ทรอสซาร์ ซุปเปอร์ซับ ! สิงห์ แผ่วเอง โดนปืนตามเจ๊า 2-2 ซานเชส แจกโชค
ถ้าเอาก่อนเกมเชื่อว่าแค่ผลเสมอกับอาร์เซน่อลได้ ก็น่าจะทำให้แฟนบอลสิงห์บูลส์ พอใจอยู่ไม่น้อย เพราะถ้าเทียบจากฟอร์มต้องบอกว่า พลพรรคปืนใหญ่ดูดีกว่าจริงๆ ในเรื่องของทีมเวิร์คการต่อบอล ความเข้าอกเข้าใจในแท็กติกต่างๆ แต่ทว่าผลเจ๊าที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อคืนน่าจะทำให้แฟนๆเจ้าบ้านเสียดายอยู่ไม่น้อย เพราะด้วยรูปเกมเกือบทั้งหมดต้องบอกว่า เซลซี ดีกว่าจริงๆ แต่ทว่ามาพลาดและแผ่วกันเองในช่วง15นาทีสุดท้าย
เซลซี ที่เหมือนจะเรียกโมเมนตัมเล็กๆกลับมาได้ หลัง2นัดล่าสุดในพรีเมียร์ลีกพวกเขาชนะรวด เปิดบ้านเจอกับ อาร์เซน่อล โดนก่อนเกม กูรูลูกหนังหลายท่าน ก็ค่อนข้างฟันธงว่าปืนใหญ่น่าจะมีผลการแข่งขันที่ดีกลับออกมาได้
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่สิ้นเสียงนกหวีดเริ่มเกม กลับเป็นทางฝั่งของสิงน้ำเงิน ที่เล่นได้ดีกว่า ในเรื่องของการต่อบอล เข้าเพรสซิ่ง บวกกับทางฝั่งผู้มาเยือน เหมือนนักเตะจะล้าและแผ่วมาจากเกมทีมชาติยังไงไม่รู้ ดูเนือยๆและจ่ายบอลในพื้นที่สุดท้ายไม่ได้
และแล้วก็เป็นเซลซี ที่มาดีมากๆ ขึ้นนำอาร์เซน่อลไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ วิลเลี่ยม ซาลิบา โชคร้ายไปทำแฮนด์บอล ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษ และก็เป็น เจ้าหนูดาวรุ่ง โคล พาลเมอร์ สังหารเข้าไป น.15 ซึ่งก่อนจะสังหารจุดโทษกัน ก็เกือบจะมีดราม่ากันเล็กๆ เพราะ พาลเมอร์ เอง ไปแย่งกันยิงกับ ราฮีม สเตอร์ลิง
จบ45นาทีแรก ไปด้วยสกอร์ 1-0 ออกสตาร์ทครึ่งหลังมา ก็เหมือนเจ้าบ้านจะปิดเกมได้แล้ว เมื่อ มิไคโล มูดริค ที่จะเปิดบอลเข้าไปในเขตโทษให้เพื่อนร่วมทีม แต่ทว่าเปิดผิดเหลี่ยมกลายเป็นดี บอลเสียบเสาไหลเข้าไปอย่างเฉียบขาด หนีห่างเป็น 2-0 น.48
สกอร์ดังกล่าว บวกด้วยรูปเกมที่ยังไม่ดีขึ้นของผู้มาเยือน รวมถึงแข้ง " กันเนอร์ส " หลายราย เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้มีโอกาสสูงมากๆที่ ลูกทีมของ เมาริซิโอ โปเซ็ตติโน่ จะเก็บ3แต้มเข้ากระเป๋า แต่ทว่าจากเกมที่จะหมดหวังก็มีจุดเปลี่ยนที่จุดประกายเกิดขึ้น
โรเบิร์ต ซานเชส ออกบอลไม่ดูตาม้าตาเรือ บวกกับเพื่อนร่วมทีมเหมือนจะปล่อยบอลกั๊กกันไปเอง ทำให้บอลมาเข้าทาง เดแคลน ไรซ์ ยิงสวนตูมเดียวจากนอกกรอบเขตโทษเข้าไป น.77 ไล่มา 2-1หลังจากนั้นโมเมนตัม ก็ไหลมาเข้าทางผู้มาเยือนเต็มๆ ผสมกับเจ้าบ้านเหมือนจะช็อตไปเลย
สุดท้ายความพยายามของปืนใหญ่ก็เป็นผล ส่วนหนึ่งต้องให้เครดิตการเปลี่ยนตัวของ อาร์เตต้า ด้วยที่เห็นผลทุกดอก และท้ายที่สุดแล้วอาร์เซน่อล ก็มาโกงความตายสำเร็จ จากจังหวะที่ บูกาโย่ ซาก้า ที่แทบจะเงียบตลอดทั้งเกม เปิดบอลมาให้ตัวสำรอง เลอันโดร ทรอสซาร์ ชาร์จเข้าไป น.84 ตีเจ๊าเป็น 2-2 ก่อนจบไปด้วยสกอร์ดังกล่าว
ซึ่งถ้าไปถามแฟนสิงห์บูลส์ก่อนเกมผลเสมอกับอาร์เซน่อล น่าจะเป็นสิ่งที่พวกเขาพอใจมากๆ แต่ทว่าผลลัพธ์ออกมาหลัง90นาที ต้องบอกว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายของเซลซี อยู่ไม่น้อย เพราะอุตส่าห์ขึ้นนำไปก่อนถึง 2-0 แถมทำท่าว่า จะปิดจ็อบได้แล้ว แต่ความผิดพลาดแบบไม่มีอะไรกดดันเลยของ ซานเชซ ทำให้เกมเปลี่ยนและจบลงด้วยการเจ๊า 2-2 กันไปในที่สุด
พาลเมอร์ เล่นดี แต่ทว่าก็มีบางอย่างต้องไปเพิ่ม
โดยปรกติแล้วเจ้าหนู โคล พาลเมอร์ จะเล่นในบทบาทตัวริมเส้นที่ถนัดเสียเป็นส่วนใหญ่ มีแซมๆเป็นเพลย์เมคเกอร์บ้าง แต่ทว่าเมื่อคืน ดาวรุ่งวัย21ปีรายนี้ ได้รับบาทที่แตกต่างออกไป นั่นก็คือการเล่นเป็นกองหน้า คล้ายๆแบบ ฟอลส์ ไนน์
การได้ออกมาสตาร์ทในตำแหน่งนี้ นั่นหมายความว่า เมาริซิโอ โปเซ็ตติโน่ มั่นใจในตัว พาลเมอร์ มากกว่ากองหน้าอาชีพในทีมอย่าง นิโคลัส แจ็คสัน เสียอีก ซึ่งแม้ไม่ใช่กองหน้าธรรมชาติ แต่อดีตแข้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ทำหน้าที่ได้แบบไม่ขัดเขินเลย
พาลเมอร์ ไม่ได้ยืนปักหลักจ๋าในเขตโทษรอยิง แต่ทว่าการเป็น ฟอลส์ ไนน์ ทำให้เจ้าตัว ต้องมีลงมาล้วงบอล เชื่อมบอลกับเพื่อนร่วมทีม ซึ่งถือว่าทำได้ดีมากๆ เพราะพักบอล แจกจ่ายออกทางซ้ายและขวาให้กับ มูดริค และ สเตอร์ลิง เล่นต่อได้
ความเร็วและคล่องของ พาลเมอร์ สร้างความปั่นป่วนในการจัดระเบียบเกมรับของอาร์เซน่อลมากๆ และเจ้าตัวก็เป็นคนสังหารจุดโทษสุดเฉียบหลอก ดาบิด ราย่า ไปคนละทาง ซึ่งก่อนยิงก็มีดราม่ากันเล็กน้อย เพราะไปแย่งกันกับ ราฮีม สเตอร์ลิง
ซึ่ง โคล พาลเมอร์ เองมีโอกาสจะบวกสกอร์ได้เพิ่มด้วย จากจังหวะได้ยิงนอกกรอบเขตโทษที่เฉียดเสาไปนิดเดียว รวมถึงไปดักบอลจากจังหวะจ่ายพลาดของ ราย่า แต่ทว่าพยายามยามจะล็อกหลบ ดีที่โกลชาวสเปนแก้ตัวมาป้องกันได้ทัน
ดาวรุ่งค่าตัว 42ล้านปอนด์ รายนี้พลาดรวมเล่นดีจริง แต่ทว่าเหมือนเจ้าตัว จะยังขาดๆเกินๆในจังหวะสำคัญ ซึ่งมีช็อตที่ เมาริซิโอ โปเซ็ตติโน่ เข้ามากอดกระตุ้นข้างสนาม พยายามไม่ให้ใจร้อน ถึงกระนั้นก็ดี ภาพรวมถือว่าเป็นแมตช์ที่น่าประทับใจของ พาลเมอร์ เลย
ไรซ์ เฉิดฉายคนเดียวในแดนกลาง
ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ เมื่อคืน ต้องถือว่าเซอร์ไพรส์เหมือนกันที่ กุนซือ มิเคล อาร์เตต้า เลือกใช้บริการ จอร์จินโญ่ ลงเป็นตัวจริงร่วมกับ เดแคลน ไรซ์ และมี มาร์ติน โอเดการ์ด ห้อยสูงเป็นตัวทำเกมเพลย์เมคเกอร์ แม้ว่าจะครองบอลได้มากกว่า แต่เกมในแดนกลางต้องบอกว่าปืนใหญ่เป็นรองเจ้าบ้านพอสมควร
มอยเซส ไกเซโด้ - เอ็นโซ่ เฟอร์นานเดซ และ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ทำได้ดีตลอดกับจังหวะสำคัญๆในแดนกลาง เรียกว่า อาร์เซน่อล ที่ว่าถนัดเพรสซิ่ง แทบไปไม่เป็นเลย เมื่อเจอกลางของเซลซี ช่วยกันวิ่งไล่บีบ
โอเดการ์ด และ จอร์จินโญ่ ทำได้ต่ำกว่ามาตรฐาน โดยเฉพาะในรายของมิดฟิลด์ชาวอิตาเลี่ยน ที่ทั้งช้าและเฉื่อย ไม่ได้แบ่งเบาภาระของ ไรซ์ เลย กลับกลายเป็นว่าเจ้าของค่าตัวทะลุ100ล้านปอนด์ ต้องมาช่วยเก็บกวาดให้ด้วยซ้ำ
เดแคลน ไรซ์ ที่ปรกติเป็นตัวรับ แต่ทว่าเมื่อ โอเดการ์ด เล่นไม่ออก ก็เป็นเจ้าตัวนี่แหละที่คอยออกบอล จ่ายบอลจังหวะสำคัญแทนได้อย่างยอดเยี่ยม และประตู 1-2 ของเจ้าตัว น.77 ที่ยิงสวน โรเบิร์ต ซานเชซ เข้าไป ที่เป็นลูกจุดประกายความหวังของทีมอย่างแท้จริง เพราะตอนโดนนำ 2-0 ไอ้ปืนใหญ่ ไม่มีท่าทีเลยว่าจะกลับมาจากป่าช้าได้
ไรซ์ พิสูจน์ ตัวเองมาหลายนัดแล้วว่าเวลาเกมใหญ่ เจ้าตัวจะเล่นได้ดีเสมอทั้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมไปจนถึงเมื่อคืนกับ เซลซี
แข้งปืนเล่นผิดฟอร์มกันหลายคน เตต้า เปลี่ยนตัวออกผล
ไม่รู้เพราะกลับมาจากโปรแกรม ฟีฟ่า เดย์ เปล่า ทำให้นักเตะอาร์เซน่อล หลายรายเหมือนจะไม่ฟิตและฟอร์มแผ่วกันไปเอง ซึ่งเมื่อดูจากฟอร์มการเล่นในระยะหลัง การมาเยือนถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ หลายคนคงคาดว่า ลูกทีมของ อาร์เตต้า จะบุกโขยกเข้าใส่
แต่ทว่านี่กลับการเป็นแมตช์ที่ผิดฟอร์มของอาร์เซน่อลเลย เพราะปรกติพวกเขา เป็นทีมที่บีบเร็วเพรสซิ่งใส่คู่แข่ง แต่ทว่าเมื่อคืนกลับการเป็นว่าพวกเขากลับโดนวิธีการของตัวเอง เล่นงานคืนจนเป๋ซะงั้น
ซึ่งก็มีนักเตะกันเนอร์ส หลายคนที่ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐานผิดฟอร์มมากๆหลายราย ทั้ง มาร์ติน โอเดการ์ด ที่สร้างสรรค์เกมอะไรไม่ได้เลย กลับกลายเป็น ไรซ์ ที่เป็นมิดฟิลด์เชิงรับ ทำบทบาทดังกล่าวได้ดีกว่าเจ้าตัวเสียอีก
จอร์จินโญ่ ที่ปรกติช้าอยู่แล้ว เกมเล็กๆ มิดฟิลด์ อิตาเลี่ยนรายนี้ พอจะเอาอยู่ แต่ทว่าพอเป็นเกมใหญ่ๆที่มีความเข้มข้น คู่แข่งวิ่งเข้าใส่ " เทพจอร์ " ก็ไปไม่เป็นเลย สร้างภาระให้ เดแคลน ไรซ์ ขึ้นมาอีก ส่วนในรายของ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ยิ่งแล้วใหญ่
แบ็กชาวยูเครนกลายเป็นบ่อน้ำมันขนานแท้ใน 45นาทีแรก เพราะโดน ราฮีม สเตอร์ลิง และ มาโล กุสโต ผลัดกันโจมตีอย่างสนุกสนาน โดยความห่วยแตกของเจ้าตัวก็สะท้อนออกมาให้เห็นชัดเจน จากการที่ถูกเปลี่ยนตัวออกตอนสตาร์ทครึ่งหลังให้ ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ ลงมาบู๊แทน และดูแน่นขึ้นชัดเจน
ถึงกระนั้นก็ดีก็ต้องชื่นชม มิเคล อาร์เตต้า ด้วยที่การเปลี่ยนตัวของกุนซือหนุ่มชาวสเปน เข้าเป้าทุกราย ทั้ง เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่แม้ไม่คม แต่ก็บังบอลพักบอลได้ โดยเฉพาะในรายของ เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่กลายเป็นตัวซุปเปอร์ซัพสำคัญไปแล้ว หลังลงมาแทน มาร์ติเนลลี่ และกดประตูตีเสมอ 2-2 ได้
โกลสายใช้เท้า ราย่า - ซานเชส ก่อความผิดพลาดนัดนี้
ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ เมื่อคืนโกลทั้งสองฝั่งเป็นชาวสเปน รวมไปจนถึงถือว่าเป็นนายด่านโมเดิร์นสมัยใหม่ทั้งคู่ เพราะถนัดออกบอลต่อบอลด้วยเท้า ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาถือว่าทั้ง โรเบิร์ต ซานเชส และ ดาบิด ราย่า ต่างพากันสอบตกแพ็กคู่เพราะก่อความผิดพลาด
ดาบิด ราย่า ที่ออกมาอาการลก มาตั้งแต่เกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แล้ว ในเรื่องของการออกบอล จนมีกระแสเรียกร้องให้ อารอน แรมส์เดล กลับมาเป็นมือ1เสียที เมื่อคืน อดีตนายด่านเบรนท์ฟอร์ด มีช็อตที่ต้องรับผิดชอบเต็มๆ กับการยืนตำแหน่งประตู 2-0
รวมไปจนถึงการออกบอลแย่ที่ ราย่า มีให้เห็นแทบทุกนัด ทั้งเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ - ล็องส์ เมื่อคืนเจ้าตัวก็จ่ายบอลเสียไปเข้าทาง โคล พาลเมอร์ ในเขตโทษ ดีที่จังหวะสุดท้ายมาบล็อคป้องกันทัน
ส่วน โรเบิร์ต ซานเชส ต้องบอกว่าก่อนจะเสียประตู เจ้าตัวไม่ได้โดนลูกยิงที่กดดันของอาร์เซน่อล เลย แท่ทว่าอยู่ดีๆ อดีตโกลไบร์ทตันรายนี้ ก็จ่ายบอลกั๊กดื้อๆ ไปเข้าทาง เดแคลน ไรซ์ ยิงสวนตูมเดียวเข้าไปซุกก้นตาข่าย
เอาตรงๆคือก่อนที่จะโดนลูก 2-1 เกมดูท่าจะเป็นเซลซี ที่ไม่น่ามีปัญหากับการเก็บ3แต้มแล้ว เพราะทางฝั่งอาร์เซน่อล ไม่มีท่าทีว่าจะพลิกกลับนรกตีไข่แตกหรือตีเสมอได้เลย ต้องยอมรับว่าการพลาดของ โรเบิร์ต ซานเชส คือการดึงโมเมนตัม จุดเปลี่ยนสำคัญให้ไปอยู่ทางฝั่งผู้มาเยือนจริงๆ
พอช จัดตัวดี แต่เปลี่ยนตัวประมาทไปหน่อย
หลังจากที่เลิกจัดตัวอินดี้เอาเซ็นเตอร์อย่าง ลีวาย โควิลล์ ไปเล่นเป็นแบ็กซ้าย เกมก็ดูเป็นธรรมชาติ และดูดีขึ้นมาจริงๆสำหรับเซลซี เพราะคว้าชัยได้2นัดรวดก่อนหน้ากับ ฟูแล่ม (2-0) และ เบิร์นลี่ย์ (4-1) เก็บ3แต้มในเกมลีกได้2นัดติดต่อกันเป็นหนแรก นับตั้งแต่11 มีนาคม 2023
โดยกับอาร์เซน่อล ก่อนเกมต้องบอกว่า ด้วยผลงานภาพรวมสไตล์การเล่น สิงห์น้ำเงิน ดูจะเป็นรองผู้มาเยือนพอสมควร แต่พอสตาร์ทมากลับกลายเป็นว่าเซลซีทำได้ดีกว่าในรูปแบบแท็กติกของตัวเอง บวกกับอาร์เซน่อล เหมือนจะผิดฟอร์มไปด้วย
แผน โคล พาลเมอร์ เป็น ฟอล ไนส์ ดูจะได้ผลมากๆ แบ็กซ้าย-ขวา อย่าง กูกูเรย่า และ กุสโต ทำได้ดีและเป็นธรรมชาติทุกราย รวมไปจนถึง เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ ที่ยืนสูงแล้ว ไม่เวิร์คสักที " พอช " ก็ปรับเปลี่ยนโดยการให้มิดฟิลด์แชมป์โลกรายนี้ยืนต่ำ จะยืนสูงเฉพาะเวลาสอดขึ้นไปยิง หรือทำเกมรุกมากกว่า
ด้วยรูปเกมที่นำอยู่ 2-0 และทางฝั่งของอาร์เซน่อล ที่ดีไม่มีพิษภัยอะไร ทำให้ เมาริซิโอ โปเซ็ตติโน่ ประมาทไปเปล่าไม่ทราบ เปลี่ยนตัวที่ค่อนข้างเล่นดีและคุกคามแนวรับทีมเยือนออกอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิง และเป็น โนนี่ มาดูเอเก้ มาเล่นแทน น.84
รวมไปจนถึง มิไคโล มูดริค ออก ให้ นิโคลัส แจ็คสัน มาบู๊แทน น.66 ซึงถือว่าเป็นการเปลี่ยนตัวที่พลาดมหันต์เลย แนวรุกของสิงห์บูลส์ ไร้ความอันตรายไปเลย แจ็คสัน มีจังหวะจะได้ยิงในเขตโทษ แต่ทว่า เงื้อง่าราคาแพง จนโดน ดาบิด ราน่า ตะบบจากเท้าไปง่ายๆ
ส่วน มาดูเอเก้ ไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะแทบไม่มีบทบาทไม่มีตัวตน ในช่วงเวลาที่เหลือรวมทดเจ็บอีก8นาที อดีตแข้งพีเอสวี ได้จ่ายบอลเพียงแค่ 5ครั้ง เข้าเป้าไปครั้งเดียว และไม่ได้ทำให้แนวรับปืนใหญ่หนักอกหนักใจเหมือนกับ สเตอร์ลิง แม้แต่นิดเดียว
- คอลัมน์นิสต์
- 333
- 22 ต.ค. 2566 13:49