ขอกระชับพื้นที่ Top4 ! ผี เฮต่อเนื่อง บุกเชือด วิลล่า 2-1 แม็คทอม ฮีโร่ โขกปลิดชีพ

เข้าสู่ศักราช 2024 เป็นต้นมายังไม่แพ้ใคร แถมยังแรงไม่หยุดจริงๆสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เริ่มได้ผู้เล่นแกนหลักกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ล่าสุดเมื่อคืนปีศาจแดง ก็คว้าชัยในเกมพรีเมียร์ลีกได้3นัดติดต่อกัน และเป็นนัดยากด้วย เมื่อต้องบุกไปเยือนทีมอันดับ5 แอสตัน วิลล่า ที่2นัดหลังผลงานในรัง วิลล่า ปาร์ค มีแผ่วลงไป ผลลัพธ์ 2-1 ทำให้ทีมของ เอริก เทน ฮาก ทำแต้มกระชับพื้นที่ท็อปโฟร์มากขึ้น กว่าเดิมไหนๆ

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลดช่องว่างท็อปโฟร์ จาก8เหลือ5 เมื่อบุกไปยิง แอสตัน วิลล่า คาถิ่น วิลล่า ปาร์ค มา 2-1 ด้วยรูปเกมที่ค่อนข้างหืดขึ้นคอ ทางฝั่งสิงห์ผงาด มีโอกาสลุ้นประตูเป็นระยะๆ แต่ทว่าไม่เฉียบขาดมากพอ และเป็น อ็องเดร โอนาน่า ที่ยืนตำแหน่งได้ดีเซฟป้องกันได้หมด
 

ปีศาจแดง จัดตัวเต็มอัตราศึกในการบุกไปเยือน สิงห์ผงาด มิดฟิลด์คู่กลางเป็น ค็อบบี้ ไมนู ผนึกกำลังกับ กาเซมิโร่ ส่วนในตำแหน่งเซ็นเตอร์ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่เจ็บ ทำให้จึงเป็นคู่ของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กับ ราฟาแอล วาราน

ส่วนเจ้าบ้านก็มาในผู้เล่นชุดเก่ง โอลลี่ย์ วัตกินส์ ผู้ทำ11ประตู 10แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก ยืนเป็นกองหน้าตามเดิม อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเหนือเมฆพอสมควร 20นาทีแรก ขุนพลปีศาจแดงเล่นกันได้ดีมาก
 

โดยเฉพาะในเรื่องของการทรานซิสชั่น หรือการเปลี่ยนบอลจากรับเป็นรุก คือแย่งไล่บอลบีบสูงได้ ก็จะจู่โจมเร็วทันที และมีโอกาสลุ้นประตู2-3ครั้ง จนมาได้ประตูขึ้นนำจากลูกเตะมุม เป็น แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่โขกตั้งให้ ราสมุส ฮอยลุนด์ แปลอดขา เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ เข้าไป 1-0 น.17
 

แต่ทว่าอย่างไรก็ตามหลังจากนั้นก็เป็นเกมของทีมเจ้าบ้านที่ดีกว่า ครองเกมได้เรื่อยๆ มีโอกาสยิงหลายครั้งแต่ปราศจากความเฉียบคม แถม อ็องเดร โอนาน่า ที่วันนี้เหนียบหนึบไม่ตรงเป็นตุงด้วย ทำให้จบ45นาทีแรกเป็นผู้มาเยือนนำไปก่อน 1-0

ครึ่งหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องมีการปรับทัพตัวผู้เล่น ลุค ชอว์ เจ็บ ทำให้ วิตเตอร์ ลินเดอเลิฟ ต้องลงมาขัดตราทัพแทนในตำแหน่งแบ็กซ้าย และเกมฝั่งซ้ายของพวกเขาก็โดน วิลล่า เจาะเรื่อยๆ และก็มาโดนประตูตีเสมอ 1-1จนได้ มุสซ่า ดิยาบี้ เปิดแฉลบมาเข้าทาง ดั๊กลาส ลุยซ์ ได้ยิงโล่งๆ เสยเพดาน เข้าไป น.67
 

หลังจากนั้นก็เป็นลูกทีมของ อูไน เอเมรี่ ที่ฮึดขึ้นมามากๆหมายเอาประตูชัย แต่ก็ยังเป็น โอนาน่า และแผงหลัง ยูไนเต็ด ช่วยกันเซฟไว้ได้หลายครั้ง แถมยังเป็นวันที่ วัตกิ้นส์ โดนประกบติดเป็นอย่างดีจาก วาราน
 

จนท้ายที่สุดแล้วการจั่วเปลี่ยนเกมของ กุนซือ เอริก เทน ฮาก ก็มาได้ผลมากๆ เมื่อเลือกถอด มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เล่นไม่ดีเลื้อยไม่ผ่านออก แล้วส่งจอมซุปเปอร์ซัพอย่าง สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์ ลงมาแทน และสุดท้ายแล้วก็เป็น " แม็คทอม " นี่แหละที่เป็นฮีโร่ขี่ม้าขาวอีกครั้ง พุ่งขวิดลูกเปิดของ ดิโอโก้ อาโล่ต์ เข้าไปเต็มแรง ขึ้นนำ 2-1 น.86  พร้อมคว้าชัยสำคัญไปด้วยสกอร์ดังกล่าว
 

เขาคือ ฮีโร่ โขกเต็มกบาล สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์


หากว่าท้ายที่สุดแล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ตีตั๋วไปเล่นถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ ต้องยกความดีความชอบให้กับ สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์ เลย เพราะมีหลายนัดๆมากๆ ที่ดาวเตะเลือดสก็อตต์รายนี้ ลงมาทำประตูเซฟแต้มให้กับทีมนับครั้งไม่ถ้วน
 

สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อด้อยของ แม็คโทมิเน่ย์ มาตลอด และแฟนปีศาจแดงก็เห็นกันถ้วนหน้านั่นก็คือ ทักษะ ความสามารถเชิงบอล เวลาเล่นเป็นกองกลางนอกจากความขยัน แข้งเบอร์39 จ่ายบอลคมๆ พลิกบอลเปลี่ยนเกมรับเป็นรุกเนียนๆไม่ได้เลย
 

นั่นจึงทำให้กุนซือ เอริก เทน ฮาก จับปรับเปลี่ยนพันธุกรรมเจ้าตัวใหม่ นั่นก็คือการจับไปยืนสูงในเขตโทษเป็นกองหน้าคนที่2ของทีมเลย เมื่อคืน แม็คโทมิเน่ย์ ได้ลงไปแทน มาร์คัส แรชฟอร์ด ไปเล่นเป็นหน้าต่ำ พร้อมฉีก บรูโน่ แฟร์นันเดซ ไปยืนเป็นปีกขวา
 

17นาทีที่ได้รับโอกาสลงสนาม สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์ จากโอกาสเพียงครั้งเดียวก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็น3แต้มประตูชัยให้กับทีมได้ เมื่อทะยานโขกลูกเปิดของ ดิโอโก้ ดาโล่ต์ เข้าไปแบบเต็มแรงเสยหน้า เอมี่ มาร์ติเนซ เข้าไป
 

ทำเป็นเล่นไป ณ ตอนนี้ในพรีเมียร์ลีก แม็คโทมิเน่ย์ สังหารไปแล้วถึง7ประตู มากกว่าใครเพื่อนในทีม และเป็นหนที่3แล้วที่เจ้าตัว ทำประตูชัยให้กับทีมได้ ทั้งในเกมชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-1(เหมา2) / ชนะ เซลซี 2-1(เหมา2) และล่าสุดกับ วิลล่า 2-1
 

ดาวเตะเลือดสก็อตต์ ที่ไม่ได้มีเชิงบอลสูงส่งอะไรมาก แต่สิ่งที่เป็นข้อดีและทดแทนจุดนั้นของเจ้าตัวนั่นก็คื สัญชาตญาณในกรอบเขตโทษที่มีอยู่เต็มเปี่ยม เซ้นส์ในการเข้าหาบอล หาพื้นที่นั้นยอดเยี่ยมากๆ เราจึงได้เห็น แม็คโทมิเน่ย์ ถูกส่งให้ไปป้วนเปี้ยนในเขตโทษหลายครั้ง และได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าสุดๆเหมือนนัดนี้
 

โอนาน่า เลิกตรงเป็นตุง / แม็คไกวร์ เจ้าเวหา


หลังกลับมาจากศึก แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ด้วยผลงาน1นัด 0เซฟ โดนส่องไป3ตุง อ็องเดร โอนาน่า ก็รีบบึ่งกลับมารับใช้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยใจที่คิดถึงเลย โดยนับตั้งแต่กลับมาจากการรับใช้ทีมชาติแคเมอรูน " เดอะตุง " ก็ไม่ได้มีช็อตพลาดน่าเกลียดมากเท่าแต่ก่อน แถมในเกมก่อนหน้ากับ เวสต์แฮม ก็ยังเก็บคลีนชีตได้ด้วย
 

แมตช์กับ วิลล่า เมื่อคืน ถือว่าเป็นค่ำคืนที่ดีของอดีตนายด่าน อินเตอร์ มิลาน รายนี้เลย เมื่อมีเซฟสำคัญๆหลายจังหวะจากการยืนตำแหน่งได้ดี ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รอดพ้นจากการเสียประตู มีทั้งลูกซัดไกลเต็มแรงของ จอห์น แม็คกวินน์ ออกมาปิดมุมลูกหลุดเข้ามาของ โอลลี่ย์ วัตกิ้นส์ และใช้หน้าอกเซฟลูกยิงจ่อๆของ วิตกิ้นส์ อีกหน
 

แถมประตูที่เสียให้ ดั๊กล๊าซ ลุยซ์ ที่ยิงจ่อๆสุดๆ จังหวะแรกลูกตวัดยิงของ เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ โอนาน่า ก็ดักทางเอาไว้ได้ แถมยังอ่านเกมเด็ดขาด ความมั่นใจนี่คือสิ่งที่โกลค่าตัวหลัก40ล้านปอนด์รายนี้ ได้ค่อยๆสะสมเพิ่มขึ้นมาเรื่อย แถมยอดรวมยังเก็บไปได้ถึง7คลีนชีตในลีกแล้ว
 

ส่วนอีกคนที่ไม่ถูกพูดถึงไม่ได้ เพราะได้รับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ หลังเกมนั่นก็คือ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เพราะเล่นเกมรับได้อย่างแข็งแกร่งโดยเฉพาะในลูกกลางอากาศ ที่เก็บรับประทานได้หมด
 

" เทพ แม็คไกวร์ " เอาชนะการดวลลูกกลางอากาศได้ถึง 6ครั้ง (มากที่สุด) - เอาชนะการดวล9ครั้ง (มากที่สุด) เข้าแท็กเกิ้ลสำเร็จ2ครั้ง - ผ่านบอลสำเร็จ 43ครั้ง นอกจากนี้แล้ว เวลาได้ลูกตั้งเตะหรือเตะมุม กองหลังเบอร์5รายนี้ ยังเป็นเป้าโจมตีที่อันตราย
 

เพราะเป็นตัวคอยโหม่งชงให้เพื่อน ซึ่งประตูขึ้นนำ1-0 ของ ราสมุส ฮอยลุนด์ ก็มาจากการโขกแอสซิสต์ของ แม็คไกวร์ นี่ละ ซึ่งถ้ามองจากสถานภาพของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ช่วงต้นฤดูกาลที่เกือบถูกขายทิ้ง นำมาเทียบกับตอนนี้ต้องบอกว่า เหมือนแมว9ชีวิตจริงๆ 
 

เมื่อ ดาโล่ต์ ไม่ใช่ ดารั่ว



หลังจากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มดีเอาชนะในเกมลีกมา3นัดติดต่อกัน มีผู้เล่นรายหนึ่งที่แอบเล่นดีขึ้นมาแต่ไม่ค่อยมีคนถูกพูดถึงนักนั่นก็คือ ดิโอโก้ ดาโล่ต์ ซึ่งในเกมที่เอาชนะ เวสต์แฮม 3-0 ภาพที่เจ้าตัววิ่งไล่กวดไปสไลด์ จาร็อด โบเว่น ยังติดตาอยู่เลย
 

เมื่อไม่ได้ถูกจับไปเล่นแบ็กซ้ายข้างไม่ถนัดเหมือนช่วงหนึ่ง ก็ทำให้ฟอร์มกระเตื้องขึ้นมาเหมือนกันสำหรับ ดาโล่ต์ เมื่อคืนเกมรับฝั่งขวาของปีศาจแดง ก็ถูกโจมตีเป็นระยะเหมือนกันทั้งจาก อเล็กซ์ โมเรโน่ ที่บ้าเลี้ยงเหลือเกิน กับ จาค็อบ แรมซี่ย์

แบ็กแดนฝอยทองทำหน้าที่ได้ดีมากๆ ในเรื่องของ การวิ่งไล่กวดกัดไม่ปล่อย ริมเส้นของวิลล่า กับจังหวะสำคัญ แต่ก็มีช็อตเหวอเป็นร่าง " ดารั่ว " เช่นกัน เมื่อเคลียร์บอลไม่ดูตาม้าตาเรือไปเข้าทาง วัตกิ้นส์
 

แพสชั่นและความขยันนี่คือสิ่งที่ ดิโอโก้ ดาโล่ต์ มีให้เห็นตลอดในระยะหลัง เมื่อคืน เคลียร์บอล5ครั้ง - ตัดบอล และ แท็กเกิ้ล อย่างละ2ครั้ง และบล็อกลูกยิงได้2หน และที่ไม่พูดถึงไม่ได้นั่นก็คือจังหวะเปิดให้ แม็คโทมิเน่ย์ พุ่งเข้าโขกแบบเต็มกบาล
 

ปรกติลูกเปิดของ ดาโล่ต์ มักจะเลยไปไกลเสา3และเสา4นู่นเลย แต่ทว่าลูกเมื่อคืน กลายเป็นเหมาะเหม่งทั้งน้ำหนักและทิศทาง เป็นภาพหาดูยากไปเลย โดยนี่เป็นเพียงแอสซิสต์ที่2ของ เจ้าตัวในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้เท่านั้น
 

วิลล่า จบไม่คม วัตกิ้นส์ ผิดฟอร์ม



จะว่าไปเมื่อคืน นี่ไม่ใช่นัดที่โดยภาพรวม แอสตัน วิลล่า เล่นแย่เลยนะ (ยกเว้นช่วง20นาทีแรก) เพราะพวกเขาครองเกมขึงเข้าใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นช่วงๆ แต่ทว่าด้วยความไร้ความเฉียบขาด และการยืนตำแหน่งเซฟที่ดีของ โอนาน่า ทำให้พวกเขาต้องปราชัยไป
 

บูกาการ์ กามาร่า และ ดั๊กล๊าซ ลุยซ์ และจอห์น แม็คกวินน์ คุมเกมในแดนกลางได้เป็นอย่างดี จ่ายบอลฉลาด แม้จะไม่ได้ครองบอลเยอะมาก แต่ทว่าจังหวะสำคัญๆทำได้ดีตลอด บวกกับ คู่มิดฟิลด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กาเซมิโร่ และ ค็อบบี้ ไมนู ที่โดนใบเหลืองตั้งแต่45นาทีแรก ทำให้ไม่กล้าตัดบอลในจังหวะอันตราย
 

สิงห์ผงาดหาจังหวะจบสกอร์ได้มากถึง 16ครั้ง ไม่รวมติดบล็อกอีก7ครั้ง ต้องชื่นชม โอนาน่า ด้วยที่ผีเข้ายืนตำแหน่งอ่านเกมเซฟได้เป็นอย่างดี แต่ถึงกระนั้นต้องโทษตัวพวกเขาเองด้วยที่จบสกอร์กันไม่เฉียบขาดพอ
 

โดยเฉพาะในรายของ ดาวยิงคนเก่ง โอลลี่ วัตกิ้นส์ ที่นอกจากจะโดน ราฟาแอล วาราน ลักพาตัวหายไปแล้ว เมื่อได้รับโอกาสยิง หอกชาวอังกฤษรายนี้กลับพลาดโอกาสทองไปดื้อๆ หลุดไปยิงติดตัว โอนาน่า รวมถึงฉวยโอกาสจังหวะผิดพลาดจากการเคลียร์บอลของ ดาโล่ต์ ไว้ไม่ได้
 

ทำเป็นเล่นไป แอสตัน วิลล่า ที่ฟอร์มแกร่งในรัง วิลล่า ปาร์ค มากๆ ก่อนเกมเกมกับปีศาจแดง พวกเขา ชนะ 9 - เสมอ1 -แพ้ 1 มีเพียง ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล ที่เล่นในบ้านได้ดุกันกว่า 3นัดล่าสุดในบ้านตัวเอง พวกเขาแพ้รวด 3นัดทั้ง นิวคาสเซิ่ล (1-3) - เซลซี ถ้วย เอฟเอ คัพ (1-3) และล่าสุดกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
 

ผีคว้าชัย ขอกระชับพื้นที่ท็อปโฟร์

ก่อนเกมที่ วิลล่า ปาร์ค ระหว่าง แอสตัน วิลล่า กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือว่าเป็นแมตช์ที่สำคัญมากๆในการลุ้นไปพื้นที่ แชมเปี้ยนส์ ลีกของ ลูกทีม เอริก เทน ฮาก เพราะพวกเขาตามหลังทีมดังย่านมิดแลนด์ มากถึง 8แต้ม ซึ่งหากบุกมาแพ้ คะแนนก็จะถ่างออกไปไกลเป็น 11 ซึ่งแทบจะจบเลยในทางปฎิบัติ
 

หรือหากบุกมาแชร์แต้มได้ ก็ยังพอเป็นการต่อลมหายใจไปได้อีก แต่ทว่าเมื่อผลลัพธ์กลายเป็นการบุกมาคว้า3แต้มได้ ทำให้ประตูในการไปเล่นถ้วยยูซีแอลฤดูกาลนี้เปิดกว้างอีกครั้ง 5แต้ม คือระยะหว่าง ระหว่าง อันดับ6 แมนฯยู กับอันดับ 5วิลล่า
 

ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่า หลังจบฤดูกาล 2023-2024 ทีมจากพรีเมียร์ลีก จะได้โควตาเพิ่มไปลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็น5ทีมไหม อันดับ 1-2 และ3 คงหนีไม่พ้นทีมลุ้นแชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ - อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล
 

ในรายของ แอสตัน วิลล่า ของ อูไน เอเมรี่ น่ากังวลเหมือนกันว่า พวกเขาจะออกอาการแผ่วปลายในช่วงท้ายรึเปล่า แต่ทว่าถึงแม้จะแผ่วยังไง วิลล่า ก็ยังน่าจะดีพอได้ไปเล่นฟุตบอลถ้วยเล็ก ยูโรป้า เป็นอย่างน้อย  ขนาดทีมของพวกเขาก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะเหล่าบรรดาตัวสำรองโดยเฉพาะในแดนหน้า มีตัวเลือกให้พลิกเกมน้อยมากๆ นอกจากผู้เล่นริมเส้น
 

ยังไม่นับรวม ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส ที่ล่าสุดคว้าชัยนาทีบาป แซงพวกเขาไปเป็นอันดับ4 มีมากกว่าพวกเขา1แต้ม แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม นัดต่อไปก็ยังไม่งานง่ายสำหรับ วิลล่า เช่นกัน เพราะต้องบุกไปเยือนทีมฟอร์มแก่งในบ้านตัวเองอย่าง ฟูแล่ม