ไม่ชนะเกมยุโรป มา1ปี ! ผี แผ่วตามคาด เฟเนฯ ตามเจ๊า 1-1 อิริคเซ่น ตะบันสวย
การจะเอาชนะคู่แข่ง2นัดติดต่อกัน จัดได้ว่าเป็นเรื่องที่เห็นได้ยากจริงๆ สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้ขวบปีที่3ในการทำทีมของ เอริก เทน ฮาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมยุโรป เมื่อล่าสุดพลพรรคปีศาจแดง ทำได้เพียงแค่บุกไปเสมอ เฟเนร์บาห์เช่ ถึงตุรกี 1-1 ทั้งที่อุตส่าห์ขึ้นนำไปก่อน แต่ทว่าก็เข้าอีหรอบเดิมนั่นก็คือ เกมก็ค่อยๆแผ่ว เป็นเจ้าบ้านได้ตั้งลำบุกเข้าใส่ และตีเสมอได้ ตั้งแต่ช่วงต้นครึ่งหลัง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะต้องเก็บ3แต้ม ในเกม ยูโรป้า ลีก ให้ได้ หลัง2นัดแรก พวกเขาทำได้แค่เสมอกับ เอฟซี ทเวนเต้ (1-1) และ เอฟซี ปอร์โต้ ( 3-3) ซึ่งการมาบุกมาเยือน เฟเนร์บาห์เช่ ที่แม้จะมีนักเตะชื่อดังและกุนซือเป็น โชเซ่ มูรินโญ่ ก็อาจไม่ใช่งานที่ง่ายนัก แต่ก็ไม่ยากถึงขนาดทำไม่ได้
การจัดทัพ เอริก เทน ฮาก สร้างเสียงฮือฮาพอสมควร มาในระบบบ 4-2-3-1 ตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์ ของ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ที่ติดโทษใบแดง เป็นหน้าที่ของ นุสแซร์ มาซราวี ถูกดันขึ้นมาเล่นซะงั้น แบ็กซ้ายให้ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ถ่างมาเล่น เซ็นเตอร์ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ กับ มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ แบ็กขวา ดิโอโก้ ดาโล่ต์
แดนกลาง มานูเอล อูกาเต้ ได้ยืนตัวจริงร่วมกับ คริสเตียน อิริคเซ่น 3ประสานแนวรุก อเลฮานโดร การ์นาโช่ - มาร์คัส แรชฟอร์ด และโจชัว เซิร์กซี่ ฟากเจ้าบ้าน เฟเนร์บาห์เช่ พวกเขามีแข้งชื่อดังที่เคยค้าแข้งอยู่ในลีกยุโรปหลายรายทั้ง ชักลาร์ โซยุนชู - ดูซาน ทาดิช -อัลลัน แซงต์-มักซิแม็ง และ ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี
โดยเฉพาะคู่กลางเป็นอดีตเด็กผีอย่าง เฟร็ด และ โซฟียาน อัมราบัต สิ้นเสียงนกหวีดเริ่มเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังออกอาการทรงเดิมไม่เลิก นั่นก็คือโดนคู่แข่งขึงเกมเข้าใส่ แต่ทว่าจังหวะสวนกลับของปีศาจแดงก็ทำงานกันเร็วจริงๆ
จากการเข้าทำสุดสวยของ การ์นาโช่ ต่อด้วย เซิร์กเซ่ และมาจบตรง อิริคเซ่น ได้ตะบันเต็มข้อเสียบตาข่าย ขึ้นนำ 1-0 เพียง น.15 และเกือบจะได้เม็ดสองหลังจากนั้น7นาที เมื่อลูกลากจี้เข้าในแล้วซัดด้วยซ้ายของ แรชฟอร์ด ถากเสาออกไปนิดเดียว
ซึ่งหลังจากนั้นลูกทีมของ " น้ามู " ก็กดใส่รัวๆเลย มีโอกาสได้จบ2-3ครั้ง แต่ทว่าโดนความยอดเยี่ยม โดดดับเบิ้ลเซฟเป็นปลากระดี่ ช่วยให้ปีศาจแดงรอดตายได้ กับจังหวะโขกของ ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี และจบ45นาทีแรกไว้ที่สกอร์ 1-0
เริ่มครึ่งหลังมา ยูไนเต็ด ก็ออกลายเดิมนั่นก็คือเป็นทีมที่เสียประตูเร็วทั้งสองครึ่ง อัลลัน แซงต์-มักซิแม็ง ที่ได้ครอสเปิดจากด้านซ้ายชนิดไร้ตัวประกบกดดัน บอลลอยเหมาะเหม่งมาเข้าหัว เอ็น-เนซีรี เจ้าเก่า โขกกดลงพื้นเสียบตาข่ายเข้าไป ตีเสมอ1-1น.49
พอหลังจากถูกตีเสมอทีมของ ETH ก็เหมือนได้สติเร่งเกมบุกมากขึ้น ถอดเอา เซิร์กเซ่ และ ลินเดอเลิฟ ออก เป็น ฮอยลุนด์ และ กาเซมิโร่ ลงมาแทน รวมไปจนถึง แอนโธนี่ แต่อนิจจาสุดๆ เพราะนอกจากจะลงมาสร้างประโยชน์อะไรไม่ได้แล้ว " เดอะ หมุน " ที่อยู่ในสนามราวๆ15นาที ก็เจ็บหามเปลออกนอกสนามให้ อาหมัด ดิยาโล่ มาเลื้อยแทนท้ายเกม
ยูไนเต็ด ที่หมายเร่งเครื่องจะเอาประตูชัย แถมกุนซือทีมเจ้าบ้าน โชเซ่ มูรินโญ่ ยังมาโดนใบแดงไล่ไปบนอัฒจันทร์ แต่ทว่าการบุกของปีศาจแดง กลับไม่มีลูกยากหรือเหนือบ่ากว่าแรงที่ โดมินิค ลิวาโควิช จะบินปัดป้องเซฟเลย จบ90นาที จึงเสมอกันไป 1-1
คลาสบอล อิริคเซ่น ยังดี ตะบันสุดสวย
ไปๆมาๆบนวัย32ปี ถ้าเทียบจากสถานการณ์ ณ ตอนนี้ ต้องบอกว่า นี่น่าจะเป็นผู้เล่นแผงมิดฟิลด์ที่ฟอร์มดีที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้ว สำหรับ คริสเตียน อริคเซ่น โดยเฉพาะเวลาได้เล่นในฟุตบอลรายการถ้วย ดาวเตะแดนโคนมมักจะมีประตูมาฝากเสมอๆ
เกมกับ เฟเนร์บาห์เช่ ตามแผงผังการเล่น อิริคเซ่น ไม่ได้ยืนเป็นเพลย์เมคเกอร์หมายเลข10 แต่เจ้าตัวยืนเป็นมิดฟิลด์หมายเลข8มากกว่า คอยเชื่อมเกม ขึ้นลง โดยตัวรับเป็นบทบาทของ มานูเอล อูกาเต้
ทว่าอย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลาเล่นจริงก็มีหลายช็อตเหมือนกันที่ คริสเตียน อิริคเซ่น ขยับสูงไปแทน นุสแซร์ มาซราวี ที่ถ่างออกไปเล่นริมเส้น แข้งชาวเดนมาร์ก คือหนึ่งในนักเตะที่เด่นที่สุดของปีศาจแดงเมื่อคืนเลยก็ได้ ( ยกเว้น โอนาน่า)
จังหวะจับบอล พลิกบอล เพื่อลำเลียงไปเล่นแดนหน้า อิริคเซ่น ทำได้เนียนตาเหลือเกิน จ่ายบอลให้ช็อตต่อไปเพื่อนร่วมทีมเล่นง่าย ตลอดทั้งเกมเจ้าตัวสร้างสรรค์โอกาสได้มากถึง4ครั้ง (มากที่สุดในสนาม) ผ่านบอลมากถึง50หน
และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นก็คือลูกยิงสุดสวยตะบันเต็มแรงให้ทีมขึ้นนำ 1-0 และนั่นเท่ากับว่าในฟุตบอลถ้วย คริสเตียน อิริคเซ่น 4นัด ยิงไป4ประตู กับอีก3แอสซิสต์ แตกต่างจากในลีกที่เจ้าตัวยังทำประตูไม่ได้เลย
เซิร์กซี เผลอๆอาจแย่กว่า มาร์กซิยาล
หลังเปิดตัวได้อย่างสวยหรูกับการลงมาเป็นตัวสำรองแล้วยิงประตูชัยท้ายเกม พา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฉือนเอาชนะ ฟูแล่ม 1-0 หลังจากนั้น โจซัว เซิร์กซี ก็ไม่ได้มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย 0ประตู 0แอสซิสต์ แถมยังมีหลุดเป็นสำรองอีกด้วย
เมื่อคืนถือว่าเซอร์ไพรส์ไม่น้อย กับเกมที่ต้องการ3แต้ม เอริก เทน ฮาก จะให้โอกาส เซิร์กซี ได้เป็นตัวจริงก่อน ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่พึ่งยิงประตูชัยในเกมลีกได้ ซึ่งผลลัพธ์ของอดีตกองหน้าโบโลญญ่า ก็ตอบทุกอย่างแล้ว เพราะได้อยู่ในสนามแค่ 55นาทีเท่านั้น ท้ายที่สุดเป็น ฮอยลุนด์ มาแทน
โอเคแม้ว่า เซิร์กซี จะมีแอสซิสต์ แต่นั่นก็ไม่ใช่การถวายพานที่ยากอะไร เพราะนอกจากจังหวะนั้นแล้วเจ้าตัวไม่ได้มีพิษสงอะไรเลย ยิ่งบอลมาถึงน้อย โจซัว เซิร์กซี ก็ยังบังบอล พักบอล ให้เพื่อนร่วมทีมเล่นต่อไม่ได้เท่าไหร่
ความเข้าใจเกมเข้าใจเพื่อนร่วมทีม ที่คือจุดที่ เซิร์กซี ยังต้องแก้อีกเยอะมากๆ หลายครั้งเพลย์การเล่นของเจ้าตัวขาดความมั่นใจสุดๆ มีจังหวะทีมาสวนกลับจะได้หลุดเดี่ยวถ้าจ่ายให้ การ์นาโช่ แต่ทว่าเจ้าตัวกลับไม่จ่ายจังหวะแรก มาจ่ายจังหวะสอง เล่นเอา ดาวรุ่งเลือดฟ้า-ขาว ออกอาการหัวเสียเลย
ตลอดทั้งเกม (55นาที) เซิร์กเซ่ ไม่มีโอกาสยิงแม้แต่ครั้งเดียว ได้ผ่านบอลเพียง12ครั้ง ภาษากายในสนาม บ่งบอกว่านี่คือช่วงที่ความมั่นใจหดหายเป็นอย่างมาก จนมีข่าวว่าตลาดหน้าหนาว ยูเวนตุส พร้อมยืมตัวกลับไปเล่นใน เซเรีย อา โอเค แม้ว่าหนทางจะอีกยาวไกล แต่เอาฟอร์ม ณ ตอนนี้ ต้องบอกว่า โจซัว เซิร์กซี ดูแย่กว่า อองโตนี่ มาร์กซิยาล เสียอีก
โอนาน่า ดับเบิ้ลเซฟ เขาไม่ใช่จุดอ่อนแล้ว
เหมือนจะจับจังหวะการเล่นของตัวเองได้แล้ว สำหรับ อ็องเดร โอนาน่า หลังซีซั่นแรกช่วงออกสตาร์ท พลาดจังๆจนกลายเป็นมีมและภาพติดตาเป็นจอมคอนเท้นต์ไปเลย แต่ทว่าพอท้ายฤดูกาล มาจนถึงซีซั่นใหม่ " บิ๊กโอ " ก็แทบไม่มีช็อตพลาดเข้าตาให้ได้หัวเราะ
หลังกลับมาจากพักเบรกทีมชาติ อ็องเดร โอนาน่า ก็ได้รับเลือกให้ได้รับรางวัลลูกเซฟยอดเยี่ยมประจำเดือนกันยายน ของพรีเมียร์ลีก จากช็อตดับเบิ้ลเซฟเกมที่บุกไปเสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0
เกมกับเฟเนร์บาห์เช่ จริงๆโอนาน่า เริ่มต้นได้ไม่ดีเท่าไหร่ เพราะออกมาตะปบลูกเปิดของ เซบาสเตียน ซีมันสกี้ พลาด บอลมาเข้าทาง ดูซาน ทาดิช ได้ยิงแบบไร้ตัวประกบในเขตโทษ ยังดีที่ มานูเอล อูกาเต้ เร็วพอยื่นขามาสกัดได้ทันหวุดหวิด
ช่วงท้ายครึ่งแรก โอนาน่า ก็มาโชว์ของจนได้ เมื่อ เซฟลูกโขกจ่อๆ2จังหวะของ ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี ได้แบบน่าเหลือเชื่อ เล่นเอาข้างสนาม รีแอคของ โชเซ่ มูรินโญ่ แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยว่าจังหวะนี้ทีมจะไม่ได้ประตู
ส่วนลูกที่เสียประตู จากการแก้ตัวโขกจ่อๆของ เอ็น-เนซีรี่ แม้บอลจะไม่ห่างมาก แต่มันทั้งแรงและตกพื้น สุดความสามารถจริงๆที่นายด่ายชาวแคเมอรูนจะป้องกันได้ โดยระเบียบการยืนของแนวรับแมมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดูจะมีปัญหาเหลือเกินในการรับมือลูกกลางอากาศ โดยเฉพาะการโดนครอสเข้ามาจากฝั่งของ ดิโอโก้ ดาโล่ต์ ที่แทบไม่บีบให้คู่แข่งโยนเข้ามาอย่างลำบากเลย
แซงต์-มักซิแม็ง ขนาดมึนๆเล่นไม่ค่อยออก ยังป่วนได้
เล่นในลีก ซาอุดิอาระเบีย เพียงแค่1ปี กับ อัล อาห์ลี ท้ายที่สุดก็กลับมาค้าแข้งยังลีกยุโรปจนได้ กับ เฟเนห์บาร์เช่ เอาจริงๆการกลับมาเล่นในยุโรปคราวนี้ อัลลัน แซงต์-มักซิแม็ง ดูจะดร็อปไปเยอะเหมือนกันจากตอนที่อยู่นิวคาสเซิ่ล
เมื่อคืนเริ่มต้นมา แซงต์-มักซิแม็ง ก็ไม่ใช่ว่าจะดีสักเท่าไหร่ ดูงงๆ ทำอะไรเลอะเทอะพอสมควร โดยเฉพาะการจะคอมโบกับแบ็กซ้ายอย่าง ไบรท์ โอซายี-ซามูเอล ที่ดูล้นๆเกินๆพอกัน แต่ทว่าความอ่อนหัดของ ดิโอโก้ ดาโล่ต์ ทำให้ แซงต์-มักซิแม็ง ค่อยๆมีโอกาสได้ลากอย่างตั้งใจ จนจูนติดในที่สุด
ดาโล่ต์ ที่ไม่ยอมเข้าบอลสกัดเอาแต่ถอย ทำให้ปีกชาวฝรั่งเศส เล่นสบายขึ้น ได้กระชากเลื้อยเป็นระยะ ดูวูบวาบและน่าหวาดเสียวมากๆ จนท้ายที่สุดแล้ว แซงต์-มักซิแม็ง ก็ได้ครอสบอลจากทางด้านซ้ายอย่างเหมาะเหม่งให้ เอ็น-เนซีรี่ โขกจบลงพื้นไม่เหลือซาก
ตลอด79นาที ที่ได้อยู่ในสนามอดีตแข้งนิวคาสเซิ่ล เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง 3ครั้ง มีจ่ายคีย์พาสได้ถึง2หน ครอสบอลอีก2ครั้ง แต่ไม่มีโอกาสจบสกอร์ด้วยตัวเองเลย อีกส่วนก็เพราะว่าแบ็กซ้ายอย่าง โอซายี-ซามูเอล ไม่ได้ช่วยเติมขึ้นมานัก เมื่อเติมขึ้นมาก็ติดๆขัดๆตลอด
การเลือกโจมตีด้วยการบอมบ์ด้านข้างตามแท็กติกของ โชเซ่ มูรินโญ่ ดูจะได้ผลมากๆกับ กองหน้าที่มีความสูงใหญ่อย่าง เอ็น-เนซีรี่ ซึ่งมันก็ตรงกับจุดบอดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะผู้เล่นปีศาจแดง ไม่เข้าไปบีบหรือกดดันเวลาตัวริมเส้นของ เฟเนร์ฯ เปิดเข้ามาเลย
เทน ฮาก จัดตัวค้านสายตา / เกม ยุโรปผี สถิติเลวร้าย
การชนะคู่แข่ง2นัดติดต่อกัน ดูจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยากจริงๆสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ณ ฤดูกาลนี้ โดยเกมพรีเมียร์ลีก เสาร์ที่ผ่านมาพวกเขาพึ่งแซงเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด ไปได้ 2-1 นัดกับ เฟเนร์บาห์เช่ ปีศาจแดงต้องเก็บ3แต้มให้ได้ เพราะใน ยูโรป้า 2นัดก่อนหน้า พวกเขาเสมอรวด มีเพียง2แต้ม
เมื่อรายชื่อ11ตัวผู้เล่นออกมาเล่นเอาแฟนบอลผีแดง งงไม่น้อยก็การจัดตัวของ เอริก เทน ฮาก การไม่มี บรูโน่ แฟร์นันเดซ กุนซือชาวดัตช์เลือกใช้งานแบ็กขวาอย่าง นุสแซร์ มาซราวี มาเป็นเพลย์เมคเกอร์ดื้อๆ ทั้งที่ตำแหน่งดังกล่าว อิริคเซ่น เล่นได้ (ถูกถอยไปเล่นเบอร์8แทน)
และผลลัพธ์ก็ไม่ผิดจากที่คาดเท่าไหร่ เพราะ มาซราวี ทำอะไรไม่ได้เลยในบทบาทหมายเลข10 เพราะไม่ใช่ธรรมชาติของเจ้าตัว ไม่แปลกใจที่เราจะไม่ได้เห็นลูกจ่ายทะลุทะลวงจากแข้งชาวโมร็อกโกรายนี้ แถมยังวิ่งทับไลน์เพื่อนด้วย
ซึ่งความผิดพลาดของ เทน ฮาก ก็ตอกย้ำผ่านการเปลี่ยนตัวนี่แหละเพราะสุดท้ายแล้ว เพียง น.55 มาซราวี ก็ถูกโยกไปเล่นแบ็กตามเดิม สิ่งหนึ่งที่ไม่เข้าใจของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นก็คือ เวลานำคู่แข่งพวกเขาจะผ่อนเกม แทนที่จะบุกต่อ ต้องโดนตีเสมอก่อนค่อยบุกอีกรอบ ซึ่งก็จะเห็นว่าถ้าตั้งใจเล่นเกมบุกพวกเขาก็ทำได้
3เกมใน ยูโรป้า มีเพียงแค่3แต้ม เสมอรวด แถมยังขึ้นนำคู่แข่งก่อนทุกนัด นั่นเท่ากับว่า 11นัดหลังสุดใน เวทียุโรป ในยุคของ เอริก เทน ฮาก พวกเขาเอาชนะได้เพียงแค่1นัดเท่านั้น แถมอันดับในตารางยังแย่มากๆ พรีเมียร์ลีก อันดับ12 ยูโรป้า ลีก อันดับ21
มิหนำซ้ำกุนซือหัวโล้น ยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ทั้งที่ได้ตัวมาเสริมทัพทุกซัมเมอร์นั่นก็คือ การเสียประตูเร็ว ต้นครึ่งแรก ออกสตาร์ทครึ่งหลัง รูปแบบการเข้าทำที่ไม่ชัดเจน อาศัยความสามารถเฉพาะผู้เล่นมิติเดียว ยังมองไม่ออกจริงๆว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้อุ้งมือการทำทีมของ เอริก เทน ฮาก จะกลับไปสู่แชมป์ ภายในปี 2028 ตามที่ โอมาร์ เบอร์ราดา ตั้งเป้าหมายไว้ได้อย่างไร
- คอลัมน์นิสต์
- คอลัมน์บอล ยูโรป้า ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฟเนร์บาห์เช เอริก เทน ฮาก โชเซ่ มูรินโญ่ คริสเตียน อิริคเซ่น วิเคราะห์บอล ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี
- 137
- 25 ต.ค. 2567 15:33