บอลมวยวัดเจอกัน ! ไก่ เล่นงงๆ จิก ผีดับ 1-0 หล่นที่15 อโมริม ไม่กล้าเปลี่ยน

เป็นทีมที่ถูกจัดให้เป็น บิ๊กซิกซ์ แต่ทว่าไฉน ณ ตอนนี้ ต้องมาเจอกันในฐานะทีมครึ่งล่างของตาราง ซะงั้น สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส โดยทั้งมีซีซั่นที่ย่ำแย่เกินมาตรฐานตัวเองจริงๆ นั่นทำให้การวัดกันในสนามครั้งนี้ ต่างมีความผิดพลาดเกิดขึ้นมากมาย เปรียบเสมือนมวยวัดที่ไร้ชั้นเชิงมาเจอกันเลย แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้ว สเปอร์ส ที่ได้เล่นในบ้านก็เฉือนจิกเอาชนะ ปีศาจแดง ไป 1-0 ถีบทีมของ รูเบน อโมริม ให้หล่นมาอยู่ที่15

 

สเปอร์ส ที่เอาชนะใครในบ้านเกมลีกไม่ได้มา 7นัดติดต่อกัน วันนี้พวกเขามาในระบบถนัด 4-2-.3-1 ข่าวดีตรงที่คลับไก่ ได้นายด่านมือ1อย่าง กูเยลโม่ วิคาริโอ กลับมาเฝ้าเสา แผงแบ็กโฟร์จากขวาไปซ้าย เปโดร ปอร์โร่ - เควิน ดานโซ่ - เบน เดวิส และ เจด สเปนซ์ มิดฟิลด์คู่กลาง ลูคัส เบิร์กวาลล์ กับ โรดริโก้ เบนตานกูร์
 

ตัวรุกฝั่งซ้าย เดยัน คูลูฟเชฟสกี้ - ฝั่งขวา ซน ฮึง มิน เพลย์เมคเกอร์ เจมส์ แม็ดดิสัน ที่หายเจ็บกลับมา ศูนย์หน้าให้โอกาสดาวรุ่งป้ายแดง มาติส แตล ทางฝั่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องบอกว่าบัญชีรายชื่อยาวเป็นห่างว่าวเลย ก่อนเกมก็เป็นทั้ง มานูเอล อูกาเต้ และ อาหมัด ดิยัลโล่ ที่เจ็บเพิ่ม

ปีศาจแดง 3-4-2-1 ผู้รักษาประตูยังคงไว้ใจคนเก่าคนเดิม อ็องเดร โอนาน่า 3เซ็นเตอร์แบ็ก นุสแซร์ มาซราวี - แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และ มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ วิงแบ็กซ้าย-ขวา แพทริค ดอร์กู กับ จอมฟิต ดิโอโก้ ดาโล่ต์ มิดฟิลด์ตรงกลางช้าทั้งคู่ กาเซมิโร่ ยืนร่วมกับ บรูโน่ แฟร์นันเดซ 2ตัวรุกหลังกองหน้า โจซัว เซิร์กเซ่ และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ หัวหอกเป็น ราสมุส ฮอยลุนด์
 

สิ้นเสียงเป้านกหวีดเริ่มเกมของ ปีเตอร์ แบงค์ มา เกมก็ทำท่าว่าจะเป็นของสปอร์สเลย เพราะครองบอลได้มากกว่า บีบเพรสซิ่งเร็วจนผู้เล่น แมนฯยูไนเต็ด ทำอะไรไม่ถนัด แต่ทว่าปีศาจแดง ก็มามีจังหวะได้ลุ้นต่อเนื่อง 3ช็อต ทั้ง ฮอยลุนด์ ได้ยิงไปติด วิคาริโอ บอลไปเข้าทาง การ์นาโช่ ได้ซ้ำแต่ยังติด นายด่านชาวอิตาเลี่ยนอีก ดาบ3เป็น ดาโล่ต์ ที่ได้ซ้ำอีกรอบ แต่ เดวิส สกัดบนเส้นไว้ได้
 

แต่ทว่าอย่างไรก็ตามก็เป็นทีมของ "น้าแอนจ์ " ที่มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ เบิร์กวาลล์ ได้ยิงในเขตโทษบอลไม่แรงและไม่มุมมาก แต่ทว่า โอนาน่า ปัดไม่พ้นอันตาย มาเข้าทาง แม็ดดิสัน ได้ซ้ำง่ายๆ น.13

แม้จะโดนขึ้นนำและรูปเกมไม่ดี แต่ทว่าใช่ว่ากองหลังสเปอร์ส จะเหนียวแน่นๆ บรูโน่ ได้สบโอกาสจ่ายบอลให้ การ์นาโช่ ยิงโล่งๆ แต่ทว่า ดาวรุ่งเลือดฟ้า-ขาว กลับยิงโด่งข้ามคานไปแบบไม่อยากเชื่อสายตา ท้ายครึ่งแรก สเปอร์ส ได้ลุ้นอีกครั้งจาก แตล แต่ไม่หนีมือ โอนาน่า จบ45นาทีแรก เจ้าบ้านนำ 1-0
 

ครึ่งหลัง ด้วยความที่แนวรับของไก่เดือยทอง ดันหลังสูง ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สวนลุ้นอยู่เป็นระยะๆ แต่แนวรุกของพวกเขาก็มีปัญหาเรื่องการจบสกอร์จริงๆ ทั้ง การ์นาโช่  ที่ได้ยิงอีก2จังหวะ แต่ยังไม่ผ่านมือ วิคาริโอ ที่วันนี้เหนียวหนึบมากๆ
 

ผู้เล่นปีศาจแดงออกอาการเดิมนั่นก็คือ เมื่อโดนเกมบีบเพรสซิ่งเร็ว เอาตัวรอดกันไม่เป็นจริงๆ มีเพียง เซิร์กเซ่ เท่านั้น ที่ครองบอลเหนียวและเอาชนะการบีบได้ แต่ทว่าก็แทบจะไม่มีความหมายเลย เพราะไม่มีเพื่อนร่วมทีมมาช่วยรับบอล หรือประสานงานทำชิ่ง

ช่วงที่ปีศาจแดงบุกเพลินๆ สเปอร์ส ได้สวนแบบน่าจะได้เดี่ยวๆหลายครั้ง แต่ทว่าพวกเขาจ่ายบอลกันขาดๆล้นๆตลอด ส่วน รูเบน อโมริม เข้าใจว่าม้านั่งสำรองมีแต่เด็กล้วน สถานการณ์ที่ทีมจะแพ้แล้วแต่นายใหญ่วัย40ปีรายนี้ กลับเปลี่ยนตัวผู้เล่นเพียงแค่ราวเดียว นั่นก็คือ หอกดาวรุ่งอย่าง ชิโดซี่ โอบี มาร์ติน ที่กว่าจะลงมาก็มาเข้าไป น.90 แล้ว
 

จบเกม90นาที เป็นชัยชนะพร้อม3แต้มของทีมคลับไก่ ส่งผลให้พวกเขาขยับมาอยู่อันดับ12ของตาราง ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โคม่าหนัก หล่นมาอยู่ที่ 15 แถมรายชื่อนักเตะบาดเจ็บล้มหมอนนอนเสื่อยาวเหยียว มีปัญหาให้ อโมริม ต้องคิดหนักจริงๆกับช่วงที่เหลือของซีซั่น
 

กลางช้าคู่ บรูโน่ จ่ายบอลเสียบ่อย

ก่อนเกมเจอกับ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส ไม่รู้จะเจอปัญหาอาการบาดเจ็บ รบกวนอะไรหนักหนาสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาแค่ในแผงกองกลางของพวกเขาก็เดี้ยงกันหมดทั้ง มานูเอล อูการ์เต้ - ค็อบบี้ เมนู - คริสเตียน อิริคเซ่น หรือแม้กระทั้ง ดาวรุ่ง อย่าง โทบี้ คอลลีเยอร์
 

นั่นทำให้ แผงคู่มิดฟิลด์ฟัดกับสเปอร์ส เป็น บรูโน่ แฟร์นันเดซ กับ กาเซมิโร่ ที่พักหลังไม่ได้ถูกส่งลงสนามเลย ระบบมิดฟิลด์แค่2คน นั้นก็เสียเปรียบมากๆอยู่แล้ว เพราะ สเปอร์ส เล่นแบบ3กองกลาง เจมส์ แม็ดดิสัน ถอยมาเล่นอีกแรง
 

และรูปเกมก็เป็นไปตามคาด กองกลาง แมนฯยู ไม่สามารถ ครองเกม หรือตัดเกมได้เลย บวกกับทั้ง บรูโน่ และ กาเซมิโร่ ช้าเป็นเต่าทั้งคู่ โดยเฉพาะ "พี่เกษม " ที่มีทั้ง ออกบอลช้าโดนแย่งจากด้านหลัง หรือจังหวะเสียบสกัดบอลก็แม่นคนจนโดนใบเหลือง
 

ด้วยรูปแบบการเล่นทำให้ อดีตห้องเครื่อง เรอัล มาดริด ต้องเจอบทบทสอบบ่อย เจอจังหวะดวล18ครั้ง กาเซมิโร่ เอาชนะไปได้ 11หน ปรกติก็ไม่ใช่ผู้เล่นประเภทที่คล่องตัวอยู่แล้ว พอมาอายุเยอะขึ้นอีก จะ33 ในอีกไม่กี่วันนี้ ก็ยิ่งไปกันใหญ่
 

ส่วนในเรื่องของการสร้างสรรค์เกม ต้องบอกว่านี่คือวันที่ " กัปตันหน้าหนวด " จ่ายบอลเสีย ชวนหงุดหงิดไม่รู้ตั้งกี่รอบ โดยเฉพาะการจ่ายขึ้นหน้า มีเข้าตาสุดๆเพียงแค่ช็อตเดียว ที่ส่งให้ การ์นาโช่ ได้ยิงโล่งๆ แต่ข้ามคานไป

 

เซิร์กเซ่ พอเอาตัวรอดได้ แต่แนวรุกไม่มีใครคมเลย

สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับเกมที่บุกพ่าย ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส เมื่อคืนนั่นก็คือ จุดบอดจุดสลบ ที่พวกเขามีมาตลอด 3-4ปีหลัง แต่ไม่ได้รับการแก้ไขและปล่อยให้ คาราคาซัง มาจนถึงทุกวันนี้นั่นก็คือ การแก้ไขสถานการณ์จากการโดนบีบเพรสหนักๆ
 

ทุกๆนัดที่ แมนฯยู เล่นกับทีมประเภทวิ่งสู้ฟัด ผลลงเอยแบบเดิมๆนั่นก็คือ นัดนั้นพวกเขาจะทำอะไรไม่ถนัด ทำบอลเสีย จ่ายบอลสะเปะสะปะ ไม่มีผู้เล่นคนไหนที่ดูจะเอาตัวรอดจากการโดนบีบเร็วได้เลย
 

โจซัว เซิร์กเซ่  คือผู้เล่นปีศาจแดงคนเดียว ที่พอจะเอาตัวรอดการบีบเพรสซิ่งของสเปอร์สได้ แม้มีทำบอลเสีย แต่ก็มีหลายจังหวะเช่นกันที่ดาวยิงชาวดัตช์ พิงบอล พักบอล ให้เพื่อนร่วมทีมเล่นต่อได้ มีจังหวะเตะลอดขา สเปนซ์ สวยๆ

แต่ถึงกระนั้นก็ดี โจทย์ที่ใหญ่ที่สุดของกองหน้านั้นก็คือทำประตู เซิร์กเซ่ มีโอกาสยิงแค่2หนเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ใกล้เคียงอะไร ที่จริงเกมรับสเปอร์ส ไม่ได้เล่นดีมาก บวกปรัชญาการเล่นของ กุนซือ อังเก้ ปอสเตโคกูล ที่หลังดันสูง แนวรุก ยูไนเต็ด ก็ได้โอกาสยิงหลายคราว แต่จบสกอร์กันไม่เฉียบคมจริงๆ
 

โดยเฉพาะ การ์นาโช่ ที่มีโอกาสจังๆ1ครั้ง แต่ซัดโด่งข้ามคานไปแบบน่าเขกกะโหลก ไม่รวมอีก2-3หน ที่ไม่คมพอ ส่วน ราสมุส ฮอยลุนด์ เสียชื่อสำหรับตำแหน่งกองหน้าหมดเลย เพราะทำอะไรไม่ได้ ในบทบาทเบอร์9 หรือถ้าได้ยิงก็เป็นจังหวะที่แทบไม่มีมุม
 

แถม ฮอยลุนด์ ยังมีเสียเชิงสุดๆ เพราะโดน สเปนซ์ หลอกจังหวะแทบไม่มีอะไร แล้วลื่นล้มดื้อๆ 28ประตู จาก25นัดในพรีเมียร์ลีก บ่งบอกว่าแนวรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างพากันยึดถือ สากกะเบือ เป็นแม่แบบจริงๆ

 

วิคาริโอ กลับมาได้ทันเวลา

จากปรกติที่แนวรับรั่วไหลเพราะวิธีการเล่น แถมคู่เซ็นเตอร์ตัวหลักยังต้องเจ็บทั้ง คริสเตียน โรเมโร่ และ มิคกี้ ฟาน เดอ เฟ่น โกลมือ1ตัวเก่งอย่าง กูเยลโม่ วิคาริโอ ต้องมาเดี้ยงอีก นั่นทำให้ช่วงหนึ่ง สเปอร์ส ต้องใช้ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์  ซึ่งทั้งแก่และปฎิกิริยาช้า มาเฝ้าเสา
 

จนตลาดหน้าหนาวที่ไปดึง โธมัส คามินสกี้ ซึ่งช่วงแรกก็ทำได้ดี ลีลาการเซฟว่องไว แต่ทว่าโกลชาวเช็ก ก็ยังดูล้นๆและไม่นิ่งไปหน่อย สำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตู จนท้ายที่สุดแล้ว เมื่อ วิคาริโอ หายเจ็บกลับมา ก็มายึดตำแหน่งมือ1ตามเดิม
 

อดีตโกลเอ็มโปลี ที่หายไป12นัดในพรีเมียร์ลีก กลับมาได้ทันเวลาจริงๆ เพราะมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก ที่ทำให้ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส เก็บ3แต้ม เหนือปีศาจแดงได้ เพราะเซฟลูกยิงเข้ากรอบไปถึง6ครั้ง
 

วิคาริโอ มีช็อตเซฟที่เข้าตาไม่ว่าจะเป็น 2ช็อตต่อเนื่องของ ฮอยลุนด์ และ การ์นาโช่ ครึ่งหลัง การ์นาโช่ ก็ได้ปั่นสวยๆอีก แต่โกลมือ1รายนี้ก็ไม่พลาด บินปัดออกไปได้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ได้โอกาสแก้ตัวอีก หักยิงมุมแคบ แต่ วิคาริโอ ยังเซฟมือเดียวได้เยี่ยม
 

เท่ากับว่า 2นัดหลังสุดที่ กูเยลโม่ วิคาริโอ เฝ้าเสาดวลกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าตัวเก็บคลีนชีตได้ทั้ง2นัดเลย แนวรับและวิธีการเล่นของ " น้าแอนจ์ " ทำให้ วิคาริโอ ต้องรับบทงานหนักตลอด ส่วนแนวรับอีกคนของคลับไก่ ที่เล่นได้ทีก็คือ เจด สเปนซ์ แบ็กซ้าย ที่เอาชนะการดวลได้ถึง6ครั้ง
 

แตล โอกาสเยอะ ไก่ถ้าจ่ายแม่นๆ ได้หลุดกว่านี้

ต้องบอกว่าเป็นสองทีมใหญ่ ที่หล่นไปอยู่ครึ่งล่างของตารางพรีเมียร์ลีก แล้วมาฟัดกันเอง ด้วยสภาพทีมที่ไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ทั้งคู่ เป็นเหมือนบอลมวยวัดที่ไม่มีชั้่นเชิงเท่าไหร่ ต้องมาคลุกวงในกันแบบหมัดต่อหมัด ไม่ได้มีแท็กติกอะไรมาก เพราะต่างมีความผิดพลาดเป็นระยะเหมือนกัน
 

แม้แนวรับของสเปอร์ส จะไม่มีคู่เซ็นเตอร์ตัวจริงทั้ง ฟาน เดอ เฟ่น - โรเมโร่ แต่ทว่าแนวรุกของพวกเขาถือว่าจัดเต็มใช้ได้ เพราะ เจมส์ แม็ดดิสัน หายเจ็บกลับมา เดยัน คูลูเชฟสกี้ - ซน ฮึง มิน รวมถึง มาติส แตล ผู้มาใหม่อยู่กันครบ
 

ด้วยความที่ระบบ3เซ็นเตอร์ ทำให้มีช่องว่างมหาศาลเช่นกัน ให้ สเปอร์ส ได้เล่นงานแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เวลาที่ทีมเยือนทำบอลเสียแดนหน้า หลายครั้งที่พวกเขาหลุดตรงกลางมาด้วยสถานการณ์ที่ แนวรุกเท่ากับหรือมากกว่าแนวรับปีศาจแดง
 

แต่ทว่าจังหวะสุดท้าย จ่ายบอลเสียกันไปเอง ทั้งที่หากเนี๊ยบหน่อยได้ดวลเดี่ยวกับ โอนาน่า แน่ ซน ฮึง -มิน วันนี้ ดูจะพยายามเป็นพิเศษกับการปั้น มาติส แตล ดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส
 

แตล มีโอกาสจบสกอร์มากถึง 7ครั้ง เข้ากรอบเพียง3ครั้ง มีทั้งยิงออกไปเอง และไม่หนีมือ โอนาน่า เท่าไหร่ รวมไปจนถึงจังหวะได้ดวลเดี่ย เอาชนะได้เพียงแค่3ครั้ง จาก13หน รวมไปจนถึงความพยายามในการเลี้ยงบอล ที่ผ่านได้เพียง1 จาก4

 

อโมริม ขอตายในระบบหลัง3นี่แหละ

เข้าใจว่าตัวเจ็บเยอะ เข้าใจว่าต้องเปลี่ยนระบบการเล่น จาก 4-2-3-1 มาเป็น 3-4-2-1 เข้าใจว่าไม่ได้เสริมทัพตำแหน่งผู้เล่นที่ต้องการ แต่ทว่าต้องไม่ลืมเช่นกันว่า รูเบน อโมริม ได้คุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้วถึง 21 นัดเข้าให้แล้ว (รวมเมื่อคืน) มีแค่ระบบการเล่น แต่รูปทรงอะไรต่างๆในทิศทางบวกไม่มีให้เห็นเลย
 

ระบบหลัง3 แต่ทว่าเสียประตูเป็นว่าเล่นสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ดูเหมือนว่านักเตะชุดนี้ไม่ตอบสนองต่อแท็กติกดังกล่าวเท่าไหร่ ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องโทษผู้เล่นปีศาจแดงด้วย ที่ความสามารถเฉพาะตัวทักษะต่างๆดูจะห่างกันจากความเป็นทีมชั้นนำขึ้นไปทุกที
 

ผู้เล่นแมนฯยู แก้ไม่หายในเรื่องของการเอาตัวรอดเวลาโดนบีบเพรส มีเพียง เซิร์กเซ่ (เมื่อคืน) ที่พอถูไถ ผ่านไปได้ ทว่าอย่างไรก็ตามสำหรับ รูเบน อโมริม ที่ได้คุมทีมมาแล้ว21นัด ไม่มีสักวินาทีเดียว ที่แม้ทีมจะแพ้ หรือช่วงที่ต้องการทวงประตูคืน กุนซือหนุ่มชาวโปรตุเกส จะเปลี่ยนระบบการเล่น
 

3เซ็นเตอร์ คือสิ่งที่แช่คาไว้ตลอดไม่มีพลิกแพลงเป็นแผงแบ็กโฟร์ หรือส่งตัวรุกไปแทนกองหลัง ในยามที่ทีมต้องการประตู เรียกว่ามาไม้ไหนยอมตายไม้นั้นจริงๆ แม้ว่าจะต้องการประตูคืนในสถานการณ์ที่กำลังจะแพ้หรือเสมอ
 

เข้าใจว่าบนม้านั่งสำรองมีแต่เด็กเยาวชน 8จาก9 ชุดซีเนียร์มีเพียง วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ เท่านั้น สถานการณ์ที่กำลังแพ้อโมริม กลับเปลี่ยนตัวผู้เล่นเพียงแค่คนเดียว นั่นก็คือ ถอด กาเซมิโร่ ออก แล้วให้ดาวยิงวัยรุ่นอย่าง ชิโดซี่ โอบี ลงมาก็ปาเข้าไป น.90 แล้ว
 

3เซ็นเตอร์แบ็กยังแช่คาไว้เหมือนเดิม (อีกนัด)  21 นัดกับการเป็นนายใหญ่ถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อโมริม  21นัด ชนะ9 เสมอ 3 แพ้9 ถ้าเป็นมาตรฐานทีมใหญ่ทีมอื่น น่าจะโดนปลดซ้ำอีกรอบแล้วก็ได้
 

หรือหากรอไปจนถึงซัมเมอร์ รูเบน อโมริม ได้งบเสริมทัพ มาสัก 2-3ตำแหน่ง และด้วยกฎการเงิน PSR น่าจะทำให้ได้ตัวดีๆยากมาก มองไม่ออกเลยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะดีขึ้นมาได้ยังไง กับระบบ3เซ็นเตอร์ หลังจากที่เล่นระบบนี้มา21นัด ยังไม่เห็นแววแสงสว่างอะไรเลย