ฟอนเซก้า วิกฤติ ! หงส์ บุกขย่ม มิลาน สบาย 3-1 ฟาน ไดค์ & โกนาเต้ ควงกันโขก
หลังจากที่พลิกล็อกพังพาบคาบ้าน ต่อ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 0-1 นั่นทำให้ต้องเรียกความมั่นใจกลับคืนมาหน่อยแล้วสำหรับลิเวอร์พูล โดยพวกเขามีเกมกลางสัปดาห์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ต้องบุกไปเยือน เอซี มิลาน ที่แม้ชื่อชั้นจะเป็นทีมใหญ่ แต่ทว่าผลงาน ณ ตอนนี้ ภายใต้กุนซือใหม่ เปาโล ฟอนเซก้า ทัพปีศาจแดง-ดำ น่าส่ายหัวเหลือเกิน
อาร์เน่ สล็อต มาเยือน ซาน ซิโร่ ด้วยการปรับผู้เล่น 2ตำแหน่ง จากนัดที่พ่ายเจ้าป่า โรเตชั่นแบ็กซ้าย จาก แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน มาเป็น คอสตาส ซิมิคาส และปีกซ้ายจาก หลุยส์ ดิอ๊าซ มาเป็น โคดี้ กัคโป ส่วน ดาร์วิน นูนเญซ ยังนั่งเป็นสำรองตามเดิม
ส่วน เอซี มิลาน ที่คลายความกดดันมาได้เล็กน้อย จากการเปิดบ้านถล่ม เวเนเซีย 4-0 การจัดทัพพวกเขาก็ใช้ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุด แนวรุกมากันครบทั้ง คริสเตียน พูลิซิซ - ราฟาเอล เลเอา และ อัลบาโร่ โมราต้า โดยมี รูเบน ลอฟตัส-ชีค ปั้นเกมเป็นเพลย์เมคเกอร์
ออกสตาร์ทเริ่มเกมมา ต้องบอกว่า มิลาน คึกคักเป็นอย่างมาก บวกกับทางหงส์แดงเหมือนจะยังเมาหมัดมาจากนัด ฟอเรสต์ ด้วย และก็เป็นเจ้าบ้าน ที่ขึ้นนำไปก่อน จากการหลุดมาทางฝั่งขวาของ พูลิซิซ ตัวของ ซิมิคาส แบ็กซ้ายหลุดตำแหน่งไป ทำให้ " กัปตัน อเมริเกา " วางเท้ายิงด้วยขวาสุดคม เสียบเสาสองเข้าไป มิลาน นำ 1-0 น.3
หลังจากนั้นเจ้าบ้านก็ได้ใจอยู่ราวๆ 10นาที แต่ทว่าไม่สามารถบวกสกอร์เพิ่มได้ เกมดำเนินมาราวๆ 15นาที ทีนี้เป็นหงส์แดงที่ครองเกมได้หมดจด ค่อยๆนวด ค่อยๆบด สร้างโอกาสที่ใกล้เคียงขึ้นเรื่อยๆ และก็มาพลิกแซงนำเป็น 2-1 จนได้
ลูกเตะมุม2คราของลิเวอร์พูล มาเข้าเต็มศีรษะของ 2 เซ็นเตอร์อย่าง อิบราฮิมา โกนาเต้ และ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ได้โขกจังๆ พาทีมพลิกแซงขึ้นนำ 2-1 น.21และ 43 พร้อมรูปเกมที่เหนือกว่าชัดเจน มิลาน ที่โดนบีบตั้งแต่แดนตัวเอง ทำได้แค่สาดบอลมาข้างหน้า แล้วเสียบอล จบ45นาทีแรก หงส์แดงบุกมานำ 2-1
ครึ่งหลัง ก็ยังเป็นทีมจากอังกฤษที่เหนือกว่าทุกเหลี่ยมมุม กุนซือ มิลาน เปาโล ฟอนเซก้า ไม่สามารถแก้เกม หรือแก้ลำแท็กติกการเล่นลิเวอร์พูลได้เลย แม้จะพยายามเปลี่ยนตัวรุกหลายรายทั้ง แทมมี่ อับราฮัม - โนอาห์ โอคาฟอร์ มิหนำซ้ำโกลอย่าง ไมค์ เมนญอง ที่มีอาการเจ็บตั้งแต่ครึ่งแรก เล่นครึ่งหลังได้เพียง 6นาที ก็ถูกเปลี่ยนออกให้ ลอเรนโซ่ ตอร์เรียนี่ นายด่านวัย19ปี มาเฝ้าเสาแทน
แม้การครองบอลจะสูสี แต่รายละเอียดระหว่างเกม ต้องบอกว่านี่คือบอลคนละชั้นเลยทัพ " รอสโซเนรี่ " นอกจากประตูแรก แทบจะหาจังหวะจบไม่เจอ จนท้ายที่สุดแล้ว หงส์แดงก็มาได้ประตูตอกฝาโรงจาก โดมินิค โซโบซไล 3-1 น.67
สกอร์ที่ไหลเป็น 3-1 รูปเกมที่เหนือกว่าเจ้าบ้าน ทำให้เกือบ20นาทีสุดท้าย ทีมของ สล็อต แทบจะปิดเกมได้เลย มิลาน มีลุ้นใกล้เคียงอีกทีตอนทดเจ็บ จากลูกซัดชนคานของ เลเอา ส่วน เฟเดริโก้ เคียซ่า ก็ได้โอกาสเดบิวต์นัดแรกกับทีม แต่เวลาน้อยไปหน่อย ลงมาก็ น.90 แล้ว จบเกมเป็น ลิเวอร์พูล ที่เรียกความมั่นใจกลับมาได้ บุกมาชนะ เอซี มิลาน ไป 3-1
มิลาน เรี่มต้นดี แต่หลังจากนั้นอย่างห่วย
แม้ว่าจะเอาชนะ เวเนเซีย มาสวยงาม 4-0 ในเกม เซเรีย อา แต่ทว่าภาพรวมของ เอซี มิลาน ในฤดูกาลใหม่นี้ยังไม่ดีเลย เหมือนกับว่า กุนซือคนใหม่ เปาโล ฟอนเซก้า จะยังจับต้นชนปลายกันไม่ถูก ทั้งการจัดตัวผู้เล่นและแท็กติกในสนาม
เมื่อคืนเกมเปิดหัว ยูซีแอล มิลาน ดูคึกคักกันใช้ได้เลย ในการดวลกับลิเวอร์พูล เพราะ15นาทีแรก เป็นพวกเขาวิ่งเข้าใส่ผู้มาเยือน จนทีมหงส์แดงทำอะไรไม่ถนัด และก็มาอาศัยความผิดพลาดในแนวรับของ ซิมิกาส ที่หลุดตำแหน่ง
โมราต้า จ่ายให้ พูลิซิซ ทางเขตโทษฝั่งขวา แข้งเมืองมะกัน มีทั้งพื้นที่และเวลาคิด จนสุดท้ายตะบันด้วยขวาบอลเสียบมุม ชนิดที่ อลิสซง เบ็คเกอร์หมดสิทธิเซฟ แต่ทว่าหลังจากนั้น ปีศาจแดง-ดำ ก็เป็นรองผู้มาเยือนหมดเลยหลังผ่าน 15นาทีแรก
จุดอ่อนที่ชัดที่สุดของพวกเขา นั่นก็คึอแบ็กขวากัปตันทีม ดาวิเด้ คาราเบรีย ที่โดน โคดี้ กัคโป เผาอย่างสนุกสนาม แถมลูก1-1ที่เสียประตู ก็เป็น คาราเบรีย นี่แหละที่ไปทำฟาวล์แบบไม่น่าเสียจนโดนฟรีคิกพื้นที่อันตราย มิหนำซ้ำยังไปเถียงผู้ตัดสินอีกด้วยว่าไม่ฟาวล์ ทั้งที่เข้าบอลเต็มคนต่อ กัคโป
ปีศาจแดง-ดำ เจอ ลิเวอร์พูล เล่นงานได้หมดจด กับแท็กติกการบีบสูง แนวรับ มิลาน กับจังหวะสวนตัวทำได้เพียงแค่ส่งคืนให้ เมนญอง สาดขึ้นหน้ามาเสียเท่านั้น รวมไปจนถึงตัวริมเส้นอย่าง เลเอา ก็เลือกที่จะรอบอล มากกว่าไปช่วยแบ็กซ้ายเวลาที่ต้องเติมเกมบุกอย่าง เตโอ แอร์กน็องเดซ
ตลอด90นาที แม้ว่าเปอร์เซ็นต์การครองบอลจะออกมา 49 ต่อ 51 แต่ทว่ารูปเกมต้องบอกว่า เอ้าท์คลาสเลยก็ได้นะ ทีมของ ฟอนเซก้า มีโอกาสยิงเข้ากรอบเพียง2ครั้ง ลิเวอร์พูล ส่องเข้ากรอบมากถึง12หน ด้วยกัน
ทีเด็ดลูกเซ็ตพีซ โกนาเต้ & ฟาน ไดค์
แม้ว่าจะแพ้ไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ต่อ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แต่ทว่าแนวรับลิเวอร์พูล ก็ยังจัดได้ว่าเหนียวแน่นใช้ได้อยู่นะ เพราะ4นัดแรก (360นาที) พวกเขาโดนคู่แข่งทะลวงตาข่าย ไปเพียงแค่1ลูกเท่านั้น เซ็นเตอร์อย่าง ฟานไดค์ และ โกนาเต้ ก็ยังทำผลงานของตัวเองได้อย่างแข็งแกร่ง
แต่ทว่าเปิดเกมมากับ มิลาน เพียงแค่ น.3 หงส์แดงก็โดน ลูกยิงสุดคมของ พูลิซิซ ซึ่งจังหวะดังกล่าวต้องโทษ ซิมิคาส เลย ที่ทะเล่อทะล่ายขึ้นไปผิดตำแหน่ง ซึ่งเอาจริงๆก็ต้องติง โกนาเต้ ด้วยนิดหน่อยตรงที่ไม่แหย่ขาหรือประกบห่าง พูลิซิซ จังหวะลากมายิง
ซึ่งหลังผ่านเวลาโปรเมชั่น15นาทีแรก แนวรับของหงส์แดงก็ไม่ได้ปล่อยให้ เอซี มิลาน มาสร้างความหนักอกหนักใจให้เท่าไหร่ และ2เซ็นเตอร์อย่าง ฟาน ไดค์ และ โกนาเต้ ก็มาอาศัยความ สูง ใหญ่ ยาว ขึ้นโขกเอาชนะในลูกเตะมุมและฟรีคิก ให้ทีมพลิกแซงขึ้นนำ 2-1 น.23 และ 41
อัลบาโร่ โมราต้า ได้รับการดูแลเป็นพิเศษจาก 2เซ็นเตอร์หงส์แดง โดยเฉพาะในรายของ โกนาเต้ นั้นโดดเด่นมากๆ แนวรับเลือดน้ำหอม แย่งบอลได้ 8ครั้ง เอาชนะการดวล6หน และ เคลียร์บอล 5ครั้ง
ส่วน VVD ก็ทำได้ตาม มาตรฐานของตัวเองอยู่แล้ว บัญชาการเกมรับได้เป็นยอดเยี่ยม โดยลูกโขกของเจ้าตัวก็เป็นการสลัดหนีตัวประกบอย่าง ทิยานี ไรจ์นเดอร์ส มาด้วย ฟาน ไดค์ ไม่มีปัญหาเลยกับการดวลหรือประกบกับ โมราต้า และตัวสำรองอย่าง อับราฮัม
สล็อต ปรับให้ กราเฟนแบร์ค เฉิดฉาย
ในยุคใหม่ของกุนซือ อาร์เน่ สล็อต ต้องบอกว่ามีหนึ่งคนที่ได้แจ้งเกิดขึ้นมาเต็มๆนั่นก็คือ ไรอัน กราเฟนแบร์ค กับบทบาท มิดฟิลด์ตัวกลางร่วมกับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เมื่อคืนที่ ซาน ซิโร่ แม้ว่า กราเฟนแบร์ค จะไม่ได้มีรายชื่อเป็นคนทำประตูหรือแอสซิสต์ แต่ผลงานของเขาก็โดดเด่นไม่แพ้กัน
กองกลางชาวดัตช์ ทำได้ดีในเรื่องของการเอาตัวรอดพื้นที่แคบๆหากโดนบีบหรือเจอ แข้งมิลานวิ่งเข้าใส่ ข้อเท้าที่เร็วและทักษะทางฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม ทำให้เจ้าตัวผ่านบอลต่อให้เพื่อนร่วมทีมเล่นได้ เวลาโดนเพรสเข้าหา
เชื่อมเกม และคุมจังหวะที่คือสิ่งที่ กราเฟนแบร์ค เลือกเพลย์การเล่นได้อย่างเหมาะสม ไม่เร่งและไม่ออกบอลช้าเกินไป คุมจังหวะได้อย่างสมดุล เปลี่ยนบอลจากรับเป็นรุกได้ เมื่อคืนเจ้าตัวมีสถิติที่ยอดเยี่ยมทั้ง
เอาบอลกลับมาครองได้ 10ครั้ง แถมยังตัดบอลได้มากถึง 6หน เป็นผู้เล่นที่ทำได้มากที่สุดในสนามเมื่อคืน ซึ่งไม่แปลกใจเลยที่หลังจบเกม90นาที บทบาทปิดทองหลังพระของ กราเฟนแบร์ค จะทำให้คว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครอง
ชม กราเฟนแบร์ค ไป จะไม่ชม แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็คงจะยุติธรรมน้อยไปหน่อย " แม็คก้า " ก็เป็นอีกคนที่เล่นได้อย่างโดดเด่น ไม่อืดไม่เนือยเหมือนเกมกับ ฟอเรสต์ แถมเจ้าตัวยังมีลูกจ่ายคิลเลอร์พาส ให้ โชต้า หลุดเดี่ยวด้วย แต่ทว่าตัวรุกชาวโปรตุเกส ยิงออกไปแบบเสียของ
ซิมิคาส ใช้โอกาสที่ได้รับไม่คุ้มค่า
ประมาณ2ซีซั่นที่แล้ว มีศักยภาพเบียดตัวจริงตำแหน่งแบ็กซ้ายอย่าง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ได้เลย สำหรับ คอสตาส ซิมิคาส แต่ทว่าฤดูกาลที่แล้วเป็นต้นมา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องความมั่นใจด้วยเปล่าที่ทำให้เจ้าตัว เป็นตัวสำรองที่สร้างความอุ่นใจให้น้อยลง
เกมบุกเยือน ซาน ซิโร่ สล็อต เลือกโรเตชั่น 2ตำแหน่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ แบ็กซ้าย ซิมิคาส ที่ได้ออกสตาร์ทแทน โรเบิร์ตสัน 4นัดที่ผ่านมาในพรีเมียร์ลีก แบ็กชาวกรีซ ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง3นัด นั่นหมายความว่านี่คือการได้เล่นตัวจริงนัดแรกของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้
คอสตาส ซิมิคาส ต้องบอกว่าเริ่มต้นได้ไม่ดีเลย เพราะเป็นคนหลุดตำแหน่งขึ้นไปโขกแย่งบอลกับ คาราเบรีย เฉย เปิดพื้นที่ฝั่งซ้ายจากการจ่ายของ โมราต้า ให้ พูลิซิซ มีทั้งพื้นที่และเวลาได้คิดเลือกช็อตเล่นว่าจะยิงหรือจ่ายก่อนหวดเข้าไปเสียบมุม
อย่างไรก็ดี แบ็กชาวกรีซ ก็ยังพอมาแก้ตัวได้ ทำแอสซิสต์เปิดลูกเตะมุมให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ โขกเหน่งๆเข้าไป ที่จริง ซิมิคาส เติมสูงขึ้นมาจนมีโอกาสได้จบถึง4ครั้งด้วยกัน แต่ทว่าพลาดเองไปหมด โดยเฉพาะช็อตที่ "โซโบ " ไหล กลับมาให้ยิงในเขตโทษ แต่ทว่าซัดเรียดหลุดกรอบไปแบบน่าเสียดายสุดๆ
เกมบุกของ เอซี มิลาน ที่พอจะน่ากลัวก็เป็นการได้ขึ้นตรงฝั่ง ซิมิคาส นี่แหละ เพราะอีกฝั่ง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ไม่ได้ผิดพลาดอะไร โอเคแม้ว่า คอสตาส ซิมิคาส จะมีบทบาทเป็นตัวสำรอง แต่ก็ยังเป็นตัวสำรองที่ฟอร์มห่างไกลจากที่เคยทำได้ 2ฤดูกาลก่อนอยู่มากเลยทีเดียว เผลอๆในเรื่องเกมรับ โจ โกเมซ อาจทำได้ดีกว่าก็ได้หากถูกขัดตราทัพมาเล่นแบ็กซ้ายอีกครั้ง
นายไม่รอดแน่...ฟอนเซก้า
จากรองแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา ปีที่แล้ว แต่ทว่าทำไมกลายสภาพมาเป็นอย่างนี้ไปได้สำหรับ เอซี มิลาน ซึ่งการเปลี่ยนกุนซือจาก สเตฟาโน่ ปิโอรี่ มาเป็น เปาโล ฟอนเซก้า นี่แหละอาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ปีศาจแดง-ดำ ไม่น่ากลัวเหมือนเดิม
การเข้ามารับตำแหน่งนายใหญ่แห่งถิ่น ซาน ซิโร่ ของ เปาโล ฟอนเซก้า ก็ถูกตั้งคำถามอยู่เยอะเหมือนกัน เพราะกุนซือชาวโปรตุเกสรายนี้ เคยมีประสบการณ์ในเวทีอิตาลีมาก่อนกับ โรม่า และก็ไม่สามารถพาทีมหมาป่าแห่งกรุงโรม ไปเล่น ยูซีแอล ได้ จนโดนปลดในที่สุด
จะว่าไป ฟอนเซก้า ก็เคยมีช่วงฮีนนีมูนเหมือนกันนะ แต่เป็นปรี-ซีซั่น ก่อนมาแย่สุดๆในลีก 3นัดแรก มี2คะแนน ก่อนจะมาฟื้นนัดถล่ม เวเนเซีย 4-0 สิ่งหนึ่งที่ก่อนหน้านั้น ที่ กุนซือชาวโปรตุเกส ถูกโจมตีอย่างหนักนั่นก็คือการให้ 2สตาร์ตัวเก่งของทีมอย่า เลเอา และ เตโอ แอร์กน็องเดซ เริ่มต้นด้วยการเป็นสำรอง ก่อนที่จะให้เป็นตัวจริงภายหลัง
กับลิเวอร์พูลเมื่อคืน แม้การครองบอลจะสูสี แต่ทว่ารูปเกมต้องบอกว่า เอ้าท์คลาสเลยก็ได้นะ เพราะโอกาสยิงเข้ากรอบผู้มาเยือนส่องไปมากถึง12หน ส่วนมิลานมีแค่ 2ครั้ง แค่บีบสูงจากแดนบน ปีศาจแดง-ดำ ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เคลียร์บอลไปวัดวาข้างหน้าอย่างเดียว
2ประตูที่ เอซี มิลาน เสีย ก็มาจากการประกบตัวลูกตั้งเตะ แบบเดียวกันเป๊ะๆ แต่แก้ไขไม่ได้ ซึ่งตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้า เปาโล ฟอนเซก้า จะมีเดดไลน์ชี้ชะตาอนาคตของตัวเองอยู่นั่นก็คือแมตช์กับ ลิเวอร์พูล และ อินเตอร์ มิลาน ซึ่งดูจากสถานการณ์แล้ว ยากเหลือเกินที่ ฟอนเซก้า จะยังได้คุม " รอสโซเนรี่ " ต่อไป
- คอลัมน์นิสต์
- คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ลิเวอร์พูล เอซี มิลาน อาร์เน่อ สล็อต เปาโล ฟอนเซก้า เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ อิบราฮิมา โกนาเต้
- 225
- 18 ก.ย. 2567 14:57