คาบ้าน คือเรื่องปรกติ ! ผี ชุดผสม เน่า  วูล์ฟ บุกขย้ำ 1-0 ซาราเบีย ฟรีคิก พาเฮ

คาบ้าน คือเรื่องปรกติ ! ผี ชุดผสม เน่า วูล์ฟ บุกขย้ำ 1-0 ซาราเบีย ฟรีคิก พาเฮ


ฤดูกาลนี้สิ่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นก็คือ การเหลือความหวังที่ต้องคว้าแชมป์ ยูโรป้า ลีก ให้ได้ เพื่อเป็นการลบล้างความห่วยแตกที่เกิดขึ้นในฤดูกาล 2024-2025 นี้ หลังจากที่ต้องออกแรงเหนื่อยหนัก 120นาที กว่าจะเบียดเอาชนะ โอลิมปิก ลียง มาได้ 5-4 ปีศาจแดง กลับมาเล่นในเกมพรีเมียร์ลีก และพวกเขาก็จะนักเตะชุดผสม ทั้งที่ผู้มาเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ แทบไม่มีพิษสงอะไร แต่ทว่า ทีมของ รูเบน อโมริม ก็มีอันต้องพังพาบคาบ้านอีกครั้ง 0-1

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องทุบหม้อข้าวตัวเองในลีก เพื่อหวังคว้าแชมป์ ยูโรป้า ลีก ทำให้ในวีคนี้ หลังจากที่บดกับ โอลิมปิก ลียง มาอย่างหนัก กุนซือ รูเบน อโมริม ได้โรเตชั่นนักเตะหลายตำแหน่ง ในการฟัดกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์

ระบบการเล่น 3-4-2-1 โกล อ็องเดร โอนาน่า 3เซ็นเตอร์ฮาร์ฟ นุสแซร์ มาซราวี - วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ และเจ้าหนูดาวรุ่ง ไทเลอร์ เฟรดริคสัน วิงแบ็กซ้าย-ขวา แฮร์รี่ อามาสส์ กับ แพทริค ดอร์กู มิดฟิลด์คู่กลาง คริสเตียน อิริคเซ่น ยืนกับ มานูเอล อูการ์เต้  2ตัวรุกหลังกองหน้า ค็อบบี้ เมนู และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ หน้าเป้าสากกะเบือ เคลื่อนที่ ราสมุส ฮอยลุนด์
 

ฝั่ง วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ ที่พักหลังฟอร์มดีขึ้นมามากๆ จนน่าจะรอดตกชั้นแล้ว พวกเขามาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยระบบ 3-4-2-1 เช่นกัน โกลเป็นมือสาม แดเนียล เบนท์ลี่ย์ 3เซ็นเตอร์ โตติ โกเมส - เอ็มมานูแอล อักบาดู และ ซานติอาโก้ บวยโน่ วิงแบ็ก2ข้าง รายาน เอต์-นูรี กับ เนลสัน เซเมโด้
 

มิดฟิลด์คู่กลาง อันเดร และ ชูเอา โกเมส สองตัวรุกเบอร์10 มาร์แชลล์ มูเน็ตซี่ กับ มาเตอุส คุนญ่า หน้าเป้า ยอร์เก้น สตรานด์ ลาร์เซ่น สิ้นเสียงเป่านกหวีดเริ่มเกมจาก โรเบิร์ต โจนส์ เกมก็ส่อเค้าจะน่าเบื่อชวนง่วงเหงาหาวนอนเลย

เกมค่อนข้างอืดๆเฉื่อยๆ เพราะดูทั้งสองฝั่งไม่ได้เน้นมากเท่าไหร่ โดยเฉพาะเจ้าบ้านที่โรเตชั่นเยอะ เกมรุกแทบไม่มีอะไรเลย บอลช้าๆเนือยๆ กว่าจะลำเลียงไปถึงแดนสาม โดยโอกาสที่หวาดเสียวที่สุดของเกม ต้องมารอจนถึง น.34 จาก ฟรีคิก เข้ากรอบ ระยะร่วมๆ 30หลา ของ อิริคเซ่น แต่บอลไม่มุมมาก เบนท์ลี่ย์ ปัดข้ามคานออกไป
 

ท้ายครึ่งแรกปีศาจแดง มีลุ้นอีกครั้ง เมนู เกี่ยวบอลแล้วปั่นด้วยขวาหมายจะให้เสียบเสาไกล แต่บอลไม่ได้โค้งจึงหลุดออกหลัง จบ45นาทีแรก จึงเสมอกันไปแบบเกมน่าเบื่อสุดๆ 0-0 ครึ่งหลังปีศาจแดงค่อยๆดีขึ้น เพราะทยอยส่งตัวหลักลงมาทั้ง บรูโน่ แฟร์นันเดซ - ดาโล่ต์ - เมาท์

โดย ฮอยลุนด์ ที่มีโอกาสทำดีสวยๆ ไขว้หลุดกองหลังวูล์ฟ ได้หลุดเดี่ยว แต่ทว่าดาวรุ่งชาวเดนมาร์กรายนี้ กลับทื่อสุดๆ ตัดสินใจไม่ดี ไม่ยิงหรือจ่ายก่อนหน้านั้น พอจะง้างยิงจังหวะสอง โดนเสียบแย่งบอลง่ายหมูสุดๆ หรือลูกเปิดเรียดเข้ามาในเขตโทษของ การ์นาโช่ แต ฮอยลุนด์ เอง ก็ยืนตำแหน่งไม่ดี ทำให้เข้าชาร์จไม่ถึง จนสุดท้ายถูกเปลี่ยนตัวออกให้ ชิโด โอบี - มาร์ติน ลงมาเล่นแทน

แต่ทว่าทีมหมาป่า ที่ทั้งเกมแทบไม่มีอะไร มาได้ฟรีคิกระยะได้ลุ้น ปาโบล ซาราเบีย ตัวสำรองที่พึ่งลงมาไม่กี่อึดใจ น.74 พอมา น.77 เจ้าตัวก็ซัดฟรีคิกราวๆ20หลา บอลข้ามกำแพง เสียบตาข่ายเข้าไป หมาป่า บุกขึ้นนำ 1-0 ทั้งที่ไม่ได้เล่นดีอะไรมาก

 

ปีศาจแดง เร่งเครื่องหมายจะเอาคืน และได้ลุ้น2ครั้ง จาก เมสัน เมาท์  ตัวสำรอง แต่ไม่ได้ใกล้เคียงเลย แถมโดนแฟนบอลโห่ ด้วย จบ 90นาที วูล์ฟแฮมป์ตัน บุกมาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 พร้อมส่งปีศาจแดง แพ้ไปแล้วถึง 15นัดในลีก
 


45นาทีแรก ยานอนหลับชั้นดี

อาจจะด้วยสถานการณ์ที่ลอยลำในลีก ไม่ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นทั้งคู่ เพราะ3โควตาดังกล่าว เซาธ์แฮมป์ตัน ที่จองไปแล้ว1 และอีก2อย่าง อิปสวิช ทาวน์ - เลสเตอร์ ซิตี้ ก็จองไว้แล้วอย่างแน่นหนาเช่นกัน นั่นทำให้เกมระหว่าง วูล์ฟกับ แมนยู ไม่ได้ใส่กันเต็มสูบเท่าไหร่
 

ทีมของ วิเตอร์ เปเรย์ร่า ที่ดีขึ้นมามากพักหลังจนทำให้โอกาสตกชั้นแทบไม่มีแล้ว พวกเขามาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไม่ได้เน้นมากเท่าไหร่ หรืออาจจะเน้นแต่ทว่าผิดฟอร์มไปมากๆ ตัวความหวังอย่าง มาเตอุส คุนญ่า ทำได้ดีแค่ในจังหวะเรียกฟาวล์
 

ส่วนปีศาจแดง มีการโรเตชั่น จากเกมที่เอาชนะ โอลิมปิก ลียง แบบระทึกขวัญ5-4 ถึง 5ราย นั่นจึงทำให้เราได้เห็นเหล่าบรรดาดาวรุ่งอย่าง แฮร์รี่ อามาสส์ และ ไทเลอร์ เฟรดริคสัน ได้ลงเดบิวต์ครั้งแรกด้วยการเป็นตัวจริงเลย
 

ตลอด90นาที ทั้งทีมของ อโมริม และ เปเรย์ร่า ยิงเข้ากรอบกันไปเพียงฝั่งละ2หนเท่านั้น เอาจริงๆ เกมเมื่อคืนหากไม่มีฟรีคิกของ ซาราเบีย มีสิทธิมากๆที่เกมจะจบลงด้วยสกอร์ 0-0 โกลทั้ง โอนาน่า และ เบนท์ลี่ย์ แทบไม่ได้ทำงาน


เรียกได้ว่าด้วยสถานการณ์การตกชั้นที่รอดปลอดภัยแล้วทำให้ทั้งคู่ ดูไม่ต้องดิ้นรนคว้า3แต้มอะไรมาก 1คะแนนก็ดูเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะทางฝั่งปีศาจแดง ที่โรเตชั่นนักเตะเป็นว่าเล่นแต่ทว่าด้วยความพ่ายแพ้นี้ ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่ายในลีกมากถึง15นัด เข้าให้แล้ว
 

 

เปเรย์ร่า เสกหมาป่าให้ดีขึ้น

ก่อนที่ วิตอร์ เปเรย์น่า จะเข้ามาคุมบังเหียน วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ ต้องบอกว่าทัพหมาป่า สุ่มเสี่ยงจะต้องตกชั้นมากๆ เพราะหลังผ่าน16นัดแรกในพรีเมียร์ลีก พวกเขาชนะเพียงแค่ 2 เสมอ 3 และแพ้ 11
 

ทว่ามาจนถึงตอนนี้ ทีมยังแถบมิดแลนด์ ฟอร์มไฉไลขึ้นมามากๆ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่อันดับ15 แต่ทว่าก็ทิ้งห่างทีมอันดับ18 ทีมตกชั้นอย่าง อิปสวิช ทาวน์ มากถึง 17แต้ม และรอดตกชั้นอย่างเป็นทางการแล้ว
 

หรือเอาแค่5นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก วูล์ฟชนะ5นัด รวดเก็บ15แต้มเต็มๆเข้ากระเป๋า แนวรับของพวกเขาทีกลับมาเล่นหลัง3ในยุคของ วิตอร์ เปเรย์ร่า มีความเหนียวแน่นมากขึ้น แถมวิงแบ็กอย่าง รายาน เอต์-นูรี  ก็กลับมาฟอร์มดีเพราะได้เล่นในบทบาทที่ตัวเองถนัด
 

การชนะ5นัดรวดในพรีเมียร์ลีก เป็นสถิติที่ดีที่สุดของ วูล์ฟแฮมป์ตัน เลย และนี่เป็นการเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบไปกลับครั้งแรกของพวกเขา ในรอบกว่า40ปี หรือตั้งแต่ฤดูกาล 1979-1980 เลยทีเดียว
 

รวมถึง3แต้มดังกล่าวทำให้ วูล์ฟ เก็บไป38แต้ม ทำคะแนนเท่ากับ แมนฯยู แล้ว เพียงแต่ลูกได้เสียยังเป็นรองเพราะติดลบมากกว่า ส่วนโกลอย่าง แดเนียล เบนท์ลี่ย์ ที่เป็นมือ3ก็ยังอุตส่าห์เก็บคลีนชีตได้ เพราะแนวรุกของปีศาจแดงทื่อเหลือเกิน
 


ฮอยลุนด์ จะกี่นัดก็เหมือนเดิม สากจนน่าเลิกเป็นกองหน้าอาชีพ

ปรกติของกองหน้าดาวรุ่งหากว่ายังไม่ใช่ระดับท็อป ฟอร์มก็มักจะขึ้นๆลงเป็นปรกติอยู่แล้ว แต่ทว่าสำหรับ ราสมุส ฮอยลุนด์ นั้นไม่ใช่เลย เพราะหอกแดนโคนมรายนี้ เมื่อลงสนามคราวใด ฟอร์มก็มีแต่จะสาละวันเตี้ยลง เมื่อคืนก็วูล์ฟก็เช่นกัน ฮอยลุนด์ ยังอาการหนักและโคม่า จนไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้นแม้แต่นิดเดียว
 

ดาวยิงวัย 22ปี ได้รับโอกาสเป็นตัวจริงซ้ำแล้วซ้ำเล่า บวกกับ โจซัว เซิร์กเซ่ บาดเจ็บยาวไปแล้ว แทบจะไม่มีคู่แข่งที่มาสร้างความกดดันให้ ฮอยลุนด์ เลย มีเพียงดาวยิงวัย18ปีอย่าง ชิโด โอบิ -มาร์ติน ที่ต้องแย่งลงสนามตัวจริง
 

สากกะเบือเคลื่อนที่ นี่คือสไตล์การเล่นของ ราสมุส ฮอยลุนด์ ทุกๆนัด กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่แม้จะเล่นหลัง3 แต่แนวรับของพวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งมาก แต่เจ้าตัวก็ไม่สามารถเอาชนะแผงหลังทีมเยือนได้เลย
 

ได้บอลแล้วล้มแผละ บังบอล พิงบอล จ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมเล่นต่อไม่ได้ เหมือนปีศาจแดงแดง ต่อผู้เล่นให้ทีมเยือนมากกว่า1คน จังหวะวิ่งทำทาง หาช่อง หรือวิ่งฉีกหนีตัวประกบ ฮอยลุนด์ ห่วยหมดเลย เสาไฟฟ้าอาจมีประโยชน์มากกว่าเจ้าตัวก็ได้
 

จริงๆ ราสมุส ฮอยลุนด์ มีช็อตสวยๆเช่นกัน กับการไขว้บอลหนี อักบาดู และสปีดพาบอลไปในเขตโทษ แต่ทว่ากลับเงอะงะ จะยิงก็ไม่ยิงจังหวะแรก จะจ่ายก็ไม่จ่ายไปทาง เมนู จนท้ายที่สุดโดน โตติ โกเมส สไลด์แย่งบอลมาได้แบบง่ายๆ
 

หรือช็อตที่ การ์นาโช่ เปิดเรียดเข้าไปตรงกลาง แต่ตัวของ ฮอยลุนด์ เอง อ่านจังหวะและยืนตำแหน่งไม่ดีในเขตโทษ เข้าชาร์จไม่ถึงแบบน่าเสียดายสุดๆ นั่นเท่ากับว่า 28นัดในลีก ราสมุส ฮอยลุนด์ ยิงไปได้เพียงแค่3ประตูเท่านั้น แถมตอนถูกเปลี่ยนตัวออกเป็น เจ้าหนูวัย18 ชิโด โอบิ - มาร์ติน ลงมาแล้วทำได้ดีกว่าเห็นๆ

 

เช็กดาวรุ่งผี เฟรดริคสัน -อามาสส์

ด้วยความที่บดมาอย่างหนักกับ โอลิมปิก ลียง มา120นาที บวกกับในพรีเมียร์ลีก นั้นแทบไม่มีความหมายกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้ว เราจึงได้เห็นเหล่าบรรดาดาวรุ่งอย่าง แฮร์รี่ อามาสส์ และ ไทเลอร์ เฟรดริคสัน ได้ออกสตาร์ทตัวจริง
 

อามาสส์ พึงจะออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมลีกหนที่2ให้ปีศาจแดง ภาพรวมแม้จะไม่ได้พิเศษอะไรมาก แต่ทว่าก็ดูดีพอจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในสนามของ แมนฯยู ได้เลย ความเนี๊ยบ ความนิ่งอาจไม่ได้มีมากนัก
 

แต่วิงแบ็กดาวรุ่งรายนี้ สิ่งที่มีและแฟนๆน่าจะชอบคือ การเล่นที่โคตรได้ใจ เข้าบอลแบบไม่กลัว มีลูกเสียบ ตัดบอลได้ดี ติดตรงจังหวะสุดท้าย จะครอสจะเปิดที่ทำได้ไม่เนี๊ยบหรือโอกาสโยนน้อยไปหน่อย แต่ก็มีแววที่จะพัฒนาได้
 

ส่วน ไทเลอร์ เฟรดริคสัน ได้ออกสตาร์ทตัวจริง เป็นครั้งแรก ด้วยวัย20ปี ถือว่าทำได้ดีและนิ่งเกินคาด (อาจด้วยเพราะจอคู่แข่งไม่หินด้วย) เอาชนะลูกกลางอากาศได้ 5ครั้ง- แท็กเกิ้ล4ครั้ง และ เคลียร์บอลอีก4หน แถมยังพาบอลเติมขึ้นไปข้างหน้าได้ดีด้วย ชนะการดวล12 จาก15ครั้ง
 

ถือว่าแววดีเลยกับ เจ้าหนูเลือดผู้ดีรายนี้ ตลอด90นาที ที่อยู่ในสนาม แต่ก็ยังอยากย้ำว่า นี่เป็นเพียงฟอร์มในเกมแรกกับคู่แข่งที่ไม่ได้หินมากอย่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน เท่านั้น

 

เมาท์ ดาดๆ / ผี สถิติเลวร้ายเกิดขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งที่เหลือสัญญากับเซลซีเพียงแค่1ปี แต่ทว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังไปอุตส่าห์ทุบพระคลังคว้าตัวมาได้ราคาสุดแพงถึง 60ล้านปอนด์ สำหรับ เมสัน เมาท์ แถมยังมอบเบอร์ตำนานหมายเลข7 ให้ลูกหม้อสิงห์บูลส์ได้สวมใส่ด้วย
 

ซึ่งฤดูกาลแรก 2023-2024 เมาท์ ก็ยังคงออกลายเดิมนั่นก็คือ ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพักรักษาอาการบาดเจ็บ พอซีซั่นต่อมา เมสัน เมาท์ ก็ยังเดี้ยงเรื้อรัง และไม่มีทีท่าอะไรเลยที่จะบ่งบอกว่า สภาพร่างกายจะสมบูรณ์
 

ซีซั่นนี้ เมาท์ ก็ยังคงมีอาการบาดเจ็บรบกวนตามเดิม พึ่งได้ออกสตาร์ทตัวจริงไปเพียง6นัด เมื่อคืนก็ลงมาเป็นตัวสำรอง แทน ค็อบบี้ เมนู น.59 ซึ่ง เมสัน เมาท์ ลงมาดูจะเคลื่อนที่ได้ดี และตรงสเป็คกับ หมายเลข10 หลังกองหน้าตามแผนของ อโมริม
 

แต่ทว่า เมสัน เมาท์ ก็ยังเป็น เมสัน เมาท์ อยู่วันยังค่ำ นั่นก็คือการเป็นนักเตะ ดาดๆ ธรรมดา แข้งเบอร์7รายนี้ มีโอกาสได้ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ จากลูกหักเข้ามาของ การ์นาโช่  แต่ทว่า เมาท์ ตวัดยิงด้วยซ้ายออกไปแบบไม่ได้ลุ้น สมกับเป็นแข้งดาดๆ ช็อตดังกล่าวถึงกับเรียกเสียงโห่จากแฟนๆเลย
 

รวมถึงมีอีกจังหวะที่ อิริคเซ่น เปิดไซด์ ไปทางเสาไกล เมาท์ พยายาม พุ่งมายิงแต่บอลโดนหน้าขาตัวเองออกหลังไป ความปราชัยต่อวูล์ฟดังกล่าวเท่ากับว่า ซีซั่นนี้ แมนฯยู แพ้ในลีกไปแล้วถึง15นัด มากที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีกแล้ว แง่ดีของปีศาจแดงอย่างเดียวหลังจบเกมนี้คือ พวกเขาไม่ตกชั้นแล้ว 100% ...

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง