เรือใบ ครองเกาะอังกฤษ ! 5ประเด็นนัดสุดท้าย พรีเมียร์ลีก 2023-2024
ไม่มีอะไรพลิกโผจริงๆสำหรับนัดสุดท้ายของ พรีเมียร์ลีก 2023-2024 โดยเฉพาะในเรื่องของการลุ้นแชมป์ เพราะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นผู้กุมชะตาตัวเอง ก็ปิดจ็อบได้สำเร็จแทบจะตั้งแต่ 45นาทีแรก ในการเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมที่ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว และสุดท้ายทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็คว้าชัยเหนือผู้มาเยือนไป 3-1 ส่วนผู้ท้าชิงอาร์เซน่อล ทำดีที่สุดแล้ว ด้วยการเฉือนเอฟเวอร์ตัน 2-1
เผลอแป๊บเดียวพรีเมียร์ลีก 2023-2024 ที่ฟาดแข้งกันมานาน9เดือน ก็ถึงคราวรูดม่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งไฮไลต์สำคัญนั้นก็ต้อง เป็นการลุ้นแชมป์กันของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ อาร์เซน่อล ที่ต้องมาฎีกากันจนถึงแมตช์ที่ 38
ก่อนเกมเรือใบสีฟ้า มีอยู่88แต้ม ส่วน ปืนใหญ่ มีอยู่ 86 แต้ม สถานการณ์ดังกล่าว เท่ากับว่า ซิตี้ เป็นผู้กุมชะตาตัวเอง จะได้เล่นที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ฟัดกับ เวสต์แฮม ซึ่งเกมก็แทบจะจบ ตั้งแต่ 20นาทีแรก เพราะ ฟิล โฟเด้น นักเตะยอดเยี่ยมขอพรีเมียร์ลีก กดเบิ้ล ให้ทีมขึ้นนำ2-0 น.2 และ18
45นาทีแรก ทีมของ เดวิด มอยส์ ตีตื้นมาให้ความหวังไปถึงแฟนบอลที่สนาม เอมิเรต สเตเดี้ยม เมื่อ โมฮาเหม็ด คูดูส ตีลังกายิงสุดสวยเข้าไป น.42 ก่อนที่ในครึ่งหลัง โรดรี้ ก็มายิงประตูเครื่องหมายการค้าแบบที่ถนัด ฉีกหนีห่างเป็น 3-1 น.59
ก่อนที่จะจบไปด้วยสกอร์ดังกล่าว ส่งเรือใบสีฟ้าครองแชมป์อย่างยิ่งใหญ่เก็บไป 91แต้ม และแถมยังเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ ลูกหนังอังกฤษ 136ปี ที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ 4สมัยติด ส่วน ผู้ท้าชิงอาร์เซน่อล ก็ทำดีที่สุดแล้ว ด้วยการแซงเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1
ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ขึ้นนำไปก่อนจากฟรีคิกแฉลบของ กาน่า เกย์ น.40 ปืนมายิงแซง2เม็ดจาก ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ น.42 และ ไค ฮาแวร์ตช์ น.89 ชนะไป2-1 ทีมของ มิเคล อาร์เตต้า ทำดีแล้ว แต่ทว่าก็ยังไม่ดีพอที่จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ในรอบ20ปี แม้จะเก็บไปได้ถึง 89แต้มก็ตาม
ส่วนนัดสุดท้ายของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กับ ลิเวอร์พูล ก็จบลงอย่างสวยงาม ด้วยการเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่เหลือ10คนไป 2-0 อล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ โขกเข้าไป น.34 และ จาร์เรล ควอนซาห์ น.40 ที่มากกว่าชัยชนะนั่นก็คืองานอำลา เจอร์เก้น คล็อปป์
โดยยอดกุนซือชาวเยอรมัน ได้กล่าวคำอำลา เดอะ ค็อป ที่สนาม แอนฟิลด์ อย่างยิ่งใหญ่และกินใจ นอกจากนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังสานต่อ ร้องเพลงให้กำลังใจผู้จัดการคนใหม่ อาร์เนอ สล็อต กับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย
ทางด้านทีมอันดับ 5-6-7-8 ก็คว้าชัยได้ทั้งหมดเลย ทั้ง ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส - เซลซี - นิวคาสเซิ่ล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนตกชั้น เบิร์นลี่ย์ และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ตกไปหมดแล้วก่อนนัดสุดท้าย และก็มาแพ้คาบ้านอำลาแฟนบอลอีก
ส่วน ลูตัน ทาวน์ ที่ก่อนหน้านั้นตกชั้นไปแล้ว 99% ก็เป็นทีมสุดท้ายที่กลับไปเล่น เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อย่างเป็นทางการ แถมเกมสุดท้ายในบ้านยังแพ้ ฟูแล่ม อีก 2-4 นั่นเท่ากับว่าทีมน้องใหม่ ต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านเก่าหมดเลยทั้ง3ทีม
เรือใบครองเกาะอังกฤษ 4สมัยรวด ทีมแรกในประวัติศาสตร์ 136ปี
เอาตรงๆต้องบอกว่าซีซั่น 2023-2024นี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดร็อปลงกว่าปีที่แล้วชุดคว้าทริปเปิ้ลแชมป์เสียอีก เพราะในช่วงแรกของฤดูกาล ผู้เล่นที่ซื้อมาใหม่ ยังไม่ได้ฉายแสงหรือปรับตัวได้ดีนักทั้ง เฌเรมี่ โดกู- ยอสโก้ กวาร์ดิโอล - มัตเตโอ โควาซิซ ที่กว่าจะมาพีคแล้วเข้าฝักสุดๆ ต้องรอไปจนถึงครึ่งฤดูกาลหลัง โดยเฉพาะในรายของ กวาร์ดิโอล หลังกลายเป็นแบ็กซ้ายที่เติมได้อย่างเมามัน
มีเพียง มัทเธอุส นูนเนซ เท่านั้น ที่ยังเล่นเข้ากับทีมไม่ได้ในฐานะนักเตะหน้าใหม่ เออร์ลิง ฮาลันด์ ก็มีช่วงที่ทั้งฝืดและเจ็บไปหลังปีใหม่ แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้ว ดาวยิงชาวนอร์เวย์ แม้จะไม่กระฉูดแตกเท่าฤดูกาลก่อน แต่มาตรฐานก็ยังยอดเยี่ยม เพราะจบด้วยการเป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 27 ประตู
ส่วน เควิน เดอ บรอยน์ ก็เจ็บยาว ตั้งแต่นัดแรกของฤดูกาล หายกลับมาหลังปีใหม่ สำหรับเกมพรีเมียร์ลีกลุ้นแชมป์นัดสุดท้าย การที่ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุมชะตาของตัวเองไว้ มันก็ชัวร์ตั้งแต่ก่อนแข่งแล้วว่า ด้วยประสบการณ์ ความเขี้ยวต่างๆที่ ซิตี้ โชว์ออกมาให้เห็นนับครั้งไม่ถ้วน3-4ปีหลัง หวยจะออกไปทางไหน
เพียงแค่1นาทีเศษ ฟิล โฟเด้น ก็มาตะบันไกลสุดสวยให้ทีมขึ้นนำ ผ่านไปไม่ถึง20นาที แข้งเบอร์47 ก็มาเบิ้ลอีกหน น.18 แม้ว่า โมฮาเหม็ด คูดุส จะมีตีลังกายิงสุดสวย ไล่มา 2-1 น.42 ให้ได้เสียวกันบ้าง แต่ทุกอย่างก็ถูกผ่อนคลายให้โล่งกับ ลูกยิงของ โรดรี้ น. 59
โฟเด้น กลายเป็นคีย์แมนสำคัญสุดๆของเรือใบฤดูกาลนี้ การันตีได้จากรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก พร้อมผลงาน19ประตู 8แอสซิสต์ หรือจะให้นับรวมทุกรายการ 27ประตู 11แอสซิสต์ เป็นผลงานที่ดีที่สุดของเจ้าตัวนับตั้งแต่เลื่อนขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่
โดยช่วงนัดที่32ของฤดูกาล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่อันดับ3ของตารางด้วยซ้ำ จ่าฝูงเป็นอาร์เซน่อล รองจ่าฝูงเป็นลิเวอร์พูล 9นัดสุดท้ายของฤดูกาล ทีมของเป๊ป เร่งเกียร์เต็มสูบชนะรวด
นี่เป็นการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยที่4ติดต่อกัน ทีมแรกในประวัติศาสตร์136ปี อังกฤษ แถมยังเป็นสมัยที่6 จาก 7ปี หลังสุดอีกด้วย และต้องบอกว่านี่เป็นยุคของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ครองเกาะอังกฤษแบบเบ็ดเสร็จ จริงๆ
ปืน ทำดีที่สุดแล้ว พลาดนัดวิลล่าเสียหายสุด
ได้ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกไปจนถึงนัดสุดท้ายสำหรับอาร์เซน่อล แต่เงื่อนไขนั่นก็คือพวกเขาไม่ได้กำหนดชะตาตัวเองนี่สิ ด้วยความที่ตามหลงอยู่ 2แต้ม พลพรรค "กันเนอร์ส " อันดับแรกเลยคือพวกเขาต้องเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ให้ได้สถานเดียว ลุ้นต่อมาคือต้องภาวนาให้ เรือใบสีฟ้า ไม่ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
เอาจริงๆแฟนปืนใหญ่ในสนาม แทบจะหมดลุ้นเลยนับตั้งแต่ที่ ฟิล โฟเด้น ส่งบอลไปซุกก้นตาข่าย ภายในระยะเวลา1นาทีเศษๆ และมารัวเม็ดที่2 น.18 ห้วงเวลาที่อาร์เซน่อล มีชีวิตชีวาที่สุดเห็นที่จะเป็นตอนที่ เวสต์แฮม ไล่ตีตื้น ซิตี้ มา 1-2 และพวกเขาเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน อยู่ 1-1
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม ลูกยิงของ โรดรี้ ที่ฉีกหนีเป็น3-1ทำให้ความหวังของ อาร์เซน่อล มลายหายไปทันที จบเกมที่ เอติฮัด ซิตี้ ชนะ 3-1 ส่วนปืนใหญ่ สุดท้ายก็ยังได้ประตูชัย 2-1ปลอบใจแฟนบอล ของ ไค ฮาแวร์ตช์ น.89
ทำให้จบฤดูกาล อาร์เซน่อล ที่มีมากถึง 89 แต้ม ต้องการเป็นรองแชมป์ 2ฤดูกาลติดต่อกัน ปีที่แล้วได้ 86แต้ม จริงๆ 18นัดหลังสุดทีมของ " พี่ต้า " ก็โหดมากๆแล้วเพราะชนะไปถึง 16 เสมอ1 แพ้เพียงแค่นัดเดียว
แถมสถิติการเจอกับทีม ท็อปซิกซ์ 10นัด พวกเขาก็ดีที่สุดใน มินิลีก ชนะ 6 เสมอ4 ไร้พ่าย ซึ่งฤดูกาลนี้ ทีมที่ทำแสบใส่พวกเขามากที่สุด เอาชนะอาร์เซน่อลได้ทั้งไปกลับ นั่นก็คือ แอสตัน วิลล่า ของ อูไน เอเมรี่ ที่เคยเป็นอดีตกุนซือปืนโตนั่นเอง
ถึงกระนั้นก็ดี การพลาดแชมป์ของ อาร์เซน่อล ไม่ใช่เรื่องที่น่าผิดหวังหรือมองเป็นความล้มเหลวแต่อย่างใด เพราะก่อน มิเคล อาร์เตต้า เข้ามา ปืนใหญ่ไม่ได้มีสถานะเป็นทีมลุ้นแชมป์เลย 2023-2024นี้ เป็นหนึ่งในซีซั่นที่ดีที่สุดของอาร์เซน่อล (น้อยกว่าชุดไร้พ่าย1แต้ม) แต่ทว่าต้องยอมรับว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นไร้เทียมทานกว่าจริงๆ
ขอบคุณนะ และจะไม่มีวันลืม.. เจอร์เก้น คล็อปป์
แม้ว่าในเรื่องของอันดับในตารางคะแนน จะไม่มีอะไรต้องลุ้นแล้วสำหรับ ลิเวอร์พูล เพราะพวกเขาการันตี จบอันดับ3 และจองสิทธิไปเล่นถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เรียบร้อย หลังจากที่ไปเล่นใน ยูโรป้า ลีก มา1ฤดูกาล แต่ทว่านี่คือเกมที่เปี่ยมไปด้วยโมเมนต์ความทรงจำดีๆทั้งสิ้น เพราะมันคือแมตช์อำลา ชายผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง เปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือให้กับลิเวอร์พูล
หงส์แดงเล่นนัดสุดท้ายที่แอนฟิลด์ เจอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว สั่งลาช่วงระยะเวลาเกือบ9ปีของ เจอร์เก้น คล็อปป์ โดยออกสตาร์ทรูปเกมก็ค่อนข้างสูสีใช้ได้ แต่ทว่าเมื่อ เนลสัน เซเมโด้ โดนใบแดง น.28 นั่นก็ทำให้ทุกอย่างง่ายดายไปหมดของเจ้าบ้าน
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ จาร์เรล ควอนซาห์ ทำคนละประตู น.34 และ40 พาลิเวอร์พูล ส่งท้ายให้ " เจเค " ไปด้วยชัยชนะ 2-0 แม้เป็นแมตช์ที่ไม่ได้มีความหมายในตาราง แต่ผู้เล่นหงส์แดง เล่นดีกันทุกคน เพื่อทำให้เกมอำลานี้จบอย่างสวยงาม
ลิเวอร์พูล จบอันดับ3พรีเมียร์ลีก มี 82แต้ม พร้อมแชมป์ถ้วยเล็ก คาราบาว คัพ ติดมือ ถ้าเอาช่วงก่อนออกสตาร์ทฤดูกาล กับการเปลี่ยนถ่ายแดนกลางต้องบอกว่า ทีมเครื่องจักรสีแดง ทำได้ดีกว่าที่คาดจริงๆ แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะได้ลุ้นแชมป์ลีก ไปจนนัดสุดท้าย
ไฮไลท์ของงานจึงอยู่ที่พิธีการหลังจบเกม กับการอำลา เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่อบอุ่นกินใจ รวมถึงบรรดาเหล่าแข้งนักเตะสต๊าฟทีมงานที่จะออกจากทีมก็มาร่ำลาแฟนบอลทั้ง ติอาโก้ อัลกันทาร่า และ โฌแอล มาติป
" เจเค " กล่าวคำขอบคุณแฟนบอลที่แอนฟิลด์ พร้อมร้องเพลงเชียร์กุนซือคนใหม่ อาร์เนอ สล็อต และไม่ลืมท่าดีใจอันเป็นเอกลักษณ์ FIST PUMP ไปครบอัฒจันทร์ ทั้ง4สนาม ร่ำลา สาวก เดอะ ค็อป เป็นครั้งสุดท้าย
1แชมป์ พรีเมียร์ลีก -1 แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก - 1 แชมป์ เอฟเอ คัพ - 2แชมป์ คาราบาว คัพ - 1แชมป์ สโมสรโลก การเปลี่ยนแปลงย่อมมีวันมาถึง ขอบคุณและอำลายอดกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์
ผี แย่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก - เอฟเอ คัพ ชี้ชะตา เทน ฮาก
ไม่รู้จะอ้างเรื่องผู้เล่นบาดเจ็บได้อย่างเต็มปากรึเปล่า สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การทำทีมของ เอริก เทน ฮาก ฤดูกาลที่ 2เพราะพวกเขาทรงไม่ดีมาตั้งแต่เปิดฤดูกาล มาจนถึงนัดสุดท้าย ทำให้ท้ายที่สุดแล้ว ปีศาจแดง จบอันดับที่8 มีอยู่เพียง 60 แต้ม จาก38นัด พร้อมลูกได้เสีย ติดลบ-1 แย่ที่สุดของทีมในยุคพรีเมียร์ลีก
ปี 2013-2014 ที่ เดวิด มอยส์ คุมทัพ (ไรอั้น กิ๊กส์ คุมชั่วคราว4นัด) ยูไนเต็ด จบที่7 มีอยู่ 64แต้ม แถมลูกได้-เสีย ยัง +ถึง 21 ฤดูกาลปัจจุบัน สิ่งที่ ETH ไม่เคยแก้ไขได้เลยนั่นก็คือ การเซ็ตบอลจากแดนหลัง กองกลางที่ครองเกมได้ เกมรับที่เสียประตูง่าย รวมถึงการรับมือลูกเตะมุม
กับเมื่อคืนการไปเยือน ไบร์ทตัน ที่เป็นทีมต่อบอลดี ปีศาจแดง ก็เป็นรองคู่แข่งในเรื่องนี้จนแล้วจนรอด แม้จะไม่มากนัด นกนางนวล ในการคุมทีมนัดสุดท้ายของ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ " เดอะ ซีกัลล์ " มีโอกาสได้จบหลายครั้ง แต่ทว่าก็ไม่คมไปเอง รวมไปจนถึงแผงหลังปีศาจแดงช่วยกันจังหวะสุดท้ายไว้ได้ทัน
แม้ว่ารูปเกมจะไม่ได้ดีกว่า แต่ปีศาจแดงก็ใช้ลูกสวนกลับโจมตี ไบร์ทตัน จนได้ผล และมาได้2เม็ด 45นาทีหลัง จาก ดิโอโก้ ดาโล่ต์ น.73 และตัวสำรอง ราสมุส ฮอยลุนด์ น.88 จบ 90นาที ชนะ 2-0 ที่ เอแม็กซ์ สเตเดี้ยม
แต่ทว่า3คะแนนดังกล่าว ก็ไม่ทำให้ทีมของ ETH รอดพ้นจากอันดับ8แต่อย่างใด เพราะทั้ง นิวคาสเซิ่ล และ เซลซี ก็คว้า3แต้มได้เช่นกัน อันดับ8 พร้อมเก็บได้เพียง60แต้ม คือสถิติปีศาจแดงในยุคพรีเมียร์ลีกที่แย่สุดในประวัติศาสตร์
ซัมเมอร์นี้ผู้เล่นม้าแก่อายุเยอะหรือค่าเหนื่อยแพง จะถูกปล่อยออกไปจากทีมหลายรายทั้ง กาเซมิโร่ - ราฟาแอล วาราน - คริสเตียน อิริคเซ่น รวมไปจนถึง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ส่วน อนาคตของ เอริก เทน ฮาก ต้องบอกว่าแค่จบ "ธี่แปด " ด้วยมาตรฐานทีมใหญ่ กุนซือชาวดัตช์ ไม่น่ารอดแน่ๆแล้ว
แต่ทว่าถ้วย เอฟเอ คัพ ที่จะชิงกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อาทิตย์นี้ จะเป็นสิ่งชี้ชะตาว่า เอริก เทน ฮาก จะได้อยู่ต่อหรือไม่ หรือถ้าได้แชมป์ กุนซือหัวใสรายนี้ ก็ยังมีสิทธิโดนเด้งอยูดี ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่ที่ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ แล้วแหละว่ามองทีมไปในทิศทางไหน
น้องใหม่ 3ทีม ควงแขนกันกลับบ้านเก่า ชปช.
ตั้งแต่ยังไม่ทันเปิดฤดูกาลใหม่ 3ทีมน้องใหม่อย่าง เบิร์นลี่ย์- ลูตัน ทาวน์ และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ถูกยกให้เป็นเต็งจ๋าที่จะตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกเลย เมื่อดูจากตัวผู้เล่นที่มีอยู่ รวมไปจนถึงการเสริมทัพที่ยังไม่ดีพอเลยสำหรับเวทีลีกสูงสุดอังกฤษ ทำให้พวกเขาต้องร่วงหล่นกลับบ้านเก่า แชมเปี้ยน ชิพ เพียงฤดูกาลเดียวไปพร้อมๆกัน
เบิร์นลี่ย์ ของ แวงซ็อง กอมปานี ที่กลับมาเล่นพรีเมียร์ลีก ในฐานะแชมป์ ชปช. ที่คว้าไปถึง 101แต้ม พร้อมด้วยปรัชญาการเล่นที่สวยงาม ต่อบอลเท้าสู่เท้า พยายามจะเล่นเหมือน ทีมของเจ้านายเก่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
แต่ทว่าการเล่นด้วยแนวทางดังกล่าวของ " เดอะ คลาเร็ตส์ " นั่นเป็นเหมือนหมูที่ไม่กลัวน้ำร้อน ครางเปราะโดนยิงง่าย สวยแต่รูปจูบไม่หอมนี่คือเบิร์นลี่ย์ ของ กอมปานี ในพรีเมียร์ลีก และกุนซือชาวเบลเยี่ยม ก็ไม่ปรับสไตล์การเล่นด้วย จึงทำให้จบเป็นที่19ของตาราง ตกชั้นตั้งแต่ยังไม่จบฤดูกาล มีอยู่เพียง24แต้ม
ส่วน ลูตัน ทาวน์ ทีมที่เลื่อนชั้นมาเป็นทีมสุดท้ายด้วยการเพลย์ออฟ เป็นทีมเต็งอันดับ1ที่จะตกชั้น พวกเขาดูจะดีขึ้นมานิดหน่อยจนมีลุ้นรอดตกชั้น แถมยังได้นักเตะที่พอมีเกรดเข้ามาอย่าง รอส บาร์คลี่ย์ส รวมไปจนถึงยืม ทาฮิธ ชอง มาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด
ลูตัน ของ กุนซือ ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์ เป็นทีมที่ดูวูบวาบ กว่าจะพอมาจับทางได้ก็ผ่านครึ่งฤดูกาลไปแล้ว คาลตัน มอร์ริส ที่ยิงไป11ประตู ปลายเดือนธันวาคม ไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่พวกเขาผลงานดีสุดแล้ว 5นัด ชนะ2 เสมอ2 แพ้1
" เดอะ แฮตเตอร์ส " ข้อเสียคือพวกเขาเป็นทีมที่รักษาโมเมนตัม ไม่ค่อยได้ นำคู่แข่งบ่อยหลายนัด แต่ถูกปล่อยให้โดนตีเสมอหรือโดนแซงตลอด ที่จริงพวกเขาตกชั้นไป 99% แล้วตั้งแต่นัดที่37 เกมสุดท้ายที่ เคนิลเวิร์ธ โร้ด ส่งท้ายแฟนๆพวกเขาก็ยังพ่ายฟูแล่มไปอีก 2-4 ทำให้จบที่ซีซั่นด้วยที่18 เก็บไปเพียง 26แต้ม
ส่วนสุดท้าย เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมรองแชมป์ ชปช. ที่ได้กลับมาเล่นพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ได้สร้างสถิติสุดห่วยไว้มากมาย พวกเขาอาการหนักกว่า เบิร์นลี่ย์ และ ลูตัน ทาวน์ มากๆ " ดาบคู่ " มีการเปลียนกุนซือจาก พอล ฮิคกิงบ็อตทอม มาเป็น คริส ไวเดอร์ ต้นเดือนธันวาคม แต่ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว
เชฟฟิลด์ ไม่เคยมีวี่แววที่จะรอดตกชั้นเลย แถมยังมีแมตช์ที่โดนคู่แข่งระเบิดโถส้วมกระจุยกระจายหลายนัด โดยยิง5ประตู 5นัด / มีแพ้ 0-6 และ 08 อย่างละนัด เก็บไปได้เพียง 16แต้ม จาก38นัด ผลต่างประตูได้เสีย -69 โดนส่องตาข่ายไปมากถึง 104 เม็ด มากที่สุดของสถิติพรีเมียร์ลีก
แต่ยังดีที่ไม่ทำลายสถิติ แต้มน้อยสุดของ ดาร์บี้ เค้าท์ตี้ เมื่อฤดูกาล 2007-2008 ที่เก็บได้เพียง 11แต้ม บทสรุปคือ 3ทีมน้องใหม่ ที่เลื่อนชั้นขึ้นมากอดคอกันตกชั้นหมด เป็นหนแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1997-1998 คราวนั้นเป็น คริสตัล พาเลซ - โบลตัน และ บาร์นสลี่ย์
- คอลัมน์นิสต์
- พรีเมียร์ลีก คอลัมน์บอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อาร์เซน่อล ลิเวอร์พูล เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เจอร์เก้น คล็อปป์ มิเคล อาร์เตต้า ฟิล โฟเด้น
- 263
- 20 พ.ค. 2567 16:13