หงส์ รอแค่แชมป์ทางการ ! ปืน สะดุดอีก บุกเจ๊า ทอฟฟี่ 1-1 เอ็นดิอาย กดโทษ

หงส์ รอแค่แชมป์ทางการ ! ปืน สะดุดอีก บุกเจ๊า ทอฟฟี่ 1-1 เอ็นดิอาย กดโทษ


ต้องบอกว่าหมดลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกกับลิเวอร์พูลในเชิงปฎิบัติมาสักระยะหนึ่งแล้วสำหรับ อาร์เซน่อล เพราะในขณะที่พวกเขามีสถานะเป็นผู้ท้าชิง ปืนใหญ่สะดุดเป็นระยะๆบ่อยเหลือเกิน จนจำนวนแต้มเริ่มทิ้งห่างเป็นสองหลัก ล่าสุด " เดอะ กันเนอร์ส " ก็ดร็อปแต้มตัวเองอีกครั้ง ด้วยการทำได้เพียงแค่บุกไปเสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 ทำให้ ทีมของ มิเคล อาร์เตต้า ยังตามหลังหงส์แดงมากถึง11แต้ม แถมอาร์เซน่อล เอง ยังแข่งมากกว่าอีก1นัดอีกด้วย

 

อาร์เซน่อล เอง ที่มีเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ8ทีมสุดท้ายกลางสัปดาห์ ทำให้ในลีกที่ต้องยกพลไปเยือน กูดิสัน ปาร์ค พวกเขาก็ได้มีการ โรเตชั่นนักเตะบางตำแหน่ง มิเคล อาร์ตต้า มาในระบบ 4-3-3 นายด่าย ดาบิด ราย่า - แผงแบ็กโฟร์ไล่จาก ขวาไปซ้าย เบน ไวท์ - วิลเลี่ยม ซาลิบา - ยาคุบ คิวิออร์ และ ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่
 

แดนกลาง เดแคลน ไรซ์ - จอร์จินโญ่ และ มิเกล เมรีโน่ 3ประสานแดนบน ราฮีม สเตอร์ลิง - อีธาน เอ็นวาเนรี่ หน้าเป้า เลอันโดร ทรอสซาร์ ฟากเจ้าบ้านเอฟเวอร์ตัน แม้จะพึ่งบุกไปแพ้ลิเวอร์พูล มา1-0 แต่ทว่าผลงานตั้งแต่ เดวิด มอยส์ มาคุม พวกเขาไม่ค่อยแพ้ใคร

ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เล่นในระบบเก่ง 4-2-3-1 นายด่าน จอร์แดน พิคฟอร์ด แบ็กซ้าย-ขวา นาธาน เพตเตอร์สัน กับ เจค โอไบรอัน คู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟ เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ ยืนกับ จาร์แร็ด แบรนธ์เวต มิดฟิลด์ ทิม อิโรกบูนัม ผนึกกำลังกับ อิดริสซ่า กาน่า เกย์ โดยมี อับดูราย ดูกูเล่ ยืนสูงคล้ายเพลย์เมคเกอร์
 

ตัวรุกฝั่งขวา-ซ้าย แจ็ค แฮร์ริสัน และ อิลิมาน เอ็นดิอาย หน้าเป้า เบโต้ เริ่มเกมมาเป็น ปืนใหญ่ที่เหนือกว่า สเตอร์ลิง ได้มีโอกาสยิงตั้งแต่ตั้นเกม แต่ อิโรกบูนัม มาขวางทางไว้ได้ และแล้วจากจังหวะสวนกลับ ทีมเยือนก็มาสัมฤทธิผลจนได้
 

อาร์เซน่อล ที่หลุดมา2คน กับแนวรับเจ้าบ้าน4คน สเตอร์ลิง จ่ายให้ ทรอสซาร์ จับบอลแล้วลากเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย มุมแทบไม่มี แต่ดาวเตะชาวเบลเยี่ยม ทั้งยิงเร็วและคม เสียบมุมผ่าน พิคฟอร์ด เข้าไป ขึ้นนำ 1-0 น.34

ทีมของ มอยส์ ก็มีลุ้นตีเสมอเหมือนกัน จากลูกโขกตามน้ำของ โอไบรอัน แต่ไม่ตรงกรอบ ท้ายครึ่งแรก ปืนใหญ่ ก็น่าได้เม็ดสอง จากจังหวะสวน ทรอสซาร์ (เจ้าเก่า) ลากหนี ทาร์คอฟสกี้ ได้ไปดวลกับพิคฟอร์ด แต่โกลมือ1ทีมชาติอังกฤษรายนี้ ยังป้องกันไว้ได้ จบ45นาทีแรก จึงเป็นทีมเยือนบุกมานำ 1-0
 

เริ่มครึ่งหลัง ทั้งที่รูปเกมยังดีกว่า แต่ทว่า มิเคล อาร์เตต้า กลับเลือกเปลี่ยนเอาตัวหลักลงมาเลยทั้ง บูกาโย่ ซาก้า และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ลงมาแทน เอ็นวาเนรี่ และ สเตอร์ลิง แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม เอฟเวอร์ตัน ก็มาได้จุดโทษจนได้
 

ลูอิส-สเกลลี่ แบ็กดาวรุ่งไปเสียเหลี่ยมคว้าดึง แฮร์ริสัน ในเขตโทษ ผู้ตัดสิน ดาร์เรน อิงแลนด์ นกหวีดหวานไปหน่อย เป่าเป็นจุดโทษทันที และก็เป็น เอ็นดิอาย สังการเข้าไปง่ายๆ เพราะ ราย่า เลือกอ่านทางพุ่งไปก่อนผิดทาง ตีเสมอ 1-1 น.49

พอตีเสมอได้เจ้าบ้านเหมือนได้กำลังใจ และเกือบจะแซงขึ้นนำจากลูกยิงของ ดูกูเร่ แต่ติดเซฟ ราย่า ส่วนอาร์เซน่อล มีโอกาสขึ้นนำอีกครั้งสุดๆ จากลูกยิง ของ โอเดการ์ด จ่อๆในเขตโทษ จากจังหวะกระชากไปสุดริมเส้นแล้วเปิดมาให้ของ มาร์ติเนลลี่ แต่ทว่าเพลย์เมคเกอร์ชาวนอร์เวย์ ยิงไม่ดีผิดเหลี่ยม แฉลบเท้าอีกข้างของตัวเองออกหลังไป
 

อาร์เซน่อล น่าได้ประตูชัยสุดๆ จากจังหวะได้ซัดเต็มแรงของ มาร์ติเนลลี่ แต่ทว่า พิคฟอร์ด เหาะเหินเดินอากาศบินเซฟปัดออกไปได้สวยงามสุดๆ รวมถึงท้ายเกม เมรีโน่ ได้โขกแต่ไม่ตรงกรอบ ทำให้จบ90นาที เสมอกันไป 1-1
 


ทรอสซาร์ ชอบลูกยาก เสียดายจังหวะฝืนไม่เอาจุดโทษ



เวลาคาดหวังมักจะทำไม่ได้ แต่เวลาไม่คาดหวังมักจะทำได้ดีเกินคาด นี่คือ เลอันโดร ทรอสซาร์ ในฤดูกาล 2024-2025 นี้ โดยนัดนี้ แข้งชาวเบลเยี่ยมถูกขัดตราทัพไปเล่นเป็นกองหน้า และสถิติก่อนเกมกับเอฟเวอร์ตัน ทรอสซาร์ ยิงประตูในลีกไม่ได้มา9นัดแล้ว หนสุดท้าย เกิดขึ้นวันที่ 15 มกราคม ที่เสมอกับ สเปอร์ส 1-1

 

แนวรุกที่ออกสตาร์ทของปืนโตมาเมื่อคืน ต้องบอกว่าเป็น ทรอสซาร์ นี่แหละที่เข้าท่าสุด ประตูขึ้นนำ1-0ที่ เลอันโดร ทรอสซาร์ กดได้ ต้องบอกว่าไม่ใช่ลูกที่ง่ายเลย เพราะ ราฮีม สเตอร์ลิง ถือว่าจ่ายช้าไปแล้ว
 

แต่ ทรอสซาร์ ก็ยังลากจี้ต่อไปในเขตโทษ มุมแทบไม่มี เพราะโดนประกบอยู่2 แต่ทว่า ตัดสินใจยิงเร็วหนีมือ พิคฟอร์ด เสียบมุมเข้าไป ที่จริงอดีตแข้งไบร์ทตันรายนี้ เกือบจะมีบวกเม็ดที่2ให้ตัวเองเหมือนกัน เพราะมีจังหวะกระชากหลุด เจมส์ ทาร์คอฟสกี้
 

ทาร์คอฟสกี้ ที่เสียท่าแล้ว พยามเสียบ หาก ทรอสซาร์ เก๋าหน่อย สามารถลากขาไปโทษแล้วให้ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษได้เลย แต่เจ้าตัวเลือกไปต่อ และจิ้มไปติดเซฟ พิคฟอร์ด ที่ออกมาปิดมุมเร็ว
 

เลอันโดร ทรอสซาร์ มีบทบาทเป็นอย่างมากในเกมรุกอาร์เซน่อล เรียกฟาวล์ได้ถึง4ครั้ง ผ่านบอลแม่นยำ90 เปอร์เซ็นต์ ไม่แปลกใจเลยกับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ แต่ทว่าอย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงประตูที่5ในพรีเมียร์ลีก ในซีซั่นนี้ของเจ้าตัวเท่านั้น
 


ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่ เสียเหลี่ยม + เปา นกหวีดหวาน



เป็นหนึ่งในการค้นพบแข้งดาวรุ่งที่ยอดเยี่ยมของ อาร์เซน่อล ในฤดูกาลนี้เลยสำหรับเจ้าหนู ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่ เพราะได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอให้กับปืนโตในระยะหลัง แถมยังก้าวไปติดทีมชาติอังกฤษและทำประตูได้ด้วย

 

แบ็กซ้ายคือตำแหน่งถนัดของเจ้าตัว เมื่อคืนก็ได้ลงเล่นในตำแหน่งดังกล่าว ลูอิส-สเกลลี่ ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ในเรื่องของการรู้แผนเข้าระบบของ มิเคล อาร์เตต้า แถมยังเป็นแบ็กที่เล่นเกมรุกได้ดีคนหนึ่ง
 

แต่ทว่าเมื่อคืนกับเอฟเวอร์ตัน เจ้าหนูวัย18ปีรายนี้ เหลี่ยมบอลชั้นเชิงบอล ยังถือว่าน้อยและด้อยประสบการณ์ไปหน่อย เพราะเป็นคนทำให้ทีมเสียจุดโทษจากจังหวะไม่น่าเสีย เพราะไปเหนี่ยวดึงกันกับ แจ็ค แฮร์ริสัน
 

ก่อนที่จะเป็น แฮร์ริสัน ที่เก๋ากว่าทิ้งตัวลงในเขตโทษ บวกกับผู้ตัดสิน ดาร์เรน อิงแลนด์ นกหวีดหวาน เป่าเป็นจุดโทษ และทีมงาน VAR ก็ไม่ได้ท้วงอะไร กลายเป็นจุดโทษและ เอ็นดิอาย สังหารเข้าไปไม่ยาก
 

ความผิดพลาดที่เกิดจากการขาดประสบการณ์หรือความเก๋า ไม่ใช่ว่าเกิดขึ้นครั้งแรกกับ ลูอิส-สเกลลี่ ในเกมพรีเมียร์ลีกที่แพ้ เวสต์แฮม คาบ้าน 0-1 ก็เป็นเจ้าหนุ่มวัยรุ่นคนนี้แหละที่โดนใบแดง กับการพยายามไปตัดฟาวล์ช็อตกำลังหลุดเดี่ยว ทั้งที่น่าจะมีตัวซ้อนทัน
 

หรือในเกม ยูซีแอล ที่บุกไปถล่ม พีเอสวี 7-1 ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่ ก็ไปเข้าบอลน่าเกลียดมากๆ แต่ทว่าโชคดีที่โดนแค่ใบเหลือง เล่นเอา มิเคล อาร์เตต้า ต้องรีบถอดเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ น.35 เลย
 


พิคฟอร์ด หนึบ แบรนธ์เวต แข็งแกร่ง

เอฟเวอร์ตัน ที่เมื่อคืนโอกาสเข้าทำจ่อๆมีไม่มากนั่น เท่ากับว่านักเตะที่โดดเด่นของพวกเขาก็ต้องเป็นผู้เล่นในเกมรับอยู่แล้ว จาร์แร็ด แบรนธ์เวต ที่ต้นฤดูกาลออกทะเลหน่อย แถมยังมีอาการบาดเจ็บอยู่เป็นระยะ และก็ค่อยๆดีขึ้นนับตั้งแต่ เดวิด มอยส์ มาคุมบังเหียน
 

ประตูที่เสียต้องให้เครดิตคนยิง อย่าง ทรอสซาร์ จริงๆ แต่ทว่านอกจากนั้นในแนวรับ แบรนธ์เวต ก็ช่วยทอฟฟี่สีน้ำเงินได้หลายครั้ง และที่เข้าตาสุดๆเห็นทีจะเป็น การเทกตัวสูง โขกสกัดลุกเตะมุมของ อาร์เซน่อล ที่ผ่านมือ พิคฟอร์ด กำลังจะไปเข้าหัว คิวิออร์
 

รวมไปจนถึงก่อนเสียประตูแรก กองหลังทีมชาติอังกฤษรายนี้ ก็สกัดบอลจังหวะหลุดมาฝั่งซ้ายของ ทรอสซาร์ ได้อย่างแม่นยำ 90นาที ที่ได้อยู่ในสนาม แบรนธ์เวต เคลียร์บอลได้ถึง 9ครั้ง
 

ส่วน ฮีโร่อีกคนของ เอฟเวอร์ตัน ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นายด่านตัวเก่งอย่าง จอรแดน พิคฟอร์ด นั่นเอง นัดนี้ โกลมือ1ทีมชาติอังกฤษ มีเซฟเข้าตาจังๆ3หน ทั้งจังหวะออกมาปิดมุมลูกหลุดเดี่ยวของ ทรอสซาร์
 

ไม่หลงตำแหน่งกับลูกฟรีคิกเต็มแรงของ ไรซ์ รวมถึงจังหวะลากจากด้านซ้าย เข้ามายิงด้วยขวาเต็มแรงของ มาร์ติเนลลี่ แต่ พิคฟอร์ด บินเหาะเหินเดินอากาสปัดออกไปได้แบบน่าเหลือเชื่อ เห็นทอฟฟี่อยู่อันดับไกล15ของตาราง แต่ทว่าพวกเขาเสียไปเพียง38ประตู ในลีกเท่านั้น แถม จอร์แดน พิคฟอร์ด ก็ยังเก็บไปได้ถึง 9คลีนชีต

 

คิวิออร์ ดีเกินคาด อาจได้ลุ้นลงตัวจริงเกมชุดขาว

ด้วยความที่ กาเบรียล มากัลเญส บาดเจ็บแฮมสตริง และต้องผ่าตัดปิดเทอมยาว นั่นทำให้ อาร์เซน่อล ต้องเลือกใช้ ยาคุบ คิวิออร์ ยืนในตำแหน่งเซ็นเตอร์ร่วมกัน วิลเลี่ยม ซาลิบา ซึ่งเชื่อว่าแฟนบอลปืนใหญ่ หัวใจตุ้มๆต่อมๆเหมือนกัน กับการเห็นกองหลังชาวโปแลนด์ลงสนาม
 

แต่ถึงกระนั้นก็ดี 90นาทีที่ กูดิสัน ปาร์ค ยาคุบ คิวิออร์ ทำได้ดีเกินคาดมากๆ เป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีของ วิลเลี่ยม ซาลิบา ช่วยกันประกบติด เบโต้ ให้กระดุกกระดิกไม่ออกไร้พิษสง ลูกกลางอากาศ2เซ็นเตอร์ปืนโต เก็บกินเรียบ
 

คิวิออร์ ครึ่งแรกมีจังหวเข้าบล็อคสวยๆกับลูกยิงในเขตโทษของ เอ็นดิอาย แถมท้าย45นาทีแรก กองหลังชาวโปลิส ได้โชว์วิสัยทัศน์วางบอลยาวให้ ทรอสซาร์ ได้หลุดไปดวลกับ พิคฟอร์ด อีกด้วย
 

ทางฝั่ง ซาลิบา ก็เล่นได้กับเป็นเสาหลักในเกมรับ คอยบัญชาการจัดระเบียบแผงหลัง ไม่มีปัญหาเลยกับการรับมือหอกร่างยักษ์ เบโต้ แนวรับทีมชาติฝรั่งเศส โดดเด่นเรื่องลูกกลางอากาศ และเคลียร์บอลไปมากถึง 9ครั้ง
 

นั่นทำให้เกมกับ เรอัล มาดริด อาจทำให้ มิเคล อาร์เตต้า ต้องคิดหนักแล้วว่า ใครจะได้ยืนเป็นเซ็นเตอร์ ร่วมกับ วิลเลี่ยม ซาลิบา เพราะช้อยส์ยังมีความเป็นไปได้ทั้ง คิวิออร์ หรือจะขัดตราทัพ เอา เบน ไวท์ หรือไม่ก็ เยอร์เรี่ยน ทิมเบอร์ (ที่เล่นได้อยู่แล้ว) มาเล่น
 


อาร์เตต้า กั๊กๆว่า จะโรเตชั่น นักเตะดีไหม

ก่อนเกมที่จะยกพลมาเยือน กูดิสัน ปาร์ค ในทางทฎษฎี อาร์เซน่อลยังมีลุ้นแชมป์อยู่ เพราะตามหลังลิเวอร์พูล 12 แต้ม ในขณะที่เหลือโปรแกรมการแข่งขันอีก8นัด แต่ทว่าในทางปฎิบัตินั้น ปืนใหญ่แทบจะหมดสิทธิไปแล้ว ตั้งแต่นัดที่สะดุดแพ้คาบ้าน ต่อ เวสต์แฮม 0-1
 

ซึ่งความหวังโทรฟี่แชมป์ ถ้วยเดียวที่เหลืออยู่ของ " เดอะ กันเนอร์ส " ตอนนี้ นั่นก็คือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และที่ขวางทางพวกเขาอยู่ในรอบ8ทีม นั่นก็คือราชาของถ้วยนี้อย่าง เรอัล มาดริด
 

โดยเกมกับ เอฟเวอร์ตัน เหมือนกุนซือ มิเคล อาร์เตต้า จะยังสับสนหรือกั๊กๆหน่อยว่า จะโรเตชั่นพักนักเตะดีไหม มาร์ติน โอเดการ์ด - บูกาโย่ ซาก้า รวมไปจนถึง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ได้พักแต่ทว่าออกสตาร์ทครึ่งหลังทั้งที่นำอยู่ " พี่ต้า " กลับเลือกส่งทั้ง ซาก้า และ มาร์ติเนลลี่ ลงมาเลย
 

แถม20นาที สุดท้าย โอเดการ์ด ก็ถูกหยอดส่งลงสนามอีกราย ซึ่ง อาร์เตต้า ต้องเข้าใจอยู่แล้วว่าเจ้าบ้านเอฟเวอร์ตัน เป็นทีมที่เล่นหนักเล่นแรงอยู่แล้ว ทำให้เราได้เห็น ซาก้า โดนไล่เตะเมื่อถูกส่งลงมา
 

จริงๆเมื่อคืน แม้จะแพ้หรือชนะ ก็แทบไม่ได้ทำให้สถานการณ์ลุ้นแชมป์เปลี่ยนอะไร ผลเสมอ สิ่งที่แย่กว่าก็คือ บรรดาแข้งตัวหลักได้ลงมาเหนื่อยฟรี ไม่ได้เก็บสดไว้เต็มที่ในการบู๊กับ เรอัล มาดริด การตัดสินใจกั๊กๆจับปลา2มือแบบนี้ อาจทำให้ปืนใหญ่ ไร้แชมป์เป็นฤดูกาลที่5ติดต่อกันก็เป็นได้

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง