เกมมัน ยิงไส้แตก ! สิงห์ แซง บุกหักคอไก่ 4-3 พาลเมอร์ เบิ้ลจุดโทษ
เป็นคู่สุดท้ายพรีเมียร์ลีกวันอาทิตย์ ที่เต็มไปด้วยอัตราความเมามันจริงๆสำหรับ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ ระหว่าง ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส ที่หลังจากสร้างเซอร์ไพรส์ บุกไปจมเรือใบถึงรัง 4-0 นับจากนั้นทีมคลับไก่ก็ออกอ่าวออกทะเลเลยไปเลย ต้องเปิดบ้าน ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของเซลซี ที่ทำเป็นเล่นไป ณ ตอนนี้สิงห์บูลส์ เป็นผู้ท้าชิงลุ้นแชมป์ได้เลย และผลลัพธ์จบลงด้วยชนะของทีมเยือนเซลซี 4-3 ด้วยรูปเกมที่สุดมัน
สเปอร์ส ที่เอาชนะใครไม่ได้เลย 3นัดหลังสุดรวมทุกรายการ เปิดบ้านต้อนรับคู่ปรับร่วมกรุงลอนดอน เซลซี กุนซือ อังเก้ ปอสเตโคกูล เล่นในระบบเก่ง 4-3-3 การจัดทัพเจ้าบ้านจัดยังไม่สามารถใช้งานโกลมือ1อย่าง กิเยลโม่ วิคาริโอ ได้ ทำให้ต้องใช้มือ2อย่าง เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ต่อไป
แต่ทว่าก็ยังมีข่าวดีตรงที่คู่เซ็นเตอร์ คู่ตัวจริงกลับมาพร้อมทั้ง มิคกี้ ฟาน เดอ เฟ่น และ คริสเตียน โรเมโร่ ส่วนตำแหน่งอื่นแทบจะตามเดิม แนวรุกตัวอันตรายมี ซน ฮึง-มิน / โดมินิค โซลันกี้ และ เดยัน คูลูเชฟสกี้ ทางด้าน เจมส์ แม็ดดิสัน เริ่มด้วยการเป็นตัวสำรอง
ทีมเยือนเซลซี น่าจะได้11ผู้เล่นที่ลงตัวแล้วในยุค เอ็นโซ่ มาเรสก้า โกลยังเป็น โรเบิร์ต ซานเชส เซ็นเตอร์ใช้ ลีวาน โควิลล์ ผนึกกำลังกับ เบอนัวร์ บาเดียชิล แบ็กซ้ายขวา มาร์ค กูกูเรย่า ส่วน มอยเซส ไกเซโด้ ถูกปรับมาเล่นขัดตราทัพแบ็กขวา
คู่กลาง โรเมโอ ลาเวีย กับ เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ แนวรุก โคล พาลเมอร์ - เจดอน ซานโช่ ที่หายป่วยกลับมา และ เปโดร เนโต้ หน้าเป้า นิโคลัส แจ็คสัน เริ่มเกมหลังจากสิ้นเสียงนกหวีดของ แอนโธนี่ เทย์เลอร์ เกมก็ส่อแววว่าจะมีความเมามันสูงเลย
ความผิดพลาดของ " พี่ฟู " กูกูเรย่า ที่ไปลื่นล้ม2จังหวะซ้อน ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ สเปอร์ส ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 และ 2-0 เลย เป็น โดมินิค โซลันกี้ และ เดยัน คูลูเชฟสกี้ ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดดังกล่าว น.5 และ 11
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามหลังจากนั้นอีกเพียง 6นาที เซลซี ก็ไล่มาเป็น1-2 จาก เจดอน ซานโช่ ที่ล็อกตัดเข้าในนอกเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนซัดเข้าไปสุดสวยตีตื้นมา 2-1 น.17 หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็เปิดเกมบุกเข้าใส่กันแบบรัวๆ ซึ่ง ฟอร์สเตอร์ ก็มีโชว์หนึบดับเบิ้ลเซฟสวยๆ ส่วนเจ้าบ้านก็มีโอกาสเหมือนกัน ทั้งจากลูกโขกของ ป๊าป ซาร์ ที่ไปชนคาน และ ลูกชาร์จจ่อๆของ โซลันกี้ จบ45นาทีแรกเจ้าบ้านนยังนำ 2-1
ครึ่งหลัง มาเรสก้า มีการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่น ลาเวีย ออก เป็น กุสโต้ ลงมาแทน หลังจากนั้นเกมก็ยังเป็นของทีมเยือนรัวๆ และสเปอร์ส ก็มาแพ้ภัยตัวเองจริง อิฟส์ บิสซูม่า ไปพรวดพราดทำฟาวล์ ไกเซโด้ ในเขตโทษ กลายเป็นจุดโทษ และก็เป็น โคล พาลเมอร์ ยิงนิ่มๆหลอกทาง ฟอร์สเตอร์ ตุงตาข่าย เสมอ 2-2 น.61
เกมที่แลกกัน 2-2 ไก่เดือยทองมีโอกาสนำอีกครั้งด้วยซ้ำจาก ซน ที่หลุดเดี่ยว กลับเลือกยิงเองออกไป ไม่เปิดเข้ากลางให้เพื่อน ติโม แวร์เนอร์ ที่ว่างอยู่ และแล้วเซลซี ก็พลิกมาแซง 3-2 จนได้จากความยอดเยี่ยมของ พาลเมอร์ แหวก3 เปิดบอลติด มาเข้าทาง เอ็นโซ่ ในเขตโทษ ซัดเต็งแรงเข้าไปไม่เหลือ น.73
หลังจากนั้นน้องไก่ ก็มาโชว์เฟอะฟะจนเสียจุดโทษอีกรอบ และก็เป็น โคล พาลเมอร์ เจ้าเก่ารับหน้าที่สังหาร ยิงแบบปาเนนก้า ชิพเข้ากลางประตูแบบเหนือชั้น ฉีกหนีเป็น 4-2 น.84 ด้วยสกอร์ที่นำห่าง2เม็ด ทำให้ทีมของ มาเรสก้า ผ่อนเกมลง จนทำให้ช่วงทดเจ็บท้ายเกม สเปอร์ส ได้บุกเป็นระยะ
และไก่เดือยทอง ก็มาไล่จี้เป็น 4-3 จาก ซน ฮึง-มิน น.90+6 แต่ทว่าก็ทำได้ดีที่สุดแค่นั้น จบเกมเป็น สิงห์น้ำเงิน บุกมาชนะไป4-3 ทำเป็นเล่นไปทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ตามหลังลิเวอร์พูล แค่4แต้ม แม้ว่าจะแข่งมากกว่า1นัดก็ตาม ส่วนทีมคลับไก่ หล่นมาอยู่อันดับ11 แพ้ไปแล้วถึง 7จาก 15นัด
นี่มัน ซานโช่ ร่างดอร์ทมุนด์ ชัดๆ
กลับมาลงสนามได้รัวๆในช่วงเดือนธันวาคมสำหรับ เจดอน ซานโช่ หลังจากช่วงก่อนหน้านั้นมีอาการไม่ฟิตและป่วย นัดที่แล้วที่บุกไปถลุง เซาธ์แฮมป์ตัน 5-1 ซานโช่ ก็ลงมาเป็นตัวสำรองและทำประตูได้ ซึ่งเป็นเม็ดแรกของเจ้าตัวในพรีเมียร์ลีกกับสิงห์บูลส์ได้
ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ ซานโช่ ได้เล่นเป็นปีกตัวจริงฝั่งซ้ายและต้องบอกว่า ผลงานของ อดีตแข้ง โบรุสเซีย ดอร์นมุนด์ เมื่อคืน นั้่นดีโคตรๆ ทั้งในเวลามีบอลและไม่มีบอล เจดอน ซานโช่ คือคนปลุกความหวังเซลซี ยิงไล่มาเป็น 1-2 เพียง น.16
ซึ่งประตูดังกล่าวนั้นงามหยด เลี้ยงตัดจากนอกเขตโทษฝั่งซ้าย แล้วยิงหักด้วยขวาเสียบมุมเข้าไปสุดสวย รวมถึงประตู ตีเสมอ2-2 จากจุดโทษของ พาลเมอร์ ก็เป็น ซานโช่ นี่แหละที่จ่ายคีย์พาสให้ ไกเซโด้ หลุดไปจนโดนทำฟาวล์ได้จุดโทษ
หรือประตูตอกฝาโรง 4-2 ปีกวัย25ปี ก็เป็นคนจ่ายให้ พาลเมอร์ โดนเตะล้มในเขตโทษ จนได้จุดโทษอีกครั้ง ต้องบอกว่าด้วยวิธีการเล่นของ สเปอร์ส นั้นเข้าทางสไตล์ของ ซานโช่ เป็นอย่างมาก เจดอน ซานโช่ มักจะเข้าไปช่วยรับบอลจากเพื่อนที่โดนเพรสซิ่ง
ดึงบอลดึงจังหวะเกม ไม่เร่งตามสเปอร์ส ที่บีบหนัก สังเกตได้ว่าจังหวะจ่ายคีย์พาสของเจ้าตัว หลุดแนวรับสเปอร์สแทบทุกช็อตเลย เคลื่อนที่ได้มีประสิทธิภาพมากๆเวลาไม่มีบอล เรียกว่าสไตล์การเล่นแบบนี้ของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เข้ากับ ซานโช่ เป็นอย่างดี และเป็นคนละคนกับที่เล่นให้ปีศาจแดงชัดๆ
กูกูเรย่า ลื่น2ดอกเน้นๆ แนวรับสิงห์เล่นน่าหวาดเสียว
หลังจากที่ได้แชมป์ ยูโร 2024 กับทีมชาติสเปน แล้วไปแต่งเพลงล้อ เออร์ลิง ฮาลันด์ ชีวิตก็เหมือนจะมีคอนเท้นต์มากขึ้นเรื่อยๆจริงๆสำหรับ มาร์ก กูกูเรย่า เมื่อคืน ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ กับ สเปอร์ส แบ็กหัวฟูรายนี้่ ก็แจกตั้งแต่ออกสตาร์ทเลย
กูกูเรย่า ที่เล่นในตำแหน่งแบ็กซ้าย ลื่นแบบเข้าตาชนิดที่ผู้เล่นสเปอร์ส แทบไม่ได้กดดัน ถึง2ช็อต และ2ครั้งที่พลาดก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ สิงห์บูลส์ เสียประตูทั้ง2ลูก จนทำให้ทีมโดนลงโทษตาม 2-0 ตั้งแต่ไม่ถึง15นาทีแรก
หลังจบเกม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสตั๊ดหรือตัวของ กูกูเรย่า กันแน่ ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ลื่นแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แต่ทว่า " พี่ฟู " ก็ไม่รีรอเลย ที่จะลงสตอรี่โพสต์ภาพสตั๊ดคู่ดังกล่าว ว่าได้ทิ้งลงถังขยะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้จะลบไป แต่ชาวเน็ตก็ยังแคปภาพไว้ได้ทัน
ถึงแม้ว่า2ประตูแรกที่ทีมสิงห์น้ำเงินจะเสียประตู จะมีจุดเริ่มต้นจาก กูกูเรย่า แต่ก็ต้องยอมรับเช่นกันว่า แนวรับของเซลซี เล่นกันได้น่าวิตกจริงๆกับจังหวะ บิวด์บอลจากแดนหลัง เพราะน่าหวาดเสียวเหลือเกินว่าจะโดนสเปอร์ส ฉกมาได้
โดยเฉพาะในรายของนายด่าน โรเบิร์ต ซานเชส ที่แม้จะมีจังหวะเซฟสวยๆ แต่ทว่าเวลาที่ต้องบิวด์บอลออกบอล เจ้าตัวมีการจ่ายบอลที่ทำเอาแฟนบอลเซลซีนั่งไม่ติด เสี่ยงจะเกิดคอนเท้นต์ได้ตลอด ซึ่งในการผ่านบอลยาว ซานเซส มี%เข้าเป้าแค่ 14% เท่านั้น
พาลเมอร์ ได้หนาวๆนาน จุดโทษโคตรชัวร์
แม้ว่าจะเริ่มต้นเกมมาได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สำหรับ โคล พาลเมอร์ เพราะมีจังหวะหวดว่าวจ่อๆโล่งๆในเขตโทษแบบเสียของ แถมยังมีจังหวะได้ยิงอีกครั้งหนึ่ง แต่ทว่าไปติดเซฟ เฟรเซอร์ส ฟอสเตอร์ แต่ทว่าหลังจากนั้น พาลเมอร์ ก็ยังเป็น พาลเมอร์ อยู่วันยังค่ำ
เมื่อคืนนอกจาก เจดอน ซานโช่ ก็มี พาลเมอร์ นี่แหละที่อิมแพคต่อเกมรุกของ เซลซี มากๆ นักเตะจอมหนาวรายนี้ มีสถิติที่ยอดเยี่ยมทั้ง ชนะการดวล8ครั้ง / สร้างสรรค์โอกาส 4ครั้ง / เลี้ยงบอลผ่าน4หน / เรียกฟาวล์ 4ครั้ง
แถมจังหวะประตูแซง 3-2 ของ เอ็นโซ่ แฟร์นันเดซ ก็มีจุดเริ่มต้นจาก โคล พาลเมอร์ ที่แหละที่เลี้ยงแหวกผู้เล่นสเปอร์ส 2-3 คนก่อนเปิดแฉลบมาเข้าทาง มิดฟิลด์ชาวอาร์เจนไตน์ รวมไปจนถึงจุดโทษ 4-2 พาลเมอร์ ก็ฉลาดสุดๆ ใช้เหลี่ยมบังบอล จน ป๊าป ซาร์ เสียท่ากลายเป็นจุดโทษ
จุดโทษแรก พาลเมอร์ ก็ยิงได้อย่างคมกริบตามเดิม หลอกไปคนละทาง ลูก2 คือแสดงให้เห็นถึงความนิ่งและเยือกเย็นขนานแท้ ชิพ แบบ ปาเนนก้า หลอก เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ อีกรอบ
นอกจากนี้แล้ว2จุดโทษที่ โคล พาลเมอร์ ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้เมื่อคืน ส่งผลให้เจ้าตัว มีสถิติสังหารจุดโทษเข้าแบบ10% ในพรีเมียร์ลีก จาก12ครั้ง ทำลายสถิติของ ยาย่า ตูเร่ อดีตมิดฟิลด์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำได้ 11 ครั้งได้สำเร็จ
ทำเป็นเล่น มาเรสก้า กำลังพาเซลซี เป็นผู้ท้าชิงหงส์
ตอนแรกที่เปลี่ยนกุนซือ จาก เมาริซิโอ โปเซ็ตติโน่ ที่ช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้ว 2023-2024 กำลังทำสิงห์บูลส์ ติดลมบน ซึ่งคนที่เข้ามาแทน นั่นก็คือ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ที่ไม่เคยมีประสบการณ์คุมทีมใหญ่ ดีกรี แค่คุม เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ เดอะ แชมเปี้ยน ชิพ เท่านั้น
แถมช่วงปรี-ซีซั่น สิงห์บูลส์ ก็ผลงานไม่โสภาเลย แพ้เป็นว่าเล่น มีโดน กลาสโกว์ เซลติก อัด4-0 และทรงบอลดูเปราะไปหน่อย เปิดนัดแรก ก็โดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาอัดคารังแบบสู้ไม่ได้ แต่ทว่าหลังจากนั้นพวกเขาก็ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ
โอเค แม้แนวรับรวมถึงโกลของพวกเขาดูจะยังมีปัญหา กับการเล่นต่อบอลแบบเท้าสู่เท้า แต่ทว่าในแดนกลาง การต่อบอล และทำชิ่งต่างๆ บอลแบบเท้าสู้เท้าที่แม่นยำ สิงห์น้ำเงินทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แนวรุกของพวกเขา เร็ว ทักษะดีและคล่อง
นิโคลัส แจ็คสัน พัฒนาขึ้นในเรื่องของการจบสกอร์ โรเมโอ ลาเวีย ก้าวขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในแดนกลาง สิ่งหนึ่้งที่เติบโตขึ้นของเซลซี นั่นก็คือพวกเขามีความนิ่งเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ถ้าเป็นซีซั่นก่อน โดนนำไปก่อน 2-0 น่าจะเข้าป่าไปแล้ว
การแก้เกมเมื่อคืนของ มาเรสก้า เหนือกว่า " น้าแอนจ์ " ชัดเจน 4นัดหลังในพรีเมียร์ลีก เซลซี ชนะ4นัดรวดเข้าให้แล้ว ตอนนี้ทีมของ มาเรสก้า ตามหลังลิเวอร์พูล 4แต้ม แม้จะแข่งมากกว่า1นัด แนวรุกของพวกเขา ยิงได้เยอะสุดในลีกตอนนี้ 35ประตู
นี่แหละ " SPURSY " น้าแอนจ์ ก็ไม่ยืดหยุ่นเลย
ทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ บ่งบอกถึงความบ้าๆบอๆ หามาตรฐานอะไรไม่ได้ของ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส จริงๆ หลังจากที่บุกไปเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้แบบดื้อๆ 4-0 พวกเขาก็สะดุดเสมอฟูแล่ม 1-1 และพ่าย บอร์นมัธ 0-1
หรือเอาในช่วงออกสตาร์ทซีซั่น ไก่เดือยทอง ก็อาจหาญบุกไปยิง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คา โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 3-0 แต่ทว่าเกมในลีกนัดต่อมา พวกเขาเปิดบ้านแพ้ ไบร์ทตัน 3-2 ซะงั้น นี่แหละความบ้าๆบอๆของ สเปอร์ส ที่มีมาให้เห็นตลอด จนได้รับฉายาว่า " SPURSY "
ลอนดอน ดาร์บี้ กับ เซลซี ที่จริงการนำ 2-0 ตั้งแต่ไม่ถึง15นาทีแรก บวกกับได้เล่นในบ้านท่ามกลางแฟนบอลตัวเอง น่าจะไม่ใช่ปัญหาอะไรที่จะทำให้ สเปอร์ส พลาดคว้า3แต้ม หรือกลับมาแพ้อะไร
แต่ทว่าด้วยความยอดเยี่ยมของเซลซี บวกกับความไม่รู้จัดยืดหยุ่นของ ผู้จัดการทีม อังเก้ ปอสเตโคกูล ที่ยึดมั่นในปรัชญาการเล่นตัวเองมากๆ นั่นก็คือเป็นบอลบ้าบุก บีบเพรสซิ่งสูง ซึ่งเอาจริงๆ อาจจะไม่ต้องทำก็ได้ เพราะสกอร์นำอยู่ถึง 2 เม็ด
แต่ " น้าแอนจ์ " กลับยังเล่นวิธีเดิมก็คือเปิดหน้าแลกกันซะงั้น ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นเลย จนท้ายที่สุดกลายเป็นบอลเข้าทางคู่แข่ง ผลลัพธ์ก็ออกมาเป็นการแพ้คาบ้าน 3-4 อย่างที่เห็น ทั้งที่นำไปก่อน 2-0 อย่างที่เห็น ไม่มียืดหยุ่นตามสถานการณ์หรือจังหวะเกม
โอเค แม้ทรงบอลสนุกเร้าใจ แต่สาวกสเปอร์ส ก็เริ่มจะไม่แฮปปี้่กับแนวทาง ของกุนซือแดนจิงโจ้รายนี้มาสักพักแล้ว ความปราชัยดังกล่าวทำให้ สเปอร์ส หล่นมาอยู่อันดับ11ของตาราง มีอยู่ 20แต้ม แต่ทว่าก็แพ้ไปแล้วถึง 7 จาก 15นัด
- คอลัมน์นิสต์
- คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล เซลซี สเปอร์ส เอ็นโซ่ มาเรสก้า โคล พาลเมอร์ เจดอน ซานโช่ อังเก้ ปอสเตโคกลู พรีเมียร์ลีก
- 101
- 09 ธ.ค. 2567 15:15