มาร์ติเนซ รอดตัว ! ฝอยทอง หืด แซงเชือด เช็ก 2-1 คอนเซยเซา ยิงทดเจ็บ
ยกพลมายูโร2024ทีเยอรมันคราวนี้ ด้วยการเป็นทีมเต็งลำดับต้นๆเลยสำหรับทีมชาติโปรตุเกส เจ้าของแชมป์เก่าในปี 2016 หลังก่อนหน้านั้นฟาดแข้งกันไปแล้วห้ากลุ่ม คราวนี้ก็มาถึงคิวของ กลุ่มสุดท้ายกลุ่ม F โปรตุเกส ดวลกับ สาธารณรัฐเช็ก ที่ก่อนมาลุยทัวร์นาเม้นต์ พวกเขาฟอร์มดีมากๆทั้งในนัดอุ่นเครืองและรอบคัดเลือก ซึ่งผลลัพธ์90นาที เป็นทางฝั่งทัพฝอยทองที่หืดจับสุดๆกว่าจะเฉือนเอาชนะไปได้ 2-1
เกมคู่ที่2 กลุ่ เอฟ ที่สนาม ไลป์ซิก สเตเดี้ยม โปรตุเกส กับ สาธารณรัฐ เช็ก ไลน์อัพก่อนแข่งโปรตุเกส ก็มาแหวกเล็กน้อยในเรื่องของไลน์อัพผังการเล่น เพราะ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ มาในระบบ 3-4-3 ใช้เซ็นเตอร์3รายทั้ง เปเป้ - รูเบน ดิอาซ และ นูโน่ เมนเดส ทำให้โควต้าในตำแหน่งกองกลาง ถูกตัดออกไป1ราย
3ประสานในแนวรุกเป็น แบร์นาโด้ ซิลวา - ราฟาเอล เลเอา และหน้าเป้าที่ขาดไม่ได้อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โดยม้านั่งสำรองเต็มไปด้วยสตาร์คับคั่งอย่าง ดิโอโก้ โชต้า - ชูเอา เฟลิกซ์ - กอนซาโล่ รามอส และดาวรุ่งพุ่งแรง เจา เนเวส
ทางด้านเช็กของกุนซือ อีวาน ฮาเช็ค ก็มาในระบบที่ทีมเล็กใช้กันเวลาดวลกับเหล่าทีมใหญ่ นั่นก็คือ 3-5-2 ซึ่งทีมชุดปัจจุบัน มีสตาร์หลายรายที่เราๆคุ้นชื่อกันทั้ง 2แข้งจาก เวสต์แฮม อย่าง โทมัส ชูเช็ค- วลาดิเมีย คูฟาล และ กองหน้าจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น อย่าง พาทริค ชิค
ซึ่งรูปเกมก็ออกมาตามที่คาดนั่นแหละ ด้วยชื่อชั้นของตัวผู้เล่นที่เหนือกว่า ทำให้โปรตุเกส ครองเกม ครองบอลได้ มีจังหวะได้จบหลายครั้ง แต่ก็มากจังหวะไปไม่เฉียบขาดพอ ทางฝั่ง เช็ก ก็เล่นเกมรับอย่างอดทน และรอจังหวะสวนกลับที่เหมาะเหม่ง ทำให้จบ45นาทีแรก สกอร์ยังตรึงอยู่ที่ 0-0
พอมา45นาทีหลัง เกมก็ยังเป็นอีหร็อบเดิมโปรตุเกส ครองบอลหาจังหวะจบได้มากกว่า แต่ก็พลาดกันไปหมด โดยเฉพาะในรายของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รวมถึง เลเอา รายหลังที่เมื่อคืนทำตัวน่าผิดหวังเหลือเกิน จนท้ายที่สุด เช็ก ที่เล่นอย่างอดทน ก็มาได้ประตูขึ้นนำ1-0 ลูคัส โพรว็อด น.62
ถึงกระนั้นก็ดีทัพฝอยทองก็ใช้เวลาไม่นานเลย กับการตามเจ๊าได้1-1 จากจังหวะส้มหล่น นายด่าน ยินดริช สตาเน็ค ปัดบอลไม่ดี เด้งไปโดนตัว โรบิน ฮรานาช เข้าประตูตัวเองไป น.69 หลังจากนั้นโปรตุเกส ก็โหมบุกรัวๆ และมาส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้จาก สำรอง ดิโอโก้ โชต้า แต่ก็มีจังหวะล้ำหน้าไปเสียก่อน
จนสุดท้ายแล้ว โปรตุเกส ก็มาได้ประตูชัย 2-1 นาทีบาป ทดเจ็บ 90+2 ซึ่งก็มาจากตัวสำรองที่ไม่มีใครคาดคิดอย่าง ฟานซิสโก้ คอนเซยเซา เก็บตกจากการเคลียร์สกัดบอลไม่ขาดของแนวรับเช็ก ตะบันเข้าไปแบบเฮกันลั่นทั้งซุ้มม้านั่งสำรองของทัพฝอยทอง คว้า3แต้ม ประเดิมทัวร์นาเม้นต์ได้แบบใจหายใจคว่ำ
โรนัลโด้ ตัวจริง มีทั้งดีและแย่
นี่คือทัวร์นาเมนต์ ยูโรรอบสุดท้าย ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สมัยที่ 6 ของเจ้าตัวแล้ว แม้ว่าจะไปเล่นยังลีกที่คุณภาพต่ำลงอย่าง ซาอุดิอาระเบีย โปรลีก แต่ทว่าด้วยความเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เจ้าของยิงประตูสูงสุดในทีมชาติโปรตุเกส รวมไปจนถึงในฟุตบอลยูโร (14ประตู)
ด้วยปัจจัยอะไรหลายๆอย่าง เหมือนทำให้ " พี่โด้ " จอง1โควตาหน้าเป้า ของทีมไปโดยอัตโนมัติ รวมไปจนถึงศูนย์หน้าธรรมชาติอีกคนอย่าง กอนซาโล่ รามอส ที่ย้ายไปอยู่กับ เปแอชเช ฟอร์มไม่ค่อยเปรี้ยงด้วย ทำให้ตัวจริงเป็นของโรนัลโด้
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถูกขนาบข้างด้วย แบร์นาโด้ ซิลวา และ ราฟาเอล เลเอา CR7 ในวัย39ปี ได้อยู่ในสนามครบ90นาที มีโอกาสยิงมากถึง5ครั้ง แต่น่าเสียดายที่จบไม่คมเท่าไหร่ โดยเฉพาะจังหวะได้ขวิดระยะ6หลา แต่ไม่ตรงกรอบ แถมยังเป็นผู้รับเหมายิงฟรีคิกเองอีกด้วย
แม้ว่าจะใช้โอกาสเปลือง และความคล่องตัวหายไปหน่อย แต่ทว่า ยอดแข้งวัย39ปีรายนี้ ก็ทำได้ดีในเรื่องของ การเคลื่อนที่ เซ้นส์ในการยืนตำแหน่ง การดึงตัวประกบต่างๆ ทำให้เพื่อนร่วมทีมที่สอดเข้ามา หรีอตัวเลือกอื่นๆเล่นง่ายขึ้น
แต่ก็ยังมีสิ่งที่ โรนัลโด้ ต้องระวังอยู่นั่นก็คือ เรื่องของแพสชั่นและอารมณ์ที่เจ้าตัวดูจะล้นเกินไปหน่อย มีจังหวะที่โขกชนเสา แล้วเป็น ดิโอโก้ โชต้า ตัวสำรอง ตามซ้ำเข้าไป " พี่โด้ " พยายามไปแย่งบอลจากนายด่าน ยินดริช สตาเน็ค แต่ทว่าท้ายที่สุดก็โดน VAR ริบคืนเพราะล้ำหน้าเท่านั้น
ในวัย39ปี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คงจะไม่ไหวนักกับการเล่น 2นัด ในรอบไม่ถึง7วัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับ ผู้จัดการทีม โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ แล้วแหละว่าจะใช้งานสตาร์ระดับโลกรายนี้แบบไหน เกมที่เจอกับคู่แข่งแบบใด เพราะต้องไม่ลืมว่าพวกเขายังมีหน้าเป้าพลังหนุ่มอย่าง กอนซาโล่ รามอส หรือแม้กระทั้ง ชูเอา เฟลิกซ์ อยู่ในทีมคอยสร้างความแตกต่าง
วิตินญ่า โดดเด่นพลังขับเคลื่อน
จริงๆก็ฟอร์มใช้ได้กับ เปแอชเช มาตลอดนะ สำหรับ วิตินญ่า แต่ทว่าก็โดดเด่นและพัฒนาขึ้นไปอีกในยุคของ กุนซือ หลุยส์ เอ็นริเก้ และไม่แปลกใจเลยที่เจ้าตัวจะได้ออกสตาร์ทเป็น11ตัวจริงของทีมชาติโปรตุเกส ก่อนในรายของ ชูเอา ปาลินญ่า เสียอีก แม้ว่าทีมจะเล่นระบบมิดฟิลด์2คนเมื่อคืน
และก็เป็นตามคาดโปรตุเกส ครองบอลได้เหนือกว่า สาธารณรัฐ เช็ก 70 ต่อ 30 ความแม่นยำในการผ่านบอลของ วิตินญ่า สูงถึง95 เปอร์เซ็นต์ แถมยังเป็นคนผ่านบอลในพืนที่แดนสามได้อย่างแม่นนำอีกด้วย
นี่คือตัวตั้งเกม กำหนดการเล่นว่าจะผ่อนหนักผ่อนเขาของทัพฝอยทองเลย 3มิดฟิลด์ของ เช็ก อย่าง โทมัส ซูเช็ค - พาเวล ชูลช์ และ ลูคัส โพรว็อด (ผู้ทำประตู) แทบจะหาบอลไม่เจอเลย กลายเป็นผู้ต้องไล่ล่าหาลูกบอลเสียเป็นส่วนใหญ่
วิตินญ่า มีสถิติที่ยอดเยี่ยมหลายอย่างทั้ง สร้างสรรค์โอกาส 2ครั้ง / บล็อกบอล และตัดบอลได้อย่างละหน / เรียกฟาวล์ได้มากถึง 3ครั้ง / ผ่านบอลมากที่สุดในสนาม 86ครั้ง และเอาชนะการดวลได้ถึง6ครั้ง ไม่แปลกใจเลยที่หลังจบเกมมิดฟิลด์วัย24ปี จะได้รับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์
ส่วนแดนกลางอีกคนอย่าง บรูโน่ แฟร์นันเดซ ไม่รู้ว่าการถูกจับมายืนต่ำเป็น มิดฟิลด์ประเภทหมายเลข8 จะเป็นการลดความอันตรายของเจ้าตัวไปบ้างรึเปล่าไม่รู้ ฟอร์มไม่ดีและไม่แย่ แต่ก็ยังคงการเป็นจอมเปิดป้อน มีจังหวะจ่ายสวยๆให้ โรนัลโด้ ได้ขวิด
ระบบวิงแบ็ก ดาโล่ต์ - คันเชโล่ เล่นไม่ออก
ถือว่าแหวกแนวอยู่นะสำหรับทีมชาติโปรตุเกส กับการเล่นในระบบ 3เซ็นเตอร์ เพราะก่อนทัวร์นาเม้นต์ ด้วยขุมกำลังของนักเตะ มันน่าจะเป็นในระบบ 4-2-3-1 หรือ 4-3-3 มากกว่า เพราะทัพฝอยทอง มีหน่วยสังหารแนวรุกอยู่ครบมือ เลือกใช้สอยยังไงก็ได้
แน่นอนว่าในระบบหลัง3 ผู้เล่นในตำแหน่งวิงแบ็ก ต้องทำงานหนัก วิ่งขึ้นลงและรอบจัดมากๆ ซึ่งเมื่อคืน วิงแบ็กฝั่งขวาก็คือ ดิโอโก้ ดาโล่ต์ - วิงแบ็กฝั่งซ้ายเป็น ชูเอา คันเชโล่ ซึ่งในนามสโมสรของทั้งคู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ บาร์เซโลน่า เล่นในระบบแผงแบ็กโฟร์
เราจึงได้เห็นว่าทั้ง ดาโล่ต์ และ คันเชโล่ ดูติดๆขัดๆไปหน่อย ในเรื่องของเกมรับ ทั้งคู่ไม่ได้ถูกทดสอบอะไรมาก เพราะว่าบอลส่วนใหญ่อยู่ในการครอบครองของโปรตุเกส นานๆที เช็กจะมีจังหวะสวนกลับอันตรายๆให้เห็น
คันเชโล่ ไม่ได้แย่เลยในเรื่องเกมรุก แต่แบ็กจากบาร์เซโลน่า ควรจะทำได้ดีกว่านี้ในเรื่องของการครอสบอล ไม่มีความอันตรายหรือให้ทีมได้ลุ้นเลย แต่ก็มีจุดเด่นในเรื่องของ การแย่งบอลกลับมาครองได้ ซึ่งทำได้มากถึง9ครั้ง แต่ภาพรวมยังถือว่าน่าผิดหวังนะ เมื่อเทียบกับความคาดหวังและมาตรฐานของเจ้าตัว
ส่วน ดาโล่ต์ ได้เล่นฝั่งขวาที่ถนัด ยังดูมึนๆกับบทบาทวิงแบ็ก ในเรื่องของเกมรุกแบ็กจากปีศาจแดงรายนี้ ดูเคมียังไม่เข้ากับตัวรุกเพื่อนร่วมทีมเลย เรียกว่าไร้อิมแพคต่อเกมของโปรตุเกสสุดๆ และไม่แปลกใจเลยที่เจ้าตัวจะถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ น.63 ให้ กอนซาโล่ อิ๊กนาซิโอ ลงมาบู๊แทน
มาร์ติเนซ เกือบไม่รอด / คอนเซยเซา พระเอกที่ไม่คาดคิด
ถ้าเอาแค่ด้วยเรื่องของชื่อชั้นตัวผู้เล่น ที่มาลุย ยูโร 2024 ทีมชาติโปรตุเกส ไม่ได้เป็นรองทีมเต็งอย่าง ฝรั่งเศส หรือ อังกฤษ เลย แต่ทว่าตัวผู้จัดการทีมอย่าง โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ นี่แหละ ที่เป็นจุดที่ทำให้ทัพฝอยทอง ดูไม่กลมกล่อมลงตัว หรือมีทีเด็ดดีขาดเรื่องการตัดสินใจ ในรอบลึกๆหรือเหตุการณ์สำคัญ
มาร์ติเนซ โดดค่อนขอดอยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยที่คุมทีมชาติเบลเยี่ยม ยุค โกลเด้น เจนเนอเรชั่น ที่ไม่ก้าวไปไกลเท่าที่ควร ทั้งที่ขุมกำลังอยู่ในช่วงพีคและเพรียบพร้อมสุดๆ โดยในยูโร 2024 เกมแรกดวลกับ สาธารณรัฐ เช็ก โปรตุเกส มาแหวกพอสมควรกับระบบ 3-4-3
โอเคแม้ว่าในระหว่างเกม ฟอรเมชั่น จะมีช่วงที่ขยับเป็นหลังสี่ แต่ทว่า การที่คู่แข่งเป็น เช็ก นั้นไม่จำเป็นที่ทีมแชมป์ ยูโร 2016 ต้องเซฟปลอดภัยรัดกุมไว้ก่อนเลย ครองบอลมากกว่า แต่กลับโดนทีมของ อีวาน ฮาเช็ค สวนตูมเดียวหงายเงิบ
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เราก็ต้องให้เครดิต " มาร์ตี้ " เหมือนกัน นั่นก็คือในเรื่องของการเปลี่ยนตัว เพราะ2ตัวสำรองที่ถูกส่งลงมาอย่าง เปโดร เนโต้ และ ฟรานซิสโก้ คอนเซยเซา อิมแพคต่อเกมมากๆ ปีกจากวูล์ฟ วูบวาบอันตรายเหลือเกิน และมีส่วนกับประตูชัย เพราะเป็นคนเปิดเข้าในกดดันจนแนวรับเช็ก สกัดบอลไม่ดี มาเข้าทาง คอนเซยเซา
คอนเซยเซา ในวัยเพียงแค่ 21ปี จาก เอฟซี ปอร์โต้ เคยลงสนามให้ทีมชาติโปรตุเกส เพียงแค่2นัดเท่านั้น และ111วินาที ที่ได้อยู่ในสนาม สัมผัสบอลเพียงครั้งที่2ของเกม เจ้าตัวก็ทำประตูชัยพาทีมเก็บ3แต้มได้ทันที
โดยนัดต่อไปวันเสาร์ที่จะดวลกับ ตุรกี ที่เอาชนะ จอร์เจีย 3-1 ต้องมาคอยลุ้นดูว่า โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ จะปรับเปลี่ยนแผนการเล่นไหม เพราะต้องไม่ลืมว่าทีมชุดนี้ ยังมีผู้เล่นดีๆให้เลือกใช้งานได้ตามแท็กติกแบบต่างๆทั้ง กอนซาโล่ รามอส - ชูเอา เฟลิกซ์ - เจา เนเวส - อันโตนิโอ ซิลวา
วันที่อยากลืมของ โรบิน ฮรานาช
ก่อนมายูโร 2024 หนนี้ ต้องบอกว่า 5นัดหลังสุดทั้งในเกมรอบคัดเลือกและเกมอุ่นเครื่อง สาธารณรัฐ เช็ก ผลงานไฉไลมากๆเลย เพราะชนะมา 5นัดรวด ยิงได้16เสีย 4 เกมเปิดหัวมาที่ต้องเจอกับโปรตุเกส แน่นอนอยู่แล้วว่า พวกเขาต้องปลอดภัยเน้นเกมรับไว้ก่อน
3-5-2 คือแผนการเล่นที่กุนซือ อีวาน ฮาเช็ค ติดตั้งให้ทีมรองแชมป์ ยูโร 1996 เซ็นเตอร์3คน ยืนเรียงกันเป็นแผงทั้ง โทมัส โฮเลช -โรบิน ฮรานาช และ ลาดิสลาฟ เครย์ชี่ ซึ่งก็ทำกันได้ดีมากๆใน 45นาทีแรก ผลจึงจบด้วยสกอร์ 0-0
การตั้งรับลึกในแดนตัวเอง นี่คือสิ่งเบสิคที่ทีมเล็กที่เป็นรองมักจะใช้รับมือกับทีมยักษ์ใหญ่ แต่ใช่ว่าจะทำกันได้ง่ายๆ ส่วนใหญ่จะทำนบแตกพ่ายก่อนเสมอ ความอดทนของ เช็ก ก็สัมฤทธิผลจริงๆ นอกจากจะยันสกอร์ 0-0 ได้แล้ว ยังมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกยิงไกลสุดสวยของ ลูคัส โพรว็อด น.62
แต่ทว่าความผิดผลาดส่วนบุคคลนี่แหละที่ทำให้ สาธารณรัฐ เช็ก โดนทวงประตูตีเสมอ 1-1 อย่างรวดเร็ว ทั้งที่ผ่านมาเล่นเกมรับช่วยกันได้เป็นอย่างดี ลูกโขกของ นูโน่ เมนเดส ไม่มีอะไรเลย แต่ทว่าโกลอย่าง สตาเน็ก ปัดไปโดนหน้าแข้งเพื่อนร่วมทีม โรบิน ฮรานาช เข้าประตูตัวเองซะงั้น
ส่วนตัวของ ฮรานาช แนวรับจาก วิคเตอเรีย พลาเซ่น ก็ต้องมาฝันร้ายสุดๆ เพราะเป็นคนสกัดบอลไม่ดี แป๊กอยู่กับที่ กลายเป็นตั้งเป้าถวายพานมอบของขวัญให้ คอนเซยเซา ลูบปากยิงเข้าไปง่ายๆ จริงๆตลอดทั้งเกม เช็ก เล่นเกมรับได้ดีมากๆ แต่ทว่าความผิดพลาดส่วนตัวคนละนิดคนละหน่อยของเกมรับ ทำให้พวกเขาปราชัยในที่สุด
- คอลัมน์นิสต์
- ยูโร2024 คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล โปรตุเกส สาธารณรัฐเช็ก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ฟรานซิสโก้ คอนเซยเซา
- 379
- 19 มิ.ย. 2567 14:43