เป๊ป แพ้5นัดรวด ! ไก่ โชว์อหังการ บุกขยี้ เรือ ยับ 4-0 แม็ดดิสัน HBD กดเบิ้ล
เข้าใจว่ากำลังอยู่ในช่วงโมเมนตัมแย่ และแพ้มา4นัดติดต่อกัน แต่ทว่าการที่ได้พักเบรกทีมชาติ และตัวกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้มีการต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไป นั่นก็น่าจะทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีขวัญกำลังใจมากขึ้นไม่น้อย ในการเจอกับ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส แต่ทว่าผลลัพธ์ 90นาทีที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อคืน ถือว่าช็อกโลกไม่น้อย เพราะเป็นทีมคลับไก่ ที่บุกมาอัดเรือใบคาบ้านยับเยินสุดๆ 4-0
หลังจากที่พ่ายมา4นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ แต่ทว่านั่นก็เป็นในเกมเยือนทั้งหมดสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งหลังพักเบรกทีมชาติ ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะได้กลับมาเล่นในบ้าน ต้อนรับการมาเยือนของ สเปอร์ส ทีมที่ทำผลงานได้ดีตลอดเวลาเจอพวกเขา
การจัดทัพ ทีมสีฟ้าเมืองแมนเชสเตอร์ มาในระบบเก่ง 4-3-3 โกล เอแดร์ซอน คู่เซ็นเตอร์ มานูเอล อคานยี่ ผนึกกำลังกับ จอห์น สโตนส์ แบ็กซ้ายขวา ยอสโก้ กวาร์ดิโอล และ ไคล์ วอล์คเกอร์ แดนกลาง ริโก้ ลูอิส ถูกดันขึ้นมาเล่น ร่วมกับ อิลคาย กุนโดกัน และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา
3ประสานแนวรุก ซาวินโญ่ - ฟิล โฟเด้น หน้าเป้า เออร์ลิง ฮาลันด์ ฟากทีมเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส ที่พึ่งพลิกล็อกแพ้ อิปสวิช ทาวน์ คาบ้าน 1-2 บุกมาเยือน เอติฮัด ด้วยสภาพที่ไม่สมบูรณ์นัก เพราะพวกเขาขาดคู่เซ็นเตอร์ ตัวจริงอย่าง มิคกี้ ฟาน เดอ เฟ่น และ คริสเตียน โรเมโร่
" แอนจ์ " มาในระบบ 4-2-3-1 โกล กิเยลโม่ วิคาริโอ เซ็นเตอร์ขัดตราทัพใช้ ราดู ดรากูซิน และ เบน เดวิส ที่หุบมาแล่น แบ็กซ้ายขวา -เปรโดร ปอร์โร่ และ ดิสตินี่ อูโดกี แผงหลาง อิฟส์ บิสซูม่า ผนึกกำลังกับ ป๊าป ซาร์ โดยมี เจมส์ แม็ดดิสัน เป็น เพลย์เมคเกอร์ ปีกซ้าย ซน ฮึง -มิน / ปีกขวา เดยัน คูลูเชฟสกี้ กองหน้า โดมินิค โซลันกี้
เริ่มเกมมาช่วง10นาทีแรก เหมือนว่า ซิตี้ จะมาแล้ว หลังเครื่องสะดุดมานาน เพราะครองบอลได้ สร้างโอกาสยิงได้ กดทีมเยือนอยู่ฝ่ายเดียว มีโอกาสลุ้นถึง2ครั้งจาก เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่ทั้งติดเซฟ วิคาริโอ และ แฉลบกองหลังออกไป
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม สเปอร์ส ที่ได้บุกเข้ามาในเขตโทษครั้งแรก ก็เป็นเรื่องเลย คูลูเชฟสกี้ วางบอลข้ามแนวรับเจ้าบ้าน และเป็น แม็ดดิสัน ที่ฉลองวันเกิดด้วยการวิ่งเข้ามาแปง่ายๆเข้าไป นำ1-0 น.13 และไก่เดือยทอง ก็มาทำช็อกอีกรอบ แม็ดดิสัน คนเดิมหลุดไปชิปผ่าน เอแดร์ซอน เข้าไปอย่างเหนือชั้น ฉีกหนี 2-0 เพียง น.20
ซึ่งพอตามหลัง 2เม็ด ซิตี้ ก็เร่งเครื่องพยายามไล่ตีมาก่อน1ลูกให้ได้ แต่ทว่ายังหาจังหวะจบจะแจ้งได้ไม่ดีพอ หรือถ้าได้หวาดเสียวก็เป็น วิคาริโอ โชว์หนึบ ปัดป้องได้หมด และก็เกือบโดนเกมสวนกลับทีมของ " ลุงแอนจ์ " เล่นงานหลายรอบ เช่นกัน จบ45นาทีแรก สเปอร์ส โชว์เซอร์ไพรส์ บุกมาขึ้นนำ 2-0
พักครึ่ง เป๊ป เปลี่ยนตัวทันที เอา จอห์น สโตนส์ ออก และให้ เนธาน อาเก้ ลงมาแทน แต่ทว่าเกมเริ่มมาได้เพียง7นาที สเปอร์ส ก็อาศัยจังหวะสวนกลับ มาได้ประตูหนีเป็น 3-0 เท่านั้น จากลูกยังเต็มข้อของแบ็กอย่าง เปโดร ปอร์โร่ น.52
พอโดนเม็ด3 แมนฯ ซิตี้ ก็ยังพยายามไล่ตีมาก่อน1-3 แต่ทว่าวันนี้ ไม่ใช่วันที่คมกรับของ อาลันด์ จริงๆ มีซัดไปชนคาน1รอบ พวกกับนายด่านสเปอร์สวันนี้ก็ไม่พลาดเลยด้วย ท้ายที่สุดแล้ว เป๊ป เลือกที่จะส่ง เควิน เดอ บรอยน์ ลงมาสนาม น.74
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม ด้วยแนวรับเรือใบสีฟ้า ที่ดันสูงหละหลวม บวกกับเกมสวนกลับของ สเปอร์ส นั้น รวดเร็วฉับไวดั่งสายฟ้าขาด ตัวสำรอง ติโม แวร์เนอร์ ได้ใช้ความเร็ววัดกับ วอล์คเกอร์ หลุดจากฝั่งซ้าย ควบเรื่อยๆมาให้ ตัวสำรอง แบรนเดน จอห์นสัน แท็ปอินเข้าไปง่ายๆ 4-0 น.90+3 และจบลงด้วยสกอร์สุดช็อกดังกล่าว สเปอร์ส บุกมาจมเรือใบคาบ้าน 4-0
ฮาลันด์ คนเดิมเคยคมหายไปไหน
ต้องไม่ลืมว่าต้นฤดูกาลออกสตาร์ทพรีเมียร์ลีก เออร์ลิง ฮาลันด์ นั้นฟอร์มแรงระเบิดภูเขา เผากระท่อมมากๆ 5นัดแรกในลีก กระทุ้งไป11ประตู แต่ทว่าหลังจากนั้น7นัด " จอมมารบู " ยิงเพิ่มไปได้เพียง2เม็ดเท่านั้น แม้ว่าในถ้วย ยูซีแอล ยังยิงได้เรื่อยๆก็ตาม
เมื่อคืน ฮาลันด์ มีโอกาสได้จบสกอร์มากถึง 7หน โดยเฉพาะช่วง10นาทีแรก เจ้าตัวควรจะทำให้ทีมขึ้นนำด้วยครั้ง จากโอกาส2ครั้ง 2ครา ที่ยิงไปแฉลบ อูโดกี ออก และ ยิงไปติด วิคาริโอ ที่ใช้ขาเซฟ
45นาทีหลังก็มีอีกถึง2โอกาสที่ กองหน้าชาวนอร์เวย์ ควรจะส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายทั้ง จังหวะความผิดพลาดของแนวรับสเปอร์ส ฮาลันด์ ยิงเต็มแรงสนั่นบอลไปชนคาน และลูกยิงมุมแคบที่โดนความยอดเยี่ยมของ วิคาริโอ ที่ใช้ปฎิกิริยาเซฟเสาแรกได้ทัน
เอา4นัดหลังสุดในลีก เออร์ลิง ฮาลันด์ มีโอกาสยิงมากถึง27ครั้ง แต่ทว่าก็แปรเปลี่ยนเป็นประตูได้เพียง2ลูกเท่านั้น การใช้โอกาสหรือจังหวะเปลือง คือสิ่งที่เราได้เห็นมากขึ้นในฤดูกาลนี้ อีกจุดหนึ่งที่ควรติ ซิตี้ ในแนวรุกมากๆ นั่นก็คือเกมริมเส้น
ฟิล โฟเด้น ยังไม่ใช่คนเดิมที่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก ซีซั่นที่แล้ว ซาวินโญ่ เร็ว วูบวาบจริง แต่ทว่าจังหวะทีเด็ดทีขาด ความเฉียบคมยังขาดไปเยอะมาก ยังไม่รวมพวกตัวที่เจ็บอยู่อย่าง เฌเรมี่ โดกู และ แจ็ค กรีลิช ที่แผลงฤทธิไม่ค่อยออกเช่นกัน รายชื่อปีก4รายเหล่านี้ ยิงรวมกันในพรีเมียร์ลีกได้แค่ 1ลูกเท่านั้น
กวาร์ดิโอ / วอล์คเกอร์ แนวรับเรือรั่วทุกจุด
เกมกับ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส เมื่อคืน นี่คือวันที่แผงรับของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้่ ห่วยแตกและย่ำแย่มากๆที่สุดนับตั้งแต่ ที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้ามาคุมทีมเลย ซึ่งความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมาจากทั้งตัวบุคคล และการจัดการระเบียบเกมรับที่หละหลวมสุดๆด้วย เหมือนขาดผู้บัญชาการในเกมรับ
เอาประตูแรกที่เสียให้ เจมส์ แม็คดิสัน น.13 นี่คือการบุกเข้ามาในเขตโทษครั้งแรกของ สเปอร์ส เลย ความผิดพลาดแรกเริ่มจาก ยอสโก้ กวาร์ดิโอ เลย ที่ปล่อยให้บอลตก และเสียท่าให้กับ เดยัน คูลูเชฟสกี้ ได้ตักเข้ามาด้านใน
ประตูที่2 ก็เป็น กวาร์ดิโอล เจ้าเก่าที่ทำเสียเลือกจ่ายบอลขวางสนามหน้าเขตโทษตัวเองดื้อๆแล้วโดนดัก ส่วน ทั้ง ริโก้ ลูอิส และ จอห์น สโตนส์ ก็ไปหลงจังวะโยกของ ซน ฮึง -มิน จน แม็ดดิสัน ที่เติมขึ้นมาได้ชิปง่ายๆ
เม็ดที่3ก็ปล่อยให้ เปโดร ปอร์โร่ ได้ตั้งป้อมยิงแบบถนัดๆ ไร้ตัวประกบ ซาวินโญ่ ไม่ตามแบ็กชาวสเปนรายนี้มา รวมถึง อิลคาย กุนโดกัน ก็เข้ามาบล็อคลูกยิงของ ปอร์โร่ ช้าไปมากๆ ประตูที่4 มาจากจังหวะสวนกลับ
ความสด ความเร็วของ ติโม แวร์เนอร์ ที่ลงมาใหม่ สปีดลากเอาชนะ ไคล์ วอล์คเกอร์ ในวัย34ปี ตั้งแต่ครึ่งสนาม ให้ จอห์นสัน ชาร์จง่ายๆ ต้องบอกว่าช็อตนี้หมดสภาพตามอายุสังขารจริงๆสำหรับ วอล์คเกอร์
นาธาน อาเก้ ที่ลงมาแทน สโตนส์ ตั้งแต่ออกสตาร์ทครึ่งหลัง ก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย แผงแบ็กโฟร์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหมือนขาดคนสั่งบัญชาการจัดระเบียบ ซึ่งคนที่จะทำให้เด็นทีจะเป็น รูเบน ดิอ๊าซ คนเดียวเท่านั้น (เจ็บอยู่)
แม็ดดิสัน เหมา2 ฉลองHBD
ตอนย้านมาอยู่กับ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส ใหม่ๆ ซัมเมอร์ 2023 อิมแพ็คต่อเกมเยอะมากๆเลยสำหรับ เจมส์ แม็ดดิสัน แต่ทว่าเมื่อฟอร์มฝืดและเจ็บไป กว่าจะหายกลับมาได้ก็ช่วงท้ายๆของฤดูกาล เจมส์ แม็ดดิสัน ยังไม่ค่อยมีฟอร์มเทพค่อยเห็นเลย
หรือในฤดูกาลใหม่นี้ 2024-2025 แม็ดดิสัน ก็ไม่ได้เล่นในตำแหน่งถนัดเพลย์เมคเกอร์ ถูกถอยต่ำไปยืนเป็นมิดฟิลด์มากกว่า เพราะหน้าที่ของ เจ้าตัวเป็น คูลูเชฟสกี้ ทำแทน แต่ทว่าเมื่อคืน อดีตแข้งเลสเตอร์ ซิตี้ ได้เล่นตำแหน่งที่ถนัด เบอร์10
การเข้าทำของ สเปอร์ส 2ลูกแรกของ เจมส์ แม็ดดิสัน มาในลักษณะของ Third Man เลยคือการวิ่งสอดมาแบบไม่มีตัวประกบ (ไม่คาดคิด) ลูกแรกเป็นการสอดมาจากด้านหลัง เม็ด2ก็เช่นกัน ก่อนที่จะชิปเข้าไปแบบเหนือๆ
เกมที่ เอติฮัด นอกจากจะเหมาคนเดียว2ประตูแล้ว เจมส์ แม็ดดิสัน ยังโดดเด่นมากๆ เพราะมีสถิติที่ทั้ง ชนะการดวล9ครั้ง / เรียกฟาวล์ 5ครั้ง / และเอาชนะการครอบครองบอลได้ 5หน
ส่วน2ประตูที่ทำได้เมื่อคืนทำให้ แม็ดดิสัน บุกมายิงที่สนามแห่งนี้รวมได้4ประตูเข้าให้แล้ว มีเพียง เจมี่ วาร์ดี้ ( 5ประตู) และ เวย์น รูนี่ย์ (6ประตู) ที่มากกว่า เกมสวนกลับของคลับไก่ ก็ทำได้ดีมากๆ โดยเฉพาะในรายของ เดยัน คูลูเชฟสกี้ หรือนับภาพรวม ซีซั่นนี้ ปีกชาวสวีเดน สร้างสรรค์โอกาสไปถึง33ครั้ง มากที่สุดในลีก
ส่วน " ตี๋ซน " ที่ทำได้ 1แอสซิสต์ ส่งผลให้เจ้าตัวทำสถิติรวม ยิง5จ่าย5 (10)เวลาที่ได้ดวลกับ แมนฯ ซิตี้ ในยุคของ เป๊ปมีเพียง โม ซาลาห์ เท่านั้นที่ทำได้มากกว่า (ยิงจ่ายรวมกัน11ลูก)
ไก่ขาดคู่เซ็นเตอร์ตัวจริง ยังเอาอยู่ / วิคาริโอ เหาะเหินเดินอากาศ
ก่อนเกมแม้ จากสถิติ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส จะเป็นทีมที่เก็บแต้ม จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้มากสุดตั้งแต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาคุมทีม บวกกับเรือใบสีฟ้า กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มตก แพ้มา4นัดรวด แต่ทว่าการขาดเซ็นเตอร์ตัวจริงอย่าง คริสเตียน โรเมโร่ และ มิคกี้ ฟาน เดอ เฟ่น เป็นเรื่องยากเหมือนกันที่ทีมคลับไก่ จะคาดหวังผลการแข่งขันที่ดีได้
กุนซือ อังเก้ ปอสเตโคกูล จึงใช้คู่เซ็นเตอร์ขัดตราทัพเป็น ราดู กรากูซิน กับ เบน เดวิส แบ็กซ้ายที่ต้องหุบเข้ามาเล่นใน ซึ่งกองหลังชาวเวลส์เคยเล่นแบบนี้แค่ในระบบหลัง 3
เริ่มเกมมาช่วง10นาทีแรก ต้องบอกว่า แนวรับสเปอร์ส ยังดูมึนๆงงกันอยู่เช่นกัน แต่ทว่าพอจับจังหวะได้ ก็ค่อยๆเข้าร่องเข้ารอยขึ้น ส่วน ดรากูซิน นี่เป็นการได้เล่นตัวจริงนัดที่4ในลีกของเจ้าตัวซีซั่นนี้
กองหลังชาวโรมาเนีย บล็อกลูกยิงได้3ครั้ง ดูมีปัญหาเหมือนกันกับการรับมือความใหญ่ของ ฮาลันด์ แต่ถ้ามองจากภาพรวมถือว่าสอบผ่าน ตรงที่ไม่ก่อความผิดพลาดแบบน่าเกลียด ส่วน เบน เดวิส แม้จะไม่ใช่ตำแหน่งถนัดและอายุปาเข้าไป33ปีแล้ว แต่ทว่าการอ่านทางบอล อ่านจังหวะเกมก็ยังยอดเยี่ยม แถมยังเคลียร์บอลได้มากถึง 6ครั้ง
และที่ไม่พูดถึงเลยก็คงไม่ได้ สำหรับนายด่านอย่าง กูเยลโม่ วิคาริโอ เพราะมีเซฟสำคัญลูกที่ต้องอาศัยปฎิกิริยา ทั้ง2จังหวะจาก ฮาลันด์ และอีก1ครั้งจาก ซาวินโญ่ โดยเฉพาะลูกยิงมุมแคบของ ฮาลันด์ ลูกกลางอากาศก็ออกมาตัดแบบไม่มีพลาด เหมือนที่เล่นให้กับทีมชาติอิตาลี คลีนชีตกลับออกจาก เอติฮัด บ่งบอกความยอดเยี่ยมเป็นอย่างดี
แพ้5นัดติด วิกฤติเรือ / พ่ายหงส์นัดหน้า อาจ End Game
ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้เห็นแชมป์พรีเมียร์ลีก4สมัยติดต่อกัน อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเฉพาะที่ยังอยู่ในมือของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะแพ้ติดต่อกัน5นัดติดรวมทุกรายการ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่ อุบัติ เกิดขึ้นกับ เป๊ป ในฐานะอาชีพผู้จัดการทีม
หลังจากที่แพ้มา4นัดติด และเป็นช่วงเบรกทีมชาติ และตัวกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้มีการต่อสัญญา มันก็น่าจะทำให้บรรยากาศของ ซิตี้ ดีขึ้นไม่น้อย แถมยังได้กลับมาเล่นที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม โดยที่แพ้มารวดๆ นั่นคือโปรแกรมเป็นทีมเยือนหมดเลย
เริ่มเกมมาราวๆ10นาที ดูจากทรงก็น่าจะเป็นวันของ ซิตี้ แล้วแหละ เพราะกดผู้มาเยือนฝ่ายเดียว แต่ทว่าความผิดพลาดในแนวรับของพวกเขาก็มาโดนหมัดน็อกสวนๆเป็นคอมโบ จนต้องตามหลัง0-2 เลย แค่20นาทีแรก และก็เป็นความผิดพลาดในแนวรับทั้งสิ้นที่ไปไม่เป็นเลยกับการเจอ แผนแบบ Third Man Runnin ตัวที่สอดขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
หรือจะพูดไปถึงเรื่องบอร์ดบริหารก็ได้นะ ที่เสริมตัวไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ช่วงซัมเมอร์ โดยเฉพาะช่วงที่ขาด โรดรี้ ไป เห็นผลชัดเจนเลย ปีก ซิตี้ ทั้งเร็วและวูบวาบแต่หาประสิทธิภาพไม่ได้เลย
ครั้งสุดท้ายที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปราชัย5นัดรวด ต้องย้อนระลึกชาติไปไกลถึงปี 2006 ช่วงที่กุนซือเป็น สจ๊วร์ย เพียร์ส อยู่เลย ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า นี่คือช่วงที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กำลังแผ่วและหัวตกกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มากที่สุด
ยิ่งถ้าคือนี้ ลิเวอร์พูล บุกไปกระหน่ำ เซาธ์แฮมป์ตัน ได้ (ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหา) จะทำให้พวกเขาฉีกหนี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 8แต้ม แถมเกมสัปดาห์หน้า หงส์แดง จะได้เล่นที่แอนฟิลด์ ดวลกับเรือใบสีฟ้าโดยตรง ซึ่งหากเอาชนะได้ เท่ากับว่าทีมของ อาร์เน่อ สล็อต จะทำแต้มทิ้งห่างเป็น11แต้มเลย แทบจะ End Game แม้ว่าโปรแกรมจะเหลืออีกถึง 26นัดก็ตาม
- คอลัมน์นิสต์
- คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สเปอร์ส เออร์ลิง ฮาลันด์ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เจมส์ แม็ดดิสัน อังเก้ ปอสเตโคกลู
- 112
- 24 พ.ย. 2567 12:52