้าง งูใหญ่ พักเหล่าตัวจริงอย่าง เฟเดริโก้ ดิ มาร์โก และ อเลสซานโดร บาสโตนี่ ทำให้เป็นโอกาสของทั้ง ยาน บิสเซ็ค และ เดนเซล ดุมฟรีส ซึ่งหลังจากผ่านช่วง15นาทีแรก เป็นอาร์เซน่อล ที่ได้บุกเข้าใส่เป็นระยะๆ
บิสเซ็ค ที่ปรกติเป็นตัวสำรองในตำแหน่ง3เซ็นเตอร์ นี่คือการได้ออกสตาร์ทตัวจริงนัดที่7ของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้ และต้องบอกตรงๆว่านี่คือฟอร์มที่สุดยอดมากๆของแนวรับชาวเยอรมัน ทั้งในเรื่องของเกมรับ และการออกบอล
ตลอดทั้งเกม บิสเซ็ค เคลียร์บอลมากถึง10ครั้ง และเอาชนะลูกกลางอากาศได้ถึง4หน ลูกครอสโยนเข้ามา ไว้ใจเจ้าตัวได้เลย นอกจากนี้ยังบล็อกลูกของได้3หน ที่เข้าตาสุดๆ คงหนีไม่พ้น การพุ่งเข้าบล็อกลูกยิงของ ฮาแวร์ตช์ โล่งๆในเขตโทษจนบอลแฉลบออกหลังไป
แม้ว่าจะเล่นเป็นเซ็นเตอร์ แต่ ยาน บิสเซ็ค ก็ผ่านบอลมากถึง40ครั้ง นอกจากนี้แล้วต้องชื่นชม ยานน์ ซามเมอร์ ด้วย ที่เซฟลูกปั้นโค้งๆที่เกือบเสียบสามเหลี่ยมของ ไค ฮาแวร์ตช์ ได้ นั่นเท่ากับว่านายด่านชาวสวิตเซอร์แลนด์ เก็บไปได้ถึง 8คลีนชีต เสียเพียง4ประตู จาก11นัดใน ยูซีแอล กับ อินเตอร์ มิลาน
ปืนโมเมนตัมเสีย อาร์เตต้า ก็ดูลน
3นัดหลังสุด เก็บได้แค่1แต้ม สำหรับอาร์เซน่อล แถมยังตามหลังลิเวอร์พูล จ่าฝูงมากถึง7แต้ม ชัดเจนแล้วว่าการขาด มาร์ติน โอเดการ์ด จะส่งผลกระทบต่อพวกเขาหนักหน่วงขึ้นทุกที เพราะเห็นได้ชัดว่าแนวรุกของพวกเขาเหมือนขาดแกนกลาง หัวสตาร์ทในการแจกจ่ายเพลย์ต่างๆให้เพื่อน ไม่ว่าจะออกซ้าย-ออกขวา หรือเจาะตรงกลาง
ระบบ4-4-2 ที่ มิเคล อาร์เตต้า เลือกแก้ไขสถานการณ์ก็ไม่เวิร์คเลย ซึ่งผลลัพธ์ก็เห็นมาตั้งแต่เกมที่บุกไปแพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-1 แล้ว มานัดกับอินเตอร์ ก็พอได้เปิดเกมบุกใส่อยู่เป็นระยะ แต่นั่นก็เป็นการเข้าทำที่ไม่หลากหลายหรือพลิกแพลงเท่าไหร่
มิติที่ปืนใหญ่เน้นมากๆเมื่อคืนนั่นก็คือ การโยนลูกครอส หรือลูกเตะมุม เพราะพวกเขาได้เตะมากถึง13ครั้ง ฝั่งเจ้าบ้านไม่ได้ลูกเตะมุมเลย ซึ่งก็ถือว่าได้ลุ้นนะจาก กาเบรียล รวมถึง วิลเลี่ยม ซาลิบา ที่มีโอกาสได้โถมสูงกว่าใครเพื่อนแต่ไม่โดนบอล
ทางด้านกุนซืออย่าง มิเคล อาร์เตต้า นัดนี้เจ้าตัวก็ออกอาการลนจริงๆ เพราะไปทำแฮนด์บอล คว้าบอลทั้งที่ยังไม่ออกนอกสนามซะงั้น จนโดนใบเหลือง รวมถึงการเปลี่ยนตัวนอกจาก กาเบรียล เซซุส ที่ลงมาตั้งแต่ น.46แล้ว " พี่ต้า " ก็เปลี่ยนตัวอีกทีช้าไปหน่อย ปาเข้าไป น.82 ทั้ง โอเล็กซานเดอร์ ชินเซนโก้ และ อีธาน เอ็นวาเนรี่
โค้ชหนุ่มชาวสเปน ยังแก้ปัญหาไม่ได้จริงๆเมื่อไร้เงา โอเดการ์ด (แต่เมื่อคืนลงเป็นสำรองได้แล้ว) นอกจากแต้มที่ทำหล่นในลีกระยะหลัง สิ่งหนึ่งที่ " เดอะ กันเนอร์ส " ต้องระวังนั่นก็คือ การเสียโมเมนตัม เพราะหากว่าอาทิตย์นี้ พวกเขาบุกไปแพ้เซลซีอีก และลิเวอร์พูลชนะช่องว่างจะขายกว้างเป็น10แต้ม จะไล่ตามลุ้นแชมป์นั้นเหมือนเข็นครกขึ้นภูเขาจริงๆ แม้ว่าจะพึ่งนัดที่ 10-11 ของฤดูกาลก็ตาม
- คอลัมน์นิสต์
- คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อินเตอร์ มิลาน อาร์เซน่อล มิเคล อาร์เตต้า ฮาคาน ชัลฮาโนกลู ยาน บิสเซ็ค
- 53
- 07 พ.ย. 2567 14:54