เรียกผมว่า เซอร์ เซาธ์เกต ! สิงโต เข้าชิง เฉือน ดัตช์ 2-1 วัตกินส์ โจ๊กเกอร์ นาทีบาป
ได้คู่ชิงชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ ยูโร 2024 หลังจากที่เมื่อวันอังคาร เป็นสเปนที่เอาชนะอีกหนึ่งทีมเต็งอย่างฝรั่งเศส เข้าไปชิงชนะเลิศได้สำเร็จ และคู่แข่งของทัพกระทิงดุ ในแมตช์ตัดสินแชมป์ จะเป็นสองชาติระหว่างอังกฤษและเนเธอร์แลนด์ ที่มองจากศักยภาพ ฟอร์มโดยรวมต้องบอกว่าขุนพลกระทิงดุดูเหนือกว่าทั้งคู่
โดยรอบรองชนะเลิศที่สนาม เบเฟาเบ สตาดิโอน ดอร์ทมุนด์ เนเธอร์แลนด์กับอังกฤษ ทีมของ โรนัลด์ คูมัน หลังจากที่ผ่านตุรกีมาได้ในรอบ8ทีม พวกเขามีการปรับทัพหนึ่งตำแหน่ง ดอนเยลล์ มาเลน แทนที่ สตีเว่น เบิร์กไวจน์ นอกนั้นตัวเดิมหมด พร้อมมาในระบบ 4-3-3
ส่วนอังกฤษของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่เน้นปลอดภัยรัดกลุมไว้ก่อน มาในระบบ 3-4-2-1 ยึดระบบ3เซ็นเตอร์ ได้ มาร์ค เกฮี หายโทษแบน มาเสียบแทน เอซรี่ คอนซ่า ที่เป็นตัวจริงกับสวิตเซอร์แลนด์ ส่วน ลุค ชอว์ ที่หายเดี้ยงพร้อมลงสนามแล้ว ยังเป็นตัวสำรองในตำแหน่งแบ็กซ้ายของ คีแรน ทริปเปียร์ ที่ขัดตราทัพมาเล่น นอกจากนั้นก็11ผู้เล่นตัวจริงชุดเดิม
เริ่มเกมมาต้องบอกว่าเป็นอังกฤษที่ทำได้เหนือกว่าทั้งการทำเกม ต่อบอล ต่างๆ แต่ทว่ากลับกลายเป็นฮอลแลนด์ ที่อาศัยความผิดพลาดของ เดแคลน ไรซ์ แล้วก็เป็นตัวจี๊ด ชาฟี ซิมอนส์ ที่แย่งบอลได้ซัดตู้มเดียวจากระยะ 20หลา บอลแรงเกือบ120 กิโลเมตร ตุงขาข่ายเข้าไป ขึ้นนำ 1-0 น.7
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามทัพสิงโตยังนิ่งและไม่เสียขวัญและตามตีเสมอได้1-1 จากจังหวะที่ เดนเซล ดุมฟรีส แหย่เท้าบล็อกเปิดปุ่มสตั๊ดใส่ แฮร์รี่ เคน จนล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินเช็ก VAR กลายเป็นจุดโทษ และ เคน ก็สังหารเข้าไปเสียบมุมหนีมือ บาร์ท แฟร์บรุคเค่น น.16
หลังจากนั้นสิงโตคำรามก็ยังเหนือกว่าอัศวินสีส้มโดยเฉพาะ ฟิล โฟเด้น ที่เล่นเด่นสุดๆ แต่ทว่าก็ยังหาสกอร์แซงขึ้นนำไม่ได้ จบ45นาทีแรกด้วยสกอร์ 1-1ซึ่งก่อนเริ่มครึ่งหลังทั้งสองทีมก็มีการเปลียนตัว เซาธ์เกต เลือกถอด ทริปเปียร์ แล้วให้โอกาส ชอว์ ที่เป็นซ้ายธรรมชาติ ส่วน คูมัน ถอด ดอนเยลล์ มาเล่น แล้วส่ง เวาต์ เว็กฮอร์สต์ ลงมาเค้าหน้า แทน ตำแหน่งของ เมมฟิส เดอปาย ที่เจ็บตั้งแต่ครึ่งแรก
ทว่าพอเกมครึ่งหลังกลับกลายเป็นรูปเกมน่าเบื่อไปซะงั้น เพราะทั้งสองทีมเน้นรัดกุมปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะทางฝั่งของอังกฤษ ทั้งสองที่ไม่ค่อยผลีผลาม ซึ่งหากโดนหมัดน็อกของอีกฝ่ายเข้า นั่นหมายถึงการตกรอบอดเข้าชิงเลย ทำให้มีโอกาสหวาดเสียวกันไม่เยอะ
เกมทำท่าว่าจะต้องไปวัดกันในช่วงต่อเวลา 120นาทีแล้ว แต่ทว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็ได้สำแดง อิทธิฤทธิ์ในการเปลี่ยนตัว เมื่อซุปเปอร์ซัพที่เจ้าตัวส่งลงมา น.81 ทั้ง โคล พาลเมอร์ และ โอลลี่ วัตกินส์ ก็มาเป็นทีเด็ดตัวโจ๊กเกอร์
น.90 +1พาลเมอร์ แทงบอลมาให้ วัตกิ้นส์ ตะบันในเขตโทษฝั่งขวาหนีบล็อกของ สเตฟาน เดอ ฟราย บอลเรียดเสียบมุมเข้าไปอย่างเฉียบคม พาสิงโตคำรามขึ้นนำ 2-1 ในขณะที่มีการทดเวลาเพียง 2นาที และจบเกมด้วยสกอร์ดังกล่าว ดาวยิงจาก แอสตัน วิลล่า สวมบทฮีโร่ พาทีมเข้าชิงยูโร 2024 ไปวัดแชมป์กับสเปน
ความผิดพลาดส่วนตัวทำอังกฤษชอบโดนนำก่อน
นับตั้งแต่รอบน็อกเอ้าท์เป็นต้นมาไม่มีเกมไหนที่ง่ายเลยสำหรับทีมชาติอังกฤษ ซึ่งแม้ว่าพวกเขาจะเน้นเกมแบบรัดกุม แต่ทว่าก็มีอันต้องเสียประตูไปก่อนตลอด ซึ่งแต่ละลูกที่พวกเขาโดนส่องตาข่าย ก็มีจุดเริ่มต้นมาจากความผิดพลาดส่วนบุคคลทั้งนั้น
กับ สโลวาเกียรอบ16ทีม พวกเขาก็โดนนำไปก่อน 1-0 น.26 จาก อีวาน ชรานซ์ ที่ทั้ง มาร์ค เกฮี และ ไคล์ วอล์คเกอร์ ยืนตำแหน่งกันไม่ดีจนเกิดช่องว่าง โดยเฉพาะ เกฮี จังหวะแรกที่ชิงโหม่งพลาด จนท้ายที่สุดทำได้แค่ต้องวิ่งตามหลังคนยิง
กับ สวิตเซอร์แลนด์ รอบ8ทีม ทีมแดนนาฬิกาที่ถูกมองว่าจะเป็นม้ามืดในทัวร์นาเม้นต์นี้ ขึ้นนำไปก่อนช่วงท้ายเกม น.74 ซึ่งจังหวะเปิดเข้ามาจากทางด้านควาเป็น จอห์น สโตนส์ ที่สกัดไม่ขาด เป็นเหมือนการไปหยุดบอลตั้งบริเวณ 5-6 หลาให้ บรีล เอ็มโบโล่ จิ้มง่ายๆเข้าไป
ส่วนเมื่อคืนกับ เนเธอร์แลนด์ รูปเกมที่กำลังดีอยู่และเหนือกว่าแท้ๆ เดแคลน ไรซ์ โดน ชาฟี ซิมอนส์ เกี่ยวบอลได้ แล้วลากมาซัดระยะราวๆ 20หลา เข้าไปสุดสวย เพียง น.7 ซึ่งเอาตรงๆตลอดทั้งเกม ถ้าไม่นับความผิดพลาดดังกล่าว ไรซ์ ถือว่าเล่นได้ดีเลย
ยังดีที่ความผิดพลาดของทัพสิงโตคำราม พวกเขาจะแก้ลำมาได้ตลอด บางนัดก็แทบใจหายใจคว่ำ ระบบเกมรับของอังกฤษถือว่าดีใช้ได้เลยจากความรัดกุม แต่ทว่าความประมาทผิดพลาดเล็กๆน้อยๆส่วนบุคคลนี่แหละ ที่ทำให้พวกเขาโดนลงโทษตลอด ซึ่งนัดสิงที่จะดวลกับสเปน หากว่าทัพกระทิงดุขึ้นนำไปก่อน จะเป็นเรี่องที่ยากสุดกว่านัดที่ผ่านมาแน่
ไมนู ยิ่งเล่นยิ่งเด่น นิ่งเกินวัย
ในรอบแบ่งกลุ่มทั้ง3นัด เราจะเห็นได้ว่าทีมชาติอังกฤษดูไม่สมดุลเท่าไหร่ในแดนกลาง เพราะกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต ยังหาคู่ขาที่ลงตัวให้กับ เดแคลน ไรซ์ ไม่ได้ 2นัดแรกกับ เดนมาร์ก และ เซอร์เบีย เป็น เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หุบเข้ามาเล่น และก็กลายเป็นแบ็กจากลิเวอร์พูล ที่ขัดตราทัพมาเล่น กลายเป็นแพะรับบาปไปเลย
TAA ถูกเปลี่ยนตัวออกเร็วทั้ง2นัด เกมที่3กับ สโลเวเนีย เป็น โอกาสของ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ แต่ทว่าเกมตรงกลางก็ดูหนักกว่าเดิมอีก จนท้ายที่สุดแล้ว ในรอบ16ทีมเป็นต้นมา เซาธ์เกต ก็เหมือนดวงตาเห็นธรรม เลือกเป็น ค็อบบี้ ไมนู
ซึ่งการเลือกไมนู ก็ทำให้เกมในแดนกลางของอังกฤษไหลลื่นขึ้นจริงๆ เกมกับ เนเธอร์แลนด์ เมื่อคืน แผงมิดฟิลด์ของสิงโตคำรามเหนือกว่าชัดเจน เล่นเอา แยร์ดี้ เชาเท่น และ ทียานี่ ไรน์เดอร์ส ครองบอล หรือทำเกมรุกไม่ได้เลย เป็นอังกฤษทีได้กดฝ่ายเดียว
ค็อบบี้ ไมนู เล่นง่ายๆไม่ฝืน แต่สวยงาม ทำให้บอลลำเลียงและขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่น อ่านเกมได้เยี่ยมเกินอายุ ตัดบอลเล่นเกมรับได้ อยู่ในแทบจะทุกพื้นที่ในสนาม เจ้าหนูจากปีศาแดง มีจังหวะพลิกบอล ลากไปข้างหน้า แล้วจ่ายสุดเนียนให้ ฟิล โฟเด้น ได้หลุดไปยิง แต่โดน ดุมฟรีส สกัดไว้บนเส้น
ไมนู มีสถิติที่ยอดเยี่ยมนัดดวลกับฮอลแลนด์ ทั้ง เอาชนะการดวลทั้ง3ครั้ง / ตัดบอลได้2ครั้ง / ผ่านบอลแม่นยำ 85.7 % และด้วยวัยแค่ 19ปี ค็อบบี้ ไมนู กลายเป็นนักเตะอังกฤษที่อายุน้อยที่สุดที่ได้เล่นในรอบรองชนะเลิศทัวร์นาเม้นใหญ่ ด้วยวัยเพียง19ปี กับอีก 82วัน
วัตกินส์ โคตรซุปเปอร์ซัพ จบสกอร์คมกริบ
จากผลงาน 19ประตู 13แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก 2023-2024 ที่ผ่านมา หากว่าเป็นนักเตะของทีมชาติอื่นที่ไม่ใช่อังกฤษ ตัวเลขขนาดนี้ต้องออกสตาร์ทเป็น11ผู้เล่นตัวจริงแบบปฎิเสธไม่ได้ แต่นั่นไม่ใช่กับทัพสิงโตคำราม เพราะว่าพวกเขามียอดเพชฌฆาตดาวซัลโวอย่าง แฮร์รี่ เคน ขวางทางอยู่
นั่นทำให้ในยูโร 2024 หนนี้ โอลลี่ วัตกินส์ มีสถานะเป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น ไม่เคยได้ออกสตาร์ทตัวจริงเลย ก่อนเกมกับฮอลแลนด์ เมื่อคืนหอกจาก แอสตัน วิลล่า พึ่งได้เป็นสำรองเพียงแค่1นัด มีเวลาในสนามแค่ 20นาที เกมกับเดนมาร์ก
นั่นทำให้เมือคืนนี่คือการลงเล่นนัดที่2ในยูโรของเจ้าตัวเท่านั้น โดยลงมาแทน แฮร์รี่ เคน โดย11นาที รวมช่วงทดเวลาบาดเจ็บ คือจำนวนนาทีอันน้อยนิดที่ วัตกินส์ จะได้สร้างความแตกต่างและพิสูจน์ตัวเอง
ซึ่งการได้สัมผัสบอลเพียงแค่ 4ครั้ง ผ่านบอล2หน และโอกาสยิงเพียงครั้งเดียว วัตกินส์ ก็เสกตั๋วพาประเทศชาติบ้านเกิดเข้าชิงได้ เมื่อรับบอลจาก สำรองเหมือนกันอย่าง พาลเมอร์ แล้วตะบันในเขตโทษด้านขวา หนีบล็อก เดอ ฟราย เรียดเสียบมุมไปแบบคมกริบ น.90+1 ซึ่งการยิงบอลแบบนี้ วัตกินส์ เคยทำให้เห็นมาแล้วนับไม่ถ้วนกับ วิลล่า
และนี่เป็นเพียงประตูที่4ในนามทีมชาติของเจ้าตัวเท่านั้น และทุกนัดที่วัตกินส์ยิงได้ทัพ " ทรี ไลออนส์ " ชนะหมดเลย ซึ่งประตูชัยของเจ้าตัว ก็ต้องไม่ลืมให้เดรดิต กับตัวสำรองเช่นกันอย่าง พาลเมอร์ ด้วย ที่ลงมาแทน โฟเด้น ต้องบอกว่า2ตัวสำรองทีเด็ด คือผู้พาอังกฤษผ่านเข้าชิงเลยก็ได้
ดัตช์ มาไกลกว่าที่คิด เว็กฮอร์สต์ หน้าเดียวแต่อันตราย
ด้วยขุมกำลังตัวผู้เล่น และความไม่พร้อมต่างๆ นั่นไม่แปลกใจเลยที่ทำให้ เนเธอร์แลนด์ ไม่ได้เป็นทีมเต็งเหมือนกับชาติมหาอำนาจอย่าง สเปน-เยอรมัน-โปรตุเกส หรืออังกฤษ รายชื่อนักเตะก่อนมาทัวร์นาเม้นต์ คาดการณ์กันว่า อัศวินสีส้ม น่าจะเน้นเกมรับมากกว่า เพราะมีกองกลังดีๆหลายรายทั้ง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ - เนธาน อาเก้ และ สเตฟาน เดอ ฟราย
แต่ทว่าพอเล่นไปไม่ใช่อย่างนั้น ขุนพลฟลายอิ้งดัตช์แมน กลายเป็นทีมที่เล่นเกมบุกสนุก โดยเฉพาะตัวจี๊ดจ๊าดอย่าง ดอนเยลล์ มาเล่น และ ชาฟี ซิม่อนส์ ทำให้ก่อนเกมรอบรอง พวกเขาซัดไปได้แล้วถึง9ประตู โดย เฉพาะ โคดี้ กัคโป ที่ทัวร์นาเม้นต์นี่คมเหลือเกิน (3ประตู)
อย่างไรก็ดีเกมกับอังกฤษ 45นาทีแรก ต้องบอกว่าพวกเขาเป็นรองมากๆ คู่มิดฟิลด์อย่าง แยร์ดี้ เชาเท่น และ ทียานี่ ไรน์เดอร์ส ครองเกม เปิดเกมบุก หรือเล่นเกมรับกันไม่ได้เลย ทำให้ครึ่งแรกแทบจะโดนขย่มอยู่ฝ่ายเดียว
ซึ่งหากทั้ง แฟรงกี้ เดอ ยอง และ เทิน โค้พไมเนอร์ส สองกองกลางตัวเด่นมาด้วย เกมแดนกลางคงจะกระชับกว่านี้ เมมฟิส เดอปาย ที่เจ็บในครึ่งแรก ทำให้45นาทีหลัง โรนัลด์ คูมัน ต้องปรับแท็กติก เอา เวาท์ เว็กฮอร์สต์ ที่สูงใหญ่ยาวมาค้ำแทน
หอกร่างโย่งแม้ว่าจะไม่ได้มีทักษะลูกเล่นแพรวพราวเหมือนกับ เดอปาย แต่ทว่าด้วยความสูงใหญ่ของเจ้าตัวนั่นทำให้ เป็นจุดโฟกัสของทีมได้ บังบอล พักบอลได้ เอาง่ายๆคือสร้างความหนักใจให้กับแนวรับอังกฤษ เด่นที่สุดของทีม 45นาทีหลังเลย
แม้ว่าจะได้ยิงเพียงแค่ 1ครั้ง แต่เจ้าของส่วนสูง 197 ซม.รายนี้ เอาชนะลูกกลางอากาศได้ถึง 4ครั้ง เลียกว่าถ้ามีจังหวะครอสเข้ามาหรือเตะมุม เป้าที่ใหญ่ของ เว็กฮอร์สต์ ทำให้แนวรับอังกฤษต้องพะวงตลอด สุดท้ายแล้วรอบรองชนะเลิศกับตัวผู้เล่นให้ฮอลแลนด์ที่ดูไม่พร้อมเท่าไหร่ ถือว่าเป็นผลงานที่น่าพอใจของทัพ " ออรันเย่ " เลยทีเดียว
เตรียมเรียกผมว่า " เซอร์ " เซาธ์เกต
ก่อนทัวร์นาเม้นต์เป็นเต็ง1 ด้วยขุมกำลังตัวผู้เล่นที่เพรียบพร้อมมากๆ แต่ทว่าเมื่อผ่าน3นัดในรอบแบ่งกลุ่ม ชนะ เซอร์เบียร์ 1-0 / เสมอ เดนมาร์ก 1-1 / เสมอ เซอร์เบียร์ 0-0 พร้อมสไตล์การเล่นที่คนดูต้องมีหมอนไว้กันง่วงหลับตลอด นั่นทำให้ " ทรี ไลออนส์ ถูกมองว่าไปไม่น่าไกลมาก
บวกกับตัวกุนซือที่ถูกดิสเครดิตพอสมควร กับเรื่องสไตล์การเล่นที่เน้นรัดกุมไว้ก่อน รอบน็อกเอ้าท์พวกเขาก็ยังขลุกขลิกมาตลอด มีชนะช่วงต่อเวลา120นาที ดวลจุดโทษรอบ8ทีม ซึ่งแม้จะทำตัวน่าหงุดหงิด แต่ก็ต้องยอมรับว่า เซาธ์เกต มีเปลี่นตัวแก้เกมตรงจุดหลายครั้ง
ประตูชัย ช่วง120นาที ที่ชนะสโลวาเกีย 2-1 ลูกโขกของ แฮร์รี่ เคน ก็มาจากการประสานงานกันของ2ตัวสำรอง เอเบเรชี่ เอเซ่ และ อีวาน โทนี่ย์ ดวลจุดโทษกับสวิตเซอร์แลนด์ 3ตัวสำรองอย่าง โคล พาลเมอร์ - อีวาน โทนี่ย์ และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ - อาร์โนลด์ สังหารเข้าหมดเลย
ส่วนกับฮอลแลนด์เมื่อคืน จัดได้ว่าเป็นการจั่วแบบมาสเตอร์พีชของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เลย 2ตัวสำรองอย่าง วัตกินส์ และ พาลเมอร์ มีส่วนกับประตูชัย เพราะเป็นทั้งคนแอสซิสต์ และจบสกอร์ พาทีมคว้าตั๋วนัดชิงชนะเลิศ
ทำเป็นเล่นไป แกเร็ธ เซาธ์เกต พาทัพ " ทรี ไลออนส์ " เข้าชิงยูโรได้ 2สมัยติด และในบอลโลก ก็ไปไกลถึงอันดับ 4 และรอบ 8ทีม ไม่มีผู้จัดการทีมชาติอังกฤษคนไหนทำได้ดีเท่านี้ในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่บอลโลก 1966 ที่พวกเขาคว้าแชมป์ครั้งแรกและครั้งเดียว
เซาธ์เกต อาจไม่ใช่บอลสวยงาม เน้นรับกุมสุดๆ ยิ่งพอเป็นบอลทัวร์นาเม้นต์ ต้องระวังเป็นพิเศษ ซึ่งต้องให้เครดิตเจ้าตัวแบบเต็มๆ เพราะผลลัพธ์นั้นจับต้องได้จริงๆ อดีตกุนซือโบโร่รายนี้ เล่นอังกฤษให้เป็นอังกฤษ เข้าใจตัวเอง และทำประสิทธิภาพออกมาได้สูงสุด ไม่แน่หลังนัดชิงชนะเลิศกับสเปน แกเร็ธ เซาธ์เกต อาจมียศ " เซอร์ " เป็นคำนำหน้าก็เป็นได้ ...
- คอลัมน์นิสต์
- คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล ยูโร2024 อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ โอลลี วัตกิ้นส์ แกเร็ธ เซาธ์เกต ชาฟี ซิมอนส์ แฮร์รี่ เคน
- 373
- 11 ก.ค. 2567 16:13