มีเสียวท้ายเกม ! ปืน เฉือน เจ้าป่า 2-1 ซาก้า ซัดไกลแหวกตาข่าย

แม้ว่าสกอร์จะไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ แต่ทว่าก็เป็นผลลัพธ์ที่ต้องการจริงๆสำหรับ อาร์เซน่อล ทีมเต็ง2ที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เมื่อนัดแรกฤดูกาลใหม่ 2023-2024 พวกเขาก็ออกสตาร์ทด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ไป 2-1ชนิดที่มีเหนื่อยเสียวท้ายเกม เพราะครึ่งหลังลูกทีมของ มิเคล อาร์เตต้า ดูจะแผ่วลงไป ส่วนผู้มาเยือนก็มีแรงฮึดขึ้นมาเรื่อยๆ


 

อาร์เซน่อล เปิดสนาม เอมิเรต สเตเดี้ยม ต้อนรับอีกหนึ่งทีมเต็งที่จะตกชั้นในฤดูกาลนี้อย่าง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ของกุนซือหน้างง สตีฟ คูเปอร์ สำหรับปืนใหญ่ พวกเขาต้องปรับทัพในระดับหนึ่ง เนื่องจาก กาเบรียล เซซุส เจ็บ ทำให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ได้ทำหน้าที่แทน
 

กาเบรียล มากัลเญส หลุดเป็นตัวสำรอง เบน ไวท์ ถูกหุบมาเล่นเซ็นเตอร์ แบ็กซ้ายเป็น เยอร์เรี่ยน ทิมเบอร์ ส่วน โธมัส ปาเตย์ ถูกขัดตราทัพมาเล่นเป็นแบ็กขวา แต่ทว่าเวลาทีมเปิดเกมรุก แข้งชาวกาน่า จะเขยิบมาเล่นตรงกลาง

รูปเกมครึ่งแรกต้องบอกว่าเป็นไปตามที่คาดเพราะ " เดอะ กันเนอร์ส " เหนือกว่าผู้มาเยือนชัดเจน ทั้งในเรื่องการครองบอล จ่ายบอล รวมไปจนถึงโอกาสจบสกอร์ และก็มาได้ประตูขึ้นนำ 2-0 อย่างไม่ยากเย็นนักใน45นาทีแรกจาก เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ น.26  และลูกซัดไกลสุดเฉียบแหวกตาข่ายเข้าไปของ บูกาโย่ ซาก้า น.32
 

แต่ทว่าพอมาครึ่งหลัง เกมของปืนใหญ่ ก็แผ่วลงไปดื้อๆกลายเป็นสูสีกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ไปเลย บวกกับ ยูเลี่ยน ทิมเบอร์ ก็ฝืนทนเล่นทั้งที่เจ็บไม่ไหวจนต้องให้ ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ ลงมาบู๊แทน ตั้งแต่ น.50
 

การที่อาร์เซน่อลดร็อปลงไป ทำให้ ฟอเรสต์ ยังพอมีความหวังที่จะควักแต้มออกจากกรุงลอนดอนได้ ซึ่งช่วงท้ายเกม การเปลี่ยนตัวของ คูเปอร์ ก็ได้ผลจริงๆ เมื่อ2ซุปเปอร์ซับ ที่ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองอย่าง แอนโทนี่ อีแลงก้า ลากยาวครึ่งสนาม แอสซิสต์ให้ ไตโว อโวนิยี่ เข้าแท็ปอินง่ายๆ น.82

ทว่าอย่างไรก็ตามหลังถูกตีไข่แตก ลูกทีมของ มิเคล อาร์เตต้า ก็เน้นการเล่นที่รัดกุมขึ้น รอจังหวะสวนกลับตอกฝาโรงมากกว่า ซึ่งท้ายที่สุดแล้วความนิ่งและประสบการณ์ก็ทำให้ อาร์เซน่อล เข้าวินเก็บ3แต้มเข้ากระเป๋าตามเป้าได้ตามคาด
 

ผู้เล่นแนวรุกของปืนใหญ่ที่ทำได้ดีนั่นก็คือ ตัวริมเส้นอย่าง บูกาโย่ ซาก้า และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ โดยเฉพาะแข้งชาวบราซิลที่จังหวะกระชากลากเลื้อยร้ายกาจมากๆ แถมยังมี แอสซิสต์ เหนือๆกับลูกยิงขึ้นนำ 1-0 ความขยันก็มีให้เห็นกับการช่วยไปแย่งไล่บอล
 

ส่วนผู้มาเยือน ฟอเรสต์ ก่อนเกมแฟนเจ้าป่าน่าจะค่อนข้างทำใจพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่โดนขึ้นนำ 2-0 ตั้งแต่ช่วง45นาทีแรก แต่ทว่าพอได้ลูกตีไข่แตกกลับมา ลูกทีมของ สตี๊ฟ คูเปอร์ ดูฮึกเหิมขึ้นมาทันที บรรดาเหล่าผู้เล่นตัวสำรองที่ทั้งเร็วและฟิต สร้างความปั่นป่วนได้ แม้ว่าท้ายที่สุดจะต้องปราชัย แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดี

 

มาร์ติเนลลี่ เร็วแรง กระชากหายวับ

การที่ เลอันโดร ทรอสซาร์ ย้ายเข้ามาร่วมทีมก็เป็นกังวลไม่น้อยว่า กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ จะมีเวลาลงสนามน้อยลงกว่าเดิม เพราะมีตำแหน่งที่ทับกัน แต่ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เราจะเห็นว่า มิเคล อาร์เตต้า เลือกใช้ ทรอสซาร์ ในตำแหน่ง กองหน้าเสียเป็นส่วนใหญ่
 

เมื่อคืน มาร์ติเนลลี่ ได้ออสตาร์ทเป็นตัวจริงฝั่งซ้าย แม้จะไม่มีประตูมาฝาก แต่ทว่าผลงานลีลาในสนามของแข้งชาวบราซิลรายนี้ร้อนแรงมากๆ เล่นเอาแบ็กขวาของผู้มาเยือนอย่าง แซร์จ อูลิเย่ร์ วิ่งไล่ตามไล่จับยังไงก็ไม่ทัน
 

ที่ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้นั่นก็คือช็อตที่ มาร์ติเนลลี่ ลากริมเส้นหันหลังแล้วตอกส้นให้ เอ็นเคเทียห์ สำเร็จโทษเข้าไป นอกจากนี้แข้งวัย22ปี แม้จะเล่นเป็นตัวรุก แต่ทว่าก็เต็มไปด้วยความขยัน เราจึงได้เห็นเจ้าตัววิ่งลงมาล้วงบอลได้ 2-3 ครั้งด้วยกัน
 

เรียกว่าลีลาของ มาร์ติเนลลี่ ดูจะอันตรายกว่าตัวรุกทางฝั่งขวาอย่าง บูกาโย่ ซาก้า ด้วยซ้ำ ดาวเตะแดนแซมบ้ามีสถิติที่ยอดเยี่ยมเอาแค่45นาทีแรกก็ ผ่านบอลเข้าพื้นที่สุดท้ายแม่นยำ 100% (สำเร็จ8 จาก8ครั้ง) - เอาชนะการครอบครองบอล6 ครั้ง - เอาชนะการดวล 6ครั้ง (มากที่สุด) - สร้างสรรค์โอกาส2ครั้ง
 

เรียกได้ว่าเห็นลีลาการเล่นในช่วงปรี-ซีซั่น บวกเกมออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ หมดปัญหาเลยที่ มาร์ติเนลลี่ จะต้องกระเด็นไปเป็นตัวสำรอง ซึ่งต้องมาคอยดูกันว่า เกมรุกฝั่งซ้ายของอาร์เซน่อล จะดุดันขึ้นอีกไหม หากได้แบ็กซ้ายตัวจริงถาวร เพราะ อาร์เตต้า เหมือนจะพยายาม ดัดแปลงลองใช้ ทิมเบอร์ อยู่ ส่วน โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ยังมีอาการบาดเจ็บ
 

ฮาแวร์ตช์ (ทำไม) ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นตัว


ช่วงปรี-ซีซั่น ก็ทำผลงานได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ยังดูเก้งๆกังๆ เฉื่อยๆ และสเต็ปต่างๆช้ากว่าเพื่อนร่วมทีมไปหนึ่งก้าวตลอด พอมาในเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็พลาดโอกาสทองในการทำประตูไปถึง2ครั้ง สำหรับ ไค ฮาแวร์ตช์
 

ซึ่งเกมกับเรือใบ อาจจะพอเขัาใจได้ตรงที่ว่าเป็นเกมที่เจอกับทีมใหญ่ บวกได้เล่นในตำแหน่งหน้าเป้า (แม้จะเล่นได้แต่ไม่ถนัด) แต่ในเกมที่ดวลกับ ฟอเรสต์ ซึ่งเป็นทีมที่อ่อนชั่นวรรณะกว่า และได้ยืนในตำแหน่งถนัดสมัยอยู่ เลเวอร์คูเซ่น (นั่นก็คือหลังกองหน้า) แต่ผลงานแทบไม่ต่างกันเลยในเรื่องของอิมแพคต่อเกม
 

11ผู้เล่นตัวจริงที่ดวลกับเจ้าป่า ฮาแวร์ตช์ ถูกยกให้เป็นผู้เล่นที่ได้คะแนนต่ำสุดในทีมจากหลายๆสำนัก ดาวเตะเมืองเบียร์ ยังมีจังหวะการเลือกเล่นเพลย์ต่างๆที่ช้า ฮาแวร์ตช์ ควรที่จะทำให้ทีมขึ้นนำ 3-1 ด้วยซ้ำ แต่เล่นสโลว์ไปหน่อยจนโดนแย่งบอล
 

อีกจุดหนึ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับ ไค ฮาแวร์ตช์ นั่นก็คือจังหวะเบียดจังหวะปะทะ ที่เป็นรองคู่แข่งอยู่บ่อยครั้ง แม้จะสูงถึง193ซม.แต่ทว่าเป็นักเตะที่หุ่นบางพอสมควร นั่นจึงทำให้เสียเปรียบมากๆกับการใช้ร่างกายบังบอล หรือปะทะการดวลต่างๆ
 

อย่างไรก็ดี ฮาแวร์ตช์ ก็ยังพอมีจุดเด่นตรงที่ เชื่อมเกมได้เป็นอย่างดี และมีเทคนิคการเล่นที่แพรวพราว แต่นั่นอาจจะยังไม่พอกับความคาดหวัง65ล้านปอนด์ ที่จ่ายไป ซึ่งก็ต้องมาลุ้นกันว่า แข้งวัย24ปี จะปรับตัวให้เข้ากับระบบการเล่นทีมปืนใหญ่ได้เร็วไหม รวมไปจนถึง " พี่ต้า " จะเลือก ฮาแวร์ตช์ ในตำแหน่งใดให้เหมาะสมที่สุด
 

ปาร์เตย์ สร้างความสมดุลและสารพัดประโยชน์


ช่วงปรี-ซีซั่น นัดที่ไม่มี โธมัส ปาเตย์ ลงสนามเห็นได้ชัดว่า แดนกลางของอาร์เซน่อล ดูจะมีปัญหาในเรื่องของการไม่มีตัววิ่งเข้าหาบอล หรืออัดหนัก เนื่องจาก กรานิต ชาก้า ย้ายออกไปแล้ว ส่วนผู้มาใหม่อย่าง เดแคลน ไรซ์ ดูจะเป็นสายดักบอลเทคนิค มากกว่าประเภทบู๊โหดเข้าถึงลูกถึงคน
 

เมื่อคืนถือว่า มิเคล อาร์เตต้า ตัดสินใจแปลกเหมือนกัน กับการดร็อป กาเบรียล มาร์กัลเญส เป็นสำรอง ขยับ เบน ไวท์ มาเป็นเซ็นเตอร์ เลือก ทิมเบอร์ ให้เล่นแบ็กซ้ายกว่า ส่วน โธมัส ปาร์เตย์ ก็ถูกขัดตราทัพมาเล่นแบ็กขวาเลย
 

ซึ่ง ปาเตย์ จะเล่นเป็นแบ็กขวาในยามที่ทีมปืนใหญ่ต้องตั้งรับ ส่วนเวลาเล่นเกมบุก หรือเซ็ตบอลไปข้างหน้า ดาวเตะชาวกาน่า จะหุบเข้าไปเล่นกลางตามเดิม ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ปาร์เตย์ ที่เล่นตรงกลางดูจะเป็นธรรมชาติมากกว่า
 

ความขยันทุ่มเท นี่ไม่ใช่สิ่งที่แฟนปืนใหญ่ สงสัยเคลือบแคลงอยู่แล้ว กับอดีตกองกลางแอตเลติโก มาดริด รายนี้ การได้เล่นเป็นแบ็กขวาดูจะขัดๆไปหน่อย โดยเฉพาะจังหวะสวนกลับประตูตีไข่แตก 2-1 ของ ฟอเรสต์ ปาเตย์หายออกไปจากเฟรมเลย
 

ลูกที่ปืนใหญ่เสีย มาจากการโดนสวนกลับซึ่ง โธมัส ปาเตย์ ไม่ได้อยู่ประจำการเป็นแบ็กขวาอยู่แล้ว เวลาเล่นเกมรุก (หุบเข้ากลาง) นั่นทำให้ทางโล่งสะดวกมากๆสำหรับ แอนโธนี่ อีแลงก้า สปีดลากชายเดี่ยว กับพื้นที่ตรงนั้นเข้าไปทำแอสซิสต์
 

แผนการเล่นแบ็กหุบเข้าใน " อินเวิร์ดฟูลแบ็ก " มิเคล อาร์เตต้า น่าจะได้รับแรงบรรดาลใจจากอาจารย์อย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ล้ำเลิศเสกแผนซับซ้อนและยืดหนุ่นให้คู่แข่งเรือใบจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ซึ่งอาจจะยังไม่เข้ากับอาร์เซน่อลเท่าไหร่ และต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
 

แรมส์เดล ลำบากแน่ ราย่า รอเสียบ


ปัจจุบัน อารอน แรมส์เดล ยังคงครองสถานะมือ1ของอาร์เซน่อล อยู่ บวกกับมือ2อย่าง แมตต์ เทอร์เนอร์ ก็ย้ายไป น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เรียบร้อย และลงเล่นให้เจ้าป่านัดแรกด้วยเมื่อคืน แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม ปืนใหญ่ ก็ได้ปิดดีล ดาบิด ราย่า เรียบร้อยแล้ว ด้วยสัญญายืมตัว พร้อมออปชั่นบังคับซื้อขาด
 

ลูกที่เสียไปให้กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ สุดปัญหาจริงๆที่ แรมส์เดล จะป้องกันได้ เพราะโดน ไตโว อโวนิยี่ เข้าชาร์จจ่อขนาดนั้น ผลงานที่ผ่านมาลูกเซฟคือสิ่งที่ไม่มีใครสงสัยในตัวนายด่านเลือดผู้ดีรายนี้อยู่แล้ว
 

แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า กุนซือ มิเคล อาร์เตต้า เน้นเรื่องอะไรสุดๆในการคุมอาร์เซน่อล นั่นก็คือการต่อบอลจ่ายบอลที่แม่นยำ เท้าสู่เท้า ไม่เว้นแม้กระทั่งกับตำแหน่งผู้รักษาประตู เมื่อคืน แรมส์เดล มีจังหวะจ่ายบอลที่ไม่ค่อยเนี๊ยบบ่อยครั้ง
 

มีจังหวะที่ต้องเคลียร์ออกข้างกับลูกจ่ายของ วิลเลี่ยม ซาลิบา ที่ชิดตัวเกินไป รวมถึงมีปัญกากับการออกมาคว้าบอลลูกกลางอากาศที่ทำให้ต้องเสียวไส้ ซึ่งสิ่งนี้ อาร์เตต้า น่าจะเห็นอยู่แล้วว่าเป็นจุดที่ทีมต้องพัฒนา นั่นจึงทำให้ไปสอย ราย่า มาในที่สุด
 

ซึ่งจากที่ดู ราย่า เล่นกับ เบรนท์ฟอร์ด นี่คือโกลที่น่าจะตอบสไตล์ปรัชญาของ มิเคล อาร์เตต้า เลย ออกบอลดี แก้เพรสเยี่ยม มีความโมเดิร์นเป็นนายด่านสมัยใหม่มากกว่า และจากฟอร์มเกมกับ " เจ้าป่า " มีความสุ่มเสี่ยงมากๆเหมือนกันที่ตำแหน่งผู้รักษาประตูมือ1ของอาร์เซน่อลจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
 

ชุดสำรองโชว์ทีเด็ด อีแลงก้า ขอเกิดใหม่ได้ไหม 


นอกจากจังหวะผิดพลาดของแนวรับอาร์เซน่อล ที่ทำให้ เบรนแนน จอห์นสัน หลุดเดี่ยวไปดวลกับ แรมส์เดล แล้วยิงหลุดออกไปเองแบบเสียราคา ต้องบอกว่าเกมรุกของ ฟอเรสต์ ไม่ได้สร้างความหนักอกหนักใจให้เจ้าบ้านเลย
 

แต่ทว่าการเลือกเปลี่ยนแก้เกมของ สตีฟ คูเปอร์ ดูจะได้ผลสุดๆ กับในเซ็ตตัวสำรองของ ไตโว อโวนิยี่ ( แทน ดานิโล่) และ แอนโธนี่ อีแลงก้า ( แทน เบรนแนน จอห์นสัน) โดยเฉพาะในรายของอดีตแข้งผีแดงที่ความเร็วของเจ้าตัวดูจะเป็นภัยกับอาร์เซน่อลมากๆ
 

เพียง2นาทีที่อยู่ในสนาม " เดอะ ธรรมดา " ก็โชว์ลีลาความเร็วกระชากควบตะบึงจากแดนตัวเอง ไปเกือบสุดริมเส้น ปาดเข้ามาให้สำรองอีกคนซึ่งเป็นกองหน้าประเภทร่างยักษ์อย่าง อโวนิยี่ ชาร์จเข้าไปง่ายๆ

ซึ่งหลังจากนั้นแนวรับของปืนใหญ่ ดูจะรวนไประยะหนึ่ง สำหรับ อีแลงก้า แม้จะมีจ่ายบอลเสีย แต่ทว่าความเร็วของเจ้าตัวดูจะคุกคาม โทมิยาสุ ได้ไม่น้อย ด้วยสปีดด่วนปรี๊ดแตก สไตล์การเล่นของเจ้าตัวดูจะเหมาะกับ ทีมอย่าง ฟอเรสต์ไม่น้อย
 

ส่วน ไตโว อโวนิยี่ ดาวยิงร่างถึก ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดเมื่อคืนแม้จะมีเวลาอยู่ในสนามแค่ 29 นาที (บวกช่วงทดเจ็บอีก7นาที) นั่นก็คือความใหญ่ ความแข็งแกร่ง พักบอลได้ แถมยังเป็นกองหน้าประเภทโบราณเวลาอยู่ในเขตโทษ และต้องไม่ลืมว่า อโวนิยี่ เป็นดาวซัลโวของ " เจ้าป่า " ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา10ประตู