สปิริตแห่งนักสู้ ! หงส์ 10ตัว โคตรสุด พลิกแซง นิว 2-1 นูนเญซ ซุปเปอร์ฮีโร่
จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกมคัมแบ็กทีดีที่สุดนัดหนึ่งของพรีเมียร์ลีกเลย สำหรับคู่ระหว่าง นิวคาสเซิ่ล กัล ลิเวอร์พูล เพราะดูจากสถานการณ์ครึ่งแรกที่สาลิกาดงนำหงส์แดง อยู่ 1-0 บวกกับทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องเหลือผู้เล่นเพียง10คน มองจากมุมไหนก็ยากเหลือเกินที่ลิเวอร์พูล จะพลิกป่าช้าคว้า3แต้มกลับออกไปได้ แต่ทว่าด้วยสปิริตแห่งนักสู้ การแก้เกมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ทำให้พวกเขาทำสำเร็จ
เกมพรีเมียร์ลีกคู่สุดท้ายประจำสัปดาห์ที่3 ที่สนาม เซนต์ เจมส์ ปาร์ค ระหว่างเจ้าบ้านนิวคาสเซิ่ล กับ ลิเวอร์พูล ที่ทางฝั่ง " ทูน อาร์มี่ " แพ้ทางมาโดยตลอด แต่ทว่ามาในฤดูกาลนี้ ดูจะเป็นเจ้าบ้านที่ได้เปรียบผู้มาเยือนไม่น้อย จากสภาพทีมและการได้เล่นในรังเหย้าตัวเอง
เปิดเกมมาช่วงแรก ต้องบอกว่าเป็นนิวคาสเซิ่ลที่ทำได้ดีกว่า ครองเกมได้ แดนกลาง3ประสาน บรูโน่ กิมาเรส - ซานโด โตนารี่ และ โจลินตอน ทำงานกันได้อย่างหมดจด โดยเฉพาะการเล่นลูกหนัก ที่เอาชนะมิดฟิลด์ลิเวอร์พูล ได้อย่างอยู่หมัด
ด้วยรูปเกมที่เหนือกว่า ก็เป็นนิวคาสเซิ่ลที่ค่อยๆนวดและขึ้นนำไปก่อน1-0 จาก แอนโธนี่ กอร์ดอน น.17 หลังจากนั้นสถานการณ์ของลิเวอร์พูลก็ย่ำแย่ขึ้นไปอีก เมื่อ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม น.20 ทำให้หงส์แดงต้องเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10คน คล็อปป์ ต้องแก้เกมโดยการถอด หลุยส์ ดิอ๊าซ ออก แล้วให้ โจ โกเมซ มาเล่นแทน
ครึ่งหลังนิวคาสเซิ่ลก็ยังเหนือกว่าในช่วงแรก แต่ทว่าก็ดูจะแผ่วและเกร็งเองไปเรื่อยๆ บวก อลิสซง ก็มีช็อตเซฟ ช่วยทีมไม่ได้ตามหลังเป็น 0-2 และเจ้าบ้านจบไม่คมกันเอง ด้วยสกอร์ที่ตามอยู่1เม็ด ทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังพอมองเห็นโอกาสเก็บแต้มออกมาได้ จึงค่อยๆทยอยส่งผู้เล่นแนวรุกกันลงมา
และแล้วการคัมแบ็กที่ต้องสดุดีหัวใจก็เกิดขึ้นกับพระเอกซุปเปอร์ฮีโร่อย่าง ดาร์วิน นูนเญซ ที่ถูกส่งลงสนาม น.77 หอกวัยรุ่นชาวอุรุกวัย ใช้เวลาอยู่ในสนามราวๆ18นาที (รวมทดเวลาบาดเจ็บ) กด2ประตู น.81 และ 90+3 พาลิเวอร์พูล พลิกป่าช้านรกแตก ควัก3แต้ม ออกมาจาก เซนต์ เจมส์ ปาร์ค
2ประตูของ นูนเญซ น่าจะทำให้เจ้าตัวเรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้ไม่น้อย และมีแววสูงที่จะได้ลงตัวจริงในเกมสัปดาห์หน้าที่จะเจอกับ แอสตัน วิลล่า ส่วนอีกคนที่ไม่ว่าทีมจะอยู่ในฟอร์มแบบไหน เจ้าตัวก็ยังฟอร์มเทพเสมอ นั่นก็คือ อลิสซง เบ็คเกอร์ ที่ช่วยเซฟไม่ให้ทีมต้องตามหลัง 0-2 เพราะหากสกอร์ไหลไปทางดังกล่าว คงเป็นเรื่องยากสุดๆที่พวกเขากลับมาได้
สำหรับ นิวคาสเซิ่ล ของ เอ็ดดี้ ฮาว ต้องบอกว่า " เดอะ แมกพายส์ " ยังคงเป็นทีมที่แพ้ทางลิเวอร์พูลอยู่เสมอ แต่ทว่าอย่างไรก็ตามเมื่อคืนก็ต้องโทษพวกเขาเองด้วยที่ พอขึ้นนำและคู่แข่งเหลือผู้เล่น10คน กลับจบสกอร์กันไม่คม และเหมือนวิ่งจนหมดแรงช่วง15นาทีสุดท้าย จนมากดดันตัวเองและพลาดไปในที่สุด
แพสชั่นมาเต็ม ซุปเปอร์ฮีโร่ ดาร์วิน นูนเญซ
ฤดูกาลที่แล้ว16ตุงรวมทุกรายการ ถือว่าไม่เลวเลยนะ สำหรับ ดาร์วิน นูนเญซ แต่ทว่าด้วยค่าตัว 85ล้านปอนด์ บวกภาพติดตาที่เจ้าตัวพลาดโอกาสทองในการใส่สกอร์หลายครั้ง จึงทำให้ถูกมองว่านยังไม่ค่อยคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่หว่านลงไปเท่าไหร่ บวกแฟนบอลคาดหวังกับอดีตดาวยิงเบนฟิก้ามากกว่านี้
ซีซั่นใหม่ 2023-2024 สองนัดแรกกับ เซลซี และ บอร์นมัธ นูนเญซ มีสถานะเป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น แถมยังมีเวลาในสนามไปเพียงแค่ 28นาที บวกเหมือน เจอร์เก้น คล็อปป์ จะเลือกใช้ หลุยส์ ดิอ๊าซ เป็นปีกซ้าย และหน้าเป้าสลับกันระหว่าง โชต้า กับ กัคโป มากกว่า
ด้วยความที่ไม่มีอะไรจะเสีย เหลือผู้เล่นเพียงแค่10คน เละเข้าสู่ช่วง15นาทีสุดท้าย เจอร์เก้น คล็อปป์ จึงเลือกพึ่งบริการของ ดาร์วิน นูนเญซ ปล่อยลงสนาม น77 โดยช่วงแรก ดาวยิงวัย24ปีก็มีจังหวะจับบอลกระฉอกให้เห็นลางไม่ดีเช่นกัน
และแล้วสถานการณ์ก็ได้สร้างวีรบุรุษซุปเปอร์ฮีโร่ให้กับหงส์แดง โดยผู้รับบทก็เป็น ดาร์วิน นูนเญซ คนนี้นี่แหละ โอกาสสองครั้งที่เจ้าตัวได้สับไกล คือจังหวะหลุดมาทางฝั่งขวา แล้วบังเอิญวันนี้เป็นวันที่ นูนเญซ ยิงคมกริบเป็นใบมีดสุดๆ ซัดผ่าน นิค โป๊ป เข้าไปแบบเสียบมุมทั้งสองลูก น.81 และ 90+3
หลังซัดประตูชัยได้ ต้องบอกว่า แพสชั่นอารมณ์ร่วมมาเต็มทะลุหลักร้อยจริงๆสำหรับ ดาร์วิน นูนเญซ จังหวะฉลองชัยของเจ้าตัวทำให้แฟนบอลสาลิกาดงในสนามต้องเดือดดาลเลยทีเดียว
โอกาสเพียง2ครั้งที่ ดาร์วิน นูนเญซ ได้รับภายใต้สถานการณ์ที่กดดันสุดๆ แต่เจ้าตัวทำได้เฉียบคาดทั้งสองลูก สิ่งที่ดาวยิงเบอร์9รายนี้ จะได้มาเต็มๆก็คือความมั่นใจ และมีโอกาสสูงมากที่ที่ เจเค จะใส่ชื่อ นูนเญซ เป็นตัวจริงในสัปดาห์หน้า
อลิสซง ผู้ช่วยให้สถานการณ์หงส์ไม่เลวร้ายไปกว่าเดิม
บางเกมที่ลิเวอร์พูลเล่นผิดฟอร์ม หรือผู้เล่นในสนามโชว์ฟอร์มไม่ออก แต่ทว่าสำหรับ อลิสซง เบคเกอร์ แล้ว นี่คือผู้เล่นที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเหนียวหนึบเป็นตุ๊กแกมาโดยตลอด แม้ว่าจะมีพลาดบ้างจังหวะที่ต้องถูกบังคับให้เล่นบอลด้วยเท้า
เมื่อคืนกับสาลิกาดง ต้องบอกว่าลิเวอร์พูล มีโอกาสโดนเจ้าบ้านสอยเม็ดที่สองบ่อยและใกล้เคียงมาก แต่ทว่าก็เป็น อลิสซง เบ็คเกอร์ นี่แหละที่ไม่ยอมปล่อยให้บอลไปซุกก้นตาข่ายได้ ลูกแรกที่เสียให้ แอนโธนี่ กอร์ดอน ก็สุดจะป้องกันจริงๆเพราะหลุดเดี่ยวมา
" พี่หมี " มีจังหวะโชว์เซฟลีลาเหินหาวให้เห็นเทพๆ หลายช็อตทั้ง ลูกพักอกยิงในเขตโทษ ที่ทั้งเร็วและแรงของ มิเคล อัลมิรอน แต่ อลิสซง โชว์ความแข็งแรงของข้อมือปัดไปชนคานไว้ได้ รวมไปถึงออกมาปิดมุมได้อย่างดี กับลูกพยายามโชว์เหนือกระโดดตอกส้นช่วงทดเวลาบาดเจ็บของ ฌอน ล็องสตาฟฟ์
อีกอย่างที่โกลชาวบราซิลรายนี้ทำได้ดีก็คือการออกมาตัดลูกกลางอากาศ โดยเฉพาะกับจังหวะที่ โจลินตอน น่าจะได้โหม่ง ลูกยิงหลายครั้งของนิวคาสเซิ่ลที่เข้ากรอบ แม้จะไม่ใช่ลูกที่เซฟยากมาก แต่ อลิสซง ก็ไม่มีรับกระฉอกให้เห็นเลย
การสื่อสารกับแนวรับเพื่อนร่วม สมาธิกับทีม ทีมนี่คืออีกสิ่งที่ อลิสซง เบ็คเกอร์ ทำได้ดีมาตลอด ยืนตำแหน่งเยี่ยม รวมถึงพยายามออกบอลเล่นเร็วให้เพื่อนได้เปรียบตลอด โอเคว่า ดาร์วิน นูนเญซ คือฮีโร่ในเกมนี้ แต่ทว่า อลิสซง ก็ควรได้รับเครดิตไปเต็มๆเช่นกัน
เทรนต์ หลุดบ่อย ทั้งเรื่องฟอร์มและอารมณ์
ดูจะกลับมาเป็น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ - อาร์โนลด์ ที่เราคุ้นเคยอีกครั้ง ในเกมกับ นิวคาสเซิ่ล เมื่อคืน นั่นก็คือในเรื่องของการเล่นเกมรับที่แย่ชนิดหมูตู้ ส่วนเกมรุก TAA แทบไม่ได้สำแดงฤทธิเดชอะไรเลย แถมยังเสียเวลาส่วนใหญ่ไปกับการอารมณ์เสียเรื่องนอกเกมด้วย
โดยใบเหลืองแรกของ เทรนท์ ก็มาเร็วแบบไม่ต้องรอด้วย ซึ่งก็เป็นจังหวะที่ไม่น่าโดนจริง จากอารมณ์หงุดหงิดของเจ้าตัว ที่ไปเตะบอลทิ้ง เพราะถูกผู้เล่นนิวคาสเซิ่ลเบียดล้มไปกองตรงข้างสนาม เพียงแค่ น.6 เท่านั้น
ใบเหลืองที่มาด่วยจี๋ทำให้ แบ็กเบอร์66รายนี้เล่นได้อย่างยากลำบากมากขึ้นเพราะเสี่ยงจะโดนใบแดง ทำให้ แอนโธนี่ กอร์ดอน ที่ทั้งเร็วและคล่อง ลากจี้ได้อย่างสะดวกสบายใจ แถมประตูแรกที่เสีย เทรนท์ ต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ
บอลที่จ่ายจาก ซาลาห์ ไม่ได้แรงและยากอะไรเลย แต่ทว่าเจ้าตัวเหมือนจะเหม่อจับบอลวืด จนโดน กอร์ดอน ลากไปสำเร็จโทษเท่านั้น แถมท้ายเกมกับจังหวะที่บังบอลจนได้ลูกทุ่มฆ่าเวลาไป เทรนท์ ยังมีการตอบโต้ยั่วยุแฟนบอลนิวคาสเซิ่ลอีกด้วย
เกมรุกที่เป็นจุดเด่นของ เทรนท์ มาตลอด เมื่อคืนไม่มีให้เห็นเท่าไหร่ ทั้งเกมได้ครอสบอลแค่2ครั้งเท่านั้น (อาจเพราะทีมผู้เล่นน้อยกว่าด้วย) การเล่นที่ดูเหมือนขาดความมั่นใจทำให้ ภาพรวมของแบ็กสายบุกรายนี้ ดูไม่จืดเลย และน่าจะโดน เจอร์เก้น คล็อปป์ เฉ่งอยู่ไม่น้อย
กอร์ดอน โดดเด่น อัลมิร่อน ใช้โอกาสสิ้นเปลืองสุดๆ
ค่อยๆปรับตัวกับนิวคาสเซิ่ล ได้และยึดตำแหน่งตัวจริงได้อย่างต่อเนื่องในฤดูกาลใหม่นี้ สำหรับ แอนโธนี่ กอร์ดอน ปีกดาวรุ่งที่ดูเหมือน เอ็ดดี้ ฮาว จะนิยมชมชอบใช้งานอยู่ไม่น้อย เพราะเจ้าตัวมักถูกเลือกใช้งานก่อน ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์
ซึ่งภายรวมตลอดทั้งเกมอดีตปีกเอฟเวอร์ตัน ทำได้ดีเลยในเรื่องของ การกระชากลากเลื้อย ปั่น ป่วน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ - อาร์โนลด์ สุดๆ จนเพื่อนร่วมทีมต้องมาช่วยซ้อน TAA อีกราย ก่อนที่สุดท้าย กอร์ดอน จะมี1ตุง จากจังหวะหลุดไปยิง ลอดขา อลิสซง
72นาทีที่อยู่ในสนาม กอร์ดอน มีโอกาสยิงมากถึง4ครั้ง จ่ายคีย์พาสไป2หน จังหวะเลี้ยงจี้ของริมเส้นวัย22ปีรายนี้ ดูอันตรายและสร้างความหวาดเสียวให้แนวรับลิเวอร์พูลเสมอ ส่วนปีกฝั่งขวาของสาลิกาดง อีกคน จะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้เช่นกันนั่นก็คือ มิเกล อัลมิร่อน
ถ้าเอาในเรื่องของ ลีลาการลาก ล็อกหลบ เล่นงาน แบ็กซ้ายอย่าง แอนดูรว์ โรเบิร์ตสัน อัลมิรอน ทำได้เร็วและปราดเปรียวมากๆ แต่จุดหนึ่งที่เป็นปัญหาของแข้งชาวปารากวัยมาตลอดนั่นก็คือ ความเฉียบคมจังหวะสุดท้าย ทั้งการยิงและการจ่าย
ประทานโทษเมื่อคืน อัลมิร่อน มีโอกาสยิงมากถึง6ครั้ง มีทั้งลูกพักบอลแล้วยิงในเขตโทษ แต่โดนปฎิกิริยาความยอดเยี่ยมของ อลิสซง ปัดได้อย่างเหลือเชื่อ มีจังหวะลากมายิงเอียงตัวปั่นแต่ไปชนเสาเข้าอย่างจัง
รวมถึงช็อตหมูหกที่ได้ยิงในเขตโทษด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดโล่งๆ จากจังหวะกระชากทำมาสวยของ โจลินตอน แต่ทว่าเจ้าตัวซัดโด่งข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้นจริงๆ ตลอด90นาที ลูกทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว มีโอกาสยิง มากถึง19ครั้ง และมี8หนที่เข้ากรอบ แต่แปรเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้แค่ลูกเดียว
หรือสาลิกาแพ้ทางหงส์ ?
จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทีมที่แพ้ทางลิเวอร์พูล นับตั้งแต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ มาคุมทีมเหมือนกัน สำหรับนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่แม้จะยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นทีมที่ได้ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ผลลัพธ์เวลาที่ต้องเจอกับหงส์แดง พวกเขามักจะปราชัยเสมอ
ก่อนเกมที่ เซนต์ เจมส์ ปาร์ค เมื่อคืน 13นัดหลังสุด ที่นิวคาสเซิ่ลดวลกับลิเวอร์พูล พวกเขาไม่เคยเอาชนะได้เลย เสมอ4แพ้ 9 หนสุดท้ายที่เอาชนะได้ต้องย้อนไปไกลถึง เดือนธันวาคม 2015 เลยทีเดียว (2-0) ในตอนที่กุนซือเป็น สตีฟ แม็คคลาเรน
เอาแค่ในฤดูกาลที่แล้วที่แอนฟิลด์ เหมือนนิวคาสเซิ่ลจะเอาอยู่ แต่ก็โดนลูกยิงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีสุดท้ายของ ฟาบิโอ คาวัลโญ่ แพ้ไป2-1 หรือนัดล่าสุดก็เปิดบ้านแพ้ลิเวอร์พูลง่ายๆ 0-2 แถม นิค โป๊ป ยังมาโดนใบแดงจากความเฟอะฟะของตัวเองอีกด้วย
เมื่อคืน การขึ้นนำ1-0 พร้อมผู้เล่นหงส์แดงเหลือ10คน ผลลัพธ์ดังกล่าวหลังจบ45นาที สาลิกาดง เหมือนจะฝันหวานรอ3แต้มได้เลย นิวคาสเซิ่ล เริ่มครึ่งหลังมาอย่างคึกคักและเกือบบวกเม็ดที่2ได้ แถมยังบดใส่ผู้มาเยือนอย่างต่อเนื่อง
แต่ผู้ชมทางบ้านก็จะเห็นอาการค่อยๆแผ่วเพราะวิ่งเยอะของ " เดอะ แมกพายส์ " เช่นกัน จนเป็นการเปิดโอกาสมีช่องว่างให้ลิเวอร์พูลสำเร็จโทษได้สำเร็จ จากลูกยิงที่คมกริบเป็นใบมีดโกนไปเลยของ ดาร์วิน นูนเญซ
ซึ่ง2ประตูของหอกทีมชาติปารากวัย ก็มีจุดเริ่มต้นความผิดพลาดส่วนตัวของ นิวคาสเซิ่ล ลูกจ่ายของ ดิโอโก้ โชต้า ไปไต่ตัว (ก้น) ของ สเวน บ็อตแบน ไหลมาให้ นูนเญซ ได้จับสปีดไปยิง ลูกสอง บรูโน่ กิมาไรซ์ ก็จ่ายบอลไปติด ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ มาเข้าทาง ซาลาห์ จ่าย คิลเลอร์พาสให้ นูนเญซ
- คอลัมน์นิสต์
- 328
- 28 ส.ค. 2566