ออร่า แชมป์จัดๆ ! หงส์ บุก ขย่มเรือ 2-0 ซาลาห์ ยิง+จ่าย ฉีกหนีปืนไกล 11แต้ม

ออร่า แชมป์จัดๆ ! หงส์ บุก ขย่มเรือ 2-0 ซาลาห์ ยิง+จ่าย ฉีกหนีปืนไกล 11แต้ม


สถานการณ์เป็นใจมากๆสำหรับลิเวอร์พูล ในการโกยแต้มทิ้งห่างรองจ่าฝูงจากที่มากอยู่แล้ว ให้มากเข้าไปอีก เพราะเมื่อเกมวันเสาร์ อาร์เซน่อล เกิดอาการเครื่องสะดุดเปิดบ้านแพ้ให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปแบบสุดช็อก 0-1 เกมบิ๊กแมตช์วันอาทิตย์ที่หงส์แดง ต้องบุกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังเป๋มากจาก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และทำให้ท้ายที่สุดแล้ว 90นาทีที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม เป็น พลพรรคหงส์แดง ที่บุกไปเอาชนะได้แบบไม่ยากเย็นนัก 2-0

 

ลิเวอร์พูล มีโอกาสที่ดีมากๆที่จะฉีกหนีอาร์เซน่อล เป็น11แต้ม แม้ว่าจะแข่งมากกว่า1นัด เพราะบุกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ ณ ตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ การจัดทัพ นายใหญ่ อาร์เน่อ สล็อต ที่หมดสิทธิคุมทีมข้างสนาม มาในระบบ 4-2-3-1 แม้ว่าเล่นจริงจะเป็น 4-4-2
 

โกล อลิสซง เบ็คเกอร์ เฝ้าเสา แผงแบ็กโฟร์ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ - เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ - อิบราฮิมา โกนาเต้  และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน คู่มิดฟิลด์คู่เก่ง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ยืนกับ ไรอัน กราเฟนแบร์ค โดยมี โดมินิค โซโบซไล ยืนสูงคล้ายเพลย์เมคเกอร์

ปีกขวา-ซ้าย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ เคอร์ติส โจนส์ หน้าเป้าใช้ ลุยซ์ ดิอ๊าซ อีกครั้ง ทางฝั่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่พึ่งตกรบเพลย์ออฟ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังบุกไปโดน เรอัล มาดริด ย้ำแค้น 3-1 การจัดทัพ ตามระบบถนัด 4-2-3-1
 

นายด่าน เอแดร์ซอน - แบ็กขวา ริโก้ ลูอิส คู่เซ็นเตอร์ อับดูโกดีร์ คูซานอฟ คู่กับ นาธาน อาเก้  แบ็กซ้าย ยอสโก้ กวาร์ดิโอล มิดฟิลด์ตัวรับ นิโก้ กอนซาเลซ ตัวรุก2รายเป็น เควิน เดอ บรอยน์ กับ ฟิลโฟเด้น ปีกซ้าย-ขวา เฌเรมี่ โดกู และ ซาวินโญ่ หน้าเป้า โอมาร์ มาร์มูช ลงเล่นแทน เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่เจ็บ
 

ออกสตาร์ทมาเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ครองบอลได้ดีกว่า ได้โอกาสเปิดเกมบุกเข้าใส่หงส์แดงตั้งแต่หัววันเลย แต่ทว่าแนวรับของทีมเยือนไม่ได้พลาดอะไร สกัดบอลจากจังหวะเปิดริมเส้นเข้ามาได้ตลอด

และแล้วด้วยความเด็ดขาด และทีเด็ดในลูกสูตรเตะมุมลิเวอร์พูล ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 แม็ค อัลลิสเตอร์ เตะมุมเรียดไปที่เสาแรก โซโบซไล  ตวัดตามน้ำไปยังจุดนัดพบให้ โม ซาลาห์ ยิงแบบไร้ตัวประกบบอลไปแฉลบ อาเก้ เปลี่ยนทางเข้าประตูไป น.17
 

น.30 ซิตี้ ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้ เมื่อ มาร์มูซ ทำชิ่งกับ โฟเด้น หลุดเข้าไปซัดผ่าน อลิสซง ทางเสาไกล แต่ทว่าไลน์แมน ยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้า หงส์แดง ที่แทบไม่ได้บุก แต่สวนมาแต่ละที ได้น้ำได้เนื้อและน่ากลัวตลอด และก็มาได้ประตูฉีกหนีห่างจนได้
 

เทรนต์ วางบอลยาวขนานเส้น ไปถึง ซาลาห์ ที่ได้ลากจากด้านข้าง ดีดเข้ามาข้างในให้ โซโบซไล จับบอลเข้าซ้าย แล้วยิงลอดขา คูซานอฟ ที่พยายาสไลด์มาบล็อกเรียดเข้าประตูไป หนีห่าง 2-0 น.37 ทีมของ เป๊ป พยายามครองบอลและบุกต่อเรื่อยๆ แต่ทว่าพวกเขาแทบไม่มีโอกาสจังๆเลย จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล บุกมานำ 2-0

ครึ่งหลังก็ยังเป็นหงส์แดง ที่ทรงประสิทธิภาพกว่า และส่งบอลไปกองก้นตาข่ายอีกครั้ง โซโบ หลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนไหลถวายพานให้ โจนส์ ยิงเข้าไปง่ายๆ แต่ทว่า VAR มายึดคืนภายหลังเพราะ โซโบซไล ล้ำหน้าไปก่อน จากจังหวะที่ กราเฟนแบร์ค แทงมาให้
 

หลังจากนั้น เรือใบสีฟ้า ก็ยังพยายาม เซ็ตเกมบุกเรื่อยๆ ทางฝั่งของ โดกู อันตรายพริ้วและป่วนได้มากๆ แต่จังหวะที่สุดท้ายที่ต้องยิงหรือจ่าย จรวดทางเรียดชาวเบลเยี่ยม ทำได้ขาดๆเกินๆตลอด ทางด้านลิเวอร์พูลเองก็ได้สวนมาเป็นระยะและได้จบเช่นกันจาก ดิอ๊าซ ที่ เอแดร์ซอน ต้องออกแรงเซฟ
 

จบ90นาทีจึงเป็น ลิเวอร์พูล ที่แม้ครองบอลได้น้อยกว่า แต่ก็บุกมาเอาชนะได้แบบสบายๆตามแท็กติกของตัวเอง 2-0 ส่งผลให้ใกล้แชมป์เข้าไปทุกขณะเพราะทิ้งห่างผู้ล่า อาร์เซน่อล แบบไม่เห็นฝุ่น 11แต้ม แม้ว่าทีมของ สล็อต จะแข่งมากกว่า1นัดก็ตาม

 

ซาลาห์ ทุบสถิติแล้วสถิติเล่า

กำลังจะย่างเข้าสู่วัย33ขวบในปีนี้ แต่นั่นไม่ได้เป็น อุปสรรคกับผลงานในสนามเลยสำหรับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เพราะผลงานของสตาร์ชาวอียิปต์ร้ายกาจจริงๆ นัดแล้วนัดเล่าที่เจ้าตัว ทั้งทำประตูและแอสซิสต์ได้ในเกมเดียวกัน และกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
 

ซาลาห์ เบิกประตูแรกของตัวเองจากลูกเตะมุมสูตร ได้ยิงในเขตโทษแบบไม่มีตัวประกับแล้วบอลแฉลบ อาเก้ เปลี่ยนทางเข้าไป แถมยังเป็นคนแอสซิสต์ให้ "โซโบ " ยิงประตูที่ 2ให้กับทีมเล่นง่ายขึ้นมากๆ
 

ทุกครั้งที่ บังโม ได้บอลจากทางริมเส้นฝั่งขวา แล้วลากจี้เข้าใส่ กวาร์ดิโอล หรือเซ็นเตอร์อย่าง คูซานอฟ ต้องบอกว่าดุอันตรายและคุกคามเหลือเกิน เสียบอลยาก เหมือนมีตะขอที่เท้าเกี่ยวบอลไว้ พร้อมลงโทษคู่แข่งแม้เวลาแค่เสี้ยววินาที
 

นับตั้งแต้ย้ายมาสวมเครื่องแบบลิเวอร์พูล โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คือนักเตะที่มีส่วนร่วมกับประตูใส่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มากที่สุดแล้ว 15ประตู ( ยิง9จ่าย6) รวมถึงนี่คือเกมที่ 11ในซีซั่นนี้แล้วที่ ซาลาห์ ทั้งยิงและจ่ายในแมตช์เดียวกัน
 

25ประตู กับอีก 16 แอสซิสต์ คือผลงานของ ซาลาห์ ในลีกฤดูกาลนี้ หรือรวมทุกรายการ 30ประตู 20แอสซิสต์ น่าแปลกใจเหมือนกันที่หงส์แดง จะลังเลในการต่อสัญญาแข้งผลงานระดับโลกรายนี้ และทำท่าเหมือนกันว่าจะปล่อยไปแบบฟรีๆเมื่อหมดสัญญา



เกมรับหงส์สุดแกร่ง กำแพงหิน ฟานไดค์ - โกนาเต้

ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะได้ประตูขึ้นนำ แนวรับของพวกเขาโดนบททดสอบหนักจริงๆช่วง 15นาทีแรก เพราะเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านครองบอล และโจมตีได้มากกว่า โดยเฉพาะการเลือกเจาะจากริมเส้น ทางฝั่ง เทรนต์ ที่ต้องดวลกับ โดกู ที่เร็วจี๊ดจ๊าด
 

แต่ทว่าทีมของ เป๊ป แม้ว่าจะพยายามสร้างหาโอกาสเจาะแนวรับลิเวอร์พูลเท่าไหร่ แต่นับครั้งได้เลยว่ามีหนไหนที่อันตรายบ้าง บอลที่เปิดหรือครอสเข้ามาตรงกลาง คู่เซ็นเตอร์หงส์แดงทำได้ดีมากๆ ทั้งในเรื่องของการสกัดบอล อ่านทาง และยืนตำแหน่ง
 

VVD ลูกพี่ใหญ่ผู้บัญชาการในเกมรับ ไม่มีพลาดเลยกับการเบียดตัวประกบจังหวะที่จะหลุดมา ความใหญ่ความแข็งแรง ตั๊นเบียดได้หมด การยืนตำแหน่งของ ฟาน ไดค์ มีความหมายทุกครั้ง ยิ่งพอไม่มี ฮาลันด์ ที่ตัวสูงใหญ่พอฟัดได้ งานของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ก็ไม่ได้ลำบากอะไร กับการเก็บ มาร์มูซ
 

ฟาน ไดค์ ตลอดทั้งเกม เคลียร์บอลไปถึง9ครั้ง และ บล็อกลูกยิงไป 3หน ลูกกลางอากาศอย่าหวังเลยว่าจะผ่านพี่ยักษ์คนนี้ไปได้ รวมถึงการผ่านบอล กัปตันทีมหงส์แดงรายนี้ยังผ่านบอลได้แม่นยำถึง 92% อีกด้วย
 

ส่วน โกนาเต้ ก็ทำหน้าที่พาร์ทเนอร์ได้ดีสุดๆ เคลียร์บอลได้5ครั้ง ไม่มียืนหลงตำแหน่ง คอยซ้อน เทรนต์ ได้เป็นอย่างดี หาก โดกู ทะลุมาได้ เป็นฤดูกาลที่เซ็นเตอร์ชาวฝรั่งเศสฟอร์มเสมอต้นเสมอปลายมากๆ ขายาวๆของเจ้าตัว เกี่ยวบอลและเกะกะคู่แข่งได้ดีเหลือเกิน

 

เดอ บรอยน์ โรยลา / โดกู ภาพเดิมๆ

แม้ว่าฤดูกาลนี้ จะไม่ได้เจ็บหนักอะไร แต่ทว่าด้วยสภาพร่างกายที่ไม่เหมือนเดิม ทำให้หลายๆนัด แม้จะฟิตพร้อมลงสนาม แต่ทว่า เควิน เดอ บรอยน์ มักจะได้เริ่มต้นจากการเป็นผู้เล่นบนม้านั่งสำรองไปก่อน แต่ทว่าเกมกับ ลิเวอร์พูล เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้เลือกให้ KDB สตาร์ทตัวจริง
 

เกมกับลิเวอร์พูล เมื่อคืน นี่คือการได้ออกสตาร์ทตัวจริงในพรีเมียร์ลีกของ เดอ บรอยน์ เพียงนัดที่ 12เท่านั้น นอกนั้นเป็นสำรองอีก 6นัด และการได้ออกสตาร์ทตัวจริงของเพลย์เมคเกอร์ชาวเบลเยี่ยม ก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ
 

ความช้า ความถดถอยของร่างกาย ที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน เมื่อได้วัดกับแดนกลางลิเวอร์พูล ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังกำลัง แน่น และสดกว่า เดอ บรอยน์ เสียบอลง่ายๆแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนช่วงหลายปีที่ผ่านมา
 

ครึ่งหลัง เควิน เดอ บรอยน์ เหมือนถูกลักพาตัวหายออกไปจากเกมเลย ยิ่งด้วยวัย33ปี พลังงานก็เหมือนจะลดลงเรื่อยๆ นั่นจึงไม่แปลกใจเลยที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะเลือกเปลี่ยนเจ้าตัวออกจากสนามเป็นคนแรก หลังผ่านไปเพียง 66นาทีเท่านั้น เป็นเจ้าหนู เจมส์ แม็คอาตี้ ลงมาเล่นแทน
 

ส่วนพื้นที่ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะโจมตีลิเวอร์พูล ได้ดูจะมีเพียงแค่ฝั่งซ้ายของ เฌเรมี่ โดกู เพราะได้ดวลกับ เทรนต์ ที่ไม่ถนัดเกมรับเท่าไหร่ อดีตตัวจี๊ดจากนีซ วูบวาบ เร็ว อันตราย จุดศูนย์ถ่วงต่ำไปกับบอลได้ดีมากๆ แต่ทว่าก็มาตกมาตายแบบเดิมๆที่เคยเห็นมาตลอด นั่นก็คือการเลือกจะยิงหรือจ่ายจังหวะสุดท้ายที่ ผิดหมดเลย

 

กองหลังเรือไม่เคยไว้ใจได้ ซีซั่นที่แย่สุดๆของ เป๊ป

ไม่ว่าจะจัดใครลงเป็นเซ็นเตอร์ตัวจริงก็ดูอลหม่านไปหมดสำหรับ แมนเชเตอร์ ซิตี้ เมื่อคืน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลือกใช้ คู่ เนธาน อาเก้ กับ อับดูโกดีร์ คูซานอฟ และด้วยความที่พวกเขาเล่นแผนหลังลอยสูงอยู่แล้ว ทำให้จังหวะสวนกลับของหงส์แดงมีทำให้ได้เสียวตลอด
 

ประตูแรกไม่มีใครคาดคิดเลยกับลูกสูตรเตะมุมของลิเวอร์พูล การจัดระเบียบการยืนตำแหน่งแตกกระเจิง เพราะไปวิ่งตามตัวสกรีน ทำให้ ซาลาห์ ได้มีเวลาและพื้นที่ได้ยิงโล่งๆ ไปแฉลบ อาเก้ เข้าประตูไป
 

ลูก 2-0 เหมือน อาเก้ จะไปทับตำแหน่งกับ กวาร์ดิโอล ที่ประกบ ซาลาห์ อยู่ ทำให้ "โซโบ " นั้นยืนว่างเลย ส่วนตัวที่ลงมาแทนอย่าง รูเบน ดิอ๊าซ ในครึ่งหลัง ก็มีพลาดให้เห็นเช่นกัน เมื่อจ่ายบอลไปติดพวกเดียวกัน โควาซิซ จนเกือบจะโดน ลงโทษฝังตายสนิทเป็น3-0
 

ที่โอเคสุดในแผงหลังเมื่อคืนเห็นทีจะเป็นเซ็นเตอร์ดาวรุ่งชาวอุซเบกิสถาน คูซานอฟ ที่มีช็อตสวยๆเข้าตาทั้ง ตัดบอลจากจังหวะอันตายของ ลุยซ์ ดิอ๊าซ และตามมาเก็บงานความผิดพลาดของเพื่อนร่วมทีมสไลด์บล็อคลูกยิง ของ โซโบซไล แบบเฉียดฉิว
 

ส่วน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นี่ส่อเค้าจะเป็นซีซั่นที่แย่ที่สุดของเจ้าตัวกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะแพ้ในเกมลีกไปแล้วถึง8นัด ฤดูกาลที่พวกเขาปราชัยพรีเมียร์ลีกมากที่สุดคือ 9นัด (2019-2020) นี่ยังเหลือเกมอีก11นัด
 

จริงๆยอดกุนซือชาวสเปน ก็ยังเล่นแบบเดิมนั่นแหละ แต่ทว่าคุณภาพนักเตะของพวกเขาไม่เหมือนเดิมเอาเสียแล้ว และตัวของ เป๊ป เอง ก็ยังเล่นวิธีการเดิมๆด้วย ยิ่งเป็นการเพิ่มจุดอ่อนให้ทีมเข้าไปใหญ่ ตอนนี้ เรือใบมีลุ้นแค่2อย่างคือ ทำอันดับไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ลุ้นแชมป์ ฟุตบอลถ้วย เอฟเอ  คัพ

 

11แต้ม เตรียมรถแห่ได้เลย ทุกอย่างอยู่ในมือหงส์

แม้จะมีช่วงหนึ่งสะดุดบ้าง โดยเฉพาะ9นัดหลังสุดในลีก ลิเวอร์พูล สะดุดเสมอถึง4 แต่ทว่าพวกเขาก็มีข้อดีตรงที่ เป็นทีมที่โคตรเคี่ยวและแพ้ยาก มาจนถึงตอนนี้ ผ่าน27นัด ทีมของ อาร์เน่อ สล็อต พลาดท่าในลีกเพียงแค่ 1นัดเท่านั้น ต้นฤดูกาลกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (0-1)
 

หรือสังเกตดีๆช่วงที่ลิเวอร์พูล สะดุดเล็กน้อย ผู้ตามอย่างอาร์เซน่อล ก็ไม่สามารถชนะทำแต้มได้กดดันมากพอเช่นกัน ลูกทีมของ มิเคล อาร์เตต้า ไม่เคยเอาชนะในพรีเมียร์ลีกได้เกิน3นัดติดต่อกันเลย นั่นจึงทำให้ช่องว่างคะแนน ทิ้งห่างมาตลอด
 

ณ ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล ทิ้งห่างอาร์เซน่อล มากถึง11แต้ม (แม้ว่าจะแข่งมากกว่า1นัด) บวกกับปืนใหญ่เอง ณ ตอนนี้ พวกเขาประสบปัญหาแนวรุกบาดเจ็บล้มหมอนนอนเสื่อกันไปหมดทั้ง บูกาโย่ ซาก้า - กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ หรือทั้ง กาเบรียล เชซุส และ ไค ฮาแวร์ตช์ ที่ต่างปิดเทอมยาวไปแล้ว
 

ถ้าไม่มีเหตุพลิกล็อกถล่มโลกอะไร แชมป์ลีกสมัยที่20 จะตกเป็นของลิเวอร์พูลแน่ๆ ขวบปีแรกของ อาร์เน่อ สล็อต ทำได้ดีเกินคาดจริงๆ ด้วยความสามารถยืนหยุ่นพลิกแพลงเพิ่มส่วนที่ทีมชุดนี้ขาด และมรดกที่ดีที่ เจอร์เก้น คล็อป วางรากฐานไว้ให้
 

นอกจากนี้ชัยชนะ 2-0 เหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อคืน นี่คือการบุกไปเอาชนะที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ได้หนแรกนับตั้งแต่ ปี 2015 ในยุคที่เรือใบสีฟ้า กุนซือ เป็น มานูเอล เปเยกรินี่ ซึ่ง สล็อต มาปีแรกก็ทำได้เลย
 

2นัดกับเรือใบฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล เอาชนะไปได้แบบไป-กลับ สกอร์รวม4-0 และเป็นครั้งแรกในรอบ10ปีที่ หงส์แดง เอาชนะ ทีมสีฟ้าเมืองแมนเชสเตอร์ได้ครบเหย้า-เยือน ซีซั่นล่าสุด 2019-2020 ที่ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ลีก พวกเขาทิ้งห่างรองจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 18 แต้ม มาดูกันว่าคราวนี้ แต้มที่พวกเขาจะทิ้งห่างรองจ่าฝูงอย่าง อาร์เซน่อล เป็นกี่คะแนนกัน

 

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง