เป๊ป เปิดคลินิกสอนบอล ! เรือใบ บุกจมผีคารังสบาย 2-0 กานเชโล่ เด่น
ง่ายดายและไม่ระบบหัวแม่เท้ากว่าที่คิดจริงๆสำหรับ ดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ หนแรกของฤดูกาลนี้ เมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาต้อนเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบสบายๆ2-0 และเกมก็จบตั้งแต่ใน45นาทีแรก จากการนำห่างของทีมเรือใบ
เริ่มเกมได้มาเพียงแค่7นาที แผนทำนบหลังสามของปีศาจแดงก็แตกพ่ายเป็นนกกระจอกไม่ทันกินน้ำจริงๆ เมื่ออยู่ดีๆ เอริค ไบยี่ ก็ขันอาสาสกัดเข้าประตูตัวเอง จากลูกครอสเข้ามาของ ชูเอา กานเชโล่
ก่อนที่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของ45นาทีแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มาพลาดในนาทีบาปอีกหน เหมือนกับในเกมแดงเดือด คู่หูนรกแตก ลุค ชอว์ กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ สื่อสารกันไม่ดีปล่อยให้บอลตกไปถึง แบร์นาโด้ ซิลวา ดื้อๆ
สุดท้ายก็เป็นกองกลางชาวโปรตุเกสรายนี้ ที่ดีดบอลมุมแคบ ผ่าน ดาบิด เดเคอา ที่ออกอาการลุกลี้ลุกลนผิดปรกติ ผวามือลั่นปัดไม่ออกเข้าไป การนำ2-0ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใน45นาทีแรก เรียกได้ว่าแทบจะเป็นการใส่กลอนปิดประตูให้ แมนฯยูไนเต็ด กลับมาสู่เกมไม่ได้เลย
เกมใน45นาทีหลัง น้าโอเล่ แก้ลำเปลี่ยนจากระบบ3-5-2 กลับมาเล่นระบบถนัด 4-2-3-1 อีกครั้ง โดยถอด เอริค ไบยี่ ออก แล้วให้ เจดอน ซานโช่ ลงมาสร้างความแตกต่างเกมริมเส้น
โอเคว่าในครึ่งหลังปีศาจแดงจะครองบอลได้มากขึ้น แต่นั่นเป็นเพราะ ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่เน้นหนักไม่อยากออกแรงมากกว่า
แถมการครองบอลของ ยูไนเต็ด ก็ไม่ได้มีการสร้างความหวาดเสียที่จะหาโอกาสซัดประตูให้ เอแดร์ซอน ออกแรงเซฟเลย ครั้นเมื่อเจอ ซิตี้ กลับมาไล่เพรสซิ่งหนักๆ ปีศาจแดงก็รวนเสียบอลไปอีก แม้สกอร์จะแพ้แบบไม่ขาดลอยเหมือนศึกแดงเดือด แต่ทว่าความต่างห่างชั้นกับคู่แข่ง นี่คือสิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปเลย
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถูกลักพาตัวออกไปจากเกม เพราะบอลไม่มาถึงสตาร์แดนฝอยทองรายนี้ จังหวะวอลเล่ย์หนเดียวไปติดเซฟ เอแดร์ซอน นี่คือโอกาสยิงเข้ากรอบหนเดียวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อคืน
นอกจากความพ่ายแพ้แล้ว สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนในระยะหลังของ แมนฯยูไนเต็ด นั่นก็คือการควบคุมอารมณ์ในสนามของนักเตะที่น็อตหลุดบ่อยครั้ง กับรูปเกมที่สู้ไม่ได้ อย่างเช่นในเกมนี้ เราจึงได้เห็นทั้ง โรนัลโด้ และ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ที่ไปหวดคู่แข่งดื้อๆ
ความยอดเยี่ยมจากระบบทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นี่คือสิ่งที่หลายคนเห็นเป็นประจักษ์มานานอยู่แล้ว คำถามก้อนโตๆจึงตกมาอยู่ที่ โอโล่ กุนนาร์ โซลชา ว่ากุนซือหน้ายิ้มรายนี้ ยังมีความชอบธรรมพอหลงเหลืออยู่สำหรับการเป็นกุนซือทีมปีศาจแดงไหม
เพราะ6นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก แมนฯยู ชนะเพียง 1 เสมอ1 และแพ้ไปถึง 4 ยังไม่รวมถึงรูปทรงการเล่นที่สะเปะสะปะ แท็กติกการแก้เกมที่อ่อนชั้น บารมีในการคุมทีม ผลงานที่ต่ำเตี้ยลง มีแต่สัญญาณแง่ลบไปหมด
เชื่อว่าแฟนปีศาจแดงไม่อยากเห็นกุนซือหน้ายิ้มรายนี้ นั่งแท่นเป็นนายใหญ่แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต่อไปแล้ว แต่บอร์ดบริหารละ ไม่รู้จะคิดแบบนั้นเปล่านี่สิ ?
แมนเชสเตอร์ เป็นสีฟ้าเต็มรูปแบบ
ถ้าจะมาเปรียบเทียบให้เห็นภาพสุดๆเกมเมื่อคืนต้องบอกว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า บุกมาเปิดคลินิกสอนฟุตบอลที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้เลย เพราะตลอด90นาทีเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางฝั่งของทัพเรือใบสีฟ้าเหนือกว่าทีมเจ้าบ้านทุกกระบวนท่า
แม้สกอร์จะแค่ 2-0 (ซึ่งจริงๆแค่นี้ก็ขาดแล้ว) แต่ทว่าทุกๆสิ่งที่เป็นฟุตบอลเมื่อคืน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหนือกว่าอย่างหมดจด พวกเขาออกแรงเพียงแค่ 70-80% เท่านั้นก็สามารถบุกมาเอาชนะทีมเจ้าบ้านไปได้แบบสบายสุดๆ ไม่ระบมหัวแม่เท้า
ครึ่งหลัง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สั่งลูกทีมเก็บแรงออมแรง เล่นไม่เสี่ยงกับจังหวะอันตรายๆอย่างชัดเจน เพื่อเซฟตัวผู้เล่น เพราะทางฝั่งเจ้าบ้านแทบไม่มีพิษสงอะไรเลย ทำได้ก็เพียงแค่ต่อบอลไปมา แถมยังหาจังหวะจบสกอร์ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ซิตี้ ที่ปล่อยให้ ยูไนเต็ด ครองบอลอยู่พักใหญ่ๆ แต่พอพวกเขาอยากครองบอลจริงจัง ก็ช่วยกันเพรสซิ่งกลับคืนมาได้เลยแบบไม่มีปัญหา
68 ต่อ 32 นี่คือความห่างเปอร์เซ็นต์ของการครองบอลเมื่อคืน ยังไม่รวมถึงโอกาสสับไกล ที่ทีมสีฟ้ามีถึง 12 ครั้ง ส่วนทางฝั่งสีแดงมีเพียงแค่ 4ครั้ง
โดยผ่านมา11นัด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ล้วนเจอกับทีมใหญ่มาแล้วทั้งนั้น แต่ทว่าพวกเขาก็ได้ผลการแข่งขันที่ดีมาโดยตลอด
รวมไปจนถึงรูปเกมที่เหนือกว่าชาวบ้านเขา อาจจะยกเว้นเกมเปิดสนามที่แพ้ให้กับสเปอร์ส 0-1 นอกจากนั้น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการออกมาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น
(เหย้า) ถล่ม อาร์เซน่อล 5-0 / (เยือน) ชนะ เลสเตอร์ 1-0 / (เยือน) ชนะ เซลซี 1-0 / (เยือน) ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 มีเพียงแค่การบุกไปเสมอ ลิเวอร์พูล ถึงแอนฟิลด์ 2-2 เท่านั้น ที่เป๊ป ทำแต้มหล่นเวลาเจอทีมระดับท็อป
อย่าพึ่งหวังอะไรจาก ไบยี่ และกองหลังผีแดงยังวายป่วง
หลังจากโชว์ฟอร์มเป็นพระเอกซุปเปอร์แมน ในเกมที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเสมอกับ อตาลันต้า 2-2 แต่ทว่าเกม แมเนเชสเตอร์ดาร์บี้ เจ้าตัวก็คายฟอร์มดังกล่าวทิ้งไปไหนไม่รู้สำหรับ เอริค ไบยี่ เซ็นเตอร์ฮาร์ฟอารมณ์ดี
การออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกหนแรกฤดูกาลนี้ของ ไบยี่ ถือว่าเป็นการประเดิมที่เลวร้ายมากเลยทีเดียว เพราเพียงแค่7นาที จากจังหวะลูกครอสของ ชูเอา กานเชโล่ แต่ทว่ากองหลังชาว ไอวอรี่ โคสต์รายนี้ กลับสกัดบอลเข้าประตูตัวเองดื้อๆ
ก่อนที่สุดท้ายกองหลังวัย27ปีรายนี้ จะถูกเปลี่ยนตัวออกสนามในช่วงพักครึ่ง การสกัดที่ผิดพลาดดังกล่าวของ ไบยี่ ตั้งแต่นาทีที่7 ทำให้รูปเกมของปีศาจแดงรวมถึงแท็กติกที่ถูกวางไว้ก่อนเริ่มเกม ต้องผิดเพี้ยนและทำนบแตกไปทันที
ช่วงที่ ไบยี่ ฟอร์มดีๆ เมื่อหลายปีก่อน พอล อินซ์ ผู้เคยเป็นอดีตนักเตะปีศาจแดงและหงส์แดง ได้เคยออกมาวิจารณ์กองหลังหมายเลข3รายนี้ในทำนองว่า คุณจะหวังเอาแน่เอานอนอะไรกับนักเตะอย่างไบยี่
ระบบหลัง3ที่ใช้ได้ผลแค่นัดกับสเปอร์ส เท่านั้น เพราะอาจจะเป็นช่วงที่ ทัพไก่เดือยทองฟอร์มห่วยสุดขีดด้วย ที่สำคัญสุดๆคงเป็นการไม่มี ราฟาเอล วาราน แนวรับปีศาจแดงถึงขนาดขาดความนิ่งความชัวร์ ขาดคนบัญชาการจัดระเบียบในเกมรับเลยทีเดียว
แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ยังคงอืดอาด ยืดยาด ช้าเป็นเรือเกลือเหมือนเคย เวลาได้บอลแล้วมีผู้เล่น ซิตี้ เข้ามาบีบคือน่าหวาดเสียวสุด ๆ
ยังไม่รวมประตูลูก 0-2 ก็เป็นกองหลังค่าตัว80ล้านปอนด์ รายนี้นี่แหละ ที่ไม่ยอมให้เสียงกันกับ ลุค ชอว์ จนบอลหลุดไปถึง แบร์นาโด้ ซิลวา
อารอน วาน-บิสซาก้า ที่เกมรุกเป็นอัมพาตอยู่แล้ว เรื่องของเกมรับ แบ็กขวาไอ้แมลงมุมรายนี้ ก็ประกบตัวห่าง ฟิล โฟเด้น จนเกือบโดนดาวเตะวัย21ปีรายนี้สำเร็จโทษ เดชะบุญที่บอลไปชนเสาออกไป
ส่วน วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน เพราะเกือบมีจังหวะสกัดบอลไม่ดี แต่ทว่า เดเคอา ยังใช้ขาเซฟไว้ได้ แม้ว่าจะเคลียร์บอลได้มากถึง6ครั้ง แต่จังหวะการเล่นของกองหลังชาวสวีเดนรายนี้ รวมถึงความเชื่องช้า ก็น่าหวาดเสียวแทบตลอดเวลาโดนทีมเยือนบุกเข้ากดดัน
ในวันที่ เด เคอา หงุดหงิด
นานๆครั้งเราจะเห็นนายด่านชาวสเปนรายนี้ออกอาการหัวเสียอย่างรุนแรง หลังจบเกม45นาทีแรกที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามหลังอยู่0-2
ช่วงเดินเข้าห้องแต่งตัว ดาบิด เด เคอา ได้ทุบผนังอุโมงค์ด้วยความโกรธเกรี้ยวกับผลลัพธ์สกอร์
โอเค แม้ประตู 0-2 ที่แบร์นาโด้ ซัด เข้าไปได้ ก็ต้องโทษ เด เคอา เหมือนกัน ที่ไม่ให้เสียงทั้ง ลุค ชอว์ และ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ บอลมุมแคบที่ดีดมาโดย แบร์นาโด ซิลวา โกลวัย31ปี น่าจะทำได้ดีกว่านี้
เพราะดูเหมือนเจ้าตัวจะผวา และไม่ทันตั้งตัวกับบอลจังหวะดังกล่าว จนบอลสามารถลั่นมุมแคบเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้ง่ายๆ
แต่ทว่าในเรื่องของการเซฟแล้ว ดาบิด เด เคอา ช่วยทีมไว้ให้เห็นจะๆถึง3 หน ไม่ว่าจะเป็น การเซฟลูกสกัดเกือบเข้าประตูตัวเองของ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ การป้องกันลูกยิงของ กาเบรียล เซซุส จ่อๆในเขตโทษ และจังหวะบินไปปัดลูกยิงในเขตโทษที่เกือบจะเสียบมุมของ เควิน เดอ บรอยน์
แพสชั่นและอารมณ์ร่วม นี่คือสิ่งที่ เด เคอา มีให้เห็นในนัดนี้ และเป็นสิ่งที่ผู้เล่นหลายคนในทีมทำหล่นหายไปอย่างน่าเกลียด โดยหลังจบเกมบรูโน่ แฟร์นันเดซ ได้ออกมาพูดถึงนายด่านชาวสแปนิช รายนี้ ว่า
" การเสียประตูมักจะเป็นช่วงเวลาที่แย่ ปัญหาอยู่ที่เราเสียประตูง่ายเกินไป อย่างที่ผมเคยพูดไปหลายหน ถ้าไม่ไช่เขา ผลลัพธ์อาจแย่กว่านี้ เราต้องปกป้อง ดาบิด ให้ดีขึ้น เพราะเขาป้องกันให้เราได้มาก และเราก็ต้องช่วยเขา เขาไม่สามารถเซฟได้ 8-9 ครั้ง ในทุกๆเกม มันไม่ได้หรอก "
กานเชโล่ เล่นง่ายเหมือนสวนหลังบ้าน
นี่คืออีกหนึ่งแบ็กซ้ายที่โชว์ฟอร์มได้ดีและสม่ำเสมอที่สุดคนหนึ่งของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ การขาดหายไปต้องโทษคดีของ แบ็งจาแมง เมนดี้ ทำให้ ชูเอา กานเชโล่ ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องไม่ต้อง โรเตชั่นบ่อย
แบ็กซ้ายชาวโปรตุเกสรายนี้มีส่วนร่วมทั้งสองประตูของทีม ทั้งเป็นคนครอสบอลไปให้ เอริค ไบยี่ ทำลั่นสกัดบอลเข้าประตูตัวเอง รวมถึงตักบอลไปให้ แบร์นาโด้ ซิลวา อาศัยความผิดพลาดแนวรับปีศาจแดง ดีดบอลมุมแคบเข้าไป
นอกจาก 2 แอสซิสต์แล้ว กานเชโล่ ยังสานต่อฟอร์มยอดเยี่ยม แฮตทริกแอสซิสต์ ในเกมกับ คลับ บรูซ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก) เกมดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ เมื่อคืน สถิติส่วนตัวของแบ็กชาวโปรตุเกสรายนี้ยอดเยี่ยมมากๆ ทั้ง
สัมผัสบอล 105 ครั้ง / ผ่านบอลในเขตโทษ 8ครั้ง / แย่งบอล 7ครั้ง / ชนะการดวล 6ครั้ง /โอกาสยิง 4ครั้ง / สร้างสรรค์โอกาส 2ครั้ง / ครอสบอล 3ครั้ง
เกมรุกที่ว่าเด่นแล้ว กานเชโล่ ยังจัดการระบบวิงแบ็ก 3-5-2 ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อย่างอยู่หมัด อารอน วาน-บิสซาก้า ที่แผลงฤทธิไม่ค่อยออกอยู่แล้ว มาเจอ กานเชโล่ และ ระบบของ แมนฯซิตี้ ยิ่งไปไม่เป็น ทำอะไรไม่ถนัดไปใหญ่
จังหวะสเต็ปการเล่นของแบ็กแดนฝอยทองรายนี้ เล่นเอาผู้เล่นปีศาจแดงเสียเชิงไปหลายหน น่าเสียดายที่การโดนใบเหลืองช่วงต้นครึ่งหลัง
ทำให้เจ้าตัวเล่นยาก และต้องระมัดระวังมากขึ้น ส่งผลให้หลังจากนั้น เราไม่ค่อยได้เห็นจังหวะขึ้นเกมมันๆ กานเชโล่ (อาจจะด้วยแท็กติกของเป๊ปด้วย)
น้าโอเล่ กุนซือที่หนังเหนียวที่สุดในเมืองมนุษย์
หลังจากเกมที่แพ้ ลิเวอร์พูล คาบ้านอย่างอัปยศ 0-5 ว่ากันว่าชะตากรรมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา น่าจะโดนตะเพิดออกจากตำแหน่ง นายใหญ่แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แน่ๆ แต่ทว่าสุดท้ายกุนซือชาวนอร์เวย์ยังหนังเหนียวเป็นคางคกสักยันต์
โซลชา ได้รับความอลุ่มอล่วยให้คุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อ และก็เหมือนจำทำฟื้นขึ้นมา ด้วยการบุกไปถล่มเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส 3-0 พร้อมติดตั้งระบบ 3-5-2 เพื่อความแน่นหนา
แต่ทว่าแผนดังกล่าวก็เหมือนจะมาทำนบแตกและใช้ไม่ได้ผลในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แถมยังเป็นเกมที่ แพ้แบบขาดลอยหมดรูป ไม่มีรูสู้ แม้ว่าจะลองเปลี่ยนมาเล่นระบบถนัด 4-2-3-1 แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรระคายผิว ทีมเรือใบได้เลย
จากทีมที่เปิดฤดูกาลหวังลุ้นแชมป์ แต่ทว่าจนถึงเพียงแค่นัดที่11ของฤดูกาล เรื่องจะเอาแชมป์คงไม่มีใครพูดถึงแล้ว ลำพังแค่จะเอาให้ติดท็อปโฟร์ยังยาก
เพราะมีหลายทีมที่พุ่งขึ้นมาแรงๆทั้ง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด - อาร์เซน่อล รวมไปจนถึง สเปอร์ส ที่ได้กุนซือฝีมือดี อันโตนิโอ คอนเต้ เข้ามาบูรณะซ่อมแซมคลับไก่
ปีศาจแดงเหมือนจะวนเวียนอยู่ในลูปซ้ำแล้วซ้ำเล่า พร้อมที่จะแพ้และชนะได้ทุกๆทีม (หลังๆเป็นพร้อมจะแพ้มากกว่า) เชื่อว่าถ้าไม่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ช่วยยิงระเบิดไว้ในหลายๆนัดสภาพศพของทีมปีศาจแดงอาจแย่ไปกว่านี้ก็ได้
ว่ากันว่าสภาพทีมจิตใจของนักเตะ รวมถึงบรรยากาศในห้องแต่งตัวของทีม มันย่ำแย่แตกร้าว เสียไปและเอาคืนกลับมาไม่ได้อีก นับตั้งแต่วันที่เปิดบ้านแพ้ ลิเวอร์พูล 0-5 แล้ว
ถามว่า โซลชา จะสามารถกอบกู้วิกฤติครั้งนี้กลับมาได้ไหม.... โอกาสที่เจ้าตัวได้รับซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วยังไม่ดีขึ้นมันน่าจะเพียงพอต่อการตอบคำตามดังกล่าวแล้วแหละ
ผลงาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 6นัดหลังในลีก
แพ้ (เหย้า) : แอสตัน วิลล่า 0-1
เสมอ (เหย้า) : เอฟเวอร์ตัน 1-1
แพ้ (เยือน) : เลสเตอร์ 2-4
แพ้ (เหย้า) : ลิเวอร์พูล 0-5
ชนะ (เยือน) : สเปอร์ส 3-0
แพ้ (เหย้า) : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2
- คอลัมน์นิสต์
- 503
- 07 พ.ย. 2564 14:46