ร็อดเจอร์ส จะรอดไหม ! ไก่ กระต๊าก จิก จิ้งจอก พรุน 6-2 ซน อัดอั้น แฮตทริก
นึกว่าจะเสียความมั่นใจไปเหมือนกันสำหรับ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส เนื่องจากเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเขาไปพลาดท่า พ่ายให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ช่วงท้ายเกม0-2 โดยทีมคลับไก่จะได้แก้ตัวอีกครั้งก่อนพักเบรกยาวทีมชาติ ด้วยการเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมบ๊วยอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้
แม้ว่ารูปเกมบางช่วงการครองบอล และการคุมเกมในแดนกลางจะเป็นทางฝั่ง " เดอะ ฟ๊อกส์ " ที่ทำได้ดีกว่า แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้ว สเปอร์ส ก็อาศัยการเข้าทำที่เฉียบคมกว่า หนักหน่วงกว่า ถลุงยับเอาชนะ ผู้มาเยือนไปได้ 6-2
โดยเปิดเกมมาเป็นทางฝั่ง เลสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำไปก่อน 1-0 น.6 จากจุดโทษของ ยูริ ตีเลอมันส์ ที่ต้องสังหารถึงสองครั้ง แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม สเปอร์ส ก็มาแซงนำเป็น 2-1 จากลูกโขกของ แฮร์รี่ เคน และ เอริก ดายเออร์ น.8 และ 21 ผู้มาเยือนไม่ยอมแพ้ง่ายๆไล่ตีเสมอ 2-2 จาก เจมส์ แม็ดดิสัน น.41
ส่วน45น.หลัง ไก่เดือยทองก็แปลงร่างมาเป็นพญาโต้ง ได้อีก4ประตูรวดจาก โรดริโก้ เบนตาคูร์ น.47 และตัวสำรองแฮตทริก ที่มาพร้อมความอัดอั้นอย่าง ซน ฮึง-มิน น.73 -84 และ 86
เรียกว่าแผนการดร็อป " ตี๋ซน " ของ อันโตนิโอ คอนเต้ ได้ผลเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะสตาร์แดนกิมจิรายนี้ ยังเบิกสกอร์แรกในฤดูกาลไม่ได้เลย หลังผ่านมา 6นัดในลีก และอีก2นัดในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
นี่เป็นอีกแมตช์ที่ขุนพลคลับไก่ ได้ประตูจากลูกเซ็ตพีช และลูกโหม่ง ต้องชื่นชมเลยสำหรับ โค้ชลูกตั้งเตะของพวกเขาอย่าง จานนี่ วีโอ ที่พัฒนาลูกตั้งเตะของสเปอร์สออกมาได้อย่างน่ากลัวและทรงประสิทธิภาพ
ทว่าอย่างไรก็ตาม แม้จะชนะอย่างถล่มทลายทีมสีขาวแห่งกรุงลอนดอน ก็มีจุดที่ต้องปรับปรุงแก้ไขเช่นกัน นั่นก็คือในเรื่องของเกมรับ โดยเฉพาะในตำแหน่งวิงแบ็ก ไรอัน เซสเซญยง ที่ฟอร์มการเล่นไม่เสถียรเลย ดี สลับกับร้าย เมื่อคืนประตูตีเสมอ 2-2 ก็ต้องโทษอดีตดาวรุ่งฟูแล่มรายนี้ เช่นกัน
ทางฝั่งของผู้ปราชัย เลสเตอร์ ซิตี้ สถานการณ์ปัจจุบันของอดีตแชมป์พรีเมียร์ลีก 2015-2016 ต้องเรียกว่าเข้าขั้นโคม่า ได้เลยเพราะ7นัดในลีก พวกเขามีแค่1แต้ม พ่ายไป6นัด
แม้เกมบุกจะยังคงไว้ใจได้ แต่เกมรับของพวกเขาเปื่อยเป็นกระดาษทิชชู่มากๆ ทรงบอลพวกเขายังดีอยู่ แต่ไม่รู้ว่าทางฝั่งบอร์ดบริหาร และเจ้าของทีม จะอดทนกับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ได้อีกนานแค่ไหน
เคน คนชอบสังหารจิ้งจอก
เมื่อคืนถือว่าไม่ได้เล่นดีมากเท่าไหร่ก็ได้นะสำหรับ แฮร์รี่ เคน แต่ทว่าเจ้าตัวก็ยังมี1ประตู 1แอสซิสต์ มาฝากแฟนสเปอร์ส จากการโหม่งจ่อๆ ลูกเปิดของ เดยัน คูลูเชฟสกี้ และ การจ่ายให้ ซน ฮึง-มิน ได้ปั่นโค้งเข้าไปสุดสวย
ประตูที่ เคน ทำได้เมื่อคืนส่งผลให้เจ้าตัวยิ่งตอกย้ำเป็นคนชอบยิงทีมสุนัขจิ้งจอกไปแล้ว เพราะนี่คือประตูที่18 (รวมทุกรายการ20) ที่ดาวยิงเบอร์หนึ่งทีมชาติอังกฤษรายนี้ ส่งบอลไปซุกก้นตาข่าย เลสเตอร์ ซิตี้ได้ เป็นสโมสรที่เจ้าตัวยิงประตูใส่เยอะมากที่สุด
โดยมีโอกาสเช่นกันที เคน จะทำลายสถิติของ อลัน เชียร์เลอร์ กับการเป็นนักเตะที่ทำประตูใส่สโมสรเดียวได้มากที่สุด ซึ่ง " ฮ็อตช็อต " สร้างสถิติกระทุ้งประตูใส่ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในเวทีพรีเมียร์ลีก ไปมากถึง 20ประตู จากแค่19นัด
ส่วนกับรูปเกมเมื่อคืน ต้องบอกว่า แฮร์รี่ เคน อยู่ห่างไกลจากกรอบเขตโทษมากๆ เวลาที่จะเล่นเกมสวนกลับ ลงมาเป็นตัวล้วงบอลหรือออกบอลมากกว่า และมีหลายครั้งเช่นกัน ที่ดาวยิงวัย 29ปี ทำบอลเสีย หรือโดนแย่งไปดื้อๆ
แถมยังดูเหมือน ถูกปล่อยให้โดดเดียวเกินไปในแนวรุก ตลอดทั้งเกม เคน มีโอกาสยิง 2ครั้ง จ่ายบอลคีย์พาสได้2หน แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม 7นัดในพรีเมียร์ลีก กับผลงาน6ประตู 1แอสซิสต์ เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ อยู่แล้ว
ปลุก ตี๋ซน ผู้หลับไหล
หลังจากยิงระเบิดเป็นไฟพะเนียง 23ตุง จนได้รับรางวัลรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาล 2021-2022 ที่ผ่านมา แต่ทว่ามาซีซั่นใหม่นี้ ซน ฮึง-มิน ก็เหมือนจะช็อตกันไปดื้อๆ ผ่านมา6นัดในลีก และอีก2นัดใน ยูซีแอล " ตี๋ซน" ยังไม่สามารถเบิกสกอร์ได้เลย
โดยก่อนเกม กุนซือ อันโตนิโอ คอนเต้ ได้พูดเปรยๆไว้เหมือนกันว่า จะตัดสินใจดร็อป แข้งหมายเลข7รายนี้ เพื่อให้ได้พักบ้างหลังสูญเสียความมั่นใจมาพักใหญ่ๆ
เราจึงได้เห็น แนวรุกของคลับไก่เมื่อคืนเป็น เคน - ริชาร์ลิซอน - คูลูเชฟสกี้ โดยมี ซน ฮึง-มิน สแตนบาย บนม้านั่งสำรอง โดย6นัดที่ซน ทำประตูไม่ได้ในพรีเมียร์ลีก เจ้าตัวมีโอกาสลุ้นทำประตูมากถึง 17ครั้งด้วยกัน
เกมผ่านไป 59นาที ขณะที่ทีมนำ 3-2 คอนเต้ ได้ตัดสินใจ ส่ง ซน ลงไปแทน ริชาร์ลิซอน ก่อนที่หนุ่มตี๋รายนี้ จะไม่ทำให้ผิดหวังเลย ใช้เวลาเพียงแค่4นาที เลี้ยงจี้ เว้าท์ ฟาส แล้วปั่นด้วยขวานอกกรอบเขตโทษ เสียบใต้คานเข้าไป
โดยประตูดังกล่าวบอกถึงความอัดอั้นของ ซน เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีเพื่อนร่วมทีมฉลองดีใจเข้ามาปลอบ ส่วนประตู 5-2 ก็เป็นอีกลูกยิงซิกเนเจอร์เอกลักษณ์ของเจ้าตัว เมื่อรับบอลจาก แฮร์รี่ เคน แล้วปั่นด้วยซ้ายนอกเขตโทษสุดสวยเสียบมุมเข้าไป
จนสุดท้าย ซน ฮึง-มิน มาได้แฮตทริกได้สำเร็จ เมื่อหลุดไปยิงติดเซฟ แดนนี่ วอร์ด แต่บอลยังแรงพอจะไหลเข้าไปซุกก้นตาข่าย โดยนี่คือแฮตทริกที่ 3ในพรีเมียร์ลีก ของหนุ่มจากเกาหลีรายนี้ เทียบเท่ากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ทำได้ ซึ่งหลังเกมกับเลสเตอร์ เราน่าจะได้เห็น ซน ฮึง-มิน ในเวอร์ชั่นยิงเป็นไฟอีกครั้ง
วิธีการจัดการของคอนเต้ +ทีเด็ด เซ็ตพีซไก่
เรียกว่าเป็นการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยมจริงๆสำหรับ อันโตนิโอ คอนเต้ เมื่อก่อนเกมเจ้าตัวได้พูดเปรยๆไว้เหมือนกันว่า อาจตัดสินใจพัก ซน ฮึง-มิน ในเกมกับ เลสเตอร์ ซิตี้ เพื่อให้เจ้าตัวได้พักสภาพจิตใจบ้าง
ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เมื่อ ซน ได้เริ่มต้นด้วยการเป็นผู้เล่นบนม้านั่งสำรอง ก่อนที่ท้ายที่สุดนายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยนจะคิดถูก เมื่อส่ง แข้งเบอร์7รายนี้ ลงเป็นตัวสำรอง น.59 และผลลัพธ์ก็ดีเกินคาดด้วยแฮตทริกของ ซน
ซึ่งหลังหนุ่ม โอ้ปป้า ทำประตูได้ระหว่างเกมภาพจับมาที่ อันโตนิโอ คอนเต้ ทีแสดงอาการดีใจเป็นอย่างมากกับการปลดล็อกของลูกทีมรายนี้ นายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยน แสดงให้เห็นถึงความแฟร์ความเท่าเทียมกันในทีม แม้ว่าจะเป็นสตาร์ชื่อดังขนาดไหน หากฟอร์มไม่ดี ก็ถูกดร็อปได้เหมือนกัน
รวมไปจนถึงตำแหน่ง วิงแบ็ก และ เซ็นเตอร์ เราจะเห็น คอนเต้ เปลี่ยนตำแห่งผู้เล่นอยู่ไม่น้อย เพราะยังไม่ค่อยมีใคร ฟอร์มเสถียรยกเว้น เอริก ดายเออร์
สิ่งหนึ่งที่ต้องชมคลับไก่มากๆในฤดูกาลนี้ก็คือ การใช้ลูกตั้งเตะเซ็ตพีซโจมตีที่อันตรายมากๆ ซึ่งมาจากโค้ชลูกตั้งเตะโดยตรง อย่าง จานนี่ วีโอ ที่เคยทำงานให้ทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์ ยูโร2020 โดย20ประตูที่สเปอร์ส ทำได้ในฤดูกาลนี้ มาจากการลูกโหม่งถึง 9ครั้งด้วยกัน
แม็ดดิสัน ยังคงอันตราย
แม้ว่าทีมจะฟอร์มแย่ฟอร์มแผ่วขนาดไหน แต่ทว่านับตั้งแต่หายเจ็บกลับมา ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังที่แล้ว เจมส์ แม็ดดิสัน ยังคงเป็นแข้งที่อันตายในเกมรุกของ เลสเตอร์ ซิตี้ เสมอ ทั้งในเรื่องของวิสัยทัศน์การจ่ายบอล ฟรีคิก ลูกยิงที่เฉียบคมต่างๆ
เกมกับสเปอร์ส แม็ดดิสัน ซัดได้1ประตู ซึ่งเป็นช็อตที่ยากมาก เพราะต้องยิงด้วยทิศทางและน้ำหนักที่แม่นเป๊ะจริงๆ กับลูกจ่ายของ ทิโมธี กาสตาญ นอกจากนี้แล้ว แข้งเบอร์10รายนี้ เกือบจะทำสกอร์ได้อีก2ครั้ง2ครา แต่ทว่าโดนความยอดเยี่ยมของ โยริส หยุดไว้
แม็ดดิสัน เป็นหนึ่งในตัวสตาร์ทเกมรุกของ เลสเตอร์ เมื่อคืน ประสานงานกับ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ และแนวรุกคนอื่นๆได้เป็นอย่างดี คอยจ่ายบอล พลิกเลี้ยงกินตัว แนวรับเจ้าบ้านที่ค่อนข้างช้า
" แม็ดดี้ " มีโอกาสยิงเมื่อคืนมากถึง7ครั้ง - จ่ายคีย์พาส4ครั้ง - เลี้ยงบอลผ่าน 2ครั้ง -วางบอลยาว4ครั้ง -เรียกฟาวล์ ได้3หน
เสียดายที่กองหน้า เลสเตอร์ เมื่อคืนอย่าง แพดสัน ดาก้า มีส่วนร่วมกับเกมรุกน้อยไปหน่อย หรือเมื่อกองหน้าชาวแซมเบียรายนี้ได้โอกาสงามๆ ก็ยิงไปให้ ฮูโก้ โยริส รับเข้าซองสบายๆซะงั้น
แม้ว่าจะไม่ถูก แกเร็ธ เซาธ์เกต เรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษ ในช่วงโปรแกรมเนชั่นลีกส์ ปลายเดือนนี้ แต่ทว่า แม็ดดิสัน ก็มีผลงานใน11นัดหลังสุดในลีกที่ไม่เบาเลย เมื่อทำไปได้ 7ประตู กับอีก4แอสซิสต์
เลสเตอร์ หลังบ้านรั่ว บีร็อด เสียวโดนเด้ง
จะว่าไปในช่วง45นาทีแรก รวมไปจนถึงช่วงโดนนำแค่ 3-2 เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่ได้มีรูปเกมที่เป็นรอง ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส เลย แดนกลางของพวกเขาอย่าง แม็ดดิสัน - ตีเลอมันส์ -ดิวส์บิวรี่ ฮอลล์ - บาร์นส์ เก็บบอลจังหวะสองได้หมดเลย
การเล่นในลักษณะโอเวอร์โหลด ทำให้รูปเกมส่วนใหญ่ (บางช่วง) เป็นทีมจิ้งจอกสยาม ที่จ่ายบอลกันในแดนหน้าได้อย่างไหลลื่น แต่ทว่าขาดตรงการเข้าทำพื้นที่สุดท้ายที่ยังไม่เฉียบขาดและหลากหลายพอ
บรรดาแนวรุกอย่าง เจมส์ แม็ดดิสัน และ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ยังดูอันตรายอยู่ทุกเมื่อ โดยในฤดูกาลนี้ แม้ เจมี่ วาร์ดี้ จะไม่ใช่คนเดิมที่ยิงระเบิด พวกเขายังทำไปได้ถึง 10ประตูในลีก จาก7นัด
แต่ทว่าเกมรับที่รั่วไหลเป็นว่าเล่นทำให้ เลสเตอร์ ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์อมบ๊วย มีอยู่แค่1แต้มจาก7นัด เพราะโดนคู่แข่งกระซวกไส้ไปแล้วถึง 22 แผล เกมเมื่อคืนไม่รู้ว่าเป็นเพราะความมือใหม่ในพรีเมียร์ลีกรึเปล่า เว้าท์ ฟาส ถึงได้ประกบห่าง ซน ฮึง -มิน ไกลขนาดนั้นกับประตู 4-2 และ 5-2
โอเคว่า ตารางไม่เคยโกหกใคร แต่ทว่าทรงบอลของ เลสเตอร์ เมื่อคืนถือว่า ดูดีพอที่จะมองเห็นอนาคตอยู่ไม่น้อย แต่ทว่าเกมรับ และการรับมือลูกตั้งเตะที่แหละทำให้พวกเขามาอยู่ในสถานการณ์โคม่าขนาดนี้
หลังจากนี้ เลสเตอร์ จะมีโปรแกรมที่ค่อนข้างเบาให้เก็บแต้มเรียกความมั่นใจจาก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และ บอร์นมัธ
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามยิ่งเป็นช่วงพักเบรกทีมชาติด้วย ซึ่งสโมสรส่วนใหญ่ มักเลือกเปลี่ยนแปลงกุนซือในช่วงเวลาดังกล่าว ไม่รู้ว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะได้โอกาสแก้ตัวอีกครั้งหรือไม่นี่สิ...
- คอลัมน์นิสต์
- 238
- 18 ก.ย. 2565 13:36