ยุคใหม่มันโช่ ! อิตาลี เปิดยูโร ต้อน ตุรกี ไร้รูสู้ 3-0
ประเดิมฟาดแข้งกันไปแล้วสำหรับยูโร 2020 ที่ถูกเลื่อนมาเตะในปี2021 หลังจากเจอพิษการระบาดอย่างหนักหน่วงของไวรัสโควิด-19 การเปิดสนามของศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหนนี้ เป็นคู่ระหว่าง ตุรกี กับ อิตาลี
โดยจบ90นาทีเป็นทางฝั่งอัซซูรี่ ที่เหนือกว่าทีมแดนไก่งวงชัดเจนหลังต้อนเอาชนะไปได้แบบขาดลอย 3-0 ไม่ใช่สกอร์เท่านั้นที่ทีมแชมป์โลก4สมัย เหนือกว่า แต่รูปเกมโดยรวม ลูกทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ทำได้ดีกว่าอย่างหมดจดเอกฉันท์
การทำเข้าประตูตัวเองของ เมรีห์ เดมิราล น.53 - ชิโร่ อิมโมบิเล่ น.66 และปิดท้ายด้วย ลอเรนโซ่ อินเซเญ่ น.79 นี่จึงเป็นชัยชนะที่เพอร์เพ็คมากๆ สำหรับการออกสตาร์ททัวร์นาเม้นต์ดังกล่าวของอิตาลี หลังจากที่ฟุตบอลโลก 2018 พวกเราห่วยแตกถึงขนาดไม่สามารถทะลุไปเล่นรอบสุดท้ายได้
รูปเกมโดยรวมต้องบอกเลยว่าเป็นทางฝั่งอิตาลีที่ครองเกมได้อย่างเบ็ดเสร็จ การเพรสซิ่งเร็วสูง กดดันในเวลาที่ทีมเสียบอลทำเอาขุนพลผู้เล่นแดนไก่ง่วงโชว์ฟอร์มกันไม่ออกหลายหลาย
โดยเพราะเวลาได้บอลเงยหน้ามาแต่ละทีผู้เล่นของอิตาลี 1-2 คนก็พร้อมที่จะรุมแย่งกดดันเข้าใส่ไม่ให้เลี้ยงจ่ายหรือผ่านบอลง่ายๆเสมอ โดยเฉพาะคีย์แมนในแดนกลางของทีมอย่าง ฮาคาน ชาลาโนกลู ที่ในครึ่งแรกแทบจะเป็นบุคคลสาบสูญหายออกจากเกมไปเลย
ยังไม่รวมโกลของทีมเติร์กอย่าง อูร์กูร์ซาน ซาคีร์ ที่เปิดบอลได้คุณภาพบัดซบมากๆ ตุรกี ไม่สามารถเซ็ตบอลจากแดนหลังได้เลยเมื่อโกลวัย25ปีรายนี้ ออกบอลได้สะเปะสะปะ ทำบอลเสีย ทำให้เพื่อนร่วมทีมต้องเล่นช็อตแก้ไขที่ยาก และประตูที่3ที่เสีย ก็มีจุดเริ่้มต้นมาจากนายด่ายจากสโมสรแทร็บซอนสปอร์ผู้นี้
ส่วนผู้ชนะอิตาลีต้องบอกเลยว่า ภายใต้การทำทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ อดีตกุนซือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ รายนี้ได้พลิกโฉมให้อัซซูรี่ เป็นทีมเล่นบอลเกมรุกแบบสมัยใหม่เต็มตัวแล้ว ไม่ใช่ทีมที่ตีหัวเข้าบ้านเมื่อขึ้นนำแต่อย่างใด เมื่อได้ลูกหนึ่งพวกเขาก็พร้อมที่จะควานหาลูก สอง สาม สี่ ตามมาเสมอ แต่ทว่าในเรื่องของเกมรับอิตาลีก็ดังคงเหนียวแน่นไว้ใจได้เหมือนเดิม
หากจะหาผู้เล่นที่โดดเด่นของทีมจากแดนรองเท้าบูธ เมื่อคืน มีหลายคนมากๆ โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ แนวรุกจาก ซาสซูโอโล่ แม่ไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ดแต่ผลงานภาพรวมของเจ้าตัวนั้นโดดเด่นมากๆ ประตูแรกที่ทีมได้ก็มาจากการกึ่งยิงกึ่งผ่านของ เบราร์ดี้ ส่วนประตูที่สอง ก็เป็นเจ้าตัวที่เปิดให้ เลโอนาร์โด สปินาซโซล่า ที่ซัดไปติดเซฟผู้รักษาประตู แล้วมาเข้าทาง อิมโมบิเล่ ยิงซ้ำในแบบสไตล์ของเจ้าตัวเข้าไป
รวมไปจนถึง จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กองกลังลายครามจากยูเวนตุส ที่มาเล่นยูโร2020หนนี้ ด้วยวัยที่ปาเข้าไป36ปี แต่แนวรับจอมโหดรายนี้ไม่ได้ก่อความผิดพลาดออกมาให้เห็นแต่อย่างใด แถมยังเต็มเปี่ยมไปด้วย แพสชั่น ระหว่างเกมที่สูงมาก ช่วงท้ายเกมที่บล็อกลูกยิงที่กำลังหลุดเดี่ยวของแข้งตุรกีได้ แม้สกอร์จะนำห่างถึง 3-0 คิเอลลินี่ นั้นแหกปากร้องด้วยความสะใจกับผลงานของเจ้าตัวและทีม กับเกม90นาทีที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก้
อิตาเลี่ยนยุคใหม่ของมันโช่
เรียกได้ว่านี่คือการเข้ามาปฎิวัติอิตาเลี่ยนในยุคมืดของกุนซือคนเก่าที่ทำทีมได้เละเทะอย่าง จามปิเอโร่ เวนตูร่า อย่างแท้จริงสำหรับการเข้ามาของ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือผู้มากประสบการณ์ในยุโรป รวมถึงเป็นผู้จัดการทีมประวัติศาสตร์ที่พา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้หนแรก
" มันโช่ " เปลี่ยนให้อัซซูรี่ เป็นทีมที่เล่นบอลแบบสมัยใหม่มากขึ้นนั่นก็คือ การเป็นทีมที่เล่นเกมรุก ซึ่งแตกต่างจากปรัชญาการเล่นของทีมชาติอิตาลีที่เล่นเกมรับและชอบตีหัวเข้าบ้านมาตลอด อิตาลี ที่ชอบเล่นแบบเฉื่อยๆเอื่อยๆเราแทบไม่ได้เห็นอีกแล้วในยุคนี้ ขุนพลทีมแชมป์โลก4สมัย วิ่งเพรสซิ่งสูงใส่คู่แข่งเสมอ โดยเฉพาะ3มิดฟิลด์ในแดนกลางที่ช่วยงานกันอย่างขยันขันแข็ง
ก่อนทัวร์นาเม้นต์เริ่มต้นขึ้น อัซซูรี่ มีสถิติที่ยอดเยี่ยมมาก นั่นก็คือพวกเขาไม่แพ้ใครมา27นัดติดต่อกันตั้งแต่เดือนกันยายน ปี2018 ชนะมา8นัดติดต่อกันโดยที่ไม่เสียประตู แถมยังกระซวกตาข่ายคู่แข่งได้ถึง 25ลูก ผู้เล่นทุกคนทุกตำแหน่งในทีมชุดนี้ สามารถช่วยกันยิงประตู ไม่ฝากความหวังไว้ที่นักเตะรายไหนคนเดียว
โดยรูปเกมกับตุรกีเมื่อคืนต้องบอกได้เลยว่า อิตาลี เป็นฝ่ายบุกครองเกมแบบเบ็ดเสร็จเหนือขุนพลแดนไก่งวง เปรียบเป็นบอลคนละชั้นเลยก็ว่าได้ 45นาทีแรก อิตาลี มีโอกาสส่องประตูมากถึง14ครั้ง ในขณะที่ตุรกี ไม่มีโอกาสสับไกลยิงเลยแม้แต่หนเดียว
อิตาลี เล่นกันได้อย่างกลอมกล่อมสามัคคี แม้ในทีมแทบไม่มีสตาร์ดาวเด่นเทียบเท่ากับระดับในอดีตอย่าง ฟรานเชสโก้ ต็อตติ - อเล็กซานโดร เดลปิเอโร่ - โรแบร์โต้ บาจโจ้ แต่มันชินี่ ก็หลอมรวมลูกทีมได้อย่างกลอมกล่อม ทั้งแข้งสดเก๋ามีอยู่ใน 26ผู้เล่นทีมชุดนี้
หนทางจะอีกยาวไกล รวมถึงอัตราต่อรองแชมป์ที่ อิตาลี ถูกวางไว้ที่การเป็นเต็ง7ของทัวร์นาเม้นต์ แม้อิตาลีอาจไปไม่ถึงแชมป์ แต่ดูจากทิศทางตอนนี้แล้วพวกเขา ภายใต้มันสมองการคุมทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ น่าจะเป็นอีกหนึ่งทัวร์มาเม้นต์ที่ทีมแชมป์โลก4สมัย โชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจและพร้อมสร้างเซอร์ไพรส์ได้ตลอดเวลา หากว่าทีมไหนประมาทพวกเขา
คิเอลลินี่ ในวัย36ปี
แม้ว่าในฤดูกาลนี้ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ จะไม่ใช่เซ็นเตอร์ฮาร์ตัวจริงของยูเวนตุส เมื่อเจ้าตัวได้ลงเล่นในเกม เซเรียอา เพียงแค่ 17นัดเท่านั้น แต่ในนามทีมชาติแล้ว กองหลังจอมโหดรายนี้ คือคนสำคัญของทีมเสมอ
นี่คือทัวร์นาเม้นต์สำคัญรายการที่6 ที่กองหลังจากยูเวนตุสรายนี้ มีส่วนร่วมกับทีมชาติอิตาลี แม้อายุจะปาเข้าสู่วัย36ปี แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคของเจ้าตัวเวลาที่อยู่ในสนามเลย อารมณ์ร่วม พาสชั่น ความนิ่ง ความสุขุมเยือกเย็นนี่คือสิ่งที่เจ้าตัวมอบให้กับทีมมาโดยตลอด
ในเกมกับตุรกี คิเอลลินี่ ยังเติมสูงขึ้นมาลุ้นโขกประตูให้กับทีมได้อีกด้วย ในนาทีที่ 23 แต่น่าเสียดายที่โกลทีมแดนไก่งวงเซฟออกไปได้อย่าง หวุดหวิด การจับคู่กับกองหลังที่มองตาก็รู้ใจกันอย่าง เลโอนาร์โด โบนุชชี่ ทำให้เกมรับของ อัซซูรี่ มีความนิ่งและ เสถียรภาพมากๆ
ที่สำคัญ คิเอลลินี่ ยังดักจังหวะล้ำหน้าของแนวรุกตุรกีได้ถึง2หน เรื่องการยืนไลน์นี่คือสิ่งที่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟจากค่ายม้าลายรายนี้ทำได้ดีมากๆ อีกหนึ่งช็อตที่น่าประทับใจสำหรับกองหลังวัย36ปีรายนี้ คือการบล็อกลูกยิงในช่วงท้ายเกมของ บูรัค ยิลมาซ แม้จะเป็นในช่วงท้ายเกม และทีมนำอยู่3-0 แต่คิเอลลินี่ ก็แหกปากตะโกนสะใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ผลลัพธ์ เท่ากับ70 นี่คืออายุของคู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟตัวจริงของ อิตาลี ในเกมกับตุรกี เมื่อคืนนี้ คิเอลลินี่ 36 โบนุชชี่ 34
ดาวเด่นที่ไม่มีใครคาดคิด เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า
ก่อนทัวร์มาเมนต์จะเริ่มต้นขึ้น แทบไม่ได้มีใครจับตาดู เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า แบ็กซ้ายจากโรม่า รายนี้ มาเล่นทัวร์นาเมนต์ ยูโร2020 ด้วยสถิติ2ประตู 4แอสซิสต์ จากการลงสนาม 27นัดในเซเรียอา
นี่คือผู้เล่นของอิตาลีที่โดดเด่นมากๆเมื่อคืน แม้จะเล่นเป็นแบ็กแต่ทว่า อิทธิพล ของเจ้าตัวที่มีต่อเกมรุกนั้นสูงมากๆ เราได้เห็น สปินาซโซล่า ประสานงานสวยๆกับแข้งร่างเล็กอย่าง ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ หลายครั้ง เวลาทีมเล่นเกมบุกนี่เปรียบเสมือนปีกพิเศษคนที่สองของทีมเลยทีเดียว
ดาวเตะวัย28ปีรายนี้ สร้างความปั่นป่วยให้กับวิงแบ็กฝั่งขวาของทีมไก่งวงมากๆ จังหวะสอดขึ้นมารับบอล หรือจังหวะหาพื้นที่วิ่งทะลุช่อง แบ็กจากทีมหมาป่ารายนี้ สร้างอิมแพจให้กับทีมเป็นอย่างดี โดยเฉพาะลูกทิ้งห่าง 2-0 ของ ชิโร่ อิมโมบิเล่ ก็มาจากจังหวะพักอกแล้วยิงสุดสวยของเจ้าตัวนี่แหละที่ทำให้ ซาร์คี ปัดมาเข้าทางหัวหอกจากลาซิโอซ้ำเข้าไป
ว่ากันว่านี่คืออีกหนึ่งผู้เล่นที่กุนซือคนใหม่อย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ อยากร่วมงานด้วยมากๆที่โรม่า แต่ทว่าด้วยฟอร์มที่โดดเด่นดังกล่าว ไม่รู้ว่าจะทำให้เจ้าตัวรอดพ้นสายตาทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป แล้วได้เล่นให้ทีมหมาป่าแห่งกรุงโรมฤดูกาลหน้าหรือไม่ ต้องมาคอยลุ้นกัน
สปินาซโซล่า Vs ตุรกี
83 สัมผัสบอล
6 สัมผัสบอลในกรอบเขตโทษ
5 แย่งบอลกลับคืนมาได้
4 ครอสบอล
3 เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง
2 ตัดบอล
1 สร้างสรรค์โอกาส
0 เสียฟาวล์
กลางอิตาลีโคตรฟิต
นิโคโล่ บาเรลล่า - จอร์จินโญ่ - มานูเอล โลคาเตลลี่ นี่คือสามประสานในแดนกลางของอิตาลีเมื่อคืน และนี่คือจุดยุทธศาสตร์ สำคัญที่ทำให้อิตาลีครองเกมแทบจะฝ่ายเดียวสำหรับเกม90นาทีเมื่อคืน ด้วยเปอร์เซ็นต์การครองบอล 61ต่อ 39
สามกองกลางอัซซูรี่ เมื่อคืนทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะมิดฟิลด์ จากค่ายอินเตอร์ มิลานอย่าง บาเรลล่า ที่แทบจะเป็นนักเตะในแดนกลางที่วิ่งมากที่สุดคนหนึ่งของทีม เป็นผู้เล่นคนแรกๆที่พร้อมวิ่งเข้าหาบอล หากทีมสูญเสียการครองบอล ในขณะที่เจ้าตัวอยู่ในแหน่งที่พร้อมแย่งบอลกลับมาได้ รวมไปจนถึงหายใจรดต้นคอ ฮาคาน ชาลาโนกลู จนทำอะไรไม่ถนัด
ส่วนมิดฟิลด์วัย 23ปีอย่าง โลคาเตลลี่ จากซาสซูโอโล่ ก็มีทั้งดีและร้ายในเกมดังกล่าว โดยเจ้าตัวได้โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงแทน มาร์โก้ แวร์รัตติ ที่ยังไม่ฟิต ครึ่งแรกเจ้าตัวดูจะช้าและลนเกินไปหน่อยก่อนที่จะมาแก้ตัว เป็นมิดฟิลด์ที่วิ่งไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในครึ่งหลัง แถมยังพาบอลเอาตัวรอดไปในพื้นที่แคบๆได้ดีอีกด้วย
จอร์จินโญ่ นี่คือมิดฟิลด์ที่ทำได้ดีตามมาตรฐานของตัวเองอยู่แล้ว เล่นง่ายๆแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ คอยกำหนดทิศทางการเล่นของอิตาลีได้เป็นอย่างดีว่า คุมTempo ว่าควรเร่ง หรือจังหวะไหนควรผ่อน หรือเปลี่ยนออกบอลจากจังหวะรับเป็นรุกอย่าง ฉับพลันได้เป็นอย่างดี
จอร์จินโญ่ Vs ตุรกี
100 % เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง
94% ผ่านบอลแม่นยำ
92 สัมผัสบอล
12 ผ่านบอลในพื้นที่สุดท้าย
6 แย่งบอลกลับคืนมา
4 ตัดบอล (มากที่สุด)
3 แท็กเกิ้ล (มากที่สุด)
3 สร้างสรรค์โอกาส
0 ทำฟาวล์
ตุรกี ยังมีโอกาส
เรียกได้ว่าแพ้ไปแบบเอกฉันท์จริงๆ สำหรับทีมแดนไก่งวง ทั้งสกอร์ 0-3 รวมไปจนถึงรูปเกมโดยรวมที่ ลูกทีมของ เซนอล กูเนส เพราะตลอดทั้งเกมตุรกีครองบอลได้เพียงแค่ 39เปอร์เซ็นต์ ตลอด90นาที มีโอกาสยิงแค่ 2ครั้ง และเข้ากรอบ1หน
โดยกุนซือผู้เคยมาตุรกีคว้าอันดับ3ฟุตบอลโลก 2002 ถือว่าวางแผนแท็กติกการเล่นผิดพลาดเช่นกัน ที่ดูเหมือนจะพยายามโจมตีอิตาลีในรูปแบบของการเข้าทำการเล่นที่เร็วมากเกินไปหน่อย (อาจจะด้วยโดนเพรสซิ่ง ก็มีส่วน) นั่นจึงทำให้บอลที่ถูกส่งไปแดนหน้า โดนแนวรับของอิตาลี เก็บกิน หรือยืนดักล้ำหน้าได้ตลอด
ขุนพลเติร์ก เล่นในสไตล์ที่เข้าทางอิตาลีเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่ชะลอเกมหรือค่อยๆถ่างบอลออกด้านกว้างแล้วค่อยๆนวด แต่กลับเร่งจังหวะให้กองหน้าอย่าง บูรัค ยิลมาซ ต้องไปดวลกับกองหลังอัซซูรี่ โดดๆมากเกินไป รวมไปจนถึงผู้รักษาประตูอย่าง อูร์กูร์ชาน ซาคีร์ ก็ออกบอลเสีย ออกบอลแย่จนทำให้เพื่อนร่วมทีมต้องตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ลำบากบ่อยครั้ง
แนวรับที่ว่าเหนียวๆ 10นัดในรอบคัดเลือก ตุรกี เสียไปเพียงแค่3ลูกเท่านั้น แต่ทว่านัดนี้กับอิตาลีแมตช์เดียวพวกเขาเสียเท่ากับ10เกมในรอบคัดเลือก แต่ทว่าโอกาสสำหรับตุรกียังเปิดกว้างเสมอ เมื่อคู่แข่งที่เหลือในกลุ่มอย่าง เวลส์ และ สวิตเซอร์แลนด์ พวกเขาก็ยังคงดูเป็นต่ออยู่
หากว่าผู้เล่นดาวดังที่ค้าแข้งในยุโรปอย่าง เมรีห์ เดมิราล และ ชักลาร์ โซยุนชู จับคู่กันได้อย่างเหนียวแน่น ฮาคาน ชาลาโนกลู ปั้นเกมได้อย่างที่ทำกับ เอซี มิลาน เจงกิซ อุนเดอร์ ที่ใช้ความเร็วความคล่องแคล่วได้อย่างมีประโยชน์
รวมไปถึงหอกตัวเก่งตัวเก๋าอย่าง บูรัค ยิลมาซ ไม่ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวเกินไป ในสายตาของสื่อและนักวิจารณ์แล้วพวกเขายังคงเป็นทีมที่น่ากลัวและยังมีโอกาสที่จะผ่านเข้าไปเล่นรอบ16ทีมได้
- คอลัมน์นิสต์
- 390
- 12 มิ.ย. 2564 14:59