เสี่ยท็อดด์ ลงตลาดอีกไหม ! ค้อน 10ตัว ทุบสิงห์ 3-1 ไกเซโด้ แจกโทษ

เสี่ยท็อดด์ ลงตลาดอีกไหม ! ค้อน 10ตัว ทุบสิงห์ 3-1 ไกเซโด้ แจกโทษ


หลังจากที่ทรงบอลดูดีมีอนาคตขึ้นสำหรับเซลซี ในยุคของ เมาริซิโอ โปเซ็ตติโน่ เพราะเกมแรกเล่นในบ้านเสมอกับลิเวอร์พูลมา 1-1 แบบน่าชนะ แต่ทว่าพอเกมต่อมาก็พบกับความปราชัยซะอย่างนั้นสำหรับ พลพรรคสิงห์บูลส์ เมื่อพวกเขาบุกไปเยือนทีมในกรุงลอนดอนอย่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมที่ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญการเล่นฟุตบอลแบบโบราณ และพ่ายไป 3-1 ทั้งที่ขุนค้อนเหลือผู้เล่นเพียงแค่10คน

 

เกมที่สนาม ลอนดอน สเตเดี้ยม คู่สุดท้ายวันอาทิตย์ ระหว่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ต้อนรับการมาเยือนของเซลซี โดยทีมของ เมาริซิโอ โปเซ็ตติโน่ มาในระบบเดิม 3-4-2-1 ยังไม่ใช้ระบบ 4-2-3-1 ที่ถนัด มีการปรับเปลี่ยนจากเกมแรกนั่นก็คือ แบ็กขวา รีซ เจมส์ ที่เจ็บ ทำให้ มาโล่ กุสโต้ ได้ทำหน้าที่แทน

ทางฝั่งของเจ้าบ้าน เวสต์แฮม แมตช์นี้ถือว่าเป็นโอกาสอันดีเลยที่พวกเขา จะประเดิมใช้งานเจ้าพ่อลูกนิ่งที่พึ่งย้ายมาใหม่อย่าง เจมส์ วอร์ด พราวส์ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมา ถือว่าเป็นการเดบิวต์ที่น่าประทับใจพอสมควร
 

เกมครึ่งแรกเหมือนเซลซีดูจะดีกว่านิดๆ แต่ทว่าด้วยความผิดพลาดส่วนบุคคลในการประกบตัวลูกเตะมุม ทำให้กองหลัง เวสต์แฮม อย่าง นาอีฟ อเกิร์ด โหม่งเข้าไปเต็มกบาลให้ทีมขึ้นนำ 1-0 น.7 แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม สิงห์น้ำเงินก็มาตีเสมอได้ 1-1 จากลูกยิงสุดสวยของ คาร์นี่ย์ ชุควูเมก้า น.28
 

โดยท้ายครึ่งแรก น.42 เซลซี มีโอกาสที่จะแซงขึ้นนำ 2-1 เพราะได้ลูกจุดโทษ แต่ทว่า อัลฟอนส์ อเรโอล่า ปฎิเสธลูกโทษของ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม บวกกับสตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ ยิงได้ไม่ดีด้วย ทำให้จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-1

พอมา45นาทีหลัง ลูกทีมของ " พอช " ก็เหมือนจะแผ่วลงเรื่อยๆ และก็มาโดน มิคาอิล อันโตนิโอ ที่ใช้ความใหญ่และถึก เข้าไปไปยิงเสียบมุม น.53 ขึ้นนำ 2-1 หลังจากนั้นเซลซี ก็แก้เกมด้วยการส่ง มอยเซส ไกเซโด้ ลงมาเล่น น.60
 

ซึ่งเซลซีเองก็มีโอกาสที่ดีมากๆในการตีเสมอหรือพลิกแซง เมื่อผู้ทำประตู นาอีฟ อเกิร์ด มาโดนใบเหลืองที่2เป็นใบแดง น.67 ทำให้เวสต์แฮมต้องเหลือผู้เล่นเพียงแค่10คน แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม11คนของเซลซี ก็ไม่อาจทวงประตูตีเสมอได้ จนท้ายที่สุดแล้ว " เดอะ แฮมเมอร์ส " ก็มาได้ประตูตอกฝาโรง 3-1 จากจุดโทษของ ลูคัส ปาเตก้า น.90+5



โดยผู้ทำเสียจุดโทษก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเจ้าของค่าตัว115ล้านปอนด์ ไกเซโด้ นั่นเอง ที่ไปหวด เอเมอร์สัน พัลมิเอรี่ ง่ายๆ ความพ่ายแพ้ของเซลซีในนัดนี้ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดนั่นก็คือความผิดพลาดรายบุคคล และด้วยนักเตะที่ส่วนใหญ่ยังเป็นดาวรุ่งหรือแข้งวัยรุ่นที่ยังอ่อนประสบการณ์ไปมาก
 

ส่วนผู้ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ต้องบอกว่าบอลไดเร็คแบบโบราณของพวกเขาได้ผลมากๆกับการเล่นงานเซลซี และนี่คือหนแรกด้วยที่ เดวิด มอยส์ คุมทีมเอาชนะ เมาริซิโอ โปเซ็ตติโน่ ได้ ส่วน เจมส์ วอร์ด พราวส์ ที่ได้ประเดิมสนาม ก็จัดไปให้ทีมถึง 2แอสซิสต์ ด้วยกัน

 

อันโตนิโอ อึด ถึก ทน เหมาะกับแผน เวสต์แฮม สุดๆ 

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เป็นอีกหนึ่งทีมในพรีเมียร์ลีกสไตล์โบราณ บอลไดเร็ค แต่ทว่าก็ยังมีความสมัยใหม่แฝงอยู่ด้วยกับนักเตะเร็วคล่องหรือเทคนิคดีอย่าง จาร็อด โบเว่น หรือ ลูคัส ปาเตก้า โดย กองหน้าที่ตอบโจทย์ เดวิด มอยส์ อันดับแรกคือต้องมีความแข็งแกร่ง บังบอล พักบอลได้ 
 

ที่ผ่านมาทั้ง เซบาสเตียน อัลแลร์ และ จานลูก้า สคามัคค่า ถึงแม้จะมีทักษเทคนิคการเล่นที่ดี แต่ทว่าก็ไม่สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้ เพราะกองหน้าที่ตอบโจทย์แนวทางการเล่นของทีมมาตลอดนั่นก็คือ มิคาอิล อันโตนิโอ
 

อันโตนิโอ นี่คือกองหน้าสไตล์โบราณขนานแท้ มีความแข็งแกร่งอึด ถึก ทน บังบอลได้ เวลาลูกโด่งสาดยาวมาเจ้าตัว สามารถเก็บบอลไว้กับตัวเลี้ยงไถกินแดน แล้วรอเพื่อนร่วมทีมตัวรุกคนอื่นๆเติมเข้ามา ซึ่งได้ผลมากๆเกมกับเซลซีเมื่อคืน
 

ประตูแซง 2-1 ต้องชื่นชมกองหน้าทีมชาติจาไมก้ารายนี้เลย ที่แข็งแกร่งขนาดกองหลังดาวรุ่งที่ตัวก็ไม่เล็กอย่าง ลีวาย โคลวิลล์ เบียดกระแทกก็เอาไม่อยู่ แล้วได้ซัดจากฝั่งขวาในเขตโทษ เสียบเสาเสาเข้าไปอย่างหมดจด
 

ครึ่งหลังคือฟอร์มที่ดีเลยของ อันโตนิโอ เล่นแบบไม่หวงบอล แม้ว่า45นาทีแรกจะเงียบเชียบไปหน่อย เพราะได้สัมผัสบอลเพียง5ครั้ง สิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชมสำหรับ มิคาอิล อันโตนิโอ นั่นก็คือในวัย33ปี เจ้าตัวยังสภาพร่างกายแข็งแกร่ง และพึ่งจะมาเล่นกองหน้าเต็มตัวตอนอายุ30 หลังก่อนหน้านั้นเล่นมาทั้ง แบ็กขวา ปีกขวา

 

ไม่แปลกใจ เรืออยากได้ ปาเกต้า / JWP ประเดิม เบิ้ล แอสซิสต์

หลังจากที่ เควิน เดอ บรอยน์ เจ็บหลัก ต้องพักยาวราวๆ 3-4 เดือน นั่นทำให้ข่าวกระแสที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สนใจจะคว้าตัว ลูคัส ปาเตก้า แรงขึ้นมาเรื่อยๆ บวกกับทางฝั่งเวสต์แฮม ตั้งค่าตัวของสตาร์ชาวบราซิลรายนี้ ไว้แพงแตะระดับ 80ล้านปอนด์ ทำให้ดีลดังกล่าวยังน่าจะยังเกิดขึ้นได้ยาก
 

เกมกับเซลซี เมื่อคืน ปาเกต้า ในฐานะบทบาทเพลย์เมคเกอร์ เริ่มต้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่กับจังหวะแย่งโหม่งบอล ตอนลงพื้นพลาดท่าเอาหลังลงซะงั้น จนตัวเองเจ็บไปพักหนึ่ง และเป็น45นาทีแรกที่เงียบพอสมควรสำหรับเจ้าตัว แต่ทว่าก็มีจังหวะจบสกอร์หวาดเสียวเฉียดเสา
 

แต่ทว่าพอมาในครึ่งหลังนี่แหละ ลีลา ชั้นเชิง ทักษะ ไหวพริบต่างๆ ปาเกต้า งัดออกมาใช้ได้อย่างหมดจด แถมยังมีจังหวะเล่ห์เหลี่ยม ล้มง่าย จากช็อตที่ กัลลาเกอร์ ผลัก จนทำให้ดาวรุ่งผมยาวเซลซีรายนี้ โดนใบเหลืองแบบไม่จำเป็น
 

แพสชั่นนี่คือสิ่งที่ ปาเกต้า มอบให้ทีมแบบเต็มๆทั้งระหว่างเกม และหลังซัดจุดโทษช่วงทดเวลาบาดเจ็บพาขุนค้อนฉีกหนีไป 3-1 แข้งวัย25ปี จ่ายบอลคีย์พาสไป2ครั้ง /แท็กเกิ้ลและตัดบอลไปอย่างละ 2หน ส่วนกองกลางอีกคนที่จะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้นั่นก็คือ เจมส์ วอร์ด พราวส์
 

JWP เดบิวต์นัดแรกให้ " เดอะ แฮมเมอร์ส " ด้วยการทำไป2แอสซิสต์ เปิดเตะมุมให้ อเกิร์ด โขก และแทงสวน จังหวะที่เซลซีจ่ายบอลพลาดไปให้กับ อันโตนิโอ หลุดกระชากเข้าไปยิง แนวทางการเล่นของ วอร์ด-พราวส์ น่าจะลงตัวไปได้ดีกับเวสต์แฮมไม่น้อย 


ราฮีม ร่างทอง เลี้ยงแหวกช่วยสิงห์เต็มที่แล้ว


แม้ว่าจะไม่มีประตูหรือแอสซิสต์มากฝาก กับเกมเมื่อคืนกับเวสต์แฮม แต่ทว่านี่คือผู้เล่นที่โดดเด่นสุดๆของเซลซีเลย เพราะเกมบุกส่วนใหญ่ของสิงห์บูลส์ ล้วนมาจากฝั่งขวาทั้งสิ้น และลีลาการกระชากแหวกของ ราฮีม สเตอร์ลิง น่ากลัวได้ลุ้นทุกครั้ง 
 

สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปของ ราฮีม ในฤดูกาลใหม่นี้นั่นก็คือ รูปร่างที่บึกบึ้นขึ้น บวกกับความเป็นผู้เล่นที่จุดศูนย์ถ่วงต่ำอยู่แล้ว  ทำให้ยิ่งเวลาปะทะจึงล้มยากมาก บวกกับที่คือฤดูกาลที่สองเจ้าตัวกับเซลซี ทำให้ปรับตัวได้มากกว่าเดิมพอสมควรแล้ว
 

กับขุนค้อน สเตอร์ริง น่าจะเป็นผู้เล่นเพียงไม่กี่คนที่สร้างความปั่นป่วนให้เกมรับเวสต์แฮมได้ เล่นเอาแบ็กซ้าย เอเมอร์สัน หัวหมุนเลย ตลอดเกม ราฮีม สเตอร์ลิง เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งมากถึง 6ครั้ง เรียกฟาวล์ได้ถึง5หน
 

เรียกจุดโทษให้ทีมได้จังหวะแหวกกำแพงมนุษย์ ของ เวสต์แฮม ก่อนที่ โทมัส ชูเช็ค จะทำฟาวล์ ( แต่ทว่า เอ็นโซ่ ยิงพลาดไป) รวมถึงช็อตที่ แหวกผู้เล่นเจ้าบ้าน4ราย หลุดเข้าไปเปิดให้ เบน ชิเวลล์ ยิงไปติดบล็อก รวมถึงในครึ่งหลังกระชากไปเกือบสุดเส้นแล้วตักมาให้ มูดริค ได้วอลเล่ย์ แต่ทว่าปีกชาวยูเครนรายนี้ ซัดออกไปโด่งไม่ได้ลุ้น
 

เอาแค่ในครึ่งแรก สเตอร์ลิง ก็มีสถิติสัมผัสบอลในเขตโทษของ เวสต์แฮม ได้ถึง9ครั้ง ชนะการดวลอีก9หน ซึ่งถ้าเมื่อ รีซ เจมส์ หายเจ็บกลับมาเราน่าจะได้เห็นเกมรุกฝั่งขวาของสิงห์บูลส์ ดุดันกว่านี้แน่

 

ไกเซโด้ เดบิวต์ แบบแจกโชค 

หลังจากไปแย่งมาจาก ลิเวอร์พูล แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน สำหรับ ในเคสของ มอยเซส ไกเซโด้ ที่ท้ายที่สุดแล้ว ท็อดด์ โบห์ลี่ เจ้าของทีมจอมคลั่งได้ทุบพระคลังสโมสรคว้าตัว มาจาก ไบร์ทตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ด้วยค่าตัวทุบสถิติเกาะอังกฤษ 115ล้านปอนด์
 

หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการได่ไม่ถึงอาทิตย์ เวลาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมใหม่เซลซี อาจจะน้อยหน่อยทำให้ มิดฟิลด์ชาวเอกวาดอร์ต้องเริ่มต้นเกมกับ เวสต์แฮม ด้วยการเป็นตัวสำรองไปก่อน
 

โดย ไกเซโด้ ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง ลงมาแทน เบน ชิเวลล์ น.60 ในขณะที่ทีมตามหลัง เวสต์แฮม 1-2 ซึ่งการอยู่ในสนาม30นาที รวมช่วงทดเวลาบาดเจ็บอีก8นาที ต้องบอกว่ากองกลางวัย21ปี เหมือนจะยังมีเวลาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมน้อยไปหน่อย จังหวะจ่ายบอลแปลกๆ รวมถึงการยืนตำแหน่งต่างๆทับกับเพื่อน
 

ที่สำคัญคือ ไกเซโด้ ไปเข้าบอลพรวดพลาดในเขตโทษ จนทำให้ทีมเสียจุดโทษ โดน ปาเกต้า ซัดตอกฝาโรง 3-1 นอกจากนี้ยังมีก่อนหน้านั้นที่เจ้าตัวจ่ายบอลพลาดจนทำให้ ปาโบล ฟอร์นาลส์ ได้บอลไปยิงเสาแรก แต่ทว่า โรเบิร์ต ซานเชซ ใช้เท้าเซฟไว้ได้อย่างหวุดหวิด
 

โอเคว่านัดแรก จัดว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยสำหรับ มอยเซส ไกเซโด้ แต่ทว่าอาจจะต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าตัวด้วย กับเวลาฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมที่ไม่มากนัก และต้องลงมาเล่นในสถานการณ์ที่ทีมตามหลัง 

เรื่องฝีเท้าของเจ้าตัวไม่มีใครสงสัยอยู่แล้ว อาจจะต้องมาลุ้นเล็กๆตรงที่เรื่องความมั่นใจ ที่เริ่มต้นมาไม่ค่อยดี จะทำให้ ไกเซโด้ เอง เสียความมั่นใจ แบกรับความกดดันเรื่องค่าตัวได้เร็วไหมในช่วงแรกกับทีมสิงห์น้ำเงินหรือไม่

 

เซลซี ผิดพลาดส่วนบุคคล และขาดจอมทัพ



45นาทีแรกต้องบอกว่าลูกทีมของ เมาริโอ โปเซ็ตติโน่ ไม่ได้เล่นแย่เลย เสมอกับ เวสต์แฮม อยู่ 1-1 แถมยังมีโอกาสพลิกสถานการณ์ขึ้นนำ 2-1 ด้วยซ้ำ แต่ทว่า เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ สังหารจุดโทษไปโดน อเรโอล่า (ที่เซฟจุดโทษได้ครั้งแรกในพรีเมียร์) ป้องกันไว้ได้ โดยหากเซลซี ออกนำได้ก่อนจบครึ่งแรก น่าจะทำให้สถานการณ์แตกต่างออกไป
 

ความผิดพลาดส่วนตัว นี่คือสิ่งที่ลงโทษเซลซีอย่างสาสมในเกมเมื่อคืน ช็อตแรกลูกเตะมุม คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ที่ประกบ นาอีฟ อเกิร์ด อยู่ แต่ท้ายที่สุดแล้วเหมือนเจ้าตัว จะเสียจังหวะไม่เทกตัวขึ้นโหม่งตามกองหลังชาวโมร็อกโก
 

หรือประตูที่2 ก็เป็น อั๊กเซล ดิซาซี่ ที่จ่ายบอลพลาดไปเข้าทาง เจมส์ วอร์ด -พราวส์ แล้วโดนเจ้าพ่อลูกนิ่งรายนี้ แทงสวนเร็วไปให้ มิคาอิล อันโตนิโอ เบียดชนะ โควิลล์ บังบอลลากไปซัดเสียบเสาไกลสุดเฉียบ
 

และที่ชัดเจนสุดๆกับประตูตอกฝาโลง 3-1 จากจุดโทษของ ลูคัส ปาเตก้า ที่ มอยเซส ไกเซโด้ ที่ประเดิมด้วยฝันร้ายไปทำฟาวล์ เอเมอร์สัน แบบเสียเหลี่ยม ซึ่งการโดยทะลวงตาข่ายทั้ง3เม็ดดังกล่าว มีจุดเริ่มต้นด้วยความผิดพลาดส่วนบุคคลหมดเลย
 

อีกจุดที่เซลซีขาดเป็นอย่างมากคือ ผู้เล่นในตำแหน่งจอมทัพ ซึ่ง คาร์นี่ย์ ชุควูเมก้า พี่พอแก้ขัดเล่นในตำแหน่งดังกล่าวได้ ก็พึ่งเจ็บไป ส่วนผู้เล่นกองกลางคนที่เหลืออย่าง เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ - โรเมโอ ลาเวีย - มอยเซส ไกเซโด้ รวมไปจนถึง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ก็ไม่มีใครเป็นผู้เล่นประเภทหมายเลข10เลย
 

การมาของนักเตะตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์ (ที่ตอนแรกวางให้ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู เล่นคล้ายๆบทบาทดังกล่าว แต่เจ็บไปก่อน) จะทำให้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เล่นแผนที่ถนัด 4-2-3-1 ได้ นั่นทำให้อีกไม่ถึง2อาทิตย์ ที่ตลาดนักเตะจะปิดตัวลง เราอาจเห็น ท็อดด์ โบห์ลี่ ทุ่มจัดหนักอีกก็เป็นได้ 


 

 

 

 

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง