จมบ๊วยส่อตกรอบ ! ผี 10 ตัว บุกพ่าย โคเปนเฮเก้น 4-3 "แรชชี่ " แดง เปลี่ยนเกม
อาการอยู่ในขั้นวิกฤติและโคม่าแล้วสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากที่พวกเขาบุกไปแพ้ เอฟซี โคเปนเฮนเก้น ที่เดนมาร์ก 4-3 ทั้งที่ก่อนเกมนี่คือนัดที่พวกเขาต้องคว้า3แต้มเข้ากระเป๋ามากๆ หากอยากผ่านเข้าไปเล่นในรอบ16ทีมสุดท้าย แต่ทว่าใบแดงของ มาร์คัส แรชฟอร์ด และความไม่นิ่งของ ยูไนเต็ด เอง ก็เปลี่ยนโฉมทุกอย่างสิ้นเชิง
เกมนัดที่4 ยูซีแอล รอบแบ่งกลุ่ม เอ ที่สนาม มาร์คเคน สปอร์ต แอนด์ เอนเตอร์เทนเมนต์ เจ้าบ้าน เอฟซี โคเปนเฮนเก้น ทีมจ่าฝูงลีกแดนโคนม ดวลกับผู้มาเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องการ3แต้มเป็นอย่างมากเพื่อลุ้นผ่านเข้ารอบต่อไป
ซึ่งเริ่มเกมมา ผิดคาดไม่น้อย เพราะ ยูไนเต็ด มาดีจริงๆ จนมาได้ประตูขึ้นนำหนีห่างถึง 2-0 ไปก่อน จาก ราสมุส ฮอยลุนด์ น.3 และ 28 ซึ่ง ณ นาทีนั้น น่าจะเป็นสถานการณ์ที่เข้าทางทีมของ เอริก เทน ฮาก สุดๆแล้ว ที่จะคว้าชัยชนะได้
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามก็มามีจุดเปลี่ยนสำคัญขึ้น มาร์คัส แรชฟอร์ด ปั้มแย่งบอลจังหวะอันตราย จนผู้ตัดสินมาเช็ก VAR ย้อนหลัง และแจกใบแดงให้ " แรชชี่ " ทันที ปีศาจแดงต้องเหลือ10คน น.42
โดยช่วงที่ได้เปรียบตัวผู้เล่นและทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก นานถึง13นาที โคเปนเฮเก้น ก็มาได้ประตูตีเสมอเป็น 2-2 จาก โมฮาเหม็ด เอลยูนุสซี่ น.45 และจุดโทษของ ดีโอโก้ กอนซัลเวส น.45+9 จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว
ออกสตาร์ท45นาทีหลัง เอริก เทน ฮาก ตัดสินใจแก้เกมด้วยการถอด คริสเตียน อิริคเซ่น ออก แล้วให้ โซฟียาน อัมราบัต ลงมาบู๊แทน ซึ่งแม้รูปเกมจะไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ แต่ยูไนเต็ด ก็เฮงมาได้ประตูขึ้นนำอีก3-2 คนได้จากจังหวะแฮนด์บอลของเจ้าบ้าน และเป็น บรูโน่ แฟร์นันเดซ สังหารจุดโทษเข้าไป น.69
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามปีศาจแดง ก็ยังคงคาแร็กเตอร์แย่ๆของฤดูกาลใหม่นี้ได้เหมือนเดิม นั่นก็คือเป็นทีมที่รักษาโมเมนตัมของเกมไม่เคยได้ ออกอาการลนชัดจนหากโดนบีบเพรสซิ่งเร็วและก็มาทำนบแตกพ่ายโดนแซงไปในที่สุด 4-3
จากประตูของ ลูคัส เลราเกอร์ น.83 และตัวสำรอง ที่ รูนี่ บาร์ดจี ยิงบอลเล่ย์กดลงพื้นสุดสวย น.87 โดยช่วงท้ายเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เกือบที่จะตีเสมอได้จากลูกยิงของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่ชนคานสนั่นออกหลังไป
ผลลัพธ์ 4-3 ความปราชัยดังกล่าว ส่งผลให้ทีมของ ETH สุ่มเสี่ยงมากๆที่จะตกรอบแบ่งกลุ่ม เพราะปัจจุบัน มีอยู่เพียง3แต้ม จาก4นัด เป็นบ๊วยกลุ่ม แถมโปรแกรมอีก2นัดที่เหลือก็หินมากๆ เพราะจะต้องบุกไปเยือน กาลาตาซาราย สนามนรกทีมเยือน และจะได้เล่นในบ้านนัดสุดท้ายเจอทีมที่แกร่งสุดๆอย่าง บาเยิร์น มิวนิค
ผีออกสตาร์ทสวย ฮอยลุนด์ ฮ็อตในยูซีแอล
นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งนัดในฤดูกาล 2023-2024นี้ ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกสตาร์ทเกมมาด้วยทรงที่เหนือกว่าคู่แข่ง นักเตะขยันไล่บอล แม้กระทั่งผู้เล่นอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด เพราะนี่คือแมตช์ที่พวกเขาต้องเน้นมากๆกับการเก็บ3แต้มกลับบ้าน
และเวลาผ่านไปเพียง3นาที ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่ฟอร์มฝืดในลีก 8นัด ยังทำประตูไม่ได้ มาเหมายิง2เม็ด น.3 และ 28 ในแบบฉบับสไตล์กองหน้าตัวเป้า พาทีมขึ้นนำไปก่อนถึง 2-0 ซึ่ง ณ นาทีนั้น ต้องบอกว่าโมเมนตัม มาทางฝั่งผู้มาเยือนเต็มๆ
ดาวยิงวัยรุ่นแดนโคนม ทำได้ดีมากๆในเรื่องของการ พิงบอล พักบอล และหาพื้นที่ในเขตโทษ บวกกับ ในเวทียูซีแอล ที่ดูจะมีพื้นที่และเวลาให้เล่นมากกว่าในพรีเมียร์ลีก ทำให้ ฮอยลุนด์ ทำผลงานได้ไฉไล 5ประตู จาก4นัดใน แชมเปี้ยนส์ลีก
นอกจากนี้กองหน้าวัย20ปี ยังเกือบจะมีแฮตทริก ด้วยซ้ำกับจังหวะหลุดไปทางฝั่งขวา ก่อนจะยิงแป๊กไม่เต็มเท้าออกเสาไกลไป รวมถึงได้เก็บตกวอลเล่ย์ในเขตโทษแต่ทว่าโดน คามิล กราบาร่า โกลผู้สวมหน้ากากเซฟไว้ได้
ซึ่งฟอร์มที่ไฉไลของ ฮอยลุนด์ ในเวทียุโรป เหมือนจะมีอะไรมาเป็นมารมาผจญตลอด เพราะแม้ตอนนี้เจ้าตัวจะขึ้นนำเป็นดาวซัลโว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่5ประตู เทียบเท่ากับ อัลบาโร่ โมราต้า ของ แอตเลติโก มาดริด แต่ทว่าทุกนัด ราสมุส ฮอยลุนด์ ทำประตูได้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ (ทั้ง3นัด)
ใบแดง แรชฟอร์ด เปลี่ยนโฉมเกม
นี่ก็เป็นการเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ที่ไม่ดีอยู่แล้วสำหรับ มาร์คัส แรชฟอร์ด เพราะ17นัดที่ผานมา " แรชชี่ " ผลิตสกอร์ ได้แต่เม็ดเดียวเท่านั้น และเจ้าตัวก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่โดนเพ่งเล็งสุดๆเหมือนกันเวลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผลงานไม่ดี
ซึ่งเกมกับ โคเปนเฮนเก้น เมื่อคืน " ดร.แรช " ก็ไม่ได้คายพิษสงในเกมรุกเท่าไหร่ อาจด้วยเพราะโดนจับมาเล่นฝั่งที่ไม่ถนัดด้านขวา แต่ทว่าในเกมรับก็ยังดีที่เจ้าตัว พยายามมาเล่นช่วย อารอน วาน- บิสซาก้า
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม ตอนที่สกอร์นำอยู่ 2-0 พร้อมรูปเกมที่เหนือกว่า ต้องบอกว่าแฟนบอลผีแดง น่าจะนอนสบายใจได้ในระดับหนึ่ง จนกระทั้งมีจุดเปลี่ยนใบแดงของ มาร์คัส แรชฟอร์ด เองนี่แหละ
ดาวเตะเบอร์10 ไปเข้าแย่งบอลหนักใส่ เอเลียส เยเลิร์ต แล้วจังหวะฟอลโล่ทรู ไปเปิดปุ่มไว้ ทำให้ภาพออกมาค่อนข้างรุ่แรง ผู้ตัดสินชาวลิธัวเนีย เช็ก VAR ย้อนหลังแจกเป็นใบแดงทันที ซึ่งช็อตดังกล่าว มองว่าสมควรให้ก็ได้ หรือไม่สมควรให้ก็ได้เพราะไม่ได้มีเจตนา แต่ทว่าก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจเลย
ถึงกระนั้นก็ดีถือว่า เปาอย่าง โดนาตัส รุมซัส ถือว่ามีความแฟร์ไม่น้อย กับช็อตจุดโทษที่ ทั้ง โคเปนเฮเก้น และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้จากจังหวะที่แฮนด์บอลลักษณะเดียวกัน ไม่ทำ2มาตรฐาน อีกฝ่ายได้จุดโทษ อีกฝ่ายไม่ได้จุดโทษ
แนวรับผีเปราะบางเหมือนแก้ว
มีให้เห็นประจำเลยสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับปัญหาในแนวรับ เวลาที่โดนบีบหรือโดนกดดันหนัก ๆ พวกเขามักมีอาการพลาดหรือเป๋ให้เห็นอยู่เสมอ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสภาพจิตใจที่เปราะบางหรือเปล่าทำให้แข้งอสูรแดงออกอีหรอบเดิมตลอด
จากเกมที่เหมือนไม่มีอะไรหลังจากขึ้นนำ 2-0 แต่ทว่าใบแดงของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็ส่งผลต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากมายเหลือเกิน ทั้งในเรื่องของจำนวนตัวผู้เล่นหรือรวมไปจนถึงสภาพจิตใจที่เปราะบางใจป๊อดสุดๆ
ยูไนเต็ด ออกอาการลนชัดเจนหลงหลือ10คน ก่อความผิดพลาดกันง่ายๆยกแผงทั้ง ลูกแรก แนวรับมัวแต่ใช้สายตาป้องกัน มัวแต่จ้องบอล แถม อังเดร โอนาน่า ก็ยังล้มตัวช้าอีกด้วย ดอกสอง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่แม้ระยะหลังจะเล่นดี ก็ยังคงคอนเซ็ปต์กองหลังที่ชอบใช้มือ เก็บแขนไม่ละเอียดจนทำทีมเสียสุดโทษ
ลูกสาม จุดเริ่มต้นก็มาจาก วานบิส- ซาก้า ที่คืนหลังมั่วๆแรงๆ จนทีมเสียเตะมุมจนโดนลูกต่อเนืองจากเตะมุมแล้วเคลียร์กันไม่ขาด ดาโล่ต์ ประกบตัวห่วยแตกมาก ปล่อยให้นักเตะเจ้าบ้านเบียดชาร์ตเข้าไปดื้อๆ
ส่วนประตูสุดท้าย ก็เป็น ราฟาเอล วาราน ที่เตะโด่งออกไปมั่วๆ แถมจังหวะที่ รูนี่ บาร์ดจี ได้ยิง เจ้าตัวมีเวลาเหลือเฟือ ได้คิด ได้แต่งบอล เลือกมุมยิงๆได้แบบสบายๆไร้ตัวมาขวาง เหมือน เดจาวู ลูกที่โดน เดแคลน ไรซ์ ของอาร์เซน่อล เลย
โอเคเข้าใจว่าเหลือ10คน แต่ด้วยความนิ่งและประสบการณ์ความเป็นทีมใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ควรออกลูกลนหรือปวกเปียกขนาดนี้ ซึ่งเหมือนจะเป็น DNA ด้านแย่ของทีมชุดนี้ไปแล้ว เวลาเจอสถานการณ์ที่ยากและไม่เป็นใจ หัวจิตหัวใจเลือกที่จะไม่สู้ถอดใจง่ายตลอด
เทน ฮาก ท่าจะแย่ แถมเปลี่ยนตัวแปลก
17นัดแรกของฤดูกาล 2023-2024 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปราชัยไปแล้วถึง9นัด ชนะเพียง8 ซึ่งเป็นสถิติแย่เทียบเท่าจำนวนนัดที่แพ้ นับตั้งแต่ฤดูกาล 1973-1974 ซึ่งซีซั่นดังกล่าวพลพรรคปีศาจแดง มีอันต้องตกชั้นลงจากลีกสูงสุดเมืองผู้ดี
หรือถ้าจะมองให้ละเอียด จาก17นัดที่ผ่านมา ทีมของ เอริก เทน ฮาก มีผลงานที่ดีเพียงนัดเดียวเท่านั้น นั่นก็คือเกม คาราบาว คัพ ที่เอาชนะ คริสตัล พาเลซ ไป 3-0 ส่วนชัยชนะอีก7นัดที่เหลือ มีจำนวนผลต่างความห่างเพียงแค่1ลูกเท่านั้น แถมต้องกระเสือกกระสนลากเลือดตลอด
ในเรื่องของการจัดทัพเมื่อคืน กุนซือชาวดัตช์ ก็ทำได้ไม่ขัดสายตาเท่าไหร่ อาจจะมีเพียงแค่ การเลือกส่ง จอห์นนี่ อีแวนส์ ลงก่อน ราฟาเอล วาราน ซึ่งหลังจากที่ อีแวนส์ เจ็บกองกลังชาวฝรั่งเศส ก็ได้ลงมาแทน
เทน ฮาก เริ่มจะเปลี่ยนตัวแปลกๆตรงที่ เลือกถอด คริสเตียน อิริคเซ่น ออก แล้วให้ โซฟียาน อัมราบัต มาแทน ซึ่ง " บังบัต " ทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจเลย มีจังหวะช้า ทำบอลเสีย เคลียร์บอลแปลกๆหลายครั้ง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดสลบของทีมไปเลย ซึ่งนัดก่อนๆหน้านั้นกองกลางชาวโมร็อกโก ก็เล่นไม่ออก เคยถูกเปลี่ยนตัวออกตอนพักครึ่งถึง 2ครั้ง
และช่วงที่เกมเสมอกันอยู่ 3-3 เอริก เทน ฮาก ก็มาเหนือเมฆสุดๆเพราะในสถานการณ์ที่ทีม แม้จะเหลือผู้เล่น10คน แต่ก็ต้องการชัยชนะอย่างยิ่ง แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เจ้าตัวเลือกถอดกองหน้าที่คุกคามแนวรับเจ้าบ้านได้อย่าง ฮอยลุนด์ ออก และเป็นมุนษย์ล่องหน เมสัน เมาท์ ไปยืนเป็นกองหน้าแทนดื้อๆ
โคเปนเฮเก้น ก็มีลุ้นเข้ารอบ กองเชียร์พลังพิเศษ
ก่อนเดมจะดวลกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอฟซี โคเปนเฮเก้น มีอยู่เพียง1แต้ม จาก3นัด แต่ทว่าฟอร์มในลีกเดนมาร์ก พวกเขาไฉไลมากๆ ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง แถม2เกมก่อนหน้าที่แพ้ในยูซีแอล เป็นการปราชัยแบบหวุดหวิดทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็นกับ บาเยิร์น มิวนิค (1-2) ลูกทีมของ ยาค็อบ นีสทรัป ขึ้นนำไปก่อนด้วยซ้ำ 1-0 แต่ทว่ามาโดนแซงช่วงท้ายเกมจาก ลูกจุดโทษของ โธมัส มุลเลอร น.83 หรือเกมที่บุกไปเยือน แมนเชสตอร์ ยูไนเต็ด ก็พ่ายฉิวเฉียด1-0
โดยแมตช์นั้นควรจะออกเสมอด้วยซ้ำ หากว่า ลูกชายของ เฮนริค ลาร์สสัน อย่าง จอร์แดน ลาร์สสัน ไม่ยิงจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้ายไปโดน อังเดร โอนาน่า เซฟ
ปัจจัยที่พวกเขาคว้ำปีศาจแดงได้เมื่อคืน นอกจากจะใจสู้ และอาศัยความได้เปรียบจากตัวผู้เล่น 11ต่อ10คนแล้ว นั่นก็คือแรงกระตุ้นจากแฟนบอลที่สนาม มาร์คเคน สปอร์ต แอนด์ เอนเตอร์เทนเมนต์
ที่ปลุกเร้าเพิ่มพลังนักเตะในทีมได้มากๆ หรืออาจรวมไปจนถึงกดดันผู้ตัดสินสุดๆในจังหวะเช็ก VAR ด้วย รูนี่ บาร์ดจี แข้งตัวสำรองดาวรุ่ง ก็สร้างสถิติเป็น นักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูใส่แมนฯยู ได้ ในรายการแชมเปี้ยนส์ ลีก (17ปี 358วัน)
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน โคเปนเฮเก้น เป็นที่2ของกลุ่ม มี4แต้ม จาก4นัด หากตีว่าทุกทีมจะแพ้ บาเยิร์น มิวนิค หมด นัดสุดท้าย ที่พวกเขาจะได้เล่นในบ้านเจอกับ กาลาตาซาราย หากว่าเอาชนะทีมจากตุรกีได้ ลูกทีมของ นีสทรัป จะผ่านเข้ารอบ16ทีมทันที
- คอลัมน์นิสต์
- 192
- 09 พ.ย. 2566 13:55