บอลแพ้ทาง ! ผี เล่นน่าเบื่อ แต่ยังเฉือน ฟูแล่ม 1-0 ลิซานโดร บันดาล ซัดแฉลบ
รักษาความน่าเบื่อได้สม่ำเสมอจริงๆสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุคของ กุนซือ รูเบน อโมริม เพราะสปีดบอลในการเข้าทำช้าเหลือเกิน หาจังหวะสร้างสรรค์ในการทำประตูแต่ละนัดยากมากๆ รวมถึงกองหน้าหวังพึ่งพาไม่ได้ โดยเมื่อคืนวันอาทิตย์ ยูไนเต็ด ต้องเจอศึกหนักพอสมควรกับการไปเยือนฟูแล่ม ทีมดีมีสไตล์ แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้ว แม้จะเป็นอีกนัดที่เล่นห่วยชวนง่วงหาวนอน ปีศาจแดง ก็ยังเก๋าเก็บ3แต้ม หลังบุกมาเชือดเจ้าสัวน้อย 1-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะเรียกความมั่นใจมาได้นิดๆ หลังเกมที่แพ้ ไบร์ทตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 1-3 เพราะเมื่อกลางสัปดาห์ ยูโรป้า ลีก แม้จะทุลักทุเลหน่อย แต่ทว่าก็ยังเฉือนเอาชนะ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ไปได้ 2-1
ในพรีเมียร์ลีก แมนฯยูไนเต็ด ต้องไปเล่นเกมเยือนพบกับฟูแล่ม ทีมที่ค่อนข้างแพ้ทางพวกเขา การจัดทัพ จะถือว่าเซอร์ไพรส์ได้ไหมนะ เพราะ อันเดร โอนาน่า ยังคงได้เฝ้าเสาตัวจริงในระบบ 3-4-2-1 สามเซ็นเตอร์ฮาร์ฟ มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ - แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และ ลิซานโดร มาร์ติเนซ วิงแบ็กซ้าย-ขวา ดิโอโก้ ดาโล่ต์ กับ นุสแซร์ มาซราวี สลับฝั่งกันระหว่างเกม
มิดฟิลด์คู่กลางมีการปรับเปลี่ยน มานูเอล อูกาเต้ ยืนกับ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ที่ถอยลงมาต่ำ ตัวรุกหลังกองหน้า อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ อาหมัด ดิยัลโล่ ส่วนหอกตัวเป้า สลับมาเป็น ราสมุส ฮอยลุนด์ ฟากของเจ้าบ้านฟูแล่ม ทีมครึ่งบนของตารางเล่นดีมีสไตล์ ผู้จัดการทีม มาร์โก ซิลวา มาในระบบเก่ง 4-2-3-1
นายด่าน แบร์นด์ เลโน่ แผงแบ็กโฟร์ ติโมตี กัสตาญ - โยอาคิม อันเดอร์เซ่น - คาลวิน บาสซี่ย์ และ แอนโทนี่ โรบินสัน มิดฟิลด์ปักตรงกลาง ซาช่า ลูคิช คู่กับ ซานเดอร์ เบิร์ก สามตัวรุก แฮร์รี่ วิลสัน - เอมิล สมิธ โรว์ และ อเล็กซ์ อิโวบี้ หน้าเป้า ราอูล ฮิมิเนซ
แม้ว่าก่อนเริ่มเกม ทรงบอลและอันดับในตารางของฟูแล่มจะดีกว่า เพราะทางฝั่งปีศาจแดง ณ ตอนนี้ เหมือนจะเหลือเพียงชื่อเสียงเก่าๆเท่านั้น ผู้ตัดสิน แอนโทนี่ เทย์เลอร์ เป่าเริ่มเกม แม้ว่าทางทัพเจ้าสัวน้อยจะครองบอล หรือต่อบอลได้แม่นยำกว่า แต่ทว่าหาโอกาสใกล้เคียงในการจบสกอร์ไม่เจอเลย
ผู้มาเยือนจากเมืองแมนเชสเตอร์ เหมือนจะเล่นเซฟปลอดภัยไว้ก่อน หรืออาจด้วยทีมของ รูเบน อโมริม เล่นเกมบุกไม่ได้เลย ไอเดียตีบตัน เป็นเกมที่ชวนหาวนอนมากๆ ฟูแล่ม จังหวะใกล้เคียงได้สียวสุดในครึ่งแรก เห็นทีจะเป็นจังหวะยิงของ สมิธ-โรล แต่ ลิซานโดร เข้ามาบล็อกกันได้ทัน ส่วนผู้มาเยือน แมนฯยู ไม่มีจังหวะยิงตรงกรอบเลยใน 45นาทีแรก จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 0-0
เริ่มครึ่งหลังมาเหมือนฟูแล่ม จะแผ่วไปเอง กลายเป็น ยูไนเต็ด ที่ค่อยๆตั้งเกมได้ และแดนหน้าก็พักบอลได้บ้างเป็นระยะ หลังจากที่ถอดเอา ฮอยลุนด์ ออก แล้วให้ โจซัว เซิร์กเซ่ ลงมาเล่นแทน น.58 ก่อนหน้าโอกาสยิงได้ลุ้นครั้งแรกของปีศาจแดง จากฟรีคิกเรียดหวังทะลุกำแพงของ บรูโน่ แต่เรียดออกหลังไม่ตรงกรอบ
และแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เล่นแบบทื่อสุดๆ ก็มาได้ประตูขึ้นนำ1-0 แบบโชคช่วย ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่เติมสูงขึ้นมายิงไกลหน้ากรอบเขตโทษราวๆ20หลา บอลไปแฉลบ ลูคิช กลายเป็นดีย้อยข้าม เลโน่ ที่พยายามเซฟแต่ปัดด้วยปลายนิ้วไม่ออก ทีมเยือนขึ้นนำ น.78
พอโดนก่อนยิ่งเป็นช่วงท้ายเกมด้วย ทำให้ทีมของ มาร์โก ซิลวา โหมหนักมากๆหมายจะเอาประตูคืน และเกือบได้สุดๆจากลูกเตะมุม โยอาคิม อันเดอร์เซ่น ได้สบัดโขกบอลผ่าน โอนาน่า ไปแล้ว แต่ดาวรุ่งตัวสำรอง โทบี้ คอลลีเยอร์ สกัดโหม่งสกัดบนเส้นได้หวุดหงิด
แมนยู มาส่งบอลซุกก้นตาข่ายได้อีกครั้งจาก อาหมัด น.90+5 แต่ทว่า VAR เช็กเป็นลำหน้าไป จบเกม ปีศาจแดง บุกมาชนะเจ้าสัวน้อย 1-0 ขยับมาอยู่ที่อันดับ12ของตาราง ส่วนฟูแล่มยังจัดว่าแพ้ทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากๆเวลาเล่นยังบ้านตัวเองเพราะแพ้ที่สนามแห่งนี้มา 8นัดรวด
ฮอยลุนด์ หนักข้อมากๆ เหมือนผีเล่น10ตัว
ช่วงต้นฤดูกาลเหมือนอนาคตจะยังดูสดใสกว่า โจซัว เซิร์กเซ่ อยู่เลย สำหรับ ราสมุส ฮอยลุนด์ แต่ทว่าพอเล่นไปเล่นมา อดีตกองหน้าอตาลันต้ารายนี้ กลับค่อยๆแย่ลงเรื่อยๆ แถมยังไม่มีวี่แววจะดีขึ้นอีก ไม่ว่าจะเจอกับเซ็นเตอร์ระดับทีมไหน ฮอยลุนด์ ก็พร้อมแพ้พ่ายตลอด
หนึ่งในสาเหตุที่45นาทีแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สร้างโอกาสเข้าทำที่ตรงกรอบไม่ได้เลย ส่วนหนึ่งนั่นเป็นเพราะไอเดียในเกมรุกของพวกเขาสากกะเบือมากๆ เวลาเล่นเกมรุกสปีดบอลช้า ทำให้แนวรับฟูแล่ม ไม่ได้เจอกับความกดดันยากลำบากอะไรเลย
หลายครั้งที่พวกเขาหมดมุก จนต้องให้โกลหรือกองหลังสาดบอลขึ้นมาแดนหน้า และผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนเดิมแทบทุกครั้ง นั่นก็คือ ฮอยลุนด์ บังบอลเก็บบอล หรือป้ายให้เพื่อนที่หมายจะเติมมาเล่นต่อไม่ได้
จับบอลกระฉอก หันหลังให้กองหลังฝ่ายตรงข้าม ล้มเป็นระยะจังหวะต้องเบียดปะทะ นี่คือสภาพของ ฮอยลุนด์ ที่โคม่าจริงๆกับบทบาทศูนย์หน้าตัวเป้า เมื่อคืนดาวรุ่งแดนโคนม สถิติแย่มากๆ สัมผัสบอล15ครั้ง / ดวลลูกกลางอากาศ4ครั้ง ชนะ0ครั้ง แถมยังทำบอลเสียมากถึง 10หน
นั่นจึงไม่แปลกใจเลยที่ตัวของ ฮอยลุนด์ จะได้อยู่ในสนามเพียงแค่ 58นาที กลายเป็น เซิร์กเซ่ มาเล่นแทน แม้ว่าอดีตหัวหอกโบโลญญ่า จะไม่ได้เล่นดีมาก แต่ก็มีประโยชน์ต่อทีมมากกว่า ฮอยลุนด์ เห็นๆ เพราะสามารถบังบอลพักบอลได้บางจังหวะ ดึงตัวประกบได้ ส่วน ราสมุส ฮอยลุนด์ เข้าสู่ปีที่2 ยังไม่เห็นพัฒนาการหรือสัญญาณอะไรที่เป็นบวกเลย
การ์นาโช่ มุ่งมั่นและอยากอยู่ผีต่อ
ข่าวมาแรงและลือเป็นระยะจริงๆสำหรับ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่จะถูกปล่อยออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยทีมที่เป็นข่าวด้วยแรงๆนั่นก็คือ นาโปลี และ เซลซี โดยทางฝั่งของทัพสิงห์บูลส์ ก็พร้อมจะสลับดีลขั้วกับ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ด้วย
ซึ่งอีกไม่กี่วันตลาดหน้าหนาวจะปิดตัวลง เรื่องราวของ การ์นาโช่ ที่จะถูกขาดออกไป ก็น้อยลงเรื่อยๆ บวกริมเส้นดาวรุ่งรายนี้ ก็ถือ รูเบน อโมริม ใช้งานตลอดในระยะหลังๆ ทั้งในบทบาทตัวจริงและตัวสำรอง
รวมถึงสควอดทีมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ณ ตอนนี้ตัวริมเส้นน้อยมาก ปล่อย แอนโทนี่ ให้ เรอัล เบติส ยืม ส่วน มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็ไม่ได้มีชื่ออยู่ในทีมมาสักระยะ โดนตัดหางปล่อยวัดแล้ว การปล่อย การ์นาโช่ จึงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่
เมื่อคืน การ์นาโช่ ที่ได้ลงเล่นตัวจริง ทำเป็นเล่นไป เจ้าหนูชาวอาร์เจน เป็นแนวรุกที่สร้างความปวดหัวให้ฟูแล่ม มากที่สุดในทีม ในวันที่ไอเดียการเข้าทำตีบตัน ก็ยังมีตัวริมเส้นเร็วๆกระชากไปเปิดหรือสร้างความกดดันได้
สังเกตว่าในยุคของ อโมริม แข้งเลือดฟ้า-ขาว เลือกจ่ายมากขึ้น จากที่แต่ก่อนเป็นฟุตบอลชาวเดี่ยว พักหลังที่มีข่าวจะโดนขาย ดูมั่งมั่นตั้งใจกว่าเดิม ประตูชัย1-0 ของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ การ์นาโช่ ก็มีส่วนร่วมด้วย
ที่ผ่านมาเข้าใจว่ายังดิบไปกับการตัดสินใจในจังหวะสุดท้าย แต่ทว่าต้องไม่ลืมอีกอย่างว่า อเลฮานโดร การ์นาโช่ พึ่งจะอายุเพียงแค่20เท่านั้น ยังมีเวลาที่จะพัฒนาตัวเองได้ไปอีก บวกด้วยขนาดทีมตอนนี้ที่เล็กมาก การเก็บ การ์นาโช่ ไว้ น่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสม
ลิซานโดร กองหลังตอบโจทย์แผนอโมริม
หลังจากที่ปีแรกดีสุดๆในเครื่องแบบปีศาจแดง สำหรับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ แต่ทว่าซีซั่นที่แล้ว 2023-2024 เจ็บยาว และฤดูกาลนี้ 2024-2025 กลับมาลงบู๊ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ก็ยังไม่เห็นฟอร์มร่างเดิมเลยสำหรับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ โดยเฉพาะในเรื่องของความแม่นยำในการเข้าบอล
เมื่อคืน " ลิช่า " เป็นหนึ่งในแนวรับของทีมที่เล่นได้ดีร่วมกับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ อดีตกองหลังอาแจ็กซ์ เข้าบอลได้แม่นยำหนักหน่วง ถึงลูกถึงคน และช่วยสกัดจังหวะอันตรายของ สมิธ-โรล ได้ฉิวเฉียด อีกจุดที่เจ้าของฉายา " เดอะ บุสเชอร์ " ทำได้ดี มาสักระยะแล้ว นั่นก็คือ การเติมมาเล่นเกมรุก
จังหวะสอดวางบอลยาวคิลเลอร์พาส มีให้เห็นทั้งในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส หรือเติมสูงขึ้นมายิงก็มีนัดเสมอลิเวอร์พูล 2-2 เมื่อคืน ลิซานโดร มาร์ติเนซ ผ่านบอลถึง 61ครั้ง พยายามบิวด์อัพเกมจากแดนหลัง แต่ต้องปรับเรื่องการเข้าบอลอันตรายและโฉ่งฉ่างลงบ้าง
ซึ่งการเติมสูงของเจ้าตัว ก็เป็นผลดีนักแล เพราะเป็นคนตะบันประตูชัยที่มีโชคช่วยแฉลบแข้งฟูแล่ม ย้อยข้ามมือ เลโน่ ที่พยายามปัด แต่ปัดไม่ออก โอเคแม้ว่าภาพรวมยังไม่เนี๊ยบเท่าปีแรก แต่ ลิซานโดร ดูจะเป็นกองหลังในระบบ 3เซ็นเตอร์แบ็ก ที่ตอบโจทย์แผนของ รูเบน อโมริม ไม่น้อย
อีกคนที่ต้องชมในเกมรับ แม้มีช็อตจ่ายพลาดนั่นก็คือ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กองหลังจอมเสยผม ที่ดูเก้งๆกังๆ เคลียร์จังหวะอันตรายได้ รับมือกับ ราอูล ฮิมิเนซ ไหว แต่หวาดเสียวเหลือเกินกับการใช้มือหยุดคู่แข่ง เคลียร์บอลได้ 6ครั้ง -และตัดบอลได้2หน พยายามลำเลียงบอลขึ้นหน้าบ้างแม้เป็นเซ็นเตอร์
อดาม่า ชนแนวรับผีกระจุย แต่ไร้พิษสงจังหวะสุดท้าย
ไม่ใช่เพียงแค่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เท่านั้นที่เกมรุกตีบตัน ฟูแล่ม เจ้าบ้านก็เช่นกัน เพราะเป็นวันที่แนวรุกพวกเขาผิดฟอร์มกันไปหมด โดยเฉพาะริมเส้นฝั่งซ้าย ที่เคยเป็นคอมโบที่ดีมาตลอดทั้ง อเล็กซ์ อิโวบี้ และ แอนโทนี่ โรบินสัน แผลงฤทธิกันไม่ออกเท่าไหร่ เพราะปีศาจแดงไม่ได้เร่งเกมอะไร ทำให้แนวรับยังตรึงกันได้ดี
พอมา45นาทีหลังกลายเป็นว่า เกมรุกของฟูแล่ม หายหนักกว่าครึ่งแรกอีก แต่ทว่าอาการบาดเจ็บของ แฮร์รี่ วิลสัน กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทีมของ มาร์โก ซิลวา กลับมามีชีวิตในแนวรุกอีกครั้ง เพราะผู้ที่ลงมาแทน น.53 อย่าง อดาม่า ตราโอเร่ เข้าทางเหลือเกินกับการเล่นงานผู้เล่นแมนฯยู
ตราโอเร่ ขึ้นชื่ออยู่แล้ว ในเรื่องของความ " อึด ถึก ทน เร็ว " ซึ่งลงมาก็ใช้สปีดความเร็วเอาชนะนักเตะทีมเยือนได้สบายๆ ไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมาก ใช้ความเร็วกับความแข็งแกร่งของร่างกายนี่แหละ มาซราวี ที่บางกว่าเอาไม่อยู่แน่ๆ
อูกาเต้ ที่เข้าสกัดถึงกับเจ็บเองจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกคิดดู แต่ทว่าปีกสายกล้ามรายนี้ ก็มีจุดสลบเดิมนั่นก็คือ จังหวะสุดท้าย ที่ตัดสินใจไม่ดีตลอด มีทั้งเปิดเสียจ่ายเสีย จังหวะยิง1หนของเจ้าตัว แต่ไม่ได้ลุ้นอะไรเลย หวือหวาวูบวาบจริง แต่ประสิทธิผลไม่ได้เลยสำหรับ อดาม่า ตราโอร่ 2ฤดูกาลกับ เจ้าสัวน้อย ปีกสายกล้าม มีเพียง 4ประตู 6แอสซิสต์ เท่านั้นจาก 39นัดในลีก
ฟูแล่มหลุดฟอร์ม บวกแพ้ทางผีอย่างแรง
ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น เชื่อว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีสุดๆที่ ฟูแล่ม จะได้เฮเหนือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในบ้านตัวเอง คราเวน ค็อตเทจ สักที เพราะทีมเยือนป้อแป้มาหลายนัด แม้จะชนะเมื่อเกมกลาวสัปดาห์ กลับ เรนเจอร์ส แต่รูปเกมพวกเขาไม่โสภาเลย หรือย้อนไปนัดเจอทีมบ๊วย เซาธ์แฮมป์ตัน แล้วชนะ3-1 ยังโดนนักบุญกดใส่ยับๆใน 45นาทีแรก
แต่ทว่าเมื่อคืน ไม่รู้เป็นเพราะปีศาจแดง เล่นแบบไม่ชวนทะเลาะด้วยรึเปล่า ทำให้ฟูแล่ม ไม่ได้เล่นเกมที่ตัวเองถนัด แมนฯยู เล่นบอลช้าและชัวร์ทำให้มีเวลาตั้งรับหากโดนกับบุกสวนมา ผู้เล่นแนวรุกอย่าง เอมิล สมิธ - โรล แผลงฤทธิไม่ออก รวมไปจนถึง แฮร์รี่ วิลสัน
กลายเป็นแนวรับที่โดดเด่นทั้ง โยอาคิม อันเดอร์เซ่น และ คาลวิน บาสซี่ย์ ที่งานขนมกรุบเลยกับการ ประกบฮอยลุนด์ ในรายของ บาสซี่ย์ เชิงบอลดีมากๆ เวลาโดนบีบเพรส เอาตัวรอดได้สวยๆ แถมกระชากขึ้นหน้าได้ด้วย
แมนฯยูไนเต็ด ที่สภาพไม่ดีเท่าไหร่ ฟูแล่ม กลับผิดฟอร์มไปเองไม่สามารถลงโทษได้ อาจด้วยเพราะว่าจากสถิติที่ผ่านมา พวกเขาแพ้ทางปีศาจแดงมาตลอดเลยก็ว่าได้ 8นัดที่ คราเวน ค็อตเทจ (รวมเมื่อคืน) พวกเขาไม่เคยชนะปีศาจแดงเลย ที่เหลือเชื่อคือแพ้8นัดรวด
เมื่อคืนขนาด ยูไนเต็ด เล่นไม่ดี โอกาสยิงเข้ากรอบแค่1ครั้ง ยังกลายเป็นประตูชัย ให้ทีมเยือนบุกมาซิวชัย 1-0 หนสุดท้ายที่ฟูแล่ม เอาชนะ ปีศาจแดง ที่ คราเวน ค็อตเทจ ได้ ต้องย้อนไปไกลถึง ธันวาคม 2009 เลยทีเดียว (ชนะ 3-0) สมัยที่กุนซือของพวกเขายังเป็น รอย ฮ็อดจ์สัน
- คอลัมน์นิสต์
- คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟูแล่ม รูเบน อโมริม ลิซานโดร มาร์ติเนซ ราสมุส ฮอยลุนด์ อดาม่า ตราโอเร่
- 87
- 27 ม.ค. 2568 14:27