รอปลดล็อกแชมป์ในรอบ 70ปี ! สาลิกา ย้ำแค้น ปืน 2-0 เข้าชิง น้าแอ๊ด คัพ ราย่า แจก

แม้ว่าฟอร์มในลีก 2นัดหลังในบ้านจะแกว่งมากๆ เพราะพ่ายคา เซนต์ เจมส์ ปาร์ค มา แต่ทว่าการเจอกับอาร์เซน่อล ในรอบรองชนะเลิศ คาราบาว คัพ สาลิกาดง ถือว่าได้เปรียบมากโข เพราะบุกไปเอาชนะอาร์เซน่อล ที่ เอมิเรต สเตเดี้ยม ได้ 2-0 ทำให้เลกสอง สาลิกาดง สามารถกำหนดแนวทางวิธีการเล่นได้ ก่อนที่ท้ายที่สุดแล้ว นิวคาสเซิ่ล จะย้ำแค้นปืนโตได้อีกรอบ ด้วยสกอร์ 2-0 รวมผลสองนัดชนะขาดลอย 4-0 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ น้าแอ๊ด คัพ ได้สำเร็จ รอปลดล็อกแชมป์แรกของสโมสรในรอบ 70ปี

 

อาร์เซน่อล ที่กำลังได้ความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม หลังเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ 5-1 พวกเขาต้องบุกมาเยือน นิวคาสเซิ่ล ในรอบตัดเชือก คาราบาว คัพ หลังจากที่เกมแรกแพ้ มา0-2 การจัดทัพ มิเคล อาร์เตต้า เล่นในระบบถนัด  4-3-3 นายด่าน ดาบิด ราย่า แผงแบ็กโฟร์ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ - วิลเลียม ซาลิบา - กาเบรียล มากัลเญส และไมล์ส ลูอิส-สเกลลี

มิดฟิลด์ โธมัส ปาร์เตย์ - เดแคลน ไรซ์ และ มาร์ติน โอเดการ์ด ที่ยืนสูงเปรียบเสมือนเพลย์เมคเกอร์ ปีกขวา กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ - ปีกซ้าย เลอันโดร ทรอสซาร์ หน้าตัวเป้า ไค ฮาแวร์ตช์ ฟากเจ้าบ้านนิวคาสเซิ่ล ที่ต้องการเน้นผลรัดกุมและความแน่นอน ปรับมาเล่นระบบ 5-4-1
 

โกล มาร์ติน ดูบราฟก้า 3เซ็นเตอร์ฮาร์ฟ ฟาเบียน แชร์ - สเวน บอตมัน- แดน เบิร์น วิงแบ็กซ้าย-ขวา ลูอิส ฮอลล์ และ คีแรน ทริปเปียร์  มิดฟิลด์ตรงกลาง บรูโน่ กิมาไรซ์ ยืนกับ ซานโดร โตนารี่ ปีกซ้าย แอนโธนี่ กอร์ดอน ปีกขวา จาค็อบ เมอร์ฟี่ และหน้าเป้าที่ฮ็อตสุดๆ อเล็กซานเดอร์ อิซัค
 

หลังผู้ตัดสิน ไซม่อน ฮูเปอร์ พ่นลมนกหวีด เป่าเริ่มเกมมาได้เพียงแค่ 7นาที เจ้าบ้านก็ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้เลยจากลูกยิงสุดเฉียบของ อิซัค แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้ว  VAR มายึดคืนเพราะเป็นจังหวะล้ำหน้าของหอกชาวสวีเดนรายนี้ไปก่อน หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ ทีมเยือนก็น่าได้ประตูเหมือนกันจากจังหวะของ โอเดการ์ด แต่ไปชนเสา

และแล้วทำนบของปืนใหญ่ ก็มาแตกจนได้ กอร์ดอน เบิ้ลบอลเร็วให้ อิซัค ได้หลุดไปซัดชนเสา แต่ทว่าเด้งมาเข้าทาง เมอร์ฟี่ ซ้ำเข้าไปง่ายๆ ขึ้นนำ1-0 น.19 หลังจากนั้นทีมเยือนก็มาได้ลุ้นอีกครั้งจากฟรีคิกของ ทรอสซาร์ แต่ ดูบราฟก้า ยังไม่พลาด ท้ายครึ่งแรก กอร์ดอน ได้ยิงมีลุ้นอีกครั้ง หลงลากมาจากแถวครึ่งสนาม แต่ซัดหลุดไปทางเสาไกล จบ45นาทีแรก เจ้าบ้านนำ 1-0
 

เริ่มครึ่งหลังทีมของ มิเคล อาร์เตต้า ก็เกือบโดนจนได้ ซาลิบา จับบอลลั่น โดน กอร์ดอน แย่งบอลได้แล้วยิงสวน ราย่า ที่ออกมาไกลทันที แต่ทว่าบอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว และแล้ว " เดอะ แมกพายส์ " ก็มาได้ประตู 2-0 ดับความหวังของอาร์เซน่อล จนได้
 

ราย่า จ่ายบอลไปยัดตัว ไรซ์ ทำให้ ตัวประกบ แชร์ แหย่จิ้มบอลถึงก่อน บอลเลยมาเข้าทาง กอร์ดอน ที่วันนี้เล่นดีมากๆ ยิงหักข้อเสียบเสาแรกไป ฉีกหนีห่างเป็น 2-0 น.52 และสกอร์รวมขาดลอยไปแล้วเป็น 4-0

โดยหลังจากนั้นทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ก็ค่อยๆผ่อนเกมลงเรื่อยๆ รออาศัยจังหวะสวนกลับเอา ทำให้ปืนใหญ่ ได้ลุ้นเป็นระยะ แต่ทว่าไม่มีโอกาสที่ใกล้เคียงเลยเพราะเจ้าบ้านไปแพ็กเกมรับเต็มที่ ฮาแวร์ชต์ ที่ล้มลงในเขตโทษจากจังหวะปะทะแต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร
 

รวมถึงนาทีสุดท้าย เจ้าหนู ลูอิส-สเกลลี ได้ขึ้นโขกคนเดียวจากลูกเตะมุม แต่ทว่าคุมทิศทางบอลไม่ดี บอลโด่งข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้นอะไรเลย จบ90นาที สาลิกาดง เอาชนะไปได้ 2-0 รวมผล2นัด ถล่มอาร์เซน่อลขาดลอย 4-0 เข้าไปชิงชนะเลิศ เพื่อหวังปลดล็อคแชมป์แรกในรอบ70ปี รอผู้ชนะระหว่าง ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส กับ ลิเวอร์พูล

อิซัค ความแตกต่างในแดนหน้า ทำได้ทุกอย่าง

ช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล ยังไม่ฮ็อตเท่าไหร่ สำหรับ อเล็กซานเดอร์ อิซัค แต่ทว่าตั้งแต่เดือนธันวาคม เป็นต้นมา ต้องบอกว่ายิงระเบิดเป็นไฟพะเนียงจริงๆ แต่ละลูกแต่ละช็อตที่ หอกชาวสวีเดนวางเท้ายิง ทั้งมุมกริบ และหนักหน่วงรุนแรง
 

ส่วนเมื่อคืนกับอาร์เซน่อล อิซัค ก็แผลงฤทธิได้เลยจากโอกาสแรกที่ได้รับ เมื่อวิ่งควบหนีตัวประกบ แล้วซัดเต็มข้อเสียบมุมบนเข้าไปไม่เหลือซาก แต่ทว่าน่าเสียดายจริงๆที่จังหวะนั้นล้ำหน้าไปก่อน
 

และแล้ว อิซัค ก็มาเล่นงานแผงหลังปืนโตจนได้ เมื่อบังตัวประกบ ซาลิบา เขี่ยไปให้ กอร์ดอน ตวัดบอลเร็วให้ อิซัค ที่วิ่งฉีกหนี วิลเลี่ยม ซาลิบา เข้าไปยิงเต็มข้อเหมือนเดิม บอลปั่นโค้งไปชนเสา แล้วกลายเป็นดี มาเข้าทาง เมอร์ฟี่ ได้ยิงซ้ำง่ายๆให้ เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0
 

แม้ทั้งเกมจะมีโอกาสยิง2ครั้ง ไม่รวมจังหวะล้ำหน้า แต่ อิซัค ก็สามารถบังบอล พักบอลได้ตลอด ทำให้ปีกตัวที่เติมมากได้เล่นง่ายขึ้น ส่งผลให้ ซาลิบา เหนื่อยพอสมควร นอกจากนี้ ยังมีส่วนร่วมในการวิ่งไล่เพรสในแดนอาร์เซน่อลด้วย
 

มาจนถึงตอนนี้ ต้องบอกว่า อิซัค นั้นฮ็อตเหลือเกิน ไม่แปลกใจเลยกับฉายา " นิวอองรี " ฤดูกาล 2024-2025 กับนิวคาสเซิ่ล กระทุ้งไปถึง 19ประตู กับอีก 5แอสซิสต์ รวมทุกรายการ เห็นทีนัดชิง เจ้าตัวต้องระเบิดฟอร์ม ปลดล็อคพาทีมคว้าแชมป์ให้ได้แล้วแหละ
 

กอร์ดอน พัฒนาการดีเยี่ยม เซ้นส์บอลโคตรดี

ถือว่าน่าตกใจมากๆ ที่นิวคาสเซิ่ล กล้าไปทุ่ม 45ล้านปอนด์ ไปคว้า แอนโธนี่ กอร์ดอน ที่ยังไม่ได้พิสูจน์อะไรมากมาจาก เอฟเวอร์ตัน เมื่อซัมเมอร์ 2022 แต่ทว่าหลังผ่านไป 2 ฤดูกาลต้องบอกว่า นี่คือการเสี่ยงที่คุ้มค่าจริงๆของทีมดังแดนอีสาน
 

นี่คือเจ้าของตำแหน่งปีกซ้ายตัวจริง เบียด ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ตกขอบ ผลงานทุกนัดของ กอร์ดอน ก็ค่อนข้างเข้าตาด้วย ถ้าเทียบฟอร์ม ณ ตอนนี้ต้องบอกว่าดีกว่า ฟิล โฟเด้น เสียอีก เมื่อคืน กอร์ดอน ทำให้แนวนับปืนใหญ่ปวดหัวมากๆ
 

ประตูขึ้นนำ1-0 ของ เมอร์ฟี่ ต้องชม กอร์ดอน ด้วย ที่เซ้นส์บอลเร็ว เบิ้ลบอลให้ อิซัค ได้หลุดเดี่ยว รวมไปจนถึงช่วงท้ายครึ่งแรก ดาวรุ่งเลือดผู้ดี ก็ได้ใช้ความเร็วและคล่องมาลากปั่นด้วยขวา แต่หลุดเสาออกไปนิดเดียว
 

พอเริ่มต้นครึ่งหลัง กอร์ดอน ก็อาศัยเหลี่ยมบอลจากจังหวะที่ วิลเลี่ยม ซาลิบา พลาด และตัดสินใจยิงเร็วทันที เพราะเห็น ดาบิด ราย่า ออกมาไกลจากเส้นประตู แต่บอลที่ปั่นด้วยซ้ายของเจ้าตัวก็โค้งไม่พอ หลุดเสาไปน่าเสียดาย
 

และแล้วความพยายามก็มาตอบแทน แอนโธนี่ กอร์ดอน ด้วยประตู ฟาเบียน แชร์ ที่ไปแหย่บอลมาจาก ไรซ์ เข้าทาง กอร์ดอน ยิงหักมุมเสาแรกเข้าไปไม่เหลือ นี่คือประตูที่3แล้วที่เจ้าตัวยิงใส่อาร์เซน่อล นับตั้งแต่ย้ายมานิวคาสเซิ่ล  และนั่นเท่ากับว่าซีซั่นนี้ กอร์ดอน ทำผลงานไปแล้วถึง 9ประตู 6แอสซิสต์ ด้วยกัน
 

ฮาว ยืดหยุ่น เลือกวิธีเล่นฉลาด

ด้วยสถานการณ์เกมแรกที่ได้เปรียบมากๆ เพราะบุกไปหักกระบอกปืนโตถึง เอมิเรต  สเตเดี้ยม มาได้ 2-0 ทำให้เกมสองที่ เซนต์ เจมส์ ปาร์ค นิวคาสเซิ่ล สามารถเลือกวิธีการเล่น หรือแผนที่เหมาะสมได้ ซึ่งกุนซืออย่าง เอ็ดดี้ ฮาว ก็ยืดหยุ่นจริงๆ
 

ปรกติแล้วกุนซือชาวอังกฤษ ก็จะถูกตั้งคำถามเหมือนกัน เพราะแทบจะหาที่ผลงานเป้งๆไม่ได้เลย แต่ทว่ากับ เอ็ดดี้ ฮาว นั้นแตกต่างออกไป ถ้าจะวัดจาผู้จัดการทีมเลือดผู้ดี ณ ตอนนี้ ต้องบอกว่า ฮาว น่าจะดีสุดแล้ว
 

ฮาว เลือกที่จะเล่นแบบรัดกุมปลอดภัยไว้ก่อน เพราะปรับมาเล่นระบบ 5-4-1 จากปรกติที่เล่น 4-3-3 ในการเจอกับอาร์เซน่อล พวกเขาหมายจะเล่นเกมรับให้แน่นๆก่อน แล้วค่อยตลบหลังอาศัยจังหวะสวนกลับเล่นงาน บวกกับนัดที่ ดูบราฟก้า เหนียวหนึบไม่พลาดด้วย โดยเฉพาะช็อตลูกยิงของ ทรอสซาร์
 

รวมถึงการบีบเร็วในแดนอาร์เซน่อลเอง ย้อนทางทีมของ มิเคล อาร์เตต้า ที่ทำได้ผลในนัดถล่ม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5-1 และนั่นก็ได้ผลจริงๆ เพราะทั้ง2ประตูของ " เดอะ แม็กพายส์ " ก็มาจากเล่นน้อยจังหวะ ลูกแรกเป็นบอลไดเร็คจาก ดูบราฟก้า
 

ส่วนเม็ด2 การบีบเพรสซิ่งในแดนปืนโต ก็ได้ผลสุดๆ จน ดาบิด ราย่า จ่ายพลาด ไม่ใช่ชนะเพียงแค่สกอร์เท่านั้น แต่รูปเกมของพวกเขาก็เอาชนะอาร์เซน่อล ด้วย โดยเฉพาะในแดนกลาง ซานโดร โตนารี่ และบรูโน่ กิมาไรซ์ พลังงานความและความดุดัน เอาชนะ ไรซ์ กับ ปาร์เตย์ ได้หมดจด
 

ปืนเร่งเกมเกินไป ราย่า แจก ซาลิบา มีหลุด

เข้าใจว่าการมีสกอร์ตามหลังอยู่ถึง2เม็ด จากเกมแรก นั่นทำให้อาร์เซน่อลหมายมั่นปั้นมือมากๆ ที่จะสอยตาข่ายนิวคาสเซิ่ลให้ได้เร็วๆ ที่แพ้มา2นัดรวดในถิ่น เซนต์ เจมส์ ปาร์ค ให้เร็วที่สุด แต่ทว่านั่นกลับเป็นการเพิ่มความผิดพลาดให้ตัวเองของพวกเขา
 

จริงๆ ก่อนที่จะเสียประตูแรก พวกเขามีสัญญาณเตือนมาก่อนแล้วนะ จากลูกยิง ของ อิซัค แต่ VAR มาเช็กภายหลังว่าล้ำหน้าไปก่อนนิดเดียว ส่วนแนวรับหนึ่งคนที่่พลาดมากๆเมื่อคืนนั่นก็คือ วิลเลี่ยม ซาลิบา
 

ซาลิบา เสียท่าจริงๆกับจังหวะพลิกหนีแล้วสปีดไปรับบอลของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค และเกือบทำพลาดลูกที่2 เพราะทำบอลลั่นไปโดน แอนโธนี่ กอร์ดอน ฉก ยังดีที่ปีกดาวรุ่งรายนี้ รีบยิงไปหน่อย เพราะเห็น ราย่า ออกมาไกลเส้น บอลจึงหลุดกรอบไปแบบเสียวสุดๆ
 

ส่วนตัวของ ดาบิด ราย่า เอง ช็อตที่ทำพลาดจนทำให้ทีมเสียประตู 2-0 และแทบจะปิดโอกาสกลับเข้าสู่เกมเลย เพราะเลือกไปจ่ายให้ เคแคลน ไรซ์ ที่มีตัวประกบแบบหายใจรดต้นคอยู่อย่าง ฟาเบียน แชร์ ดื้อๆ จนโดนแนวรับชาวสวิตเซอร์แลนด์ จิ้มบอลทันทีและไปเข้าทาง กอร์ดอน ได้สำเร็จโทษ
 

สิ่งที่นิวคาสเซิ่ลเล่นงานอาร์เซน่อลในเกมนี้ นั่นก็คือภาพจำในเกมที่ ปืนใหญ่ ถล่ม เรือใบสีฟ้า 5-1 นั่นแหละ การปล่อยให้คู่แข่งบิ้วด์บอลจากแดนหลัง แล้วกระโจนบีบเพรสซิ่งเข้าใส่ ที่หันหลัง(หรือไม่พร้อม) รอรับบอลอยู่ทันทีเหมือนฉลามคาวเลือด

 

มาร์ติเนลลี่ เจ็บ ขนาดทีมปืน อาจเป็นปัญหาช่วงเวลาที่เหลือ

จริงๆดูแนวโน้มว่าน่าจะเรียกความมั่นใจและโมเมนตัม กลับมาได้เหมือนกันสำหรับ อาร์เซน่อล เพราะพึ่งอาจหาญเปิดบ้านถล่มเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มา 5-1 แม้ว่าเกม คาราบาว คัพ นัดที่2 จะหนักอึ้ง เพราะเลกแรกพวกเขา เล่นที่ เอมิเรต สเตเดี้ยม แต่โดน สาลิกาดง บุกมาอัด 2-0 แต่ทว่านิวคาสเซิ่ล เอง ก็พ่ายคา เซนต์ เจมส์ ปาร์ค มา2เกมติดเช่นกัน
 

นั่นทำให้แม้สกอร์จะตามหลังถึง2ลูก และต้องออกมาเยือน แต่ทว่าทีมของ อาร์เตต้า ก็หวังไม่น้อยที่จะพลิกสถานการณ์ให้ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ " น้าแอ๊ด คัพ " การจัดตัวทีมสีแดงแห่งลอนดอน มาชุด11ตัวจริง เป๊ะๆกับเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้
 

3แดนกลาง ที่น่าจะลงตัวที่สุดแล้ว โธมัส ปาร์เตย์- เดแคลน ไรซ์ และ มาร์ติน โอเดการ์ด หลังจากที่ไปมัวไปใช้ มิเคล เมรีโน่ อยู่พักหนึ่ง ซึ่งจึงๆประตูขึ้นนำ1-0ของเจ้าบ้านนี่แหละที่ทำให้เกมแพลนของปืนใหญ่เปลี่ยนไป ต้องเร่งเกมมากขึ้น
 

อีกจุดที่น่ากังวลของ " เดอะ กันเนอร์ส " นั่นก็คือขนาดทีม ณ ตอนนี้ ตลาดหน้าหนาวที่พึ่งปิดไป พวกเขาไม่ได้แนวรุกเข้ามาเพิ่มเลย เมื่อคืน ก็เป็น กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ที่เจ็บและถูกเปลี่ยตัวออกไป ตั้งแต่ น.37 ให้ อีธาน เอ็นวาเนรี่ ลงมาแทน
 

นั่นเท่ากับว่า แนวรุกอาร์เซน่อล หายไปแล้ว3ราย กาเบรียล เซซุส ที่เจ็บยาว - บูกาโย่ ซาก้า กว่าจะกลับมาได้ ต้องรอถึง มีนาคม ส่วน มาร์ติเนลลี่ จากเบื่้องต้นต้องพัก 2-3 สัปดาห์ขึ้นไป นั่นเท่ากับว่า ตอนนี้ พวกเขาเหลือกองหน้าและตัวรุกริมเส้นเพียง เลอันโดร ทรอสซาร์ - ไค ฮาแวร์ตช์ และ ดาวรุ่ง อีธาน เอ็นวาเนรี่ เท่านั้น หรือจะนับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่หมดสภาพไปแล้วอีกรายก็ได้