2นัด 6แต้มเต็ม ! ฝอยทอง เข้ารอบ ถลุง ตุรกี ยับ 3-0 โรนัลโด้ สุดใจกว้าง

หลังจากที่นัดแรกติดๆขัดๆกว่าจะเฉือนเอาชนะ สาธารณรัฐ เช็ก ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 2-1 แต่ทว่าพอมาเกมที่2 โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือได้มีการปรับเปลี่ยนแผนการเล่น และตัวผู้เล่นบางจุด นั่นก็ทำให้ โปรตุเกส กลมกล่อมและไฉไลขึ้นกว่าเดิม ถล่มเอาชนะตุรกี ไปได้แบบสบายบรือ 3-0 ซึ่งมาจากความเฉียบขาดแม่นยำของพวกเขาเอง ผสมกับความผิดพลาดและหละหลวมในเกมรับของทีมแดนไก่งวง

 

โปรตุเกส เล่นเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดที่สอง (กลุ่ม เอฟ) ด้วยการเจอกับ ตุรกี ที่นัดแรกเอาชนะ จอร์เจีย มาได้ 3-1 ซึ่ง ผู้จัดการทีม โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ได้ปรับผู้เล่น1จุด จากในเกมแรกนั่นก็คือ ชูเอา ปาลินญ่า ได้ออกสตาร์ทตัวจริง แทน ดิโอโก้ ดาโล่ต์
 

พร้อมกับขยับจากแผน 3-4-3 มาเป็น 4-3-3 แนวรุก คริสเดียโน่ โรนัลโด้ ในวัย39ปี ได้ออกสตาร์ทเป็น11ตัวจริงตามเดิม ขนาบข้างด้วย ราฟาเอล เลเอา และ แบร์นาโด้ ซิลวา ส่วน ตุรกี ของ วินเซนโซ่ มอลเตลล่า มีการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นมากถึง4ราย

โดยเฉพาะในตำแหน่งผู้รักษาประตูที่เปลี่ยนจาก เมิร์ต กูน็อก มาเป็น อัลตาย บายินดีร์ โกลสำรองโลกลืมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนเจ้าของฉายา " เมสซี่ ตุรกี " อาร์ด้า กูแลร์ ยังทำได้แค่เริ่มจากเป็นตัวสำรองไปก่อนตามเดิม
 

เริ่มเกมมาทัพฝอยทอง ดูจะลื่นสมูธกว่านัดแรกพอสมควร โดยเฉพาะในแดนกลาง และก็ชิงจังหวะขึ้นนำไปกอ่น 1-0 จากลูกเปิดเข้ามาข้างในของ นูโน่ เมนเดส ผู้เล่นตุรกี สกัดบอลไม่ดีมาเข้าทาง แบร์นาโด้ ยิงเข้าไป น.21
 

หลังจากนั้นลูกทีมของ มอนเตลล่า ดูจะยังลนไม่เลิก และก็มาผิดพลาดันเองแบบหมูหก ไม่น่าให้อภัย บอลที่ไม่มีอะไร แนวรับ ซาเม็ต อาคายดิน จ่ายบอลคืนหลังแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ แล้วเผอิญ บายินดีร์ ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนั้น บอลค่อยๆกลิ้งเข้าประตูไปแบบงงๆ แม้ว่าแบ็กขวาอย่าง เซกี้ เชลิค จะพยายามสไลด์มากวาดบอล แต่ไม่ทันกาล ฉีกหนี 2-0 น.28

จบ 45นาทีแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว พอครึ่งหลัง ตุรกี ก็ยังพยายามจะเปิดเกมรุกแรกเข้าใส่กับโปรตุเกส มีลูกหนักเข้าสู้ แต่ทว่าการหาโอกาสสุดท้ายจบในเขตโทษ ทัพไก่งวงไอเดียยังตีบตันไปหน่อย ไม่มีตัวสร้างสรรค์เกม ปล่อยให้ บาริช ยิลมาซ โดดเดี่ยวเกินไป
 

โปรตุเกสที่บุกมาเป็นระยะๆ แล้วอันตรายมากๆ โดยเฉพาะเกมริมเส้นฝั่งซ้าย นูโน่ เมนเดส กับ เปโดร เนโต้ (สำรอง)  ที่ปั่นป่วนสร้างความปวดหัวให้ตุรกีมากๆ และเกมก็มาจบสมบูรณ์แบบ กับลูกหลุดกับดักล้ำหน้าของ โรนัลโด้ (กองหลังตุรกีสกัดพลาด) 
 

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่หลุดเดี่ยวเลือกยิงได้แบบสบายๆ แต่ทว่า CR7 กลับใจกว้างเป็นแม่น้ำ จ่ายให้ บรูโน่ แฟร์นันเดซ สังหารเข้าไปง่ายๆ นำ 3-0 น.56 และโปรตุเกส ค่อยๆทะยอยเปลี่ยนตัวสำรอง พักตัวผู้เล่น เอาชนะไป สบายๆ 3-0 พร้อมการันตีแชมป์กลุ่ม เอฟ และผ่านเข้ารอบ16ทีม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 
 

มาร์ติเนซ ปรับแท็กติก และดีขึ้นกว่าเกมแรก


นัดแรกที่เอาชนะ เช็ก 2-1 ต้องบอกว่า หืดจับมาๆสำหรับ โปรตุเกส เพราะรูปเกมและความบาล๊านซ์ ของพวกเขาไม่มีเลย เนื่องจากกุนซือ โรแบร์โต้ มาติเนซ ไปเล่นในระบบ 3-4-3 แม้ว่าจะเคยเล่นแผนนี้มาบ้างในแมตช์อุ่นเครื่อง แต่การเจอกับ สาธารณรัฐ เช็ก ทีไม่ใช่ทีมใหญ่ รุกดุดันอะไรมาก ฝอยทอง ไม่จำเป็นขนาดต้องเล่น3เซ็นเตอร์เลย
 

นั่นทำให้เมื่อคืนกับตุรกี " มาร์ตี้ " ได้มีการปรับทัพ1ตำแหน่ง นั่นก็คือ ดิโอโก้ ดาโล่ต์ ที่รับบทเป็นวิงแบ็กขวาในนัดแรกออก แล้วเป็น ชูเอา ปาลินญ่า มิดฟิลด์สายบู๊ ได้ลงมาวาดลวดลายแทน พร้อมปรับระบบมาเล่น  4-3-3
 

กองกลางเป็น บรูโน่ แฟร์นันเดซ - วิตินญ่า และ ชูเปา ปาลินญ่า โอเค แม้จะดีขึ้นกว่าเกมแรก แต่ทว่าตำแหน่งของ วิตินญ่า กับ ปาลินญ่า ดูจะทับๆกันหน่อย เพราะเป็นมิดฟิลด์เชิงรับทั้งคู่ 
 

ห้องเครื่องจากฟูแล่มทำได้ดีในเรื่องของการผ่านบอล แต่ทว่าก็ยังคงไว้ลายในเรื่องของการเป็นผู้เล่นที่เข้าบอลหนัก เข้าบอลอันตราย จนทำให้ต้องโดนใบเหลืองในท้ายครึ่งแรก ก่อนที่จะถูกเปลี่นตัวออกในการออกสตาร์ท 45นาทีหลังเลย เป็น รูเบน เนเวส ลงมาเล่นแทน
 

ส่วน บรูโน่ แฟร์นันเดซ แม้ว่าจะทำประตูได้ แต่กัปตันหน้าหนวดของปีศาจแดงรายนี้ เป็นผู้เล่นประเภที่จ่ายบอลไม่เนี๊ยบเลย จะถนัดในเรื่องของการจ่ายบอลแบบ 50/50 คิลเลอร์พาส มากกว่า แต่ด้วยการยืนทำให้ บรูโน่ ไม่ได้ห้อยสูงเป็นเหมือนเพลย์เมคเกอร์ เบอร์10มากนัก
 

แม้ว่าจะยังดูไม่ลงตัวสำหรับจุดยุทธศาสตร์ในแดนกลาง แต่ทว่าทัฟฝอยทองยังดูกระเตื้องขึ้นมาจากนัดแรก รวมถึงยังมีมิดฟิลด์รายอื่นๆ ให้ปรับเปลี่ยนเล่นทดลองแท็กติกในนัดสุดท้ายที่เจอกับ จอร์เจีย ทั้ง เจา เนเวส - รูเบน เนเวส หรือแม้กระทั้งตัวรับแบบจ๋าๆอย่าง ดานิโล่ เปเรย์ร่า 

 

เหลือเชื่อ แบร์นาร์โด้ เม็ดแรกในทัวร์นาเม้นต์ใหญ่

เป็นตัวจริงของทีมชาติโปรตุเกสมาหลายปี แต่ทว่าก็น่าเหลือเชื่อเหมือนกันว่า แบร์นาร์โด้ ซิลวา ยังเท้าบอดในทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ ยูโร และ ฟุตบอลโลก ซึ่งรวมแล้วเท่ากับ 14นัดติดต่อกัน ก่อนที่สตาร์จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รายนี้ จะมาปลดล็อกได้สำเร็จ นัดที่15กับตุรกี
 

แบร์นาร์โด้ เป็นคนซัดประตูปลดล็อก1-0 น .21 จากช็อตที่แนวรับตุรกี สกัดบอลไม่ดี มาเข้าทางเจ้าตัว สังหารด้วยซ้ายในเขตโทษเข้าไป ในฟอร์เมชั่น แบร์นาร์โด้ ซิลวา ยืนเป็นตัวรุกฝั่งซ้าย แต่ก็สามารถหุบมาช่วยงาน บรูโน่ ได้
 

รวมไปจนถึงสอดเข้าไปรับบอลตรงกลาง เหมือนมิดฟิลด์สายเกมบุกๆทั่วๆไปทำกัน แบร์นาโด้ เมื่อเล่นในตำแหน่งปีก เจ้าตัวไม่ได้เป็นตัวริมเส้นสายกระชากพุ่งไปข้างหน้า เหมือนอีกฝั่งอย่าง ราฟาเอล เลเอา และ เปโดร เนโก้ แต่อย่างใด แต่ทว่าก็ได้ในจังหวะชั้นเชิง ดึงหลอกล่อ เชื่อมเกม เข้ามาแทน
 

ความขยัน วิ่งไปในทั้วทุกพื้นที่ นี่คืออีกหนึ่งจุดเด่นของ ลูกทีมคนโปรดของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำได้ดีมาตลอด เมื่อคืน แบร์นาร์โด้ ผ่านบอลแม่นยำ 92.3 % / วางบอลยาว 2ครั้ง / จ่ายบอลคีย์พาส 4หน 
 

แต่ทว่าการประสานงานของเจ้าตัวกับ แบ็กขวาอย่าง ชูเอา กานเชโล่ ยังดูไมประติดประต่อเท่าไหร่ แม้ว่าจะเคยอยู่ เรือใบสีฟ้า ด้วยกัน อย่างไรก็ดี หลังจบเกมก็ชัดเจนว่า แบร์นาร์โด้ คือแข้งที่ยอดเยี่ยมขนาดไหน หลังคว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ได้สำเร็จ
 

โรนัลโด้ ใจกว้างเป็นมหาสมุทร

น่าจะเป็นทัวร์นาเม้นต์ใหญ่สุดท้ายกับทีมชาติโปรตุเกสแล้วแหละ สำหรับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในวัย 39ย่าง 40ปี ในยูโร 2024 หนนี้ ซึ่ง2นัดแรกในรอบแบ่งกลุ่ม " พี่โด้ " ก็ได้ลงตัวจริงตลอด และอยู่ครบ90นาทีเสียด้วย ทำให้ ดิโอโก้ โชต้า และ กอนซาโล่ รามอส ต้องนั่งบนม้านั่งสำรองไป
 

ก่อนมายูโร 2024 โรนัลโด้ ที่เล่นใน ซาอุดิอาระเบีย โปรลีก กับ อัล นาสเซอร์ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ผลงานถล่มประตูยอดเยี่ยมเลย ในลีก 49ประตู จาก47นัด แต่ทว่าการได้ออกสตาร์ทของเจ้าตัว ก็เกิดเครื่องหมายคำถามขึ้นเช่นกันว่า จะทำให้ระบบทีมเสียไหม
 

แม้จะมีบางจังหวะที่เพื่อนร่วมทีมดูเกรงใจ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เวลาที่มีพื้นที่ จนทำให้ตัวเลือกการจ่ายรายอื่นๆได้บอลน้อยไปหน่อย แต่ทว่า โรนัลโด้ มีส่วนร่วมกับทีมที่ดี ลงมาล้วงบอลต่ำจากในเขตโทษและจ่ายออกข้าง
 

ด้วยอายุอานามขนาดนี้สิ่งที่ลดลงไปของเจ้าตัว และเห็นชัดในทัวร์นาเม้นต์นี้นั่นก็คือ ความเฉียบคมในการจบสกอร์ รวม2นัดที่ผ่านมา CR7 ได้จบสกอร์รวม9ครั้ง แต่ทว่ายังไม่สามาถแปรเปลี่ยนเป็นประตูได้เลย โดยเฉพาะลูกได้โขกโล่งๆในเขตโทษ จากจังหวะตักมาให้ของ แบร์นาร์โด้ แต่ โรนัลโด้ โขกผิดเหลี่ยมไปแบบไม่ได้ลุ้น
 

ถึงกระนั้นก็ดี โรนัลโด้ ก็ยังเป็นผู้ทำแอสซิสต์ได้ เพราะใจกว้างเป็นมหาสมุทร จากจังหวะหลุดเดี่ยว จ่ายเข้ากลางให้ บรูโน่ ยิงง่ายๆ ซึ่งถือว่าเป็นภาพหาดูยากเช่นกัน เพราะจังหวะแบบนี้สัก 90% ดาวเตะจาก อัล นาสเซอร์ มักจะเลือกยิงเอง และ 1แอสซิสต์ดังกล่าวทำให้ โรนัลโด้ กลายเป็นเจ้าของแอสซิสต์ มากสุดตลอดกาลของ ฟุตบอลยูโร เข้าให้แล้ว (8 แอสซิสต์)
 

เปเป้ นิ่งโคตร 41แล้วไง ?


การติดทีมชาติโปรตุเกส มาเล่นในยูโร 2024 คราวนี้ ของ เปเป้ กองหลังจอมโหดในวัย 41ปี ไม่ใช่เรื่องของความเป็นเด็กเส้นแต่อย่างใด เพราะฤดูกาลล่าสุดกับ เอฟซี ปอร์โต้ เจ้าตัวทำผลงานได้ดีมากๆ ลงสนามไปถึง 31นัดให้สโมสรเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
 

เซ็นเตอร์ทัพฝอยทอง มียืนพื้นอยู่แน่ๆแล้ว1คน นั่นก็คือ รูเบน ดิอ๊าซ จากค่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกรายที่จะมายืนเป็นคู่พาร์ทเนอร์ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ซือความเก๋าของ เปเป้ ( ป.ประมุข) ก่อนเหล่าดาวรุ่งอย่าง อันโตนิโอ ซิลวา และ กอนซาโล่ อิ๊กนาซิโอ
 

กับตุรกีเมือคืน ต้องยอมรับว่า ด้วยอายุที่แตะหลัก4 เปเป้ ความเร็วลดหายไปเป็นอย่างมา แต่ทว่าก็ถูกทดแทนโดยการ อ่านเกม ยืนตำแหน่งที่ดีในการหยุดเกมบุกของคู่แข่ง หัวหอกตุรกี บาริช ยิลมาซ  โดนประกบติดไปไม่เป็นเลย
 

เปเป้ เคลียร์บอลได้มากกว่าใครในสนาม 7ครั้ง / แท็กเกิ้ลอีก3ครั้ง หรือนัดก่อนหน้ากับ สาธารณรัฐ เช็ก เจ้าตัวก็เอาชนะการครอบครองบอลได้มากถึง 11ครั้ง เล่นได้ดีเหลือเชื่อและแข็งแกร่งเกินอายุจริงๆ
 

ที่น่าปรบมือให้สุดๆเห็นทีจะเป็น ลูกเตะมุมต่อเนื่อง2ครั้งของ ตุรกี บอลไปตกเข้าหัว เปเป้ โหม่งสกัดออกมาได้หมดเลย 3หน ภายในเวลา30วินาที แถมยังมีจังหวะสไลด์บอลจาก ออร์กุน ค็อคชู ที่กำลังจะได้หลุด อย่างยอดเยี่ยม แม่นยำ 

 

ตุรกี ไม่กระชับ แนวรับรั่วง่าย

 

นัดแรกตุรกีของ กุนซือรูปหล่อชาวอิตาเลี่ยน วินเซนโซ่ มอนเตลล่า เก็บ3แต้ม มาได้ด้วยการเอาชนะ จอร์เจีย 3-1 ชนิดที่รูปเกมสูสีเหมือนกัน แต่ทว่ามาได้ประตูที่3 จากการที่โกลคู่แข่งขึ้นมาลูกเตะมุม ทดเจ็บนาทีสุดท้าย แล้ว จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี ลงกลับไปไม่ทัน
 

กับโปรตุเกส มอนเตลล่า มีการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นมากถึง4ตำแหน่ง โดยเฉพาะผู้รักษาประตูที่ให้โอกาส อัลตาย บายินดีร์ นายด่านสำรองของปีศาจที่ทั้งฤดูกาลได้ลงเฝ้าเสาไปเพียงแค่นัดเดียว แทนที่ เมิร์ต กูน็อก ที่เป็นมือ1ในนัดแรก
 

ซึ่งระหว่าเกมก่อนเสียประตู เราก็ได้เห็นการสื่อสารหรือประสานงานกันของแนวรับตุรกี ที่ไม่แน่นเท่าไหร่ จนมาโดนประตู 1-0 ของ แบร์นาร์โด้ ที่ ออร์กุน ค็อคชู ที่ลงไปช่วยสกัดบอล แต่ทว่ากลายเป็นตั้งให้คู่แข่งได้สำเร็จโทษ
 

ประตู 2-0 ที่ห่างกันไม่ถึง10นาที ทำให้แท็กติกที่วางมาทุกอย่างของทีมลีกแดนไก่งวงพังทลายไปหมด จากความผิดพลาดแบบไม่น่าให้อภัยของ ซาเม็ต อาคายดิน ที่จ่ายคืนหลังจังหวะที่ไม่กดดันอะไร แต่ไม่ดูตาม้าตาเรือว่า บายินดีร์  ขยับออกมารับบอลแล้ว บอลจึงค่อยๆกลิ้งข้ามเส้นไปแบบงงตาแตกทั้งสนาม
 

ก่อนที่จะมาโดน 3-0 จากจังหวะที่ โรนัลโด้ หลุดเดี่ยว เซกี้ เซลิค เช็กล้ำหน้าพลาดแถมยังลื่น กลายเป็น บรูโน่ ได้ยิงง่ายๆเข้าไป 3ประตูที่ตุรกีเสียดูง่ายดายหมดเลย และมีจุดเริ่มต้นมาจากความผิดพลาดส่วนตัวทั้งนั้น 
 

เมื่อคืนกองหลังและกองกลางของตุรกี ยืนห่างกันมากๆ ขาดความรัดกุม นั่นจังทำให้จังหวะแทงทะลุของโปรตุเกส ได้เสียวตลอด แนวรับชอบดันสูง รวมถึงจังหวะการเข้าบอลต่างๆทีมเติร์กเล่นบอลหนักเกินความจำเป็น ฟาวล์บ่อย ทำให้โดนไป3ใบเหลืองตั้งแต่ 45นาทีแรก และเป็นผู้เล่นแผงแบ็กโฟร์ทั้งสิ้น