ต้องเสริมอีกเท่าไหร่ ! สิงห์ เสียรังวัด เจ้าป่าบุกเชือด 1-0 อีแลงก้า โชว์เทพ

ต้องเสริมอีกเท่าไหร่ ! สิงห์ เสียรังวัด เจ้าป่าบุกเชือด 1-0 อีแลงก้า โชว์เทพ


ยังไงกันเนี่ยสำหรับเซลซี ฤดูกาลใหม่ 2023-2024 ทั้งที่ ท็อดด์ โบห์ลี่ ลุยตลาดนักเตะอย่างบ้าคลั่ง ผู้จัดการทีมก็ไม่ใช่ เกรแฮม พ็อตเตอร์ หรือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด แล้ว แต่ทว่าผลงานของพวกเขายังคงลุ่มๆดอนๆ ภาพซ้อนซีซั่นที่ผ่านมาฉายให้เห็นอีกครั้ง เมื่อเกมพรีเมียร์ลีกล่าสุด เปิดบ้านแพ้ให้กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ไป 0-1 ชนิดที่ตลอด90นาที เห็นแต่ความผิดพลาดและเรื่องน่าเหนื่อยใจ

 

เกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ระหว่างเจ้าบ้านเซลซี ที่เสริมทัพนักเตะอย่างหนักหน่วง ต้อนรับการมาเยือนของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่ในฤดูกาลใหม่นี้ พวกเขายกระดับตัวเองให้กลายเป็นทีมที่สร้างความหนักอกหนักใจให้ทีมใหญ่ไม่น้อย
 

โดยตลอด90นาที เมื่อคืนเป็นลูกทีมของ สตีฟ คูเปอร์ ที่สร้างเซอร์ไพรส์ บุกมาควัก3แต้ม ยังรังเหย้าของเซลซี ได้สำเร็จ จากตัวสำรองที่เหมือนได้รับพรวิเศษ กลับมาชุบชีวิตเกิดใหม่อีกครั้ง อย่าง แอนโธนี่ อีแลงก้า น.49

ซึ่งตลอดทั้งเกมต้องบอกว่าเซลซี มีสิ่งที่ทำให้แฟนบอลน่าหงุดหงิดตลอด ทั้งในเรื่องของจังหวะการเล่นที่ช้าที่เนือยไปหมด สปีดบอลไม่เร็วพอที่จะเอาชนะ แนวรับของ ฟอเรสต์ ได้ รวมถึงในจังหวะเข้าทำพื้นที่สุดท้ายไอเดียของพวกเขาตีบตันไปหน่อย
 

โดยเฉพาะในรายของ กองหน้าดาวรุ่งที่พึ่งซื้อเข้ามาอย่าง นิโคลัส แจ็คสัน ที่มีโอกาสเหน่งๆหน้ากรอบเขตโทษ แต่ทว่าก็ยิงออกไปไกลข้ามคานแบบไม่ได้ลุ้น ในส่วนของแผนการเล่น " พอช " เหมือนจะยังต้องการนักเตะประเภทหมายเลข10จริงๆ ที่จะมาตอบโจทย์แผนการเล่น 4-2-3-1 แผนถนัดของเจ้าตัวได้
 

เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ที่ถูกจับมายืนสูงดูจะไม่เหมาะเท่าไหร่ เพราะสตาร์ชาวอาร์เจนติน่ารายนี้ ตำแหน่งที่ดีที่สุดของเจ้าตัวคือกองกลางหมายเลข6หรือ8มากกว่า รวมไปจนถึง เบน ชิเวลล์ ที่บางฟอร์เมชั่น ต้องมายืนเป็นปีกต้องบอกว่าไม่เวิร์คเลย

สำหรับทีมเจ้าป่า ฤดูกาลใหม่นี้เหมือนพวกเขาจะไม่ใช่ทีมหมูให้เชือดในเกมเยือนอีกแล้ว ผู้เล่นที่โดดเด่นในเกมรุกของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เมื่อคืน มี2รายนั่นก็คือ ไตโว อโวนิยี่ ที่แม้นัดนี้จะไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ด แต่ทว่าก็เป็นคนทำแอสซิสต์ได้ ส่วนพระเอกของงานคงไม่มีใครนอกไปจาก แอนโธนี่ อีแลงก้า ที่ลงมาเป็นพระเอกซัดประตูชัย แถมยังมีจังหวะโชว์สกิลเหนือๆอีกด้วย
 

เรื่องของเกมรับส่วนหนึ่งก็ต้องบอกด้วยว่า เกมรุกของเซลซีฝืดเคืองและหมูตู้จริงๆ แต่3เซ็นเตอร์ของ ฟอเรสต์ ก็สามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างมีสมาธิไม่แตกแถวทั้ง วิลลี่ โบลี่ย์ -โจ วอร์เรลล์ และ สกอตต์ แมคเคนน่า ที่แม้ไม่ได้เป็นนักเตะเกรดมีชื่อเสียงเท่าไหร่ แต่ก็เล่นประสานงานกันได้อย่างกลมกล่อม

 

พอช จัดแผนแปลก ชิเวลล์ เล่นปีกไม่ได้

เกมนี้ เมาริซิโอ โปเซ็ตติโน่ มาในระบบ 3-4-2-1 ในเวลาเล่นเกมรุก แต่ทว่าเวลาที่ต้องเล่นเกมรับ เซลซี จะกลับมาเล่นในระบบหลัง4 หรือแผงแบ็กโฟร์ สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดเมื่อคืนของเจ้าบ้านเมื่อคืนนั่นก็คือ เกมบุกทางด้านฝั่งซ้าย
 

แผนของเซลซีปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ เบน ชิเวลล์ ต้องเล่นถึง2บทบาทตามฟอร์เมชั่น นั่นก็คือการเป็นปีกซ้ายและแบ็กซ้าย ในเวลาเดียวกันตอนที่เปิดเกมบุกอดีตแบ็กเลสเตอร์ ซิตี้ รายนี้ จะยืนเป็นปีกซ้าย และ ลีวาย โคลวิลล์ ที่เล่นเป็นเซ็นเตอร์ จะขยับมาเล่นเป็นแบ็กซ้ายแทน
 

นั่นจึงทำให้เกมฝั่งซ้ายของสิงห์น้ำเงิน ดูติดๆขัดๆมาก เพราะตัว ชิเวลล์ เองก็ไม่ใช่ปีกธรรมชาติ ส่วนตัวของ โควิลล์ ปรกติแล้วก็เล่นเป็นเซ็นเตอร์ฝั่งซ้ายทั้งในแผนแบ็กโฟร์ และหลัง3มากกว่า ซึ่งเมื่อเทียบกับเกมฝั่งขวาจะเห็นความลื่นไหล ที่แตกต่างกันชัดเจนเลยของ มาโล่ กุสโต้ และ ราฮีม สเตอร์ลิง
 

ชิเวลล์ มีจุดเด่นในเรื่องของการเติมเกมรุก สอดเข้ามายิงประตู แต่ทว่าในเรื่องของการกระชากกินตัว หรือตัดเข้าในแบบปีกธรรมชาติ ดาวเตะทีมชาติอังกฤษรายนี้ไม่มีเลย เพราะไม่ใช่ธรรมชาติหรือตำแหน่งที่ถนัด

ยิ่งแบ็กซ้ายเป็น 
โควิลล์ ที่ไม่ใช่แบ็กธรรมชาติเช่นกัน เราจึงไม่เห็นเกมที่ทะลุทะลวงฝั่งซ้ายของเซลซีเลย สปีดช้า เลี้ยงกินตัวแทบไม่ผ่าน แซร์จ อูลิเยร์ และตัวสำรอง กอนซาโล มอนเทรียล

45นาทีแรก เซลซี มีโอกาสยิงเข้ากรอบเพียงแค่ 1ครั้งเท่านั้น นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไม ชิเวลล์ ถึงได้อยู่ในสนามแค่ 62นาที เป็น มาดูเอเค่ มาบู๊แทน

 


สิงห์ขาด เบอร์10 เอ็นโซ่ไม่เหมาะยืนสูง

เกมนี้ เมาริซิโอ โปเซ็ตติโน่ ใช้คู่มิดฟิลด์เป็น มอยเซส ไกเซโด้ ผนึกกำลังกับ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ นั่นทำให้ เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ ต้องขยับไปยืนสูง คล้ายๆเล่นเป็นเพลย์เมคเกอร์บางจังหวะ คอยช่วยงาน ราฮีม สเตอร์ลิง และ นิโคลัส แจ็คสัน แต่ทว่าด้วยธรรมชาติแล้วนี่ไม่ใช่ตำแหน่งที่ ดาวเตะเจ้าของค่าตัว105 ปอนด์ถนัดเลย
 

เวลาไปยืนสูง เอ็นโซ่ ดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่ เพราะเจ้าตัวเป็นแข้งประเภทที่ ถนัดการดึงบอล คุมจังหวะจะโคน จ่ายออกซ้ายออกขวามากกว่า แต่ทว่าในตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์ ที่ต้องคิดเร็วทำเร็ว และต้องมีการจ่ายแบบคิลเลอร์พาส ดาวเตะบอล4รายนี้ ยังคงมีไม่มาก
 

หรือในยามที่ต้องลงมายืนต่ำช่วยงานแผงมิดฟิลด์ เอ็นโซ่ ก็ดูเหมือนจะทับกับตำแหน่งของ กัลลาเกอร์ พิกล ซึ่งก็ต้องโทษ โปเช็ตติโน่ ด้วยที่แผนการเล่นของเจ้าตัวนักเตะในทีมต้องเล่นกันหลายบทบาทหลาย Position เหลือเกินตามสถานการณ์ ซึ่งเป็นแผนการเล่นที่จัดว่าซับซ้อน อาจต้องใช้เวลาพอสมควรถึงจะลงตัว
 

แต่ถึงกระนั้นก็ดี ตลอดทั้งเกม เอ็นโซ่ เฟร์นนันเดซ มีโอกาสยิงถึง4ครั้ง แต่ทว่าก็ไม่ได้มีช็อตที่ใกล้เคียงหรือสร้างความหวาดเสียวเท่าไหร่ จ่ายบอลคีย์พาสไป3หน ภาพรวมยังโดดเด่นกว่ากองกลางค่าตัวสถิติเกาะอังกฤษอย่าง ไกเซโด้
 

ส่วนตัวสำรองป้ายแดง ค่าตัว 45ล้านปอนด์ อย่าง โคล พาลเมอร์ ดูจะโดดเด่นกับตำแหน่งปีกมากกว่า บรรดาทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาร์เซน่อล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยแท็กติกการเล่นของพวกเขา ทำให้ต้องมีผู้เล่นจอมทัพที่สร้างความแตกต่างได้อย่าง บรูโน่ เฟร์นันเดซ - มาร์ติน โอเดการ์ด - เควิน เดอ บรอยน์ แต่ทว่าเซลซี ยังไม่มีเลย 
 


แจ็คสัน ยังหวัง ไม่ได้



ตอนแรกที่เซ็นเข้ามายังถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ คาดว่าอดีตดาวยิง บียาร์เรอัลรายนี้ จะเป็นตัวสำรองของ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู มากกว่า แต่ทว่าด้วยอาการบาดเจ็บของ เอ็นคุนคู ทำให้ นิโคลัส แจ็คสัน ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ในตำแหน่งศูนย์หน้า 4เกมแรกของพรีเมียร์ลีก
 

เอาแค่ในเรื่องรูปแบบการเล่นต้องบอกว่า นิโคลัส แจ็คสัน ทำได้ดีในระดับหนึ่งในเรื่องของการยืนหน้าเป้า เพราะพักบอล บังบอล ใช้ความแข็งแกร่งเบียดปะทะได้ แต่ทว่าในเรื่องของการยืนตำแหน่งในเขตโทษและความคมต่างๆ หอกชาวเซเนกัลรายนี้ ยังทำได้ไม่ดี
 

แต่ส่วนหนึ่งนั่นก็เป็นเพราะ แจ็คสัน ได้รับการสนับสนุนที่ไม่ดีเท่าไหร่จากเพื่อนร่วมทีมด้วย เราจึงเห็นหลายจังหวะ ที่เจ้าตัวต้องลงมาล้วงบอลช่วย เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ ทำให้เวลาเล่นเกมบุกริมเส้นบางช็อต ไม่มีผู้เล่นที่รอชาร์จในเขตโทษเลย
 

4นัดในพรีเมียร์ลีก แปรเปลี่ยนเป็นประตูได้ 1ครั้ง จากโอกาสยิง15ครั้ง ถือว่ายังน้อยไปหน่อยสำหรับเจ้าตัว แต่ก็มีใบเหลืองมากถึง3ใบซะงั้น จังหวะที่น่าจะทำประตูตีเสมอ 1-1ได้เมื่อคืนกับช็อตที่ สเตอร์ลิง เลี้ยงแหวกมา นิโคลัส แจ็คสัน ได้เหยียดขาจิ้มบอลระยะ 2-3 หลา แต่ทว่าบอลกลับลอยโด่งออกไป ชนิดที่แฟนบอลสิงห์บูลส์ อยากจะหวายเงิบ
 

โอเคแม้ว่าเส้นทางจะยังอีกยาวไกล แต่ทว่าการเริ่มส้นที่ไม่ค่อยโสภาตามความคาดหวังเท่าไหร่ อาจจะเป็นสิ่งที่ค่อยๆก่อตัวเป็นความกดดัน นิโคลัส แจ็คสัน เมื่อ แจ็คสัน ยังทำไม่ได้แบบที่ หวัง เท่าไหร่
 


อีแลงก้า เหมือนได้ใบชุบชีวิตเกิดใหม่ ที่ฟอเรสต์

ตอนที่อยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นี่คือหนึ่งในกลุ่มนักเตะที่แฟนผี ยี้สุดๆเหมือนกัน สำหรับ แอนโธนี่ อีแลงก้า เพราะลงมาไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไรได้เลย ออกแนว ดาดๆด้วยซ้ำ จนได้รับฉายาว่า " เดอะ ธรรมดา "
 

แต่ทว่าพอได้ย้ายมาสวมเครื่องแบบ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่เหมือนจะให้ใบชุบชีวิตหรือพลังพิเศษ กับแข้งชาวสวีเดนรายนี้เหมือนกัน เพราะเปลี่ยนจาก เดอะ ธรรมดา ให้กลายเป็นไม่ธรรมดาไปเสียแล้วกับฟอร์มในสนาม
 

4เกมกับ " เจ้าป้า " แม้ว่า อีแลงก้า จะไม่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเลย ลงมาเป็นตัวสำรองทั้ง4นัด แต่ทว่าเจ้าตัวก็ยังมี ผลงาน1ประตู 1แอสซิสต์ พร้อมลีลาการกระชากที่ด่วนจี๊เป็นจรวดทางเลียบสุดๆ เมื่อคืนลงมาเป็นตัวสำรอง แทน  ดานิโล่ ตั้งแต่ น.45
 

พอมาถึงนาทีที่ 49 อีแลงก้า ก็แผลงฤทธิเดชเลย เมื่อรับบอลจาก อโวนิยี่ สอดเข้าไปยิงเล่นทางผ่าน โรเบิร์ต ซานเชส อย่างเยือกเย็น และสุดท้ายเป็นประตูชัยที่พาฟอเรสต์ บุกมาคว้า3แต้มได้สำเร็จ นอกจากช็อตตนี้แล้ว อีแลงก้า ก็ยังมีสกิลเทพให้เห็นอีกด้วย
 

ช่วงทายเกมทดเวลาบาดเจ็บแข็งวัย21ปี ได้บอลตรงริมเส้น ล็อกหลบแหวกผู้เล่นสิงห์บูลส์2คนอย่าง มาดูเอเค่ และ มูดริค อย่างเหนือชั้นในพื้นที่แคบๆ แต่ทว่าน่าเสียดายที่เจ้าตัวเลือกยิงเอง ทำให้เพื่อนร่วมทีมที่อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าอย่าง คูยาเต้ ออกอาการหงุดหงิดสุดๆ
 

สไตล์การเล่นแบบสวนกลับของ ฟอเรสต์ ดูจะเข้าทาง อีแลงก้า ไม่น้อย เพราะมีพื้นที่ และเวลาให้ กระชากได้ใช้ความเร็ว รวมถึงความกดความคาดหวังที่น้อยกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจทำให้แข้งดาวรุ่งรายนี้ แจ้งเกิดอีกครั้งก็เป็นได้

 

คูเปอร์ ทำให้ฟอเรสต์ไม่หมูเหมือนเดิม

ฤดูกาลที่แล้วที่รอดตกชั้นได้ เกมในบ้านที่ ซิตี้ กราวน์ คือปัจจัยสำคัญเลยที่พวกเขาเก็บแต้มได้เป็นกอบเป็นกำ ไม่ต้องหล่นลงไปเล่น เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ส่วนเกมเยือนคือจุดสลบจุดตายของ ฟอเรสต์ 19 นัด พวกเขา ชนะ1 เสมอ 5แพ้ 13
 

ส่วนซีซั่นใหม่ 2023-2024 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ต้องเล่นเป็นเกมเยือนไปก่อนถึง 3นัด และก็เป็นบิ๊กทีมหมดเลย แต่ทว่าพวกเขาทำผลงานได้ยกระดับขึ้นมาจริงๆ แพ้แบบเฉียดฉิวสุดๆต่อ อาร์เซน่อล 2-1 และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-2
 

กับเซลซี ที่พวกเขาเอาชนะไปได้ 1-0 ซึ่งนี่คือการคว้าชัยที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้เป็นหนแรกของทีม " เจ้าป่า " นับตั้งแต่ปี 1992 หลังจาก8นัดก่อนหน้านั้น ลงเอยด้วยการแพ้ 6 เสมอ 2
 

ส่วน ไตโว อโวนิยี่ แม้จะไม่มีประตูมาฝากเมิ่อคืน แต่ทว่าก็ยังมีแอสซิสต์ ส่งผลให้8เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีก หอกชาวไนจีเรีย มีส่วนร่วมกับประตูตลอด (7ประตู 1แอสซิสต์) กองหน้าที่มาใหม่อย่าง ดิว็อค โอริกี้ คงต้องรอโอกาสบนม้านั่งสำรองไปก่อน
 

แม้ว่าจะมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาร่วมทีมใน2ซัมเมอร์รวมๆแล้วเกือบ30ราย แต่ทว่าในตำแหน่งเซ็นเตอร์ (ระบบหลัง3) สตีฟ คูเปอร์ ก็ใช้ถึง2คนที่เล่นกันมาตั้งแต่อยู่ เดอะ แชมเปี้ยน ชิพ อย่าง โจ วอร์เรลล์ และ สกอตต์ แมคเคนน่า มีเพียง วิลลี่ โบลี่ย์ เท่านั้นที่เป็นแข้งหน้าใหม่ 

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง