บายินดีร์ ก็ไม่ต่าง ! สาลิกา โชว์คลาส ไล่ถลุง ผี สนุก 4-1 บาร์นส์ ยิงเบิ้ล

ก่อนเกมที่จะบุกไปเยือน นิวคาสเซิ่ล ที่ฟอร์มแรงมากๆในระยะหลัง และมุ่งมั่นจริงๆที่จะทำอันดับ ไปเล่นถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็น่าจะทำให้พอรู้ชะตากรรมของตัวเองมากๆอยู่แล้วสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีโปรแกรมสำคัญ ยูโรป้า ลีก กลางสัปดาห์ เลก2กับ โอลิมปิก ลียง นั่นทำให้ รูเบน อโมริม มีการพักตัวหลักบางตำแหน่ง รวมถึง อัลตาย บายินดีร์ ได้ออกสตาร์ทเฝ้าเสา แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้ว ปีศาจแดง ก็ต้านความร้อนแรงของเจ้าบ้านไม่ไหว แพ้ไปขาดลอย 4-1

 

นิวคาสเซิ่ล ที่เอาชนะเกมลีกมา3นัดติด แต่ทว่าการดวลกับ แมนฯยูไนเต็ด เมื่อคืนพวกเขา จะไม่มี เอ็ดดี้ ฮาว คุมทีมอยู่ข้างสนาม เพราะมีอาการป่วย สาลิกาดง มาในระบบ 4-3-3 นายด่าน นิค โป๊ป แบ็กขวา คีแรน ทริปเปียร์ แบ็กซ้าย ติโน่ ลิฟราเมนโต้ คู่เซ็นเตอร์สูงใหญ่ทั้งนั้น แดน เบิร์น กับ ฟาเบียน แชร์

ขยับมาตรงที่ 3ประสานแดนกลางที่เป็นจุดแข่งอยู่กันครบทั้ง ซานโดร โตนาลี่- บรูโน่ กิมาไรส์ และ โชลินตอน ตัวรุกฝั่งซ้าย-ขวา ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ และ จาค็อบ เมอร์ฟี่ หน้าเป้า อเล็กซานเดอร์ อิซัค ฟากทีมเยือน ไร้ชื่อของ อ็องเดร โอนาน่า โกลให้โอกาส อัลตาย บายินดีร์ ลงนัดแรกในลีก เล่นในระบบ 3-4-2-1
 

3เซ็นเตอร์แบ็ก นุสแซร์ มาซราวี - วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ และ เลนี่ โยโร่ วิงแบ็กซ้าย-ขวา เจ้าหนูดาวรุ่ง แฮร์รี่ อามาสส์ ได้ออกสตาร์ท ฝั่งขวาเจ้าเก่าคนเดิม ดิโอโก้ ดาโล่ต์ มิดฟิลด์คู่กลาง คริสเตียน อิริคเซ่น ยืนกับ มานูเอล อูการ์เต้ 2ตัวรุกหลังกองหน้า บรูโน่ แฟร์นานเดซ - อเลฮานโดร การ์นาโช่ และหัวหอก โจซัว เซิร์กเซ่
 

เริ่มเกมที่ เซนต์ เจมส์ ปาร์ค มาต้องบอกว่า สาลิกาดง ก็ดุดันใส่ทีมเยือนเลย และส่อแววเหนือการเห็นๆในเรื่องของสปีดบอลและการบีบเพรสซิ่้งเร็ว ได้ลุ้นก่อนจาก จาค็อบ เมอร์ฟี่ แต่ซัดออกถากเสาไป แมนฯยู ก็ได้ลุ้นเหมือนกันจากจังหวะชิ่งกันสวยของ บรูโน่ - เซิร์กเซ่ ก่อน " อาจารย์ดู๋ " ได้จบ แต่ นิค โป๊ป ปัดข้ามคานได้

และแล้วเจ้าบ้านก็ได้เฮลั่น ทริปเปียร์ ให้บอลไปที่ อิซัค ก่อนที่ดาวยิงชาวสวีเดน จะทำเหนือ ดีดข้ามหัวแนวรับ ยูไนเต็ด ไปให้ โตนาลี่ ซัดด้วยขวาแบบบอลไม่ตกพื้น ขึ้นนำ1-0 น.24 แต่ทว่าอย่างไรก็ดีท้ายครึ่งแรก เกมสวนกับ แมนฯยู ก็มาสัมฤทธิผล ดาโล่ต์ กระชากจากแดนตัวเอง แล้วจ่ายออกขวาให้ การ์นาโช่ หลุดไปดีดสวน โป๊ป เข้าไป ตีเสมอ 1-1 น.37 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว
 

เริ่มครึ่งหลังมาไม่ทันไร นิวคาสเซิ่ล ก็มาขึ้นนำอีกหนจนได้ ลิฟราเมนโต้  กระชากผ่าน ดาโล่ต์ สบาย ปาดเสาไกลไปถึง เมอร์ฟี่ และตบเข้ากลางมาให้ บาร์นส์ พุ่งเข้าชาร์จจ่ายๆ นำ2-1 น.49 หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าบ้านก็มาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-1
 

มาซราวี พลาดครองบอลแล้วลื่น โดน ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ แย่งบอล แล้วลากไปดวลเดี่ยวกับ บายินดีร์ ยิงเข้าไปไม่เหลือ น.64 หลังจากที่โดนนำ3-1 แมนฯยู พึ่งจะได้มีโอกาสยิงเข้ากรอบครั้งแรกในครึ่งหลังจาก อูการ์เต้

และท้ายที่สุด บายินดีร์ ก็เหมือนโดน วิญญาณ อ็องเดร โอนาน่า เข้าสิง ไปออกบอลพลาดโดน โจลินตอน ดักได้โขกสวนมาให้ กิมาไรส์ ได้จับบอล แล้วยิงยัดเสาแรกเข้าไปไม่เหนือ ฉีกหนีห่าง 4-1 น.77
 

จบ90นาที เป็นชัยชนะที่ขาดลอยทั้งสกอร์และรูปเกมของ " เดอะ แมกพายส์ " พร้อมส่งสาลิกาดงเอง ขึ้นไปที่4ของตาราง ส่วนทีมของ รูเบน อโมริม ยังจมอยู่ที่14 แพ้เกมลีกไปแล้วถึง 14นัด และยังต้องมาเสีย โจซัว เซิร์กเซ่ จากอาการบาดเจ็บด้วย มีแววสูงมากๆที่้จะชวด เกมกับ ลียง ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

 

หลังแบบผี ขนมกรุบ บาร์นส์ & ลิฟราเมนโต้

ช่วงที่ แอนโธนี่ กอร์ดอน เจ็บและยังไม่ฟิตเต็มร้อยเท่าไหร่ นั่นทำให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงลากเลื้อยทางริมเส้นฝั่งซ้ายมากขึ้น ซึ่งผลงานของอดีตปีก เลสเตอร์ ซิตี้ รายนี้ ก็ทำได้ไม่เลวเลย และเมื่อคืนการได้ดวลกับ วิงแบ็กอย่าง ดิโอโก้ ดาโล่ต์ ก็เป็นเหมือนงานขนมกรุบของ บาร์นส์ เลย
 

คอมโบระหว่าง บาร์นส์ กับ ลิฟราเมนโต้ สบายๆหมูๆ ที่จะเอาชนะและเล่นงานทั้ง ดาโล่ต์ กับ มาซราวี ตลอดทั้งเกม ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ได้โอกาสยิงเพียง2ครั้ง แต่ทว่านั่นก็สามารถแปรเปลี่ยนได้เป็น 2ประตูเลย
 

ลูกแรก บาร์นส์ เข้าชาร์จแบบง่ายๆ จากลูกตบกลับมาให้ของ เมอร์ฟี่ ส่วนเม็ด2 อาศัยจังหวะผิดพลาดของ นุสแซร์ มาซราวี ที่ได้บอลพยายามเทิร์นแล้วลื่น ทำให้ ปีกเบอร์11รายนี้ ได้กระชากเข้ามายิง ความเร็วเหลือๆแนวรับปีศาจแดงไล่ไม่ทัน
 

นั่นเท่ากับว่า 4นัดหลัง ที่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในลีก ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ทำไปได้ถึง3ประตู กับอีก2แอสซิสต์ แถมยังเข้าขาได้เป็นอย่างดีกับแบ็กซ้าย ลิฟราเมนโต้ อดีตแข้งเซาธ์แฮมป์ตัน มีจังหวะกระชากพริ้วหนี ดาโล่ต์ แบบเสียเชิง กับประตู2-1
 

ติโน่ ลิฟราเมนโต้ เลี้ยงบอลผ่านผู้เล่นปีศาจแดงถึง 5ครั้ง เข้าแท็กเกิ้ลได้ถึง4หน เคลียร์บอลได้อีก2ครั้ง ภาพรวมนี่จึงเป็นเกมริมเส้นที่ดีเลย ทางฝั่งซ้าย เพราะเวลา ดาโล่ต์ เติมสูง นั้นมีพื้นที่มากมายให้ สาลิกาดง สวนกลับโจมตี
 

อามาสส์ เหมือนดีแค่หน่วยก้าน / วิงแบ็กแย่คู่

เนื่องด้วยมีเกมสำคัญ ยูโรป้า ลีก เลก2 รอบ8ทีมกับ โอลิมปิก ลียง วันพฤหัสบดี การโรเตชั่น นั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่นายใหญ่ รูเบน อโมริม ต้องเลือกทำ นั่นจึงทำให้ แพทริค ดอร์กู ถูกถอดไว้ข้างสนาม และเป็นโอกาสของ แฮร์รี่ อามาสส์ แบ็กวัย18ปี
 

โดยนี่เป็นเพียงการลงสนามในพรีเมียร์ลีก นัดที่2ของ ของ อามาสส์ เท่านั้น และเป็นการได้เล่นตัวจริงหนแรก เอาในจุดดีที่เห็นเมื่อคืนก่อน แบ็กดาวรุ่งรายนี้ มีความมุทะลุ และตั้งใจเล่นมากๆ ขยัน รูปร่างตัน จุดศูนย์ถ่วงดี
 

แต่ทว่าในเรื่องของการเติมเกมรุกแล้ว อามาสส์ ยังดูจังหวะจะโคนไม่เข้ากับเพื่อนร่วมทีมพอสมควร เพราะสังเกตุได้จากเกมรุกของปีศาจแดง ต้องไปขึ้นทางฝั่ง ดาโล่ต์ เป็นส่วนใหญ่แทน และ " พี่โล่ต" ก็ไม่ได้เติมเกมบุกดีอยู่แล้ว
 

อามาสส์ แม้จะมีความมุทะลุกล้าได้กล้าเสีย แต่ทว่าประสบการณ์และกระดูกบนเวทีใหญ่ยังน้อยไปมาก ทำให้ท้ายที่สุดแล้วเจ้าตัวได้อยู่ในสนามเพียงแค่ 55นาทีเท่านั้น ได้ผ่านบอลเพียงแค่ 15หน
 

ส่วนอีกฝั่ง ดิโอโก้ ดาโล่ต์ แม้ว่าจะเป็นคนแอสซิสต์ให้ การ์นาโช่ แต่ทว่าทั้งเกม แข้งชาวโปรตุเกสรายนี้ ก็ออกลูกมั่วเหมือนเดิม จังหวะที่ควรจะเห็นมาเติมเกมรุกกลับไม่เห็น หรือจังหวะโดนลูกสวนกลับ ดาโล่ต์ ก็หายตัวไปไหนไม่รู้
 

ที่เห็นเสียเชิงสุดๆนั่นก็คือ ช็อตประตู2-1 ที่โดนเด็กดาวรุ่งอย่าง ลิฟราเมนโต้ กระชากหนีไปดื้อๆ ซึ่งตลอดการคุมทีมของ รูเบน อโมริม ระบบ 3-4-2-1 ผู้เล่นตำแหน่งวิงแบ็กต้องรอบจัดมากๆ และนักเตะของปีศาจแดงเอง ไม่มีใครทำถึงเลย ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง

บายินดีร์ ตัวจริงครั้งแรกในลีก

น่าเหลือเชื่อเหมือนกันว่า จนจะจบฤดูกาลที่2ที่ อัลตาย บายินดีร์ ย้ายจาก เฟเนร์บาห์เช่ มายัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นี่จะเป็นการได้เฝ้าเสาในพรีเมียร์ลีกหนแรกของเจ้าตัว โดยเหตุผลที่ทำให้นายด่านชาวตุรกีลงเล่นเมื่อคืนนั่นก็คือ ความย่ำแย่ของ อ็องเดร โอนาน่า
 

สืบเนื่องมาจากความผิดพลาดแบบหมูหก อีกครั้งและอีกครั้งของ " บิ๊กโอ " คราวนี้ มันร้ายแรงถึงกับทำให้ โอนาน่า เอง ไม่มีชื่ออยู่ในทีม เพื่อเป็นการดร็อปผลงานห่วย รวมถึงมีข่าวก่อนหน้าด้วยว่า ภรรยาของ เจ้าตัวโดนดักปล้น การพักความพร้อมเรื่องสภาพจิตใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ
 

ซึ่งการได้โอกาสลงเล่นเกมแรกในลีกของ บายินดีร์ ก็เป็นของหนักเลย เพราะเจอกับนิวคาสเซิ่ล ที่ เซนต์ เจมส์ ปาร์ค จริงๆ นายด่านชาวตุรกี เริ่มต้นได้ดีนะ เพราะมีจังหวะโชว์เซฟลูกจ่อๆของ อิซัค
 

แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะทำพลาด บายินดีร์ ก็ส่อเค้าเหมือนกันในเรื่องของการจ่ายบอล เพราะเจ้าตัวออกบอลน่าหวาดเสียวเหลือเกินว่าจะโดนบีบเพรสแย่งทัน เพราะช้า และสเต็ปเท้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่
 

จนท้ายที่สุดแล้ว บายินดีร์ ฝีก็มาแตกจนได้ ทางเลือกในการออกบอลมีเยอะแยะ กลับไปตักเข้ากลาง และไปโดยหัว โชลินตอน เด้งมาเข้าทาง กิมาไรส์ ได้จับบอลยิงเสียบเสาแรกเข้าไปง่ายๆ 4-1 ซึ่งพอเห็นฟอร์มของ บายินดีร์ เมื่อคืน น่าปวดหัวแทน รูเบน อโมริม เหมือนกันว่า เกมเลก2กับ ลียง จะเลือกใครเฝ้าเสาเป็นตัวจริง เพราะต่างแสดงความผิดพลาดออกมาทั้งคู่เลย
 

กลางสาลิกาพลังล้น โตนาลี่ กินเรียบ

จุดเด่นของ นิวคาสเซิ่ล ในฤดูกาล2024-2025 หรือเอาในช่วง 1-2ปีที่ผ่านมา นอกจากพวกเขาจะมีตัวชูโรง ดาวยิงตีนระเบิดอย่าง อเล็กซานเดอร์ อิซัค แล้ว กองกลางของทีมดังแดนอีสาน นั้นก็ได้รับคำชมมาโดยตลอด เช่นกัน
 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เล่นในระบบ 3-4-2-1 ทำให้พวกเขามีมิดฟิลด์เพียงแค่2คน และเมื่อคืนนั่นก็คือ มานูเอล อูการ์เต้ กับ คริสเตียน อิริคเซ่น ซึ่ง อูการ์เต้ เอง ก็ต้องเล่นยากตั้งแต่ต้นเกมเลย เพราะได้รับใบเหลืองตั้งแต่ น.16
 

โดยที่ อิริคเซ่น ด้วยวัยและสังขาร ทำให้จะไปแย่งบอลไล่บอล ก็ทำไม่ได้อยู่แล้ว นั่นทำให้ทั้งเกม จุดยุทธศาสตร์แดนกลางเป็นของ นิวคาสเซิ่ล ที่เก็บกินเรียบ บรูโน่ กิมาไรส์ - โชลินตอน และ ซานโดร โตนาลี่ เรื่องพลังงาน ความฟิต ไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้ว
 

3มิดฟิลด์ของสาลิกา ช่วยกันบดบี้ เพรสซิ่ง จนพื้นที่ตรงกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำอะไรไม่ได้ใน45นาทีหลัง โดยเฉพาะในรายของ ซานโดร โตนาลี่ เมื่อพ้นโทษแบนการพนันกลับมา ก็ไม่ได้ปล่อยให้ฟอร์มการเล่นดีๆหายไปไหน
 

กองกลางทีมชาติอิตาลี ซัดประตูสุดสวยแบบไม่ต้องจับ ให้ทีมขึ้นนำ1-0 การผ่านบอลแม่นยำ ถึง91เปอร์เซ็นต์ การวิ่ง การเพรสซิ่งของเหล่ามิดฟิลด์นิวคาสเซิ่ล แค่นี้ก็ทำให้นักเตะปีศาจแดง ที่แพ้บอลสไตล์นี้ทำอะไรไม่ถนัดอยู่แล้วเข้าไปใหญ่

 

อโมริม ที่มากกว่าความพ่ายแพ้

เอาจริงๆก่อนมาเยือน เซนต์ เจมส์ ปาร์ค แฟนบอลปีศาจแดง ก็น่าจะพอรู้ชะตากรรมตัวเองอยู่บ้างว่าจะกลับออกมาในสภาพไหน เพราะเจ้าบ้านมาแรงเหลือเกิน บวกมีความมุ่งมั่นมากๆที่จะทำอันดับไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แม้ว่าพวกเขาจะไม่มี เอ็ดดี้ ฮาว ที่ป่วย คุมทีมอยู่ข้างสนามก็ตาม
 

บวกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีเกมสำคัญ ยูโรป้า ลีก รอบ8ทีม กับ โอลิมปิก ลียง กลางสัปดาห์ ทำให้ กุนซือ รูเบน อโมริม มีการพักตัวหลักบางราย อย่าง แพทริค ดอร์กู - แฮร์รี่ แม็คไกวร์ รวมไปจนถึง กาเซมิโร่
 

ครึ่งแรกแม้รูปเกมจะเป็นรองแต่ ปีศาจแดงแดง ทำได้ดีกับจังหวะสวนกลับทำให้ สกอร์เจ๊ากันอยู่ที่ 1-1 ซึ่งสุดท้ายด้วย ทีมเวิร์ค ระดับนักเตะ และความมุ่งมั่นที่ต่างกัน สกอร์90นาที จึงออกมาเละเทะ4-1
 

และก็เป็นอย่างที่ รอย คีน บอกหลังเกมว่า นักเตะชุดนี้อ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ ความเสียหายไปปีศาจแดง เมื่อคืนไม่ใช่ที่ความพ่ายแพ้หรอก แต่เป็นสภาพนักเตะมากกว่า ตัวหลักเหมือนลงไปเหนื่อยฟรีทั้ง บรูโน่ แฟร์นันเดซ - อเลฮานโดร การ์นาโช่
 

ส่วน บายินดีร์ ก็ไม่รู้ว่าจะเสียความมั่นใจไหม นุสแซร์ มาซราวี ก็เช่นกัน ดาวรุ่งอย่าง แฮร์รี่ อามาสส์ ก็ยังชั้นไม่ถึง ทำให้ถูกเปลี่ยนตัวออกเร็ว หรือหากจะเลือกพักนักเตะ บรูโน่ ที่กว่าจะถอดออก ก็ปาเข้าไป น.82 แล้ว
 

ที่สำคัญที่สุดคือ โจซัว เซิร์กเซ่ ที่ดูมีประโยชน์กับทีมมากกว่า ฮอยลุนด์ ระยะหลัง มีอาการบาดเจ็บ (คาดว่าจะเป็น แฮมสตริง) จนต้องถูกเปลี่ยนตัวออก มีสิทธิสูงมากๆ ที่จะลงไม่ได้นัดกับ ลียง แถมมีแววจะปิดเทอมเหมือนกัน
 

ความปราชัย 1-4 ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังมีอยู่เพียง 38แต้มจาก 32นัด เท่ากับว่า แม้อีก6นัดที่เหลือพวกเขาจะสร้างปาฎิหารย์ ชนะรวด ก็จะมีเพียง 56 แต้ม ซึ่งจะเป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดของพวกเขาในยุคพรีเมียร์ลีก ของฤดูกาล 2021-2022 ที่มี 58แต้ม