แมนเชสเตอร์ ไร้รสชาติ ! ผี แบ่งแต้ม เจ๊า เรือ 0-0 ฮอยลุนด์ กองหน้าซ่อนแอบ
เจอกันในสถานการณ์ที่กร่อยทั้งคู่ สำหรับ ดาร์บี้ แมตช์ เมืองแมนเชสเตอร์ เพราะนี่เป็นฤดูกาลที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หล่นจากมาตรฐานของตัวเองสุดขีด โดยการโคจรมาพบกันที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด สุดท้ายแล้วก็เป็นเกมที่จืดจืดมากๆ เพราะ 90นาที จบลงด้วยผลสกอร์ 0-0 พร้อมรูปเกมที่ชวนง่วงเหงาหาวนอนสุดๆ แนวรุกฝืดเคืองกันทั้ง2ฝั่ง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีเกม ดาร์บี้ แมตช์ ผ่าเมือง โดยที่พวกเขายังมีเกมสำคัญ ยูโรป้า ลีก รอบ8ทีมกลางสัปดาห์ แต่ถึงกระนั้นก็ดีนายใหญ่ รูเบน อโมริม ก็แทบไม่ได้โรเตชั่นนักเตะเพื่อเก็บสด แผนมาในระบบเดิมและจะไม่เปลี่ยนด้วย 3-4-2-1 ผู้รักษาประตู อ็องเดร โอนาน่า
3เซ็นเตอร์แบ็ก นุสแซร์ มาซราวี - แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และ เลนี่ โยโร่ วิงแบ็กซ้าย-ขวา แพทริค ดอร์กู กับ ดิโอโก้ ดาโล่ต์ คู่มิดฟิลด์ มานูเอล อูการ์เต้ ผนึกกำลังกับ กาเซมิโร่ 2ตัวรุกหลังกองหน้า บรูโน่ แฟร์นันเดซ กับ อเลฮานโดร การ์นาโช่ หอกตัวเป้า ราสุมส ฮอยลุนด์
ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ยังต้องให้ความสำคัญ กับการทำอันดับไปเล่นถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาในระบบ 4-2-3-1 โกล เอแดร์ซอน แผงแบ็กโฟร์ไล่จากขวาไปซ้าย มาเตอุส นูเนส - รูเบน ดิอาซ - ยอสโก้ กวาร์ดิโอ และดาวรุ่ง นิโก้ โอเรียลลี่
มิดฟิลด์คู่กลาง มัตเตโอ โควาซิซ กับ อิลคาย กุนโดกัน 3ประสานแนวรุก แบร์นาร์โด้ ซิลวา - เควิน เดอ บรอยน์ และ ฟิล โฟเด้น หน้าเป้า โอมาร์ มาร์มูซ ได้เล่นแทน เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่ส่อแววเจ็บยาว ผู้ตัดสิน จอห์น บรูคส์ เป่าเริ่มเกมมา เป็นเจ้าบ้าน ที่ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย ตั้งแต่ 1นาทีแรกเลย การ์นาโช่ เรียกฟาวล์ได้ แต่ทว่า บรูโน่ ซัดฟรีคิกไปติดกำแพง
ปีศาจแดงที่แม้จะครองบอลได้น้อยกว่า แต่จังหวะสวนของพวกเขายังได้จบ จากช็อตที่ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ไหลออกซ้ายให้ ดอร์กู วิ่งสอดเข้ามายิงแต่ซัดเหินข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น หรือก่อนหน้านั้น การ์นาโช่ ได้โหม่งแต่ว่าวไม่โดนอย่างน่าเสียดาย
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่แม้จะครองบอลมากกว่า แต่จังหวะได้เสียวของพวกเขาแทบไม่มี มีหนแรกก็จากลูกซัดไกลเรียดของ กุนโดกัน ที่หลุดเสาออกไปไม่ไกลมากนัก จบ45นาทีแรก สกอร์ยัง0-0 และรูปเกมค่อนข้างน่าเบื่อ
ครึ่งหลังเล่นไปได้ราวๆเกือบ15นาที แมนฯยู ได้ถอด แม็คไกวร์ ออกไปพักแล้วส่ง วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ลงมา แต่ทว่าก็เป็นทางฝั่งของ ซิตี้ ที่ 45นาทีหลังหาจังหวะจบได้มากกว่า โอมาร์ มาร์มูซ ที่ได้ซัดทั้งฟรีคิก และ วอลเล่ย์ แต่ทว่าบอลไม่พ้นวิธีมือของ โอนาน่า
ปีศาจแดง ที่เกมตื้อๆตันๆ แต่ทว่าก็ยังพยายามสวนกลับ อูร์กาเต้ ได้ซัดเต็มข้อแต่บอลพุ่งหลุดออกเสาไป ซึ่งการเปลี่ยนเอา โจซัว เซิร์กเซ่ ลงมาแทน ฮอยลุนด์ ทำให้เกมบุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีความประติดประต่อมากขึ้น
โดย " จารย์ดู๋ " ได้ยิงในเขตโทษจากลูกครอสมาให้ ของ ดอร์กู แต่ทว่าบอลนั้นทั้งไม่แรงและไม่มุม เอแดร์ซอน ปัดออกไปก่อนได้ไม่ยาก เมสัน เมาท์ ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง แม้จะไม่ได้มีทีเด็ดอะไร แต่ก็ดูเข้ากับแผนของ อโมริม พอสมควร
ซิตี้ ที่พยายามเจาะจากริมเส้น ส่งทั้ง เฌเรมี่ โดกู และ แจ็ค กรีลิช ลงมา แต่ทว่าก็ไม่มีพิษสงอะไร โดยเฉพาะในรายของ โดกู ที่เป็นปีกสไตล์ยึกๆยักๆ ถูกซ้อน2ตลอด ส่วน เดอ บรอยน์ ที่จะเล่นดาร์บี้แมตช์ เมืองแมนเชสเตอร์ ครั้งสุดท้าย ก็โรยราตามสังขาลจริง จบ90นาที เสมอกันไป 0-0 และเป็น ดาร์บี้เมืองแมนเชสเตอร์ ที่จืดสนิดสุดๆ
ฮอยลุนด์ กองหน้าจอมซ่อนแอบ (อยู่หลังคู่แข่ง)
อาการหนัก และ จะหนักข้อเข้าไปทุกๆนัดที่ลงสนามจริงๆ สำหรับ ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่นอกจากจะยึดถือสากกะเบือเป็นแม่แบบแล้ว เจ้าหนูแดนโคนมรายนี้ ยังจัดได้ว่าเป็นกองหน้าที่หาพื้นที่ในเขตโทษได้ห่วยบรรลัย และชอบเล่นซ่อนแอบอยู่หลังเซ็นเตอร์คู่แข่งเสมอ
ดาร์บี้ แมตช์ เมืองแมนเชสเตอร์ เมื่อคืน ก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากเดิมมากนัก สำหรับ ฮอยลุนด์ ไร้บทบาทในแนวรุก บังบอลไม่ได้ พักบอลไม่ได้ เบียดเอาชนะ รูเบน ดิอาซ ไม่ได้ หรือรวมไปจนถึงวิ่งหนีทำช่องดึงตัวประกบก็ไม่ได้อีก
นั่นจึงทำให้เราเห็นว่าเวลา แมนฯยู เปิดบอลจากริมเส้น นั้นแทบไม่ได้ลุ้นเลย เพราะ ราสมุส ฮอยลุนด์ ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ทำการ และเป็นอีกครั้งที่ ดาวยิงชาวเดนมาร์ก ไม่มีโอกาสได้จบสกอร์แม้แต่หนเดียวในเกม
สัมผัสบอลในเขตโทษ 1ครั้งถ้วน ได้จ่ายบอลน้อยนิด 9ครั้ง สัมผัสบอล15ครั้ง ทำให้ได้อยู่ในสนามแค่ 71นาที มีจังหวะหนึ่งที่ชัดเจนมากๆว่า เพื่อนร่วมทีมไม่ไว้ใจในตัว ฮอยลุนด์ เมื่อ บรูโน่ พาบอลลากจี้เข้ามาตรงกลาง แล้วจ่ายให้ ดอร์กู
ซึ่งตัวของ ฮอยลุนด์ ควรที่จะดึงตัวเองหนีตัวประกบ เพื่อให้เพื่อนร่วมทีมหักบอลย้อนกลับมา แต่เจ้าตัวกลับวิ่งตีคู่ตาม ดอร์กูไปซะงั้น เมื่อมองอย่างนี้แล้วเห็นแววที่จะพัฒนาต่อไปได้ยากจริงสำหรับ ราสมุส ฮอยลุนด์ การที่เคยฝืดยิงไม่ได้มา 21นัดติด และกดไปเพียง3ประตู จาก26นัด ก็บ่งบอกถึงความห่วยแตกซ้ำแล้วซ้ำเล่าของ ดาวยิงวัย22ปีรายนี้จริงๆ
บรูโน่ พยายามทำทุกอย่างแล้ว
สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไม่มี อาหมัด ดิยาลโล่ มาสักระยะหนึ่งแล้ว ความหวังในการทำประตู นอกจาก บรูโน่ แฟร์นันเดซ แล้ว ก็ไม่มีใครพึ่งพาได้เลย ราสมุส ฮอยลุนด์ และ โจซัว เซิร์กเซ่ ที่ค่าตัวรวมกันมากกว่า 100 ล้านปอนด์ ยิงรวมกันในลีกซีซั่นนี้ได้แค่ 6ประตูเท่านั้น
นอกจากการยิงประตูแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ กัปตันหน้าหนวดทำได้ แต่ไม่มีเพื่อนร่วมทีมปีศาจแดงรายไหนทำได้ นั่นก็คือ การสร้างสรรค์เกม หรือการจ่ายบอลจังหวะคีย์พาส ครั้นจะให้หวังพึ่งกับวิงแบ็กทั้งสองข้าง ดอร์กู - ดาโล่ต์ ก็เปิดบอลไม่แม่นเอาเสียเลย
บรูโน่ ใน ดาร์บี้ แมตช์ เมืองแมนเชสเตอร์ แทบจะเป็นทุกอย่างของทีมเจ้าบ้านเลย กำหนดจังหวะจะโคนการเล่นได้ดี บอลที่จะสวนกลับ ต้องออกมาจากเท้า บรูโน่ แฟร์นันเดซ เพียงคนเดียวทีมถึงจะได้ลุ้น เพราะนักเตะรายอื่นๆ ไม่มีใครจ่ายสไตล์คีย์พาสได้
แข้งชาวโปรตุเกส เป็นผู้บัญชาการของปีศาจแดงอย่างแท้จริง คอยกระตุ้น บอกหรือสั่งเพื่อนร่วมทีม ว่าจังหวะไหนควรบีบสูง หรือถอยลงมารับในแดนตัวเอง เรียกได้ว่าตลอด90นาทีที่อยู่ในสนามโดดเด่นกว่า เควิน เดอ บรอยน์ ที่อยู่ในช่วงโรยราเห็นๆ
อีกคนที่เล่นได้ดีในแผงกลาง ยูไนเต็ด นั่นก็คือ กาเซมิโร่ ที่ดูแข็งแกรงและอึดกว่า โควาซิซ " พี่เกษม " ตัดบอลได้อย่างแม่นยำ พยายามพาบอลขึ้นไปข้างหน้า เข้าแท็กเกิ้ลมากถึง11ครั้ง มากกว่าใครในสนาม และชนะการดวลบนพื้น12จาก13ครั้ง คอยกระตุ้นน้องๆเพื่อนร่วมทีมเสมอ
โยโร่ แววดี แต่ควรลดเรื่องการจ่ายบอลเสีย
แม้ไม่ได้ดีเพอร์เฟ็คส์มาก แต่ทว่าก็เป็นวันที่แนวรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้ไม่เลวเลย และเป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นว่า เวลาปีศาจแดงเจอทีมใหญ่แล้วเล่นระบบ3เซ็นเตอร์เตอร์ พวกเขาเอาอยู่มากๆเวลาเล่นเกมรับ ซึ่งแตกต่างจากเวลาที่ต้องเล่นเกมรุกเข้าใส่ทีมเล็กๆ แมนฯยู มักจะไร้ไอเดียทำไม่ได้
เกมรุกของ ซิตี้ เมื่อคืน ไม่ได้มีอะไรน่ากลัว อาจเพราะด้วยว่า พวกเขาไม่มีกองหน้าสไตล์สูงใหญ่อย่าง เออร์ลิง ฮาลันด์ ค้ำอยู่คอยกดดันคู่แข่งก็เป็นได้ 3เซ็นเตอร์ของเจ้าบ้านเมื่อคืนเป็น แม็คไกวร์ - โยโร่ และ มาซราวี
แม็คไกวร์ ดู กะเปิ๊บ กะป๊าป หน่อยช่วงต้นเกม ทั้งความช้า และการออกบอลที่ไม่ชัวร์ แม้จะมีความพยายามในการวางบอลยาวให้ตัวรุก ทางด้านของ มาซราวี ที่ทางบอลดูดี แต่เรื่องร่างกาย แข้งชาวโมร็อกโก ดูจะพลังงานน้อยไปหน่อย และมีบล็อกแหย่สำคัญกับลูกยิงของ โฟเด้น
เลนี่ โยโร่ แม้จะมีจังหวะจ่ายบอลพลาด แต่ภาพรวมถือว่าเป็น ดาร์บี้แมตช์ที่ดีของกองหลังชาวฝรั่งเศสรายนี้เลย ชิงตัดบอลสวยๆได้3ครั้ง อีกหนึ่งสถิติที่น่าสนใจนั่นก็คือ เมื่อคืนไม่มีผู้เล่นคนไหนของ ซิตี้ ที่เลี้ยงบอลผ่าน โยโร่ เลย
นั่นเท่ากับว่า12นัดหลังสุด เซ็นเตอร์ดาวรุ่งเลือดนำหอมรายนี้ ยังไม่ได้ปล่อยให้คู่แข่งคนไหนเลี้ยงบอลผ่านได้เลยแม้แต่หนเดียว เข้าใจว่ามีจุดเสียที่ต้องพัฒนาอีกเยอะ แต่ถือว่าเป็นแนวรับดาวรุ่งของ ยูไนเต็ด ที่มีแววจะพัฒนาได้
ดาร์บี้แมตช์ แมนเชสเตอร์ หนสุดท้าย เดอ บรอยน์
พึ่งออกมาประกาศไม่กี่วันมานี้ด้วยตัวเองเลยว่า นี่จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของตัวเองกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สำหรับ เควิน เดอ บรอยน์ เอาจริงๆ 1-2 ฤดูกาลที่ผ่านมา ก็ชัดเจนว่า KDB แม้จะยังคงมีพิษสงอยู่บ้าง แต่เจ้าตัวก็ไม่ใช่คนเก่าที่เราเคยเห็น
ทั้งในเรื่องของสภาพร่างกาย ที่เจ็บบ่อย ความฟิตที่ไม่ถึง ทำให้ฝีเท้าตกลงไปเยอะ ปรกติการเจอกับคู่ปรับร่วมเมือง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มักจะเป็นเกมที่ เควิน เดอ บรอยน์ ทำได้ดีอยู่บ่อยครั้ง แต่ทว่าเมื่อคืนนั้นไม่ใช่เลย
ด้วยวัย33ปี ทำให้ความเร็วและการทะลุทะลวง นั้นไม่ได้มีให้เห็นอีกแล้ว ลูกจ่าย คิลเลอร์พาส ไม่มีให้เห็น หรือถ้ามีก็ไม่เข้าเป้า ชัดเจนว่าพลังงานและสภาพร่างกายของ ยอดเพลย์เมคเกอร์ชาวเบลเยี่ยม ถดถอยไปตามกาลเวลาจริงๆ
ความแม่นยำในการจ่ายบอลของ เดอ บรอยน์ ลงน้อยถอยลงไปมาก แต่ถึงกระนั้นก็ดี จะโทษ KDB รายเดียวก็คงจะไม่ได้ มิดฟิลด์คู่กลางอย่าง โควาซิช และ กุนโดกัน ช้าทั้งคู่ นั่นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม กาเซมิโร่ ถึงสกัดบอลเอาชนะการดวลในแดงกลางได้บ่อย
กุนโดกัน เห็นได้ชัดว่าการกลับมาถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม หนนี้ เจ้าตัวไม่ใช่ผู้เล่นคนเดิมจริงๆ ส่วนผู้ที่ลงมาแทนอย่าง แจ็ค กรีลิช ที่จ่อจะถูกโละจากทีมจบฤดูกาลนี้ ก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไรเท่าไหร่ รวมไปจนถึง โดกู ที่ลงมาก็ยึกๆยักๆตามสูตรเดิมไม่ไปไหน
แปลกใจ เป๊ป ไม่เปิดเกมรุกจัดหนัก / ซัมเมอร์นี้ ยกเครื่อง
แม้ว่าส่อแววสูงที่ ทีมจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษจะได้โควตาไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 5ทีม แต่ทว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ก่อนเกม อยู่อันดับ5) ก็ต้องเน้นเป็นพิเศษหน่อย พราะทีมอันดับ4อย่าง เซลซี ไปสะดุดเสมอกับ เบรนท์ฟอร์ด 0-0
บวกกับว่าด้วยเรื่องของความจริงจัง โอเค แม้ว่าจะเป็นศึกดิ์ศรี แต่ทว่าด้วยความที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโปรแกรม ยูโรป้า รอบ8ทีม ที่ต้องกังวลเกมบุกไปเยือน โอลิมปิก ลียง วันพฤหัสบดี ลูกทีมของ รูเบน อโมริม ต้องแบ่งโฟกัสสมาธิไปเกมล่วงหน้าอยู่แล้ว
เพราะจะแพ้ ชนะ หรือเสมอ อันดับของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็แทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ผิดกับ เรือใบสีฟ้า ที่ต้องจบท็อปโฟร์ให้ได้กันเหนียวไว้ก่อน แถม ซิตี้ ก็ไม่มีบอลถ้วยเกมกลางสัปดาห์ ให้ต้องกังวลอีกแล้ว
แต่ทว่าพอไปวัดกันในสนามถือว่าผิดคาดเหมือนกัน เพราะเป็น แมนฯยูไนเต็ด ที่ดูมุ่งมั่นกว่ามากๆ และคู่ควรเป็นผู้ชนะมากกว่าด้วยซ้ำ ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จ่ายบอลเสียมากกว่าปรกติ แถมยังหวะจะขึงเกมรุก ก็ลำเลียงต่อบอลกันได้ช้ากว่า ฤดูกาลก่อนๆมาก
บอลเข้ากรอบ5ครั้งของ ซิติ้ ก็ไม่ได้แรงหรือหนีมือ โอนาน่า นัก จริงๆ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ยังเล่นเหมือนเดิมสไตล์เดิมนั่นแหละ แต่คุณภาพนักเตะของพวกเขาไม่เหมือนเดิม เชื่อว่าซัมเมอร์นี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะมีทั้งปล่อยและเสริมขาเข้า จัดหนักแน่
พวกที่น่าจะปลดประจำการ มีหลายรายเหลือเกินทั้ง เควิน เดอ บรอยน์ ที่ประกาศล่วงหน้าไปแล้ว แจ็ค กรีลิช -แบร์นาร์โด้ ซิลวา - อิลคาย กุนโดกัน - มัตเดโอ โควาซิซ หรือแม้กระทั่งกองหลังอย่าง จอห์น สโตนส์ และ เนธาน อาเก้