โดนก่อน 23วิ ! อัซซูรี่ หืด ยิงแซง แอลเบเนีย 2-1 บาเรลล่า ตะบันงามหยด
กลับมาเป็นฟุตบอลสไตล์อิตาเลี่ยนของแม้จริงๆสำหรับ อิตาลี หลังจากที่ในยูโร 2020 ชุดแชมป์ ภายใต้การคุมทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่แหวกขนบไปหน่อย เล่นบอลดุดัน เพรสซิ่ง เปิดเกมรุกเมามัน แต่ทว่าพอมา ยูโร 2024 กับกุนซือคนใหม่ ลูเชียโน่ สปัลเล็ตติ ทีมแชมป์โลก4สมัย กลับมาเล่นเกมที่รัดกุมอีกครั้ง เน้นความชัวร์มากกว่า ก่อนที่สุดท้ายเกมเปิดหัว ยูโร2024 อิตาลี ก็ทำได้ตามเป้าด้วยการเอาเฉือน แอลเบเนีย 2-1
ในเรื่องของการจัดทัพ สปัลเล็ตติ มาในระบบ 4- 3-2-1 แต่ทว่าพอเล่นเกมบุก อิตาลีก็ยืดหยุ่นเป็น 3-4-2-1 11ผู้เล่นตัวจริง เซ็นเตอร์ฮาร์ฟใช้คู่ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ กับ อเลสซานโดร บาสโตนี่ มิดฟิลด์คู่กลาง จอร์จินโญ่ ผนึกกำลังกับ นิโคโล่ บาเรลล่า ที่หายเจ็บฟิตทันลงสนาม
ส่วนแนวรุก หน้าเป้า จานลูก้า สคามัคก้า ขนาบข้างด้วย เฟเดริโก้ เคียซ่า - ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่ โดยมี ลอเรนโซ่ เปลเลกรีนี่ ปั้นเกมอยู่ด้านหลัง ทางฝั่งแอลเบเนีย ของกุนซือ ซิลวินโญ่ มาในแผนถนัด 4-3-3 กองหน้าเป็น อาร์มันโด้ โบรย่า ดาวรุ่งเซลซี
นอกจากนี้ นักเตะของแอลเบเนีย ถือว่าคุ้นเคยกับผู้เล่นอัซซูรี่เป็นอย่างดี เพราะค้าแข้งในลีกแดนมะกะโรนีหลายรายทั้ง เนดิม บายรามี่ - ยาซีร์ อาซานี่ และ คริสติยาน อัสลานี่ โดยออกสตาร์ทเริ่มเกมมา แอลเบเนียที่เป็นเต็งแชมป์อันดับรองสุดท้าย ทำช็อกขึ้นนำไปก่อน1-0 ในเวลาเพียงแค่ 23 วินาที
เฟเดริโก้ ดิมาร์โก ทุ่มบอลจากฝั่งขวา เข้าไปในแดนตัวเองแล้วน้ำหนักขาด โดน เนดิม บายรามี่ ฉกไปตะบันเสียบเสาแรกอย่างสวยงาม ขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่ น.1 แต่ทว่าอย่างไรก็ตามการโดนเร็วก็ไม่ได้ทำให้ทีมแดนมะกะโรนี รวนแต่อย่างใด
อิตาลี มายิงคืน2เม็ดรวด ภายในเวลาเพียงแค่15นาที แซงขึ้นนำ 2-1 จากลูกโขกแบบเต็มศรีษะของ อเลสซานโดร บาสโตนี่ น.11 และ นิโคโล่ บาเรลล่า น.16 หลังจากนั้นก็เป็นฝั่งทีมของ สปัลเล็ตติ ที่ครองเกมได้เบ็ดเสร็จ จนมีโอกาสได้เม็ด3หลายหน แต่จบกันไม่คมเองทั้ง ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่ และ ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่
ครึ่งหลังก็ยังคงเป็นอิตาเลี่ยน ที่ครองเกมได้เหนือกว่า มีโอกาสยิงเป็นระยะๆ แต่เหมือนพวกเขาดูไม่เด็ดขาดและไม่เน้นมากเท่าไหร่ จนมาช่วงราวๆ 15นาทีสุดท้าย พวกเขาก็ค่อยๆผ่อนเกม ดึงช้า ส่งบอลคืนหลัง เอา มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน - ไบรอัน คริสตันเต้ ลงมาเพื่อเน้นเกมรับรัดกุมมากขึ้น
แต่ก็เกือบโดนเหมือนกันในช่วง น.89 ที่ตัวสำรอง เรย์ มานาย หลุดไปยิง แต่โดนลำตัวของ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ออกหลังไป จบ90นาที จึงเป็นแชมป์เก่าทีมชาติอิตาลี ที่เก็บ3แต้มประเดิมทัวร์นาเม้นต์ ได้สำเร็จ ส่วนอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน (บี) เป็น สเปนที่ทำได้ดีเกินคาดถล่มชนะ โครเอเชีย 3-0
ดิมาร์โก พลาด แอลเบเนีย ตะบัน23วิ สถิติเร็วสุดยูโร
ก่อนทัวร์นาเม้นต์จะเริ่มขึ้น ตามมุมมองของบ่อนพนันถูกฎหมาย แอลเบเนีย ของ ซิลวินโญ่ คือทีมเต็งอับดับรองบ๊วยที่จะคว้าแชมป์รายการนี้ มีเพียงแค่ จอร์เจีย และ สโลวาเกีย ที่เป็นรอง ซึ่งพวกเขาผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายด้วยผลงาน ชนะ 4 / เสมอ 3 แพ้1 เป็นแชมป์ของกลุ่ม อี
เกมเปิดหัวยูโร 2024 กับการดวลกับอิตาเลี่ยน ทีมชาติแอลเบเนียเคยฟัดกับแชมป์โลก4สมัย4สมัยรายนี้ มาแล้ว4นัด ซึ่งผลก็ลงเอยด้วยการแพ้รวดเลย โดนหนสุดท้ายที่ฟาดแข้งกัน ก็เมื่อไม่นานมานี้ เป็นเกมอุ่นเครื่อง พฤศจิกายน 2022 อิตาลี ชนะไปนิ่มๆ 3-1
สำหรับเมื่อคืน แอลเบเนียก็มีนักเตะทีคุ้นเคยกับฟุตบอลอิตาลีเป็นอย่างดี เพราะมีแข้งหลายคนเล่นใน เซเรีย อา ทั้ง เนดิม บายรามี่ กองกลางจาก ซาสซูโอโล่ - คริสติยาน อัสลานี่ ห้องเครื่องจาก อินเตอร์ มิลาน และ ยาซีร์ อาซานี่ แบ็กขวาจากลาซิโอ
เปิดหัวมาแอลเบเนียทำช็อกไม่น้อย เพราะขึ้นนำไปก่อนในเวลาเพียงแค่ 23 วินาที จาก เนดิม บายรามี่ ที่รับของขวัญจาก ดิมาร์โก ที่ทุ่มพลาด ซัดตูมเดียวเสียบเสาแรกเข้าไป แถมยังทำสถิติเป็นประตูที่ไวที่สุดในยูโรรอบสุดท้ายอีกด้วย
แต่ถึงกระนั้นก็ดีหลังจากขึ้นนำเร็ว ต้องบอกว่า แอลเบเนีย ก็ไม่ได้มีพิษสงอะไรเลย บอลอยู่ในการครอบครองของ อิตาลีเสียเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงจังหวะเข้าทำต่างๆก็ไม่มีให้เห็น และพอจะมีฮึดในช่วง10นาทีสุดท้าย ที่คู่แข่งเลือกผ่อนเกมเอาชัวร์มากกว่า
ตลอด90นาที แอลเบียมีโอกาสได้จบเพียงแค่ 4ครั้งเท่านั้น ครองบอลเพียง35% โดยต้องบอกว่าพวกเขาจะไม่ได้ลุ้นไปจนถึงช่วงท้ายเกมเลยหากว่าไม่ได้ โกลอย่าง โธมัส สตราโคช่า ที่เซฟลูกยิงของทั้ง ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่ และ จานลูก้า สคามัคค่า เอาไว้
บาเรลล่า สลัดเดี้ยง ตะบันงามหยด
ทำเป็นเล่นไป 26ขุนพลทีมชาติอิตาลีชุดลุย ยูโร 2024 หนนี้ ที่ประกอบไปด้วยแข้งหน้าใหม่หลายราย ทำให้ทีมชุดปัจจุบันที่ ลูเชียโน่ สปัลเล็ตติ เรียกมา กลับกลายเป็นว่า นิโคโล่ บาเรลล่า ที่เป็นมิดฟิลด์เชิงรับ เป็นผู้ยิงประตูมากที่สุดในทีมก่อนมาทัวร์นาเม้นต์ 9 ประตู
ก่อนเกมเปิดหัวกับ แอลเบเนีย ทีมแชมป์โลก4สมัยต้องลุ้นหนักเหมือนกันว่า มิดฟิลด์คนเก่งจาก อินเตอร์ มิลาน รายนี้จะฟิตทันไหม ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว บาเรลล่า ก็สมบูรณ์พร้อมดี ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งมิดฟิลด์ผนึกกำลังกับ จอร์จินโญ่
ซึ่งก็ต้องบอกว่า บาเรลล่า เล่นไม่เหมือนกันผู้เล่นที่พึ่งหายเจ็บกลับมาเลย เพราะเมื่อคืนนี่คือหนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดของ " อัซซูรี่ " พลังงานล้นเหลือ จ่ายบอลแม่นยำ ไม่ออกอาการลนเลยเมื่อโดนบีบเร็ว
บาเรลล่า เลือกได้ถูกต้องตลอดว่า จังหวะไหนควรผ่อน ควรเร่ง เชื่อมเกมได้ดี เป็นตัวพักบอล จ่ายบอลแม่นไม่พลาด เหมือนกับคู่ขา จอร์จินโญ่ ห้องเครื่องจาก อินเตอร์ มิลาน ผ่านบอลเข้าเป้ามากถึง 105 ครั้ง จาก 108 หน
และถ้าไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ กับลูกวางเท้ายิงได้อย่างยอดเยี่ยมกับประตูชัย 2-1 หวดตูมเดียวไม่ต้องจับ ไม่ต้องแต่ง ซึ่งนี่คือประตูที่10ในนามทีมชาติอิตาลีของ นิโคโล่ บาเรลล่า เข้าให้แล้ว มากกว่ายอดตำนานอย่าง ฟรานเชสโก้ ต็อตติ (10ประตู) เสียอีก
เคียซ่า วูบวาบอันตรายลุ้นเดี้ยงไม่หนัก
เรื่องฝีเท้าลีลาเชิงลูกหนัง ไม่มีใครสงสัยอยู่แล้ว สำหรับ เฟเดริโก้ เคียซ่า แต่ทว่าในเรื่องของสภาพร่างกายนี่แหละ ที่ดูเป็นปัญหาสำหรับเจ้าตัวทำให้ฟอร์มไม่เสถียรสักที เมื่อคืน ปีกจากยูเวนตุสได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงตัวรุกฝั่งขวา แม้ว่าที่จริงจะถนัดริมเส้นฝั่งซ้ายมากกว่า
ระบบ 4-2-3-1 คือการออกสตาร์ทของอิตาลี แต่ทว่าเมื่อเล่นเกมรุกเต็มสูบ พวเขาจะปรับมาเป็น 3-4-2-1 ทำให้ แบ็กขวาอย่าง โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ ต้องหุบไปเป็นเซ็นเตอร์ฝั่งขวา ทำให้ เคียซ่า ต้องเล่นยืนเป็นเหมือนวิงแบ็กขวาเลย
ตำแหน่งของ เคียซ่า ทำให้เจ้าตัวได้ดวลกับ มาริโอ มิตาย เป็นหลัก และเล่นเอาแบ็กซ้ายจาก โลโคโมทิฟ มอสโก เสียผู้เสียคนไปเลย มีช็อตที่ เทาลันต์ เซเฟรี เสียเชิงโดนหลอกจนหัวทิ่มแล้วพยายามใช้มือคว้าขาไม่ให้ไปต่ออีกด้วย
ทางฝั่งของ ฟรัตเตซี่ ที่เงียบๆก็มี เคียซ่า นี่แหละที่สร้างความปั่นป่วนได้เป็นระยะๆ ดาวเตะเบอร์14รายนี้ ได้บอลในเขตโทษคู่แข่งมากถึง 7ครั้ง และเลี้ยงบอลผ่าน 4หน ได้โอกาสยิง3ครั้ง และจ่ายคีย์พาส2หน บางจังหวะเหมือนเจ้าตัวจะล้ำคิดเกินเพื่อนร่วมทีมไปหน่อย จนตามไม่ทัน
บอลอยู่กับเท้าของ เคียซ่า ได้ลุ้นวูบวาบทุกครั้ง แถมยังเอาตัวรอดในพื้นที่แคบๆได้ดี แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม 45นาทีหลังเจ้าตัวดูจะเงียบลงไปหน่อย ก็ที่จะถูกถอดออก น.77 ให้ อันเดรีย คัมบิอาโซ่ ลงมาบู๊แทน ซึ่งตอนถูกเปลี่ยนออก เหมือน เฟเดริโก้ เคียซ่า จะมีอาการเจ็บนิดๆหน่อยๆ แต่ก็น่าจะสมบูรณ์ในนัดต่อไปกับสเปนได้
บอลยืดหยุ่นของ สปัลเล็ตติ
แม้ว่าจะไม่ใช่บอลเพรสซิ่งสวยงาม หรือเกมบุกดุดันเหมือนในยุคจอง โรแบร์โต้ มันชินี่ แต่ทว่า ลูเชียโน่ สปัลเล็ตติ ที่จัดได้ว่าเป็นผู้จัดการทีมที่เฮี๊ยบสุดๆคนหนึ่ง สังเกตุได้จากกฎเหล็ก5ข้อในแคมป์ทีมชาติอิตาลีต้องปฎิบัติร่วมกัน
อดีตกุนซือนาโปลี ยังสานต่อให้ทีมชาติอิตาลีนั่นก็คือ การทำให้ทีมแชมป์ยูโร 2020 ยังต่อบอลกันได้อย่างแม่นยำ ไม่ทำบอลเสียง่ายๆ มีจ่ายบอลคืนหลังถ้าไปต่อไม่ได้ (ซึ่งหลังจบเกมก็ตำหนิลูกทีมเหมือนกันที่ส่งบอลคืนหนังมากเกินไป )
เคาะบอลเน้นความชัวร์ แต่ทว่าจังหวะพื้นที่สุดท้ายในเขตโทษพวกเขาก็จะเข้าทำกันอย่างรวดเร็ว แม้จะได้2ประตู แต่ก็ต้องยอมรับว่าเร่งจังหวะการเข้าทำในเขตโทษคู่แข่งมากไปหน่อย ทำให้มีทำเสียของเป็นระยะๆ
สิ่งที่น่าตำหนิของ อัซซูรี่ เมื่อคืนนั่นก็คือ หลังจากขึ้นนำเป็น2-1 เหมือนขุนพลเลี่ยนจะไม่เน้นมากนักในการจบสกอร์เอาเม็ดที่ 3 ยิงทิ้งยิงขว้างกันไปเองทั้ง ฟรัตเตซี่ - สคามัคค่า ไม่ยอมฝังคู่แข่ง จนเกือบจะโดนน็อกเหมือนกันช่วงท้ายเกม
ในฟอร์เมชั่น ลูเชียโน่ สปัลเล็ตติ มาในระบบ 4-2-3-1 แต่ทว่าพอเล่นเกมรุกพวกเขาปรับเต็มสูบโหลดเป็น 3-4-2-1 โดยขยับ ดิ ลอเรนโซ่ มาเป็นเซ็นเตอร์ฝั่งขวา แล้วโยกตัวริมเส้นอย่าง เคียซ่า มาเป็นเหมือนวิงแบ็ก
การเปลี่ยนตัว สปัลเล็ตติ ถือว่าทำช้าเหมือนกัน เพราะกว่าคนแรกบนม้านั่งสำรองอย่าง ไบรอัน คริสตัน และ อันเดรีย คัมบิอาโซ่ จะได้ลงสนามก็ต้องรอไปจนถึง น.77 เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงแมตช์แรกของ ยูโร เท่านั้น ซึ่งก็ตามสไตล์อิตาเลี่ยนที่มักจะค่อยๆเครื่องร้อนมาช้าๆหน่อยในเวทีทัวร์นาเมนต์ แบบนี้แหละ
เซ็นเตอร์อิตาลีเยี่ยม คาลาฟิออรี่ โดดเด่นสุดๆ
การที่ตัวหลักอย่าง ฟรานเชสโก้ อแชร์บี้ แม้จะวัยถึง36ปี ที่เล่นทีมชาติได้ดีมาตลอด มีอาการบาดเจ็บไม่ได้ไปลุย ยูโร 2024 ทำให้มีกองหลังหน้าใหม่บางรายได้มาลุยทัวร์นาเมนต์ที่เยอรมันนีด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ เซ็นเตอร์หน้าหล่อผมยาวอย่าง ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่
คาลาฟิออรี่ เซ็นเตอร์วัยเพียงแค่22ปี โดดเด่นเป็นอย่างมากกับทีมโบโลญญ่า เพราะคือตัวหลักลงเล่นไป 30นัดใน เซเรีย อา ซึ่งก่อนมายูโร 2024นี้ แนวรับผมยาว เคยลงเล่นให้ทีมชาติไปเพียงแค่2นัด ซึ่งนั่นก็คือเกมอุ่นเครื่องกับ ตุรกี และ บอสเนีย (ตัวจริง1นัด สำรอง1นัด)
การได้ออกสตาร์ทตัวจริงในยูโร 2024 ถือว่าเซอร์ไพรส์พอสมควร ซึ่งประสบการณ์ที่น้อย ไม่ได้ส่งผลต่อฟอร์มของแนวรับจากโบโลญญ่ารายนี้แต่อย่างใด ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ เล่นได้สมกับเป็นกองหลังสมัยใหม่
ออกบอลดี นิ่ง พาบอลไปข้างหน้าได้ แม้จะมีลนในบางจังหวะ แต่ทว่าภาพรวมนั้นน่าพอใจมากๆ ทั้งชนะลูกกลางอากาศ3ครั้ง - ผ่านบอลแม่นยำ 93% - เอาชนะการครองบอล5ครั้ง - ตัดบอล3ครั้ง เรียกว่าอนาคตไกลเลย ทีมที่เป็นข่าวสนใจเจ้าตัวอย่าง ยูเวนตุส คงต้องได้จ่ายค่าตัวอัพแพงขึ้นไปอีก
อีกคนที่ไม่ถูกพูดถึงไม่ได้นั่นก็คือคู่ขา อเลสซานโดร บาสโตนี่ ที่พักหลังเป็นขาประจำในนามทีมชาติไปแล้ว ลูกโขกเต็มกบาลของเจ้าตัวที่ได้มาเร็ว สำคัญมากๆ เพราะทำให้อิตาลีเองกลับเข้ามาสู่เกมเหวี่ยงโมเมนตัมกลับมาได้ นอกจากนี้ บาสโตนี่ ยังผ่านบอลชัวร์แม่นยำอีกด้วย มีวางบอลยาวถึง5ครั้ง
- คอลัมน์นิสต์
- วิเคราะห์บอล อิตาลี ลูเชียโน่ สปัลเล็ตติ แอลเบเนีย เฟเดริโก้ เคียซ่า คอลัมน์บอล ยูโร2024
- 434
- 16 Jun 2024 12:35