ระฆังพรีเมียร์เริ่ม ! ปืน แม่นโทษ คว่ำเรือใบ 4-1 ทรอสซาร์ ซัดเจ๊าทดเจ็บ

ระฆังพรีเมียร์เริ่ม ! ปืน แม่นโทษ คว่ำเรือใบ 4-1 ทรอสซาร์ ซัดเจ๊าทดเจ็บ



เมื่อศึกคอมมิวนิตี้ ชิลด์ เริ่มขึ้น นั่นก็เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า พรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ (2023-2024) กำลังที่จะเปิดฉากรูดม่านแล้ว ซึ่งคู่ชิงในปีนี้ได้แก่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจ้าของแชมป์พรีเมียร์ลีก และ ทริปเปิ้ลแชมป์ กับ รองแชมป์ลีกซีซั่นที่ผ่านมาอย่าง อาร์เซน่อล ที่ดูจากการเสริมทัพแล้วหมายมั่นปั้นมือมากๆที่จะลบความผิดหวังจากปีที่แล้ว

 

โดยเกมนี้ผู้เล่นหน้าใหม่ของทั้งสองฝั่งได้ลงสนามกันเกือบครบ มัตเตโอ โควาซิซ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ส่วน ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ที่พึ่งเปิดตัวยังไม่มีชื่ออยู่ในทีม ทางฝั่งปืนใหญ่ ไค ฮาแวร์ตช์ - เดแคลน ไรซ์ และ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงหมดเลย
 

ซึ่งเกมดังกล่าวก็ดำเนินไปอย่างสูสี แม้ว่า เรือใบสีฟ้า จะครองบอลมากกว่าเล็กน้อย แต่ทว่าจังหวะการเข้าทำที่ได้น้ำได้เนื้อ ปืนใหญ่ทำได้ชัดเจนกว่าโดยเฉพาะโฮกาสของ ไค ฮาแวร์ตช์ จบครึ่งแรกเสมอกันไป0-0

ครึ่งหลังเกมค่อนข้างอึดอัด เพราะทั้งสองทีมไม่ได้ก่อความผิดพลาดอะไร จนท้ายที่สุดแล้ว ซิตี้ ก็ได้ประตูขึ้นนำสุดสวย จากลูกยิงของดาวรุ่งตัวสำรองอย่าง โคล พาร์เมอร์ น.77 เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยสกอร์นั่นแล้ว แต่ทว่าช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+11 เลอันโดร ทรอสซาร์ ตัวสำรอง ก็มาซัดแฉลบตีเสมอ1-1 โกงความตาย จนต้องไปลุ้นฎีกากันที่จุดโทษในที่สุด
 

ในการดวลเป้า ก็เป็นฝั่ง " เดอะ กันเนอร์ส " ที่ดีกว่าชัดเจน และเอาชนะไปได้ 4-1 เลอันโดร ทรอสซาร์ - บูกาโย่ ซาก้า - มาร์ติน โอเดการ์ด และ ฟาบิโอ วิเอร่า สังหารเข้าไปแบบไม่มีปัญหา ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิงเข้าไปเพียงแค่1คน นั่นก็คือ แบร์นาโด้ ซิลวา - เควิน เดอ บรอยน์ ยิงไปชนคาน และ โรดรี้ ซัดติดเซฟ แรมส์เดล
 

โดยการคว้าโล่ห์การกุศลดังกล่าว นี่คือหนที่17แล้วของอาร์เซน่อล และถือเป็นฤกษ์งามยามดีอยู่ไม่ใช่น้อยสำหรับการออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ 2023-2024 ของปืนโต ซึ่งผู้เล่นหน้าใหม่ป้ายแดนอย่าง ไรซ์ และ ทิมเบอร์ ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว ยกเว้นเพียงแค่ ฮาแวร์ตช์ ที่ยังน่าผิดหวังในตำแห่งศูนย์หน้า

ทางฝั่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้จะพ่ายไปในการดวลจุดโทษ แต่ทว่าก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เพราะด้วยทรงและสไตล์การเล่นของพวกเขา ยังคงมาตรฐานเดิมจากฤดูกาล แข้งใหม่ โควาซิซ ด้วยสไตล์การเล่นของกองกลางชาวโครเอเชียรายนี้ ทำให้แทบไม่ต้องปรับตัวให้เข้ากับระบบ ซิตี้เลย
 

และต้องไม่ลืมว่าฤดูกาลที่แล้ว พลพรรคเรือใบสีฟ้า ก็แพ้ไปให้กับลิเวอร์พูล 3-1 ในศึกชิงโล่ห์การกุศลดังกล่าว ก่อนคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในที่สุด ซึ่งต้องมาดูกันต่อๆไปว่าทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะดุดันเพิ่มขึ้นอีกขนาดไหน เมื่อเครื่องจูนติดอย่างต่อเนื่อง

 

ซาลิบา คัมแบ็ก / ทิมเบอร์ ประเดิมสวย

ปฎิเสธไม่ได้เช่นกันว่าการขาดหายไปช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้วของ วิลเลี่ยม ซาลิบา เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ อาร์เซน่อล แหกโค้งชวดแชมป์ในช่วง100เมตรสุดท้าย เพราะตัวแทนอย่าง ร็อบ โฮลดิ้ง หรือ ยาคุบ คิวิออร์ ไม่สามารถทดแทนได้เลย หรือแม้กระทั้ง กาเบรียล มากัลเญส ก็มีเป๋ไปเหมือนกัน
 

เกมเมื่อคืน ซาลิบา คัมแบ็กหายจากอาการบาดเจ็บ กลับมาลงเป็นเซ็นเตอร์ตัวจริงอีกครั้ง นั่นทำให้แนวรับทีมปืนใหญ่มีความแน่นหนาและระเบียบดีขึ้นเป็นอย่างมาก รวมไปจนถึงตัด เออร์ลิง ฮาแลนด์ ออกไปจากเกมเลย
 

การยืนตำแหน่ง และการเข้าแย่งบอล หรือไม่หวดบอลทิ้งขว้างเวลาโดนบีบ นี่คือสิ่งที่ ซาลิบา ทำได้ดีมากๆ แนวรับเลือดน้ำหอมมีสถิติที่ยอดเยี่ยม ทั้ง ผ่านบอลแม่นยำ 96% / ผ่านบอลเข้าพื้นที่สุดท้าย6 ครั้ง / เอาชนะการครอบครองบอล 6 ครั้ง / เคลียร์บอล 4ครั้ง / ชนะการดวล4ครั้ง / ทำฟาวล์ 0ครั้ง
 

ส่วนแข้งหน้าใหม่อย่าง เยอร์เรี่ยน ทิมเบอร์ ได้ประเดิมสนามในเกมอย่างเป็นทางการนัดแรก ก็ทำได้ดีเช่นกัน ในตำแหน่งแบ็กซ้าย แม้จะไม่ใช่ตำแหน่งที่ถนัดก็ตาม กองหลังชาวดัตช์ ทำได้ดีในการหยุด ทั้ง ไคล์ วอล์คเกอร์ และ แบร์นาโด้ ซิลวา อ่านทางบอลได้เป็นอย่างดีกับลูกจ่ายตัดในฝั่งตรงข้าม
 

โดยการถอด ทิมเบอร์ ออกแล้วส่ง คีแรน เทียร์นี่ ลงมาก็เห็นความแตกต่างเพียงไม่กี่อึดใจ1นาทีหลังจากนั้น จากลูกยิงของ โคล พารเมอร์ ที่หลอกแบ็กชาวสก็อตต์จังหวะแรก แล้วซัดเข้าไปอย่างสุดสวย ซึ่งในอนาคต้องมาดูว่า มิเคล อาร์เตต้า จะเลือกใช้ ทิมเบอร์ ในตำแหน่งไหน (ปรกติเล่นเซ็นเตอร์) เนื่องจากแบ็กซ้าย ก็ยังมี โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ อยู่
 


ฮาแวร์ตช์ ไม่เวิร์คกับตำแหน่งหน้าเป้าจริงๆ


การที่ กาเบรียล เซซุส มีอาการบาดเจ็บ (อีกแล้ว) ทำให้ ไค ฮาแวร์ตช์ ได้ไปเล่นในตำแหน่งกองหน้าเหมือนกับตอนที่อยู่เซลซี รวมถึง มิเคล อาร์เตต้า ยังไม่ไว้ใจให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ได้ลงสนามเป็น11ตัวจริง ซึ่งการได้ยืนค้ำเป็นกองหน้าของดาวเตะชาวเยอรมันรายนี้ ก็บทสรุปออกมาแบบเดิมๆ
 

ฮาแวร์ตช์ ถึงแม้จะรูปร่างสูง แต่ทว่าด้วยสรีระที่บอบบางทำให้ เจ้าตัวเสียเปรียบค่อนข้างมากในเรื่องของจังหวะเบียดปะทะหรือการดวลลูกกลางอากาศ แม้อดีตแข้งเซลซีรายนี้ จะวิ่งส่ายไปส่ายมา ลงมารับบอลได้ดี แต่ทว่าคุณสมบัติที่จะยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าก็ค่อนข้างจำกัด
 

ไค ครองบอลเก็บบอลได้ค่อนข้างดี แต่ทว่าก็มาเสียตรงที่เมื่อมีจังหวะจบสกอร์ทำได้ไม่ค่อยเฉียบขาดเท่าไหร่ ที่ควรจะได้สุดๆเห็นทีจะเป็นช็อตที่ บูกาโย่ ซาก้า เลี้ยงแหวก แล้วจ่ายเข้ากลางให้ ฮาแวร์ตช์ ได้ยิง จับบอลและบังบอลหาจังหวะยิงได้ดี แต่ก็ชัดได้เบาหวิวและไม่หนีตัว สเตฟาน ออร์เตก้า แต่อย่างใด
 

แถม ฮาแวร์ตช์ ยังไปโดนใบเหลืองกับจังหวะ จอห์น สโตนส์  อีกด้วย บางทีการจะปลุกอดีตวันเดอร์คิดลูกหนังเมืองเบียร์ อาจจะต้องใช้งานในตำแหน่งที่เจ้าตัวทำได้ดีสมัยอยู่ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น อีกครั้ง นั่นก็คือการเป็นตัวรุกหลังกองหน้า
 

ถึงขนาดที่ รอย คีน กูรูฝีปากกล้า ก็ได้ออกมาวิจารณ์ ไค ฮาแวร์ตช์ ว่า การเป็นกองหน้าระดับท็อป จังหวะนี้ต้องเป็นประตูได้แล้ว (ทั้งจังหวะจ่ายของ ซาก้า และ ไวท์) เราได้เห็นการพลาดลักษณะนี้บ่อยครั้งสมัยอยู่เซลซี และตัวของ ฮาแวร์ช์ ไม่ได้เป็นตัวจบสกอร์โดยธรรมชาติ 
 


แรมส์เดล ยังโชว์เซฟ ไมหวั่นข่าวราย่า


ทั้งที่ซีซั่นทีผ่านมาเซฟอุตลุต แต่ทว่าก็ยังมีข่าวว่า มิเคล อาร์เตต้า อยากได้ผู้รักษาประตูคนใหม่ ทีมีความทันสมัยโมเดิร์นเล่นฟุตบอลกับเท้าได้ดีมากกว่า อารอน แรมส์เดล แต่ทว่าข่าวดังกล่าวก็ไม่ได้ทำให้จอมหนึบทีมชาติอังกฤษต้องสมาธิเสียแต่อย่างใด
 

แรมส์เดล มีจังหวะเซฟในเกมสวยๆทั้งกับลูกโขก จอห์น สโตนส์ (ที่ตรงตัว) - ลูกสอดเข้ามาโขกสำแรกของ โรดรี้ รวมไปจนถึงจังหวะหลุดเดี่ยวของ ฟิล โฟเด้น ที่พยายามยิงลอดขาแต่บอลไปติดเท้า แรมส์เดล ออกไป
 

แต่ทว่าอดีตโกล เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด มีข้อเสียเล็กๆน้อยเหมือนกัน กับการเปิดบอลยาวไม่ค่อยแม่น มีช็อตจ่ายบอลสั้นเสียให้เห็นเหมือนกัน แต่ทว่าก็มีจังหวะโชว์ความนิ่ง ไม่หวดบอลสุ่มสี่สุ่มห้า กับตอนที่โดน เออร์ลิง ฮาแลนด์ วิ่งบีบในเขตโทษ
 

ความกระหายและคอยกระตุ้นให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีมนี่คือสิ่งที่ อารอน แรมส์เดล ทำได้ดีอยู่แล้ว ลูกที่เสียไปก็สุดปัญหาจริงๆกับลูกยิงของ โคล พาร์เมอร์ โดยในช่วงดวลจุดโทษ โกลวัย25ปี ก็มีเซฟลูกยิงของ โรดรี้ แบบไม่ยากเย็นนัก
 

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ที่โกลมือ2อย่าง แมตต์ เทอร์เนอร์ กำลังจะได้ย้ายไป น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ก็เป็นสัญญาณเตือนว่ามีความเป็นไปได้สูงเช่นกันที่ ดาบิด ราย่า จะได้ย้ายอาร์เซน่อล เพราะมีข่าวว่าบรรลุข้อตกลงส่วนตัวกันได้แล้ว
 


ฮาแลนด์ บุคคลหายตัว / โควาซิซ ประเดิม

น่าจะยังไม่เข้าที่เข้าทางสักเท่าไหร่ สำหรับดาวยิงระดับตีนมหาประลัยอย่าง เออร์ลิง ฮาแลนด์ เพราะเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ เมื่อคืนเจ้าตัวกลายเป็นบุคคลสูญหายไปเลย เพราทั้งบอลมาไม่ถึง และฮาแลนด์ เองได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจาก วิลเลี่ยม ซาลิบา และ กาเบรียล มากัลเญส
 

โดยอุ่นเครื่อง3นัดที่ผ่านมากับ โยโกฮาม่า มารินอส - บาเยิร์น มิวนิค และ แอตเลติโก มาดริด หอกชาวนอร์เวย์ แม้จะซัดได้2ประตู แต่ทว่าอะไรหลายๆอย่างยังไม่ได้เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่
 

กับอาร์เซน่อล เมื่อคืน ไม่รู้เป็นเพราะการที่ไม่มี เควิน เดอ บรอยน์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงด้วยเปล่า ทำให้ ฮาแลนด์ เงียบเหงามากๆ ไม่มีลูกจ่ายคิลเลอร์พาสมาให้ โดยสถิติเมื่อคืนระบุว่า " ดาวยิงจอมมารบู " ตลอด 62นาทีที่อยู่ในสนาม มีโอกาสยิง 0 ครั้ง และสัมผัสบอลไปเพียง13หนเท่านั้น
 

มัตเตโอ โควาซิซ ที่ย้ายมาร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นี่คือเกมอย่างเป็นทางการนัดแรกของเจ้าตัวกับเรือใบสีฟ้า ในเรื่องของฟอร์มการเล่นถือว่าสอบผ่านมากๆในเชิงของการตอบสนองต่อแท็กติก การเล่นของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แต่ก็ยังถือว่าความชั่วไม่มีความดีไม่ปรากฎเท่าไหร่ 
 

โดย64นาทีที่อยู่ในสนาม โควาซิซ มีสถิติผ่านบอลแม่นยำ 100%เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ห้องเครื่องตราหมากรุกรายนี้ มีสถิติที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ในการเล่นที่สนามเวมบลีย์ เพราะแพ้มาแล้ว5นัดรวด รวมสมัยตั้งแต่อยู่เซลซีด้วย
 


ปืนพร้อมแล้วจะเป็นผู้ท้าชิงเรือใบเต็มตัว ! 

ประสบการณ์ที่น้อย อาการบาดเจ็บของ วิลเลี่ยม ซาลิบา ช่วงท้ายฤดูกาล ความยอดเยี่ยมและเก๋าประสบการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นี่เป็นเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้อาร์เซน่อล แหกโค้งชนเสาไฟฟ้าท้ายฤดูกาล จนทำให้จบด้วยการเป็นรองแชมป์
 

นั่นจึงทำให้ฤดูกาลใหม่ที่จะถึง 2023-2024 มิเคล อาร์เตต้า หมายมั่นปั้นมือมากๆที่จะพาอาร์เซน่อลไปถึงฝั่งฝันแชมป์เปี้ยนให้ได้ แสดงความทะเยอะทะยานผ่านการเสริมทัพ เพราะไปสอยมาทั้ง ไค ฮาแวร์ตช์ (65ล้านปอนด์) - เดแคลน ไรซ์ (105ล้านปอนด์) - เยอร์เรี่ยน ทิมเบอร์ (38ล้านปอนด์) รวมไปจนถึง จ่อจะได้โกลคนใหม่ ดาบิด ราย่า เข้ามาด้วย
 

เกมชิงดำกับ ซิตี้ เมื่อคืน แม้ว่าอาร์เซน่อลจะครองบอลน้อยกว่า 39 ต่อ 61 เปอร์เซ็นต์ แต่ทว่ารูปเกมรายะเอียดต่างๆ ปืนใหญ่ไม่ได้เป็นรองเลย แม้จะครองบอลน้อยกว่า แต่ก็ไม่ได้โดนลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กดตลอด
 

แถมจังหวะการเข้าทำของปืนใหญ่ ดูได้น้ำได้เนื้อกว่าด้วยซ้ำ (ก่อนจะเสียประตู) การกลับมาของ วิลเลี่ยม ซาลิบา ก็ทำให้แนวรับของอาร์เซน่อล นิ่งขึ้นชัดเจน เกมไม่ได้เป็นรอง เรือใบสีฟ้า สุดกู่เหมือนที่เจอกันหลายนัดที่ผ่านมา
 

แต่ทว่าอย่างไรก็ตามการครองโล่ห์การกุศล ก็มีสถิติที่ทำให้แฟนปืนแอบเสียวไม่น้อย เพราะตลอด30ครั้งที่ผ่านมา ทีมที่คว้าแชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ได้มีเพียง8ทีมเท่านั้น ที่ก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ ซึ่ง8หนดังกล่าวไม่มีรายชื่อของอาร์เซน่อลเลย ( แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5ครั้ง - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1ครั้ง และ เซลซี 2ครั้ง) 

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง