กลางปล่อยผ่านตลอด ! ผี ประเดิมหืดจับ เชือด วูล์ฟ 1-0 วาราน โขกชัย
เริ่มไปแล้วสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับการออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ 2023-2024 โดยเกมนัดแรกพวกเขาได้เล่นใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับทีมที่พึ่งมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้จัดการทีม และมักจะเล่นดีตลอดเวลาที่ดวลกับปีศาจแดง นั่นก็คือ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ ซึ่งสุดท้ายแล้ว แม้ว่าลูกทีมของ เอริก เทน ฮาก จะไม่ได้มีรูปเกมที่ดีเท่าไหร่ แต่ก็ยังเฉือนเอาชนะไปได้ 1-0
ยูไนเต็ด มาในระบบที่คุ้นเคย 4-2-3-1 11ผู้เล่นตัวจริงก็เป็นไปตามที่คาดไว้ ตำแหน่งแบ็กขวา เป็น อารอน วาน- บิสซาก้า ที่ได้ลงตัวจริงก่อน ดิโอโก้ ดาโล่ต์ ที่โชว์เหวอในเกมอุ่นเครื่อง ส่วนแนวรุกฝั่งซ้าย เป็นเด็กดาวรุ่งอย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ ตัวจริง พร้อมขยับ มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นหน้าเป้า
ส่วน วูล์ฟแฮมป์ตัน ก่อนพรีเมียร์ลีกเริ่มไม่กี่สัปดาห์ พวกเขาก็มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้จัดการทีมจาก จูเลน โลเปเตกี มาเป็น แกรี่ โอนีล ผู้ซึ่งพึ่งถูกบอร์นมัธไล่ออกหลังจบฤดูกาล โดยการมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หมาป่า มาในระบบ 4-4-2
ก่อนเกมแม้จะถูกมองว่าเป็นต่อพอสมควร สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ทว่าเมื่อเป่านกหวีดเริ่มเกมแล้ว ปีศาจแดง เล่นได้อย่างน่าส่ายหัวมากๆ ต่อบอลไม่แม่น นักเตะเหมือนไม่มีความฟิต ไร้ไอเดียในการเข้าทำในจังหวะสุดท้าย และเป็นผู้มาเยือนที่ทำได้น่าประทับใจกว่า
ทีมดังย่านมิดแลนด์อาศัยแท็กติกเกมสวนกลับ เล่นงาน ยูไนเต็ด ได้ตลอด โดยเพราะการโจมตี ลากบอลจากแดนกลางที่ผ่านแผงมิดฟิลด์อย่าง กาเซมิโร่ หรือ เมสัน เมาท์ ตลอด จนทำให้ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ต้องโดนใบเหลือง ตั้งแต่ น.17 ก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 0-0
ออกสตาร์ทครึ่งหลัง กุนซือ เอริก เทน ฮาก เลือกตัดไฟตั้งแต่ต้นลมไว้ก่อน เพราะด้วยรูปเกม "ลิชา " มีโอกาสที่จะโดนเหลือง2 เป็นใบแดง วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ จึงถูกส่งลงมาแทน แต่ทว่ารูปเกมโดยรวมของ แมนฯยู ยังไม่ได้ดีขึ้น แถมเกือบโดนก่อนด้วยซ้ำจากจังหวะสวนกลับ แต่บรรดาแนวรุกวูล์ฟ ไม่เฉียบคมกันไปเอง
จนท้ายที่สุดแล้ว ปีศาจแดงก็มาได้ประตูชัยที่ต้องการ จากการตักเข้ามาด้านในของ วาน-บิสซาก้า และก็เป็น ราฟาเอล วาราน โถมโขกเข้าไป 1-0 น.76 ซึ่งหลังจากได้ประตูขึ้นนำ พลพรรคหมาป่าก็จำเป็นต้องเปิดเกมบุกเข้าใส่มากกว่าเดิมอยู่แล้ว และน่าจะทำให้เข้าทางเจ้าบ้านมากขึ้น
แต่ทว่าเมื่อ วูล์ฟ เร่งเครื่องบุกเข้าใส่ แมนฯยู ลูกทีมของ เทน ฮาก กลับแทบไม่ได้โต้ตอบสวนกลับแบบได้น้ำได้เนื้อเลย เป็นผู้มาเยือนที่ครองเกมบุกเข้าใส่เป็นระลอก ดีที่ได้ อ็องเดร โอนาน่า เซฟไว้ รวมถึงทีมหมาป่าเองก็ยิงนกตกปลาไปเองด้วย จบเกม90นาที (+7) แม้จะรูปเกมไม่สวยหรู แต่ทว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ประเดิมฤดูกาลใหม่ 2023-2024 ด้วย3แต้ม
เกิดอะไรขึ้นกับ กาเซมิโร่ กลางผ่านตลอด
ช่วงปิดฤดูกาลไปและมีการเรียกเข้าแคมป์ปรี-ซีซั่น ใหม่ๆ เราได้เห็น กาเซมิโร่ มารายงานตัวกับทีม พร้อมสภาพที่ตุ้ยนุ้นกว่าเดิมพอสมควร ซึ่งอาจจะเกิดจากการพักผ่อนและกินดื่มมากไปหน่อย รวมถึงในช่วงปรี-ซีซั่น ก็มีบางแมตช์ที่ "พี่เกษม" ดูช้าไปจริงๆ
การเจอกับวูล์ฟแฮมป์ตัน เมื่อคืน น่าจะทำให้แฟนผีเกิดเดจาวู ภาพจำคู่กลาง สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์ กับ เฟร็ด อยู่ไม่น้อย นั่นเป็นเพราะ เกมที่ทะลุจากตรงกลางของทีมยืน ทางโล่งทางสะดวกตลอด ไร้ผู้ชะลอเกมตัดเกม ทำให้เซ็นเตอร์ ต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากหลายครั้ง
กาเซมิโร่ ในวัย31ปี ดูอืดและช้าไปมากๆ จังหวะเข้าปะทะแย่งเบียดเป็นรองผู้มาเยือนตลอดเลย ตัดเกมไม่อยู่ รวมไปจนถึงการยืนตำแหน่งตรงกลางมักจะผิดที่ผิดทางตลอด ยิ่งช่วยท้ายเกมจะเห็นได้ว่ามิดฟิลด์แดนแซมบ้าเรี่ยวแรงหมดลงชัดเจน
สิ่งที่แฟนบอลในสนามเห็นซ้ำกันคือ การที่ กาเซมิโร่ โดนเผาเครื่องโดยนักเตะวูล์ฟที่เร็วกว่าคล่องกว่า วิ่งสปีดหนีไป โดยเฉพาะกับในรายของ มาเธอุส กุนญ่า ที่ฉายฟอร์มดีมากๆในนัดนี้ กระชากเลี้ยงผ่านผู้เล่นแมนยูเป็นกรวยจราจร หลายราย
ฤดูกาล 2022-2023 ที่ผ่านมา กาเซมิโร่ ก็มีช่วงที่ฟอร์มแปลกๆไปเหมือนกัน หลังกลับมาจากโทษแบน 4นัด ก่อนจะมาเร่งฟอร์มได้ในช่วงท้ายฤดูกาล อีกจุดหนึ่งที่น่าสังเกตคือ การที่ กาเซมิโร่ ฟอร์มตกนั่นเป็นเพราะอายุเยอะขึ้นและลงเล่นกรำศึกมาอย่างหนักรึเปล่า? เพราะ9ฤดูกาลกับ เรอัล มาดริด เจ้าตัวไม่เคยได้ลงเล่น ถึง50นัดเลย แต่ทว่าซีซั่นที่แล้วฟาดไปถึง 51แมตช์ด้วยกัน
เมาท์ ธรรมดาเกิน นัดนี้มีประโยชน์แค่วิ่ง
การย้ายมาด้วยค่าตัว60ล้านปอนด์ พร้อมได้สวมเสื้อเบอร์สำคัญหมายเลข7 เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ถูกคาดหวังสำหรับ เมสัน เมาท์ โดยจะนับตั้งแต่ปรี-ซีซั่น ต้องบอกว่า อดีตแข้งลูกหม้อเซลซีรายนี้ ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมีฟอร์มที่น่าประทับใจ หรือโชว์จุดเด่นอะไรเลย แถมยังมียิงแป๊กพลาดง่ายๆ เกมอุ่นเครื่องกับล็องส์
กับ วูล์ฟแฺฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ เมื่อคืน เมาท์ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในระบบ 4-2-3-1 โดยยืนคู่กับ กาเซมิโร่ ซึ่งผลลัพธ์ผลงานของ เมสัน เมาท์ ก็โชว์ออกมาให้เห็นกับรูปแบบที่เกมตรงกลางของผู้มาเยือนผ่านไปถึงแนวรับ แมนฯยู สะดวกสบายนักแล
เอาในเรื่องของเกมรุก แข้งวัย24ปี ไม่มีไอเดียที่สร้างสรรค์ในการจ่ายบอลเลย หน้าที่การทำเกมรุกจ่ายบอลคีย์พาสจึงตกเป็นของ บรูโน่ แฟร์นันเดซ (ที่นัดนี้เล่นไม่ค่อยดี) เท่านั้น สิ่งเดียวที่ เมาท์ ทำได้น่าประทับใจเกมนี้ก็คือ ความขยันการวิ่งไล่บอล แม้ว่าสุดท้ายจะไล่ไม่จนเท่าไหร่
คาดแตกต่างและมิติในแดนกลาง ที่คือสิ่งที่ เมาท์ ถูกซื้อเข้ามาเพื่อคาดหวังว่าจะทำได้มีประสิทธิภาพกว่า เฟร็ด แต่ทว่าผลงานของ เมสัน เมาท์ ยังถือว่าธรรมดาสุดๆ หรือช่วงที่ถูกดันไปเล่นแทนในตำแหน่ง บรูโน่ เจ้าตัวไม่สามารถรังสรรค์สร้างสรรค์เกมได้เลย
0โอกาสยิง - 0 ทำทางให้เพื่อน สัมผัสบอลแค่30ครั้ง นี่คือสถิติของ เมาท์ โดยหลังจากที่ ถูกเปลี่ยนตัวออกให้ คริสเตียน อิริคเซ่น ลงมาเล่นแทน น.68 โอเค อิริคเซ่น อาจไม่ได้เรี่ยวแรงดีขยันวิ่งเหมือนกับ เมาท์ แต่ทว่าจังหวะการจ่ายบอลขึ้นหน้า แข้งชาวเดนมาร์ก ทำได้ดีมีลุ้นกว่าเห็นๆ
ไอ้แมงมุม เกมรุกพัฒนาขึ้น
มีข่าวว่ากำลังได้รับการต่อสัญญาฉบับใหม่ และจะได้ค่าเหนื่อยอัพเพิ่มเป็นหลักแสนปอนด์ต่อสัปดาห์ บวกกับ คู่แข่งในตำแหน่งเดียวกันอย่าง ดิโอโก้ ดาโล่ต์ พึ่งโชว์ความผิดพลาดในเกมที่ชนะ ล็องส์ 3-1 นั่นทำให้ เอริก เทน ฮาก เลือกใช้ อารอน วาน- บิสซาก้า ลงตัวจริงในตำแหน่งแบ็กขวา
หากไม่นับ อ็องเดร โอนาน่า นี่คือผู้เล่นอีก1คนที่โดดเด่นและสมควรได้รับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เช่นกันสำหรับ อารอน วาน- บิสซาก้า โอเคว่าทั้งเกม วูล์ฟจะใช้เกมสวนกลับเล่นงาน แมนยู ได้ตลอด แต่ทว่านั่นก็เป็นช่องตรงกลางสนาม และพื้นที่ฝั่งซ้ายเสียเป็นส่วนใหญ่
" ไอ้แมงมุม " ช่วยสกัดบอลจังหวะหวาดเสียวในเขตโทษได้ และยังคงยอดเยี่ยมเสมอสำหรับลูกกวาดวิ่งตามสไลด์บอล แม้จะมีพลาดในจังหวะกับ ควาง ฮี -ชาน ก็ตาม เกมรับที่คือสิ่งที่ วาน -บิสซาก้า ทำได้อย่างดีและแข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่ทว่าในเรื่องของเกมรุกเมื่อคืน เจ้าตัวก็ยกระดับตัวเองขึ้นมาเหมือนกัน สร้างสรรค์โอกาสได้3หน
จังหวะกระชากไปข้างหน้าของ อารอน วาน- บิสซาก้า ที่ทั้งเร็วและแรง คุกคามสร้างความหวาดเสียวให้ รายาน อัต นูรี มากๆ จนท้ายที่สุดแล้ว เจ้าตัวก็เป็นผู้ทำแอสซิต์ให้ ราฟาเอล วาราน โขกประตูชัย และนี่คือ แอสซิสต์ แรกของเจ้าตัวในเกมพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่เกมที่แพ้ลิเวอร์พูล 2-4 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2021
ส่วนช็อตที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้เช่นกันกับ การบล็อกลูกยิงของ ควาง ฮี- ชาน ลูกบอลแฉลบออกหลังไปนิดเดียว เริ่มต้นมาเหมือนจะทำแต้มได้ดีกว่า ดาโล่ต์ เสียแล้วสำหรับ วาน -บิสซาก้า แต่ทว่าก็ต้องดูกันในระยะยาวว่าเกมที่ต้องเจอกับทีมใหญ่ " ไอ้แมงมุม " จะยังคงฟอร์มมาตรฐานแบบนี้ได้หรือไม่
โอนาน่า ประเดิมคลีนชีต ช่วยเซฟ แต่มีเสียวจุดโทษทดเจ็บ
เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่ถูกจับจ้องพอสมควรสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะนี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกในรอบ12ปี กับผู้รักษาประตู จาก ดาบิด เค เคอา มาเป็น อ็องเดร โอนาน่า โดยนายด่านชาวแคเมอรูน ก็ได้ประเดิมเกมพรีเมียร์ลีก นัดแรกเจอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ ที่ฝั่งปีศาจแดงเองต้องเคี้ยวยากตลอดเวลาพบกัน
สุดท้ายแล้ว แม้จะเป็นเกมที่ไม่ได้ต้องโชว์ทักษะการวางบอลยาว การจ่ายบอลสั่นที่แม่นยำมากเท่าไหร่ แต่ทว่า โอนาน่า ก็เริ่มต้นพรีเมียร์ลีกด้วยคลีนชีตได้สำเร็จ ซึ่งเป็นโกลแอฟริการายที่ 5ที่ทำได้ต่อจาก บรูซ กร็อบเบลาร์ (ลิเวอร์พูล) - ริชาร์ด คิงส์สัน (วีแกน) - คาร์ล อิเคเม่ (วูล์ฟแฮมป์ตัน) และ เอดูอาร์ เมนดี้ (เซลซี)
ในเรื่องของการเซฟ นัดนี้ หมาป่า ยิงเข้ากรอบไปถึง 6ครั้ง และ โอนาน่า มีจังหวะการเซฟเจ๋งๆให้เห็น2ครั้ง กับลูกยิงของ ฟาบิโอ ซิลวา และ มาเธอุส กุนญ่า แถมยังยืนตำแหน่งได้ดีอีกด้วย ทำให้ไม่จำเป็นต้องบินผาดโผนเซฟลูกยากมากนัก
อีกหนึ่งสิ่งที่อดีตโกลอินเตอร์และอาแจ็กซ์รายนี้ ทำได้ดีนั่นก็คือ การสื่อสารกับแนวรับเพื่อนร่วมทีม คอยกระตุ้น มีส่วนร่วมด้วยตลอด แต่ทว่าก็มีจุดที่ทำให้หวาดเสียวเหมือนกันกับช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ที่สุ่มเสี่ยงต่อการเสียจุดโทษ
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.90+5 เปโดร เนโต้ ครอสบอลเข้ามาด้านใน อ็องเดร โอนาน่า ออกมาคว้าบอลแต่ไม่โดนบอลเลย แถมไปโคลทส์ไลน์ใส่ตัวสำรอง ซาซ่า คาลัดซิช ร่วงไปกองกับพื้นเต็มๆ แต่ทว่าดุลพินิจผู้ตัดสินและ VAR ไม่ได้เป่าเป็นจุดโทษ เพราะอาจมองว่า คาลัดซิซ ไม่ได้โดนบอล เป็น เคร็ก ดอว์สัน ที่โหม่งได้ก่อน ไม่ใช่ คาลัดซิช
แข้งวูล์ฟทักษะโคตรดี กุนญ่า สายแหวกแต่จบไม่คม
ไม่รู้เป็นเพราะพลังพิเศษของการเปลี่ยนโค้ชเปล่า สำหรับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ ที่ไม่ถึงสัปดาห์ก่อนพรีเมียร์ลีกจะเริ่มขึ้นพวกเขาได้แยกทางกับกุนซือมีดีกรีอย่าง ยูเลน โลเปเตกี และเลือกให้ แกรี่ โอนีล ที่พาบอร์นมัธ รอดตกชั้นฤดูกาลที่แล้วเข้ามารับหน้าที่แทน
ก่อนเกมจะเริ่มต้นขึ้นทีมหมาป่าย่านมิดแลนด์ ดูจะถูกมองว่าเป็นรองแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พอสมควร แต่ทว่าเมื่อได้ไปเซิ้งแข้งกันในสนามแล้ว ต้องบอกว่า จังหวะการเล่น ความฟิต ความแข็งแกร่ง ความแม่นยำในการจ่ายบอล วูล์ฟ เหนือกว่าด้วยซ้ำ
เหล่าผู้เล่นเกมรุกของ วูล์ฟ จี๊ดจ๊าด รวดเร็ว เลี้ยงกินตัวเก่ง เอาชนะผู้เล่นแมนฯยู ได้หลายครั้งในจังหวะสวนกลับทั้ง มาธิอัส นูเนส - เปโดร เนโต้ และ มาเธอุส กุนญ่า เรียกว่าทำได้แค่วิ่งไล่ตามลิ้นห้อยจริงๆสำหรับผู้เล่นปีศาจแดง โดยเฉพาะเวลาบอลหลุดมาตรงกลาง
มาธิอัส นูเนส โดดเด่นสุดๆ เพราะเอาชนะจังหวะการดวลได้มากถึง14ครั้ง - เลี้ยงบอลผ่าน 5ครั้ง - ตัดบอล4ครั้ง และเรียกฟาวล์ได้4หน เมื่อคืน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดนคู่แข่งสร้างโอกาสทำประตูมากถึง 23ครั้ง เข้ากรอบไป6ครั้ง ส่วนหนึ่งนั่นก็เป็นเพราะทีมหมาป่าจบไม่เฉียบขาดเองด้วย
มาเธอุส กุนญ่า เป็นอีกหนึ่งรายที่ฟอร์มแจ่ม จังหวะกระชากบอลติดเท้าหนี กาเซมิโร่ ยังติดตา หอกชาวบราซิลมีโอกาสยิงมากถึง5ครั้ง - ชนะการดวล6หน ประสานงานกับ ปาโบล ซาราเบีย ได้เป็นอย่างดี ซึ่งหลังจบเกมเมื่อคืนทำให้ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมซีซั่นที่ผ่านมา(2022-2023) ทัพหมาป่า ยิงประตูได้น้อยที่สุดในลีกเพียง 31ลูก จาก38นัด
- คอลัมน์นิสต์
- 375
- 15 ส.ค. 2566