จอมมารทำลายล้าง ! เรือ แล่นฉลุย บุก ทุบค้อน 3-1 ฮาลันด์ แฮตทริก (อีกแล้ว)
ปรกติจะไม่ได้เครื่องร้อนมากในช่วงเปิดฤดูกาลสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ทว่าซีซั่นนี้ 2024-2025 นั้นแตกต่างออกไป เพราะลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ร้อนแรงเป็นไฟพะเนียงเลย หลังเอาชนะทั้ง เซลซี ( 2-0) และถล่ม อิปสวิช ทาวน์ ในบ้าน (4-1) และนัดล่าสุด ทัพเรือใบก็ไม่หยุดที่จะแล่นฉลุยเลย เมื่อบุกไปอัด เวสต์แฮม ยูไนเต็ด คา ลอนดอน สเตเดี้ยม ไม่ยากเย็นนัก 3-1 พร้อมแฮตทริกฮีโร่อีกครั้ง ของ เออร์ลิง ฮาลันด์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในแผน 3-2-4-1 โดยขยับ ริโก้ รูอิส ขึ้นไปยืนเป็นมิดฟิลด์ร่วมกับ มัตเตโอ โควาซิซ โดยที่ยังไร้เงา โรดรี้ ส่วนแนวรุกมากันเพียบทั้ง แบร์นาร์โด้ ซิลวา - เควิน เดอ บรอยน์ - ตัวริมเส้น เฌเรมี่ โดกู และ แจ็ค กรีลิช หน้าเป้าเป็นจอมทำลายล้าง เออร์ลิง ฮาลันด์
ส่วน เวสต์แฮม ของ จูเลน โลเปเตกี มาในระบบ 4-2-3-1 อารอน วาน -บิสซาก้า ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทางฝั่งแบ็กขวา ส่วนอาวุธเด่นของขุนค้อน นั่นก็คือเกมริมเส้นที่มีตัวจี๊ดอย่าง จาร์ร็อด โบเว่น และ โมฮาเหม็ด กูดุส หน้าเป้ายังเป็น มิคาอิล อันโตนิโอ ส่วนผู้มาใหม่ นิคลาส ฟูลล์ครุก เริ่มต้นบนม้านั่งสำรอง อีกนัด
เริ่มเกมมาได้เพียง10นาที ทำนบตาข่ายของ เวสต์แฮม ก็แตกพ่ายเลย เมื่อ แบร์นาร์โด้ แทงบอลให้ ฮาลันด์ หลุดไปซัดผ่าน อัลฟงส์ อเรโอล่า ขึ้นนำ 1-0 แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม " เดอะ แฮมเมอร์ส " ก็มาตามตีเสมอได้เป็น 1-1 จากจังหวะบุกที่มีโชคช่วยเล็กน้อย โบเว่น ลากไปจนถึงเส้นหลัง ก่อนหักหลับมาเสาแรก บอลไปชน รูเบน ดิอ๊าซ เข้าประตูตัวเองไป ตามเจ๊า น.19
ถึงกระนั้นก็ดี ซิตี้ ก็ไม่ปล่อยให้เจ้าบ้านได้ฮึกเหิมอยู่นาน ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 น.30 ทีมเยือนเซ็นบอลต่อบอลเร็วกันอย่างสวนในเขตโทษ เวสต์แฮม ก่อนที่บอลจะไปถึง ฮาลันด์ จับบอลแล้วซัดด้วยซ้าย บอลเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสุดแรง จบ45 นาทีแรกด้วยสกอร์ 2-1
45นาทีหลัง ขุนค้อนต้องเริ่มต้นด้วยการถอด อเรโอล่า ที่มีอาการบาดเจ็บออก แล้วให้ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ลงมาเฝ้าเสาแทน ซึ่งเกมในครึ่งหลัง ด้วยความที่ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผ่อนเกมลง ทำให้เจ้าบ้านได้มีโอกาสตั้งเกมบ้าง และได้สวนอยู่เป็นระยะๆ ความเร็วของ โบเว่น และ กูดุส สร้างความปั่นป่วนมากๆ แต่พวกเขาจบกันได้ไม่เฉียบคมเอง
จนท้ายที่สุดแล้ว เรือใบสีฟ้า ก็มาได้ประตูตอกฝาโรงจนได้ ตัวสำรอง มาเตอุส นูเนส ที่นานๆจะมีทีเด็ดจ่ายบอลให้ ฮาลันด์ หลุดเดี่ยว เข้าไปงัดข้ามตัว ฟาเบียนสกี้ เข้าไป ขึ้นนำ 3-1 น.84 และจบ90นาทีด้วยสกอร์ดังกล่าว
3คะแนนทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงโดดๆ เพราะ ไบร์ทตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน และ อาร์เซน่อล ที่2นัดก่อนหน้านั้นชนะรวด มาสะดุดเสมอกันเอง โดย ฮาลันด์ ยังมีสถิติที่น่าทึ่งเข้าไปอีก เพราะนี่คือ แฮตทริก ที่8ของเจ้าตัวในเวทีพรีเมียร์ลีกเข้าให้แล้ว จากการลงเล่นเพียง 69นัดเท่านั้น
เขามาเพื่อทำลายล้าง จอมมาร ฮาลันด์
ไม่รู้ว่าเก็บกดมาจากที่ไม่ได้ไปเล่นรายการ ยูโร 2024 เปล่า สำหรับ เออร์ลิง ฮาลันด์ เพราะชาติบ้านเกิดของเจ้าตัวอย่าง นอร์เวย์ ไม่สามารถผ่านไปเล่นรอบสุดท้ายได้ เราจึงได้เห็นภาพฮาลันด์ เข้าแคมป์ฝึกซ้อมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนสตาร์เพื่อนร่วมทีมหลายราย
โดยสัปดาห์ทีแล้ว ดาวยิงจอมมารบู ก็สามารถทำแฮตทริกได้เลย กับการถล่มทีมน้องใหม่ อิปสวิช ทาวน์ 4-1 รวมถึงเกมเปิดฤดูกาล ฮาลันด์ ก็ยิงได้ที่บุกไปเอาชนะ เซลซี 2-0 มาเกมนี้กับ เวสต์แฮม ไอ้หนุ่มผมยาวจากนอร์เวย์ ก็ร้อนแรงอีกตามเคย
เออร์ลิง ฮาลันด์ สวมบทฮีโร่ ทำแฮตทริก พา ซิตี้ บุกมาอัด ขุนค้อน 3-1 ลูกแรก หลุดเดี่ยวไปเลือกมุมยิงผ่าน อเรโอล่า อย่างใจเย็น เม็ดสอง หวดด้วยซ้ายเต็มแรง บอลแหวกตาข่ายแทบขาด ลูกสุดท้ายหลุดเดี่ยวอีกครั้ง ไปงัดบอลผ่าน ฟาเบียนสกี้ นายด่านตัวสำรองเจ้าบ้านเข้าไปเหนือๆ
และต้องบอกว่า ฮาลันด์ เกือบจะมีเม็ด4ด้วยซ้ำ เมื่อเจ้าตัววิ่งสปริ้นสุดกำลัง รับบอลจาก ตัวสำรอง กุนโดกัน อาศัยความแข็งแกร่งบังแตะบอล1จังหวะ เข้าไปยิงมุมแคบ เกือบจะเข้าแล้ว แต่ทว่า ลูคัส ฟาเบียนสกี้ หุบขาได้ทัน
ซึ่งนอกจากจะยิงประตูคม ฮาลันด์ ยังเป็นศูนย์หน้าประเภทที่ หามุมดีมากๆจังหวะหลุดเดี่ยว รวมถึงจังหวะช่องการวิ่งที่เข้าขั้นเซียนมากๆ 45นาทีหลัง ดาวยิงวัยรุ่นรายนี้ แทบจะไม่ถูกเรียกชื่อเลย แต่โผล่มาอีกที ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายกลายเป็นแฮตทริกซะงั้น
แฮตทริกที่รัวใส่ เวสต์แฮม นั่นเท่ากับว่า นับตั้งแต่เดบิวต์กับลีกเมืองผู้ดีในพรีเมียร์ลีก ฮาลันด์ กดไปได้ถึง70ประตู จาก69นัด แถมยังทำไปแล้วถึง 8 แฮตทริก มีลุ้นมากๆที่จะทำลายสถิติ แฮตทริกมากที่สุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก 12 ครั้ง ของ รุ่นพี่ เซร์คิโอ อเกวโร่ " กุน "ลงได้ภายใน1-2ปีนี้
ริมเส้น กรีลิช และ โดกู
ด้วยความที่ ฟิล โฟเด้น มีอาการป่วย และ ซาวินโญ่ ปีกหน้าใหม่ มีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า ส่วนเจ้าหนูดาวรุ่งอย่าง ออสการ์ บ็อบบ์ ก็ดวงแตกขาหักตอนซ้อม ต้องพักยาว นั่นทำให้เกมริมเส้นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อคืนต้องใช้บริการของ แจ็ค กรีลิช และ เฌเรมี่ โดกู
" ขุนแจ็ค " ที่พักหลังมีบทบาทเป็นตัวสำรองมากกว่า เมื่อคืนได้รับโอกาสเป็นตัวจริงหนแรกของซีซั่นนี้ ริมเส้นฝั่งซ้ายคือหน้าที่ที่เจ้าตัวต้องรับผิดชอบ 72นาทีที่อยู่ในสนาม ดาวเตะน่องโต ฟอร์มถือว่าใช้ได้เลย แต่ทว่าก็ต้องมีส่วนที่ต้องปรับปรุงนั่นก็คือความคม
กรีลิช จ่ายบอลคีย์พาสได้3หน ผ่านบอลแม่นยำ 92% และจุดเดิมที่ต้องปรับนั่นก็คือทีเด็ดทีขาด ซึ่งมันก็พิสูจน์ได้จากผลงานที่ผ่านมาในพรีเมียร์ลีก กรีลิช ยิงได้เพียง11ประตูเท่านั้น จาก75นัดในลีก ภายใต้สีเสื้อของ ซิตี้
ส่วน เฌเรมี่ โดกู ในเรื่องของความคล่องตัว มุดไปในพื้นที่แคบๆได้ดี เสียบอลยาก ทุกคนต่างซูฮกเจ้าตัวในจุดนี้อยู่แล้ว แต่ทว่าจังหวะสุดท้ายที่แหละที่ " เดอะ แฟลช เบลเยี่ยม " ต้องพัฒนาเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะยิงหรือจ่าย โดกู ดูจะไม่ขาดก็เกินตลอด
3นัดที่ได้ลงตัวจริงในลีกฤดูกาลนี้ โดกู ยังไม่มี ประตูหรือแอสซิสต์เลย แต่ก็ยังมีจุดดีตรงที่การเลี้ยงกินตัวคู่แข่งนี่แหละ 68นาทีในสนาม เฌเรมี่ โดกู เลี้ยงบอลผ่านผู้เล่นเจ้าบ้านถึง4ครั้ง จ่ายคีย์พาสได้2หน เรียกฟาวล์ อีก2ครั้ง
จังหวะสวนค้อนอันตราย โบเว่น ตัวเปิด
เริ่มต้นมาราวๆ 5นาทีแรก ต้องบอกว่าเป็นภาพที่หายากเช่นกันที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะโดนคู่แข่งครองเกมบุกใส่ยับๆ จาร์ร็อด โบเว่น มีโอกาสได้ทักทายก่อนด้วยซ้ำ แต่ทว่าลูกยิงนอกกรอบเขตโทษของเจ้าตัวไม่หนีมือ เอแดร์ซอน เท่าไหร่
หลังโดนเรือใบขึ้นนำ 1-0 เวสต์แฮม ก็ตามเจ๊าเป็น1-1 ได้อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ โบเว่น กระชากไปริมเส้น แล้วหักกลับเข้ามา บอลไปโดนขา รูเบน ดิอ๊าซ เข้าประตูตัวเองอย่างโชคร้าย ทั้งที่หากบอลผ่านเลยมานั้นไม่มีผู้เล่น เวสต์แฮม ในเขตโทษเลยแม้แต่คนเดียว
โบเว่น นั้นอันตรายเสมอเวลาเล่นเกมสวนกลับ หากมีพื้นเวลาให้กระชาก เล่นเอา ยอสโก้ กวาร์ดิโอ ปวดหัวเลย เกมสวนกลับ ไม่ใช่มีเพียง โบเว่น เท่านั้่นที่อันตราย โมฮาเหม็ด กูดุส ก็เป็นปีกประเภทที่มีความเร็วจี๊ดอยู่แล้ว
45นาทีหลัง ขุนค้อน มีโอกาสได้สวนกลับ 3ต่อ3 พวกเขาต่อบอลทำชิ่งกันได้ดีมาก กูดูส เลี้ยงมาจากแดนหลังทำชิ่งกับ โบเว่น และไหลอ้อมมาให้ ปีกชาวกาน่า ได้จับบอลตั้งป้อมยิงสุดแรงด้วยซ้ายในเขตโทษ บอลไปชนเสาดังสนั่น
จริงๆตอนที่สกอร์ตาม 1-2 ทีมของ โลเปเตกี มีโอกาสที่จะตีเสมอได้หลายหน ทั้งลูกขลุกขลิกได้ยิงในเขตโทษของตัวสำรอง โทมัส ซูเช็ก แต่หวดด้วยซ้ายไม่เต็มเท้าบอลหลุดเสาไปเอง หรือแม้กระทั่งตัวสำรองอีกราย คริสเซนซิโอ ซัมเมอร์วิลล์ ได้ปั่นโค้งๆ แต่ เอแดร์ซอน ยังยอดเยี่ยมเซฟได้ด้วยปลายมือ
วาน-บิสซาก้า มีชีวิตชีวา แต่เสียลูกเปิด (อีกแล้ว)
ยุติช่วงเวลา5ฤดูกาลกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และกลับมาเริ่มต้นใหม่กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด อีกครั้ง สำหรับ อารอน วาน- บิสซาก้า โดย " ไอัแมงมุม " ได้รับความไว้วางใจจาก กุนซือ จูเลน โลเปเตกี ให้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็กขวา แทนที่เจ้าของเดิม วลาดิเมีย คูฟาล ที่วัยปาเข้าไป32ปีแล้ว
ออกสตาร์ทตัวจริงนัดแรก วาน -บิสซาก้า ในตำแหน่งก็ต้องรับมือกับ แจ็ค กรีลิช เลย ซึ่งก็มีทั้งช็อตที่เอาอยู่และเอาไม่อยู่ เพราะเกมรุกของ ผู้มาเยือนโจมตีมาจากทุกทิศทุกทาง แต่ถึงกระนั้นก็ดีเจ้าตัวก็ยังไว้ จุดเด่นในเรื่องเกมรับ
อดีตแข้งปีศาจแดง แท็กเกิ้ลได้2ครั้ง - ตัดบอล2หน -เคลียร์บอล2ครั้ง ส่วนในเรื่องเกมรุก วาน บิสซาก้า เลี้ยงผ่านผู้เล่น ซิตี้ ได้ถึง3ครั้ง ซึ่งจุดนี้ วาน บิสซาก้า ทำให้เห็นมาตลอดนั่นก็คือ ความเร็วในการกระชากบอลขึ้นหน้า ที่หยุดยากมาก
แต่ถึงกระนั้นก็ดี วาน-บิสซาก้า ก็ยังคงซิกเนเจอร์เดิมในเรื่องของการเปิดบอลครอสบอล เพราะเพื่อนร่วมทีมแทบไม่ต้องไปลุ้นว่าบอลจะตกเข้าหัวเลย เพราะลูกเปิดของเจ้าตัว มักโด่งย้อยและเลยไปเสาสาม ให้เพื่อนร่วมทีมต้องตามเก็บมาเล่นภายหลัง
ซึ่งแม้จะมีจุดสลบตรงการเปิดบอล แต่ทว่าการเล่นของ ไอ้แมงมุม ก็ดูเหมือนจะคลิกลงตัวกับทีมนะ โดยเฉพาะการประสานงานกับ โบเว่น และลงเล่นฟุตบอลโดยที่ไม่กดดันเท่าตอนที่สวมเครื่องแบบปีศาจแดง ชีวิตใหม่ของ วาน-บิสซาก้า มีแนวโน้มจะไปได้ดีเลยทีเดียว
ขนาดเรือยังไม่เต็มสูบ เป๊ป พร้อมปั้น ลูอิส
แม้จะร้อนแรงระดับไฟบรรลัยกัลป์ ชนะ3นัดรวม ต่อ เซลซี 2-0 / อิปสวิช ทาวน์ 4-1 และล่าสุดกับ เวสต์แฮม 3-1 ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง กวาด9แต้ม เต็ม พร้อมกับ เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่3นัดแรกซีซั่นใหม่ กดไปแล้วถึง7ประตู แต่ต้องอย่าลืมว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังไม่ฟูลทีมเลย
แดนกลางของพวกเขาที่มี มัตเตโอ โควาซิซ ที่จูนกับทีมได้แล้ว และต้องไม่ลืมว่า ตัวหลักกระดูกสันหลังของทีมอย่าง โรดรี้ ยังไม่ได้ลงสนามเลยแม้แต่นัดเดียว รวมไปจนถึงนักเตะยอดเยี่ยม ของ PFA ฤดูกาลที่แล้ว อย่าง ฟิล โฟเด้น ยังไม่พร้อมเท่าไหร่
รวมไปจนถึง ไคล์ วอล์คเกอร์ ก็พึ่งจะได้ลงเล่นนัดแรก ส่วนกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็หารูปแบบแผนการเล่นที่ล้ำเลิศขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งซีซั่นนี้ กุนซือชาวสเปนจะเน้นหนักไปทางการโจมตีทางด้านริมเส้นมากๆ
หนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่ฤดูกาลนี้ ซิตี้ หมายมั่นปั้นมือมากๆที่จะปั้นให้ขึ้นหม้อนั่นก็คือ เจ้าหนูวัย19ปี ริโก้ ลูอิส ซึ่งปรกติเจ้าตัวมักจะเล่นในตำแหน่งแบ็ก แต่ทว่าภายใต้การดูแลของ เป๊ป การปรับแต่งพันธุ์กรมนักเตะเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว
เมื่อคืน ลูอิส ถูกหุบมาเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ ร่วมกับ โควาซิซ แถมยังเป็นแบ็กขวาในบางจังหวะ ซึ่งภาพรวมถือว่าน่าพอใจมากๆ แท็กเกิ้ล4ครั้ง - ตัดบอล1หน เคลียร์บอล5ครั้ง แถมยังเป็นผู้ทำแอสซิสต์ให้ ฮาลันด์ อีกด้วย 3นัดในพรีเมียร์ลีก ริโก้ ลูอิส ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงหมดเลย
- คอลัมน์นิสต์
- พรีเมียร์ลีก คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เวสต์แฮม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เออร์ลิง ฮาลันด์
- 234
- 01 ก.ย. 2567 15:12