สมราคาเต็งแชมป์ทั้งคู่ ! หงส์ เจ๊า ปืน สุดมัน 1-1 ซาลาห์ ทุบสถิติ เจอร์ราร์ด
เล่นกันได้สนุกและสมศักดิ์ศรีจริงๆ สำหรับ คู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ระหว่าง จ่าฝูงอาร์เซน่อล ที่้ต้องบุกไปเยือนรองจ่าฝูงลิเวอร์พูล ถึงแอนฟิลด์ สนามที่พลพรรคปืนใหญ่เล่นได้แพ้ทางตลอดในระยะเวลา10ปีหลังสุด โดยทางฝั่งเจ้าบ้านหงส์แดงหากอยากขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงพวกเขามีความจำเป็นมากๆที่ต้องเก็บ3แต้มเข้ากระเป๋าให้ได้ หลังพึ่งแต้มดร็อปเสมอ 0-0 มาในเกมแดงเดือด
แน่นอนว่าด้วยความที่ทั้งสองทีม มีปรัชญาที่ชัดเจนอยู่แล้ว กับการเป็นฟุตบอลสไตล์เกมบุก เราจึงได้เห็นรูปเกมคุณภาพเปิดหน้าแลกเข้าหากันอย่างเร้าใจ ซึ่ง45นาทีแรก เป็นอาร์เซน่อล ที่มีรูปเกมค่อนข้างดีกว่า แนวรุกบีบสูงตั้งแต่อยู่ในพื้นที่เขตโทษของลิเวอร์พูล
โดยสุดท้ายกลายเป็นเซ็นเตอร์อย่าง กาเบรียล มากัลเญส ที่มาโขกประตูให้ทีมจากลอนดอน ขึ้นนำไปก่อน 1-0 ตั้งแต่ น.4 และก็เกือบที่จะได้ประตู2-0 จาก กาเบรียล เซซุส ที่เกมนี้ขยันวิ่งมากๆ ในพื้นที่แดนของลิเวอร์พูล
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามรูปเกมของหงส์แดงก็ค่อยๆดีขึ้น และมาตีเสมอ1-1 ได้สำเร็จ น.29 จากจังหวะบอลวางยาวของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนล์ ในแดนตัวเอง ให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้บอล ลากจี้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ หลอกนิดเดียวเสียเหลี่ยม แล้วซัดด้วยซ้ายสุดเฉียบเสียบเสาแรกเข้าไป
ซึ่งใน45นาทีแรก พลพรรคหงส์แดง ก็ต้องมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นฉุกเฉินเลย เมื่อ แบ็กซ้ายอย่าง คอสตาส ซิมิกาส เบียดปะทะกับ บูกาโย่ ซาก้า บริเวณข้างสนาม ไถลไปชนกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ และพื้นสนาม ทำให้ไหปลาร้าแตก ต้องเปลี่ยนตัวออกทันที น.35 ให้ โจ โกเมส ลงมาบู๊แทน
ครึ่งหลังเหมือน เจอร์เก้น คล็อปป์ จะแก้เกมมาดีพอสมควร ทำให้หงส์แดง เล่นมีชีวิตชีวาหวิดจะได้ประตูแซงขึ้นนำมากๆ จากจังหวะสวนกลับหลุดมา 4-5 คน ในขณะที่ฝั่งปืนใหญ่ เหลือผู้เล่นในแดนหลัง2ราย และพยายามวิ่งมาช่วยอีก2คน
บังโม จ่ายฉีกขวาให้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ได้ซัดด้วยขวาอย่างถนี่ถนัด แต่ทว่าเหมือนแบ็กจอมบุกรายนี้จะเน้นมากไปหน่อย บอลเลยไปชนคานสนั่นชวดโอกาสแซงขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย จบ90นาที ด้วยสกอร์ 1-1 แล้วแชร์แต้มกันไป
นี่คือผลลัพธ์ที่ยุติธรรมกับทั้งสองทีมแล้ว เพราะเล่นกันได้สนุกและสมศักดิ์ศรี เปิดหน้าแลกเข้าหากัน ชิงไหวชิงพริบ แต่ทว่าอย่างไรก็ตามผลเสมออาจไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่สำหรับทั้งคู่
เพราะจะเป็นการชะลอแต้ม รอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังจะกลับมาหลังไปเตะ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ซึ่งก่อนหน้านั้นเรือใบสีฟ้า ทำแต้มสะดุดหลายนัด แต่ทว่าเมื่อไหร่ ที่ลูกทีของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้าคอมโบชนะยาวๆ ทั้งหงส์และปืน มีหนาวแน่ๆ
คิง โม ซาลาห์ ทุบสถิติ เจอร์ราร์ด
นี่เป็นฤดูกาลที่แนวรุกลิเวอร์พูลไม่คอยมีความเสถียรเท่าไหร่ ในเรื่องของฟอร์มการเล่น เพราะทั้ง ดิโอโก้ โชต้า ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน ส่วนที่เหลืออย่าง ดาร์วิน นูนเญซ - หลุยส์ ดิอาซ และ โคดี้ กัคโป ต่างไม่ได้อยู่ในช่วงการล่าตาข่ายที่สม่ำเสมอเท่าไหร่
เราจึงได้เห็นแต่ละแมตช์ มีการสับเปลี่ยนตัวผู้เล่นในแนวรุก แต่ยกเว้นไว้ตรงที่ริมเส้นฝั่งขวาที่ไม่ว่ายังไง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ต้องได้ออกสตาร์ทตัวจริงเสมอ เพราะแม้จะมีบางนัดที่เล่นไม่ดี แต่ก็มักมีประตูหรือแอสซิสต์ มาฝาก
เมื่อคืนกับอารเซน่อลก็เช่นกัน " บังโม " ที่มักจะแผลงฤทธิในเกมใหญ่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็มาซัดประตูสุดสวย เมื่อรับบอลยาวจาก TAA เลี้ยงลากจี้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ หลอกนิดหน่อย แล้วซัดด้วยซ้ายเสียบเสาแรกสุดสวย หมดสิทธิ ดาบิด ราย่า จะป้องกัน
สตาร์ชาวอียิปต์ ยังเกือบทำแอสซิสต์ ประตูชัยได้อีกด้วย จากจังหวะสวนกลับ เพราะถวายพานให้ เทรนต์ แต่ทว่า เทรนต์ ยิงเอามันไปหน่อย บอลไปชนคานอย่างน่าเสียดาย นอกจากนี้ ซาลาห์ ยังปั่นป่วน แบ็กซ้าย ซินเชนโก้ ได้เกือบตลอด
1ประตูที่ทำได้เมื่อคืน ทำให้ ซาลาห์ เป็นผู้เล่นคนแรกในพรีเมียร์ลีก ที่ยิงประตูใส่3ทีมยักใหญ่อย่าง อาร์เซน่อบ - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครบ10ประตู+
นอกจากนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงมีส่วนร่วมในการทำประตูพรีเมียร์ลีก 88ประตู 33แอสซิสต์ (121) มากกว่าตำนานสโมสรอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด 69ประตู 51แอสซิสต์ (120) เข้าให้แล้ว
โกนาเต้ แกร่ง เก็บแนวแนวรุกอาร์เซน่อล
เมื่อมาเป็นพาร์ทเนอร์คู่กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดต์ ต้องบอกว่าหลายๆนัด เซ็นเตอร์ชาวฝรั่งเศสรายนี้ เล่นได้โดดเด่นกว่ารุ่นพี่เสียอีก สำหรับ อิบราฮิมา โกนาเต้ ที่ทำเอา กาเบรียล มาติเนลลี่ ไปไม่เป็นเลย เวลาโดนกระชากเข้าใส่ รวมไปจนถึงช่วงครึ่งหลังที่เก็บ กาเบรียล เซซุส เข้ากระเป๋าได้อย่างอยู่หมัด
สถิติหลังเกมระบุว่า โกนาเต้ เอาชนะการดวลลูกกลางอากาศ 2ครั้ง - สัมผัสบอล 58ครั้ง - แย่งบอลกลับมาครองได้9ครั้ง - เอาชนะการดวล7ครั้ง - แท็กเกิ้ล5ครั้ง - เข้าบล็อก2ครั้ง และ เคลียร์บอล 1หน
มีจังหวะบล็อคสำคัญ จากลูกเปิดช่วง น.80 ของ เลอันโดร ทรอสซาร์ รวมถึงยังอ่านทางบอล สกัดบอลได้เยี่ยมหลายจังหวะ เล่นเกมรับได้อย่างแข็งแกร่ง ไม่หลุดสมาธิเวลาโดน มาร์ติเนลลี่ ลากตัดในจี้เข้ามาหาให้หวาดเสียว
แต่ถึงกระนั้นก็ดีประตูขึ้นนำ1-0ของอาร์เซน่อล โกนาโต้ ก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบด้วยกับการประกบตัวที่ผิดพลาด อย่างไรก็ตามก็ต้องชื่นชมเหมือนกัน สำหรับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่แม้ไม่ได้พีคมากเหมือนแต่ก่อน แต่ทว่าด้วยมาตรฐานที่มีอยู่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆแล้ว บัญชาการเป็นพี่ใหญ่ในการจัดระเบียบแผงหลังได้เป็นอย่างดี
ส่วน เทรนต์ เกมรับไม่ได้โดนบทบทสอบอะไรมาก แต่ก็มีเสียวทำเสียจุดโทษเหมือนกัน เพราะไปชนกับ ไค ฮาแวร์ตช์ เกมรุกคือสิ่งที่โดดเด่นของ แบ็กเบอร์66รายนี้ เป็นคนวางยาวแอสซิสต์ให้ ซาลาห์ แต่ก็น่าเสียดายสุดๆเหมือนกัน กับจังหวะสวนกลับได้ยิงในเขตโทษเหน่งๆ แต่ทว่าซัดเหินไปชนคาน
กาเบรียล โขก & ซาลิบา สุดนิ่ง
นี่ดูจะเป็นคู่เซ็นเตอร์ที่ดูลงตัวและกลมกล่อมสุดๆของอาร์เซน่อลได้เลย นับตั้งแต่หมดยุคของ โซล แคมเบลล์ และ โคโล่ ตูเร่ (ช่วงพีค) ยุคไร้พ่าย 2003-2004 นั่นก็คือ การจับคู่กันของ วิลเลี่ยม ซาลิบา กับ กาเบรียล มากัลเญส
ซาลิบา เป็นกองหลังประเภทชั้นเชิงอ่านทางบอล ดักบอลได้เป็นอย่างดี เมื่อคืนกับหงส์แดง นี่คืออีกหนึ่งเกมที่ยอดเยี่ยมของแนวรับชาวฝรั่งเศส เพราะทำให้ โคดี้ กัคโป ที่สวมบทบาทหน้าเป้าหายตัวจากสนามไปเลย
วิลเลี่ยม ซาลิบา เอาชนะการดวลลูกกลางอากาศ 3ครั้ง - สัมผัสบอล 55ครั้ง - แย่งบอลกลับคืนมาได้6ครั้ง -ชนะการดวล5ครั้ง - เคลียร์บอล3ครั้ง - แท็กเกิ้ล2ครั้ง -บล็อคลูกยิง1ครั้ง และที่สำคัญคือไม่ปล่อยให้คู่แข่งเลี้ยงบอลผ่านได้เลยแม้แต่หนเดียวตลอดทั้งเกม
ว่ากันว่าฤดูกาลที่แล้ว 2022-2023 ที่อาร์เซน่อล ชวดแชมป์ใน100เมตรสุดท้าย นั่นเป็นเพราะการขาดหายไปของเซ็นเตอร์เลือดน้ำหอมรายนี้นี่แหละ ส่วนพาร์ทเนอร์อย่าง กาเบรียล มากัลเญส หลังจากที่ต้นฤดูกาลเป็นตัวสำรอง แต่ทว่าการที่ เยอร์เรี่ยน ทิมเบอร์ เจ็บยาว ก็ทำให้กองหลังชาวบราซิลกลับมาได้รับโอกาสเรื่อยๆ
กาเบรียล ใช้จุดเด่นของตัวเอง นั้นก็คือการสอดขึ้นมาโขกทำประตูอีกครั้ง โดยนับตั้งแต่ที่เจ้าตัวเดบิวต์เวทีพรีเมียร์ลีก เมื่อเดือนกันยายน 2021 ไม่มีกองหลังคนไหนแล้วที่ทำประตูได้มากกว่า กาเบรียล มากัลเญส ที่11ประตู
แบ็กซ้ายรั่วทั้งคู่ ซินเชนโก้ - ซิมิกาส เดี้ยงเร็ว
ยังทำมาตรฐานได้ไม่เท่าฤดูกาลที่แล้วเท่าไหร่ สำหรับแบ็กจอมคึกอย่าง โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ที่ซีซั่นใหม่นี้ มีอาการบาดเจ็บรบกวนเป็นระยะ แถมยังมีจังหวะหลุดๆโชว์เหวอให้เห็นหลายนัด บางคราวต้องขัดตราทัพเอา ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ ไปขัดตราทัพเป็นแบ็กซ้ายก็มี
เกมรุกฝั่งขวาลิเวอร์พูลที่ขึ้นตรงโดย ซาลาห์ และ เทรนต์ คุกขามและสร้างความอันตรายให้ ซินเชนโก้ มากๆ ประตูที่เสียไปแบ็กชาวยูเครน ดูจะประกบห่าง บังโม มากไปหน่อย แถมยังทำอะไรไม่ได้ด้วยทั้งที่เดาไม่ยากว่า จะโดนตัดเข้าในมายิง
45นาทีหลังการหลุดตำแหน่ง นี่คือสิ่งที่ ซินเชนโก้ ทำให้เห็นบ่อยครั้งเวลาได้บอล ดีที่แนวรุกหงส์แดงทำกันได้ไม่เฉียบขาดเท่าไหร่ เรียกว่าริมเส้นฝั่งซ้ายของปืนใหญ่ คือจุดโฟกัสการโจมตีของเจ้าบ้านเมื่อคืนเลย
แบ็กซ้ายทางฝั่งของลิเวอร์พูลเองก็ดูจะมีปัญหาเหมือนกันสำหรับ คอสตาส ซิมิกาส ที่ได้เล่นแทน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่มีอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่พักใหญ่ๆแล้ว แข้งชาวกรีซดูจะมีปัญหามากๆกับการรับมือ บูกาโย่ ซาก้า ที่ทั้งเร็วและเทคนิคแจ่ม
โดย คอสตาส ซิมิกาส ยังมาดวงแตกอีก กับจังหวะกระแทกกับ ซาก้า ไปชนทั้ง เจอร์เก้น คล็อปป์ และพื้นสนาม จนทำให้ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามทันทีด้วยอาการ กระดูกไหปลาล้าแตก ต้องพักยาวแน่ๆแล้ว
ส่วนผู้ลงมาเล่นแทนนั่นก็คือ โจ โกเมซ ที่ถนัดเซ็นเตอร์ และเล่นแก้ขัดแบ็กขวาได้ แต่ทว่าพอมาเล่นเป็นแบ็กซ้ายถือว่าเป็นงานหนักของ " เทพโจ " เลย และเกือบทำเสียเสียจุดโทษเหมือนกัน กับการเหนี่ยว ซาก้า จังหวะหลุดเดี่ยว แต่รู้ตัวปล่อยทัน แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม โกเมซ ก็มีช็อตเรียกเสียงฮือฮาเหมือนกันจากจังหวะเติมมาซัดเฉี่ยวเสาออกไป
หงส์ยังแข็งแกร่งในแอนฟิลด์ - ปืนจ่าฝูง คริสต์มาส
ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น แม้ว่าอาร์เซน่อลจะฟอร์มดีขนาดไหน แต่ทว่าการมาเยือนยังถิ่นแอนฟิลด์ นี่คืองานยากของขุนพล " กันเนอร์ส เสมอ เพราะนี่คือสนามที่พวกเขาไม่เคยบุกมาคว้าชัยในลีกได้9ปีติดต่อกันแล้ว (เสมอ 2แพ้7)
ฤดูกาลที่แล้วที่ปืนใหญ่แรงๆ และขึ้นนำไปก่อนถึง2-0 ยังโดยพลังของแฟนบอลที่แอนฟิลด์และการรวมใจสู้ของบรรดานักเตะหงส์แดง ไล่ตีเสมอเป็น 2-2 ได้สำเร็จ เมื่อคืนก็เป็นลูกทีมของ มิเคล อาร์เตต้า ที่ขึ้นนำไปก่อนอีกครั้ง แต่ทว่าก็โดนตีเสมอในที่สุด
ผลลัพธ์1-1ต้องบอกว่า นี่คือผลการแข่งขันที่ยุติธรรมกับทั้ง2ทีมแล้ว เพราะเล่นได้ดีในรูปแบบของตัวเองชิงไหวชิงพริบกลยุทธ์ลูกหนังกัน อีกหนึ่งสถิติที่น่าสนใจในสนามแอนฟิลด์นั่นก็คือ นับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา ลิเวอร์พูล ไม่เคยแพ้ให้กับ ทีมในลอนดอนอย่าง สเปอร์สและอาร์เซน่อล ที่แอนฟิลด์เลย
22เกม ชนะ 15 - เสมอ 7 ไร้พ่าย ต้องบอกว่าแอนฟิลด์ คือป้อมปราการที่แข็งแกร่งของลิเวอร์พูลเสมอ ( เจอ อาร์เซน่อลกับสเปอร์ส) ทว่าอย่างไรก็ดี ฤดูกาลนี้ผลงานในการเจอกับทีมท็อปซิกซ์ 5นัด หงส์แดงลงเอยด้วยการเสมอไปถึง4 แพ้1นัด ไม่สามารถเอาชนะได้เลย
ส่วน อาร์เซน่อล ของ มิเคล อาร์เตต้า นี่คือหนที่4แล้วที่ปืนใหญ่ ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงในศึกพรีเมียร์ลีก ช่วงวันคริสมาสต์ แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่พวกเขา ก้าวไปถึงการเป็นแชมป์ได้ 2002-2003 จบอันดับ2 / 2007-2008 จนอันดับ3 / 2022-2023 จบอันดับ2 และ 2023-2024 = ?
- คอลัมน์นิสต์
-
- 399
- 24 Dec 2023 14:28