ดับทีมบ๊วย ขึ้นที่ 6 ! ผี แซง ดาบคู่ 4-2 บรูโน่ โคตรพระเอก ยิงเบิ้ล พร้อมแอสซิสต์
กลายเป็นว่าพอเจอใครก็ลำบากหืดขึ้นคอตลอดสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เห็นได้ชัดสุดๆคือเกมรอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะกว่าจะเอาชนะ โคเวนทรี ทีมอันดับ8จาก เดอะ แชมเปี้ยน ชิพ ได้ ต้องลากยาวไปจนถึงการดวลจุดโทษ ทั้งที่พวกเขาขึ้นนำทัพ " ช้างกระทืบโรง " ไปก่อนถึง 3-0 แต่ทว่าแผ่วมาโดนตีเจ๊าเป็น 3-3 อย่างน่าเหลือเชื่อ
ปีศาจแดง ที่สถานการณ์ในลีกตอนนี้น่าจะหมดสิทธิในเชิงปฎิบัติแล้วกับการทำอันดับไปเล่น ถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในพรีเมียร์ลีก ลุ้นเพียงแค่จบอันดับให้ดีที่สุดเท่านั้น ซึ่งเกมกลางสัปดาห์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเด็ด ได้กลับมาเล่นในบ้านเจอกับบ๊วย เต็ง1ตกชั้น อย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
ก่อนเกม เอริก เทน ฮาก ได้มีการปรับผู้เล่น2ตำแหน่งจากนัดโคเวนทรี นั่นก็คือ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่โดนสวดยับเยินในเกมวันอาทิตย์ และมีอาการบาดเจ็บ ทำให้ไม่มีชื่ออยู่ในทีม เป็น อันโตนี่ ที่ได้โอกาสแทน พร้อมขยับ อเลฮานโดร การ์นาโช่ มาฝั่งซ้ายตามเดิม
ส่วนมิดฟิลด์คู่กลาง ค็อบบี้ ไมนู ตัวจริงตามเดิม แต่เปลี่ยนตัวจริงจาก สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์ มาเป็น คริสเตียน อิริคเซ่น ส่วน กาเซมิโร่ ก็ยังต้องขัดตราทัพยืนเป็นเซ็นเตอร์ตามเดิม เพราะรายดาวรุ่งอย่าง วิลลี่ คัมบวาลา ยังไม่หายเจ็บ
สิ้นเสียงนกหวีดเป่าเริ่มเกมมา ต้องบอกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหนือกว่าผู้มาเยือนตามชื่อชั้นนักเตะ แต่ทว่าพวกเขาก็ขาดความเฉียบคมในการจบสกอร์มากๆ โดยเฉพาะ การ์นาโช่ แล้วความผิดพลาดส่วนตัวในการจ่ายบอลของ อ็องเดร โอนาน่า ก็มาทำ เชฟฟิลด์ ขึ้นนำก่อน1-0 จาก เจเด้น โบเกิ้ล น.36
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ก็มาขวิดบอลเปลี่ยนทางให้ปีศาจแดง ตีเจ๊าไปได้ 1-1 น.42 จบ45นาทีแรก ไปด้วยสกอร์ดังกล่าว ออกสตาร์ทครึ่งหลัง ลูกทีมของ คริส ไวเดอร์ ก็มาทำแฟนบอลเจ้าบ้านช็อกอีกครั้ง ขึ้นนำ 2-1 จาก เบน เบเรตัน ดิอ๊าซ น.50
แมนฯยูไนเต็ด ที่โดนทีมบ๊วยบุกมานำคาถิ่นโรงละครแห่งความฝัน ก็มารวมใจกันสู้เพิ่อแฟนบอลอีกครั้ง มายิง 3เม็ดรวด แซงเอาชนะไป 4-2 กัปตัน บรูโน่ แฟร์นันเดซ ซัดจุดโทษ และ ตะบันไกลสุดสวย น.61 และ 81 ก่อนที่จะทำแอสซิสต์ให้ ราสมุส ฮอยลุนด์ ซัดตอกฝาโรง น.85
3แต้มดังกล่าวทำให้ทีมของ เอริก เทน ฮาก ขยับขึ้นมาอยู่ที่6ของตารางแซงนิวคาสเซิ่ล ที่บุกไปแพ้ คริสตัล พาเลซ 0-2 แต่ถึงกระนั้นก็ดีต้องบอกว่า ยูไนเต็ด ยังมีเรื่องที่ต้องให้กังวลอีกเยอะมากๆ แม้จะเก็บ3แต้มได้ แผงรับที่เหมือนไม่มีระเบียบแบบแผนในการเล่น ทำให้คู่แข่งมีโอกาสล่อเป้ามากมาย รวมถึงถือว่าต้องออกแรงหนักพอควรกว่าจะเอาชนะทีมบ๊วยได้
กัปตัน บรูโน่ เข้าเบรกช่วงทำประตู ไม่เคยท้อแม้ทีมฟอร์มแย่
เกม เอฟเอ คัพ ที่ฟอร์มไม่ค่อยดี ปล่อยให้ โคเวนทรี ตีเสมอได้ 3-3 มีนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลายรายเลยที่เล่นไม่ค่อยดีและฟอร์มตกไปจากมาตรฐาน แต่หนึ่งในนั้นไม่ใช่ บรูโน่ แฟร์นันเดซ แน่ๆ เพราะในระยะหลัง กัปตันหน้าหนวดรายนี้ ช่วยทีมไว้ได้เยอะมากๆ
นอกจาก อเลฮานโดร การ์นาโช่ แล้ว ก็มี บรูโน่ แฟร์นันเดซ นี่แหละ ที่พอมีทีเด็ดสร้างสรรค์เกม ค่ายคิลเลอร์พาส ให้เพื่อนร่วมทีมได้ ซึ่งในรายของดาวรุ่งชาวอาร์เจนติน่า จะไปในทางปั่นป่วนจากริมเส้นมากกว่า
เมื่อคืนต้องบอกว่า บรูโน่ คือที่พึ่งและ " เดอะ แบก " ของทีมจริงๆ โอเค แม้ไม่ใช่มิดฟิลด์ในเชิงรับ เพราะปรกติยืนเป็นเพลย์เมคเกอร์หรือบางจังหวะเป็นเบอร์8มากกว่า แต่ทว่าความขยันในการไล่บอล เรื่องพลังงานต่างๆ แข้งเบอร์8 มอบพลังงาน เป็นตัวอย่างให้เพื่อนร่วมทีมเสมอ ช่วงท้ายเกมทดเวลาบาดเจ็บ ยังพยายามจะปั้นกองหน้าเจ้าหนู อีธาน วีทลี่ย์ อีกด้วย
แฟร์นันเดซ เหมา2เม็ด ลูกแรกมาจากจุดโทษ ส่วนเม็ดสองนั้นงามหยดเหลือเกินกับการตะบันไกล นอกกรอบเขตโทษร่วมๆ30หลาอย่างสุดสวย ซึ่งการยิงไกลเป็นอาวุธที่ถือว่าหายไปนานพอสมควรของเจ้าตัว นอกจากนี้ บรูโน่ ยังมีแอสซิสต์ แบบถวายพานให้ ฮอยลุนด์ ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายเพื่อเรียกความมั่นใจอีกด้วย หลังฝืดมานานมาก
บรูโน่ แฟร์นันเดซ ตลอดทั้งเกมจ่ายบอลคีย์พาสไปถึง 8ครั้ง - ครอสบอล 5ครั้ง และวางบอลยาวอีก8หน 7นัดหลังสุดรวมทุกรายการ นี่คือช่วงเข้าฝักของดาวเตะเบอร์8รายนี้เลย เพราะยิงไป 8ประตู กับอีก 2แอสซิสต์ รวมทุกรายการ44นัด 15ประตู กับอีก 11แอสซิสต์
อาวุธเด็ด แม็คไกวร์ เริ่มมา กาเซมิโร่ พอแก้ขัดได้
กลับมาฟอร์มใช้ได้ ช่วงที่ทีมขาดเซ็นเตอร์ไปแทบยกแผงจริงๆสำหรับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ แม้เกมรับของทีมจะเหมือนเลือดที่ไหลไม่ยอมหยุด เสียประตูเยอะทุกนัด แต่ทว่าในเรื่องของรายละเอียดการเล่น กองหลังเบอร์5ไม่ได้แย่เลย
แม็คไกวร์ ต้องผนึกกำลังกับ กาเซมิโร่ ที่ขัดตราทัพมาเล่นเซ็นเตอร์2นัดติดต่อกัน โดยระยะหลังที่เสียประตู มักจะเป็นความผิดพลาดส่วนตัวบุคคลของนักเตะมากกว่า รวมไปจนถึงแบบแผนระเบียบในเกมรับ คู่มิดฟิลด์ที่ชะลอเกมไม่ได้ก็มีส่วนเช่นกัน
สำหรับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ หนึ่งในอาวุธเด็ดเจ้าตัว ที่ดูจะได้ผลมากๆ ช่วง 2-3นัดที่ผ่านมานั่นก็คือ ความสูงใหญ่ ความถนัดในการเล่นลูกกลางอากาศ และเมื่อคืนเจ้าของค่าตัว 80ล้านปอนด์ ก็ขวิดประตูอย่างเฉียบคมให้ทีมตีเสมอเป็น 1-1 ก่อนหมดเวลา45นาทีแรก นัดกับโคเวนทรี เจ้าตัวก็โขกลูกเตะมุมตุงตาข่ายมาแล้ว
นอกจากนี้ แม็คไกวร์ ยังเรียกจุดโทษให้ทีมได้อีกด้วย เรียกว่าบอลโด่งในเขตโทษคู่แข่งถ้าลอยไปถึงเจ้าตัวทำได้ได้ลุ้นจริงๆ นอกจากนี้การตะลุยขึ้นเกมจ่ายบอลจากแดนหลัง ก็ทำให้ทีมได้ประโยชน์พอสมควร
ส่วน " พี่เกษม " ที่ต้องขัดตราทัพเล่น โอเคในแง่ของการยืนตำแหน่ง ยังดูผิดพลาดเยอะกับการเล่นเป็นเซ็นเตอร์ แต่ทว่าในเรื่องของการอ่านทางบอล สกัดบอล เวลาคู่แข่งหลุดมา กาเซมิโร่ ทำได้แจ่มเลยทีเดียว แต่ทว่าก็อาจด้วยเพราะคู่แข่งอ่อนชั้นมากๆก็เป็นได้
ดาโล่ต์ ยังไว้ใจไม่ได้ ดีแย่สลับ
ด้วยความที่ผู้เล่นแบ็กในทีมเดี้ยงไปหมดทั้ง ลุค ชอว์ - ไทเรลล์ มาลาเซีย รวมไปจนถึง เซร์คิโอ เรกีลอน ที่เอามาขัดตราทัพไม่ได้ถูกเซ็นต่อในช่วงตลาดหน้าหนาว ทำให้ ณ สถานการณ์ปัจจุบัน มีแบ็กธรรมชาติให้ใช้งานเพียงแต่ ดิโอโก้ ดาโล่ต์ และ อารอน วาน-บิสซาก้า
หลายนัดที่ผ่านมา วาน - บิสซาก้า ที่ขัดตราทัพเล่นแบ็กซ้ายได้ไม่ดีตลอด ด้วยความที่เป็นคนถนัดขวา ไปกับซ้ายไม่ได้ จึงทำให้แทบไม่ได้เห็นแบ็กโอเวอร์แล็ปในการช่วยเหลืองานตัวรุกฝั่งซ้ายเลย
ดาโล่ต์ ถือว่าเริ่มต้นได้ดีกับปีศาจแดงนะ เพราะมีโอกาสซัดด้วยซ้ายกรอบเขตโทษ บอลจะเสียบตาข่ายอยูแล้ว แต่ โฟเดอร์ริ่งแฮม บินเซฟได้ นอกจากนี้ แบ็กชาวโปรตุเกสควรมีชื่อบนสกอร์บอร์ดมากๆ จากจังหวะหลุดเดี่ยว แต่มัวแต่ก้มหน้ามองบอล จนโดนผู้เล่นเชฟฟิลด์แหย่สกัดบอลได้แบบเสียของสุดๆ
สำหรับประตูที่โดนนำ 2-1 แบ็กเบอร์20รายนี้ ก็มีส่วนต้องรับผิดชอบเหมือนกัน เพราะทำบอลเสียหน้ากรอบเขตโทษตัวเอง ฟอร์มครึ่งแรกเกมรับพอได้ แต่ครึ่งหลังเหมือนจะเติมขึ้นไปและลงมาช่วยเกมรับไม่ทันบางจังหวะเหมือนกัน
ส่วน "ไอ้แมงมุม " ส่วนหนึ่งต้องให้ความยุติธรมด้วยว่านี่คือตำแหน่งที่ไม่ถนัดของเจ้าตัวเท่าไหร่ สำหรับแบ็กซ้าย แต่ทว่ามันก็ไม่ควรที่จะตีบตันขนาดนั้นในการครอสบอลหรือเติมเกมรุก เมื่อคืนการเล่นเป็นแบ็กขวา วาน - บิสซาก้า ก็ไม่ได้ดีขึ้นเลยนะ
ไม่มีแรชฟอร์ด แล้วเกมไหลลื่น(กว่าเดิม)
อาการบาดเจ็บของนักเตะ นี่คือสิ่งที่หลอกหลอนและฉุดรั้งผลงานความสม่ำเสมอของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พอสมควร แต่ทว่าอาการเดี้ยงที่เกิดขึ้นกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด มันคือสิ่งที่ทำให้แฟนบอลปีศาจแดงโล่งใจเปล่าไม่รู้เหมือนกัน
มาร์คัส แรชฟอร์ด เดินกะเผลกออกจากสนามในเกมรอบรองกับโคเวนทรี ทำให้นัดกับ เชฟฟิลด์ " แรชชี่ " ไม่มีชื่ออยู่ในทีม ส่งผลให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ได้ขยับมาเล่นตำแหน่งตัวรุกฝั่งซ้ายตามเดิม พร้อมกับ อันโตนี่ ได้รับโอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทางริมเส้นฝั่งขวา
พอปีศาจแดงไม่มี แรชฟอร์ด ที่ชอบไปยึกๆยักๆทางฝั่งซ้าย หรือเลี้ยงไปหาดงฝ่าเท้าคู่แข่งที่ยืนออกันอยู่หลายคน ทำให้เกมบุกของผีแดง ดูราบรื่นพอสมควร มีคนพยายามจ่ายบอลให้ ฮอยลุนด์ มากขึ้น รวมถึง อันโตนี่ เอง แม้จะเล่นไม่ดี แต่ก็ไม่พยายามพาบอลไปเอง หรือเอาบอลไว้กับตัวมากเกินไป
เอาง่ายๆว่า3ตัวบน รวมถึงเพลย์เมคเกอร์อย่าง บรูโน่ มีการประสานงานกันมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามน่าเสียดายเหมือนกันที่ " เดอะ หมุน " พอได้รับโอกาส ก็ไม่สามารถสร้างอิมแพคให้ทีมได้ กลายเป็น อาหมัด ดิยาโล่ ตัวสำรองที่ลงมาแทน ทำผลงานได้เข้าตากว่า
อดีตปีกอาแจ็กซ์ อยู่ในสนามได้แค่ราวๆ55นาทีเท่านั้น สำหรับ การ์นาโช่ แม้จะมี1แอสซิสต์ให้ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ขวิดเปลี่ยนทางเป็นประตู แต่ก็น่าตำหนิเหมือนกับกับโอกาสยิงจ่อๆในเขตโทษ ที่ซัดไปติดเซฟโกลเชฟฟิลด์
โฟเดอร์ริ่งแฮม เซฟอุตลุด เชฟฟิลด์...ไม่รอดแน่
นับตั้งแต่ยังไม่เปิดฤดูกาล เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก็เป็นตัวเต็งอันดับ1ตลอดที่จะตกชั้นกลับไปเล่นบ้านเก่า แชมเปี้ยนชิพ บวกเมื่อเห็นรายชื่อตัวผู้เล่น และการเสริมทัพ ต้องบอกว่า ขุมกำลังทีม "ดาบคู่ " เป็นนักเตะระดับเกรดC เกรด D มองไม่เห็นทางเลยที่พวกเขาจะรอด
และเชฟฟิลด์ ก็เป็นอย่างนั้นมาตั้งแต่ต้นฤดูกาล ไม่มีมุมไหนที่พวกเขาจะฉายแววว่ารอดตกชั้นได้สักนิด ทีมของ คริส ไวเดอร์ มีเกมแพ้หลุดลุ่ยขาดลอยเต็มไปหมดทั้ง นิวคาสเซิ่ล 0-8 / อาร์เซน่อล 0-5 / เบิร์นลี่ย์ 0-5 / แอสตัน วิลล่า 0-5 / ไบร์ตัน 0-5 และ อาร์เซน่อล 0-6
ทำให้มีอยู่เพียง16แต้ม จาก34นัด เสียไปมากมโหฬารถึง 92ประตู เรียกได้ว่ามีคุณสมบัติด้านลบเพรียบพร้อมที่จะตกชั้นอย่างเต็มเปี่ยม ตามหลังทีมอันดับ17 โซนปลอดภัย น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ มากถึง10แต้ม ขณะที่เหลือโปรแกรมอีก4นัดเท่านั้น มองยังไงก็ไม่รอด
การบุกมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เชฟฟิลด์ อุตส่าห์ ขึ้นนำได้ถึง 2ครั้ง 2ครา แต่ทว่าก็มาแผ่วโดนกดไป4เม็ด ซะงั้น เอาจริงๆ " ดาบคู่ " เกือบจะไม่ได้ลุ้นอะไรแล้วหากไม่ได้ เวสลี่ย์ โฟเดอร์ริ่งแฮม เซฟอุตลุต
นายด่ายชาวอังกฤษ ที่วันนี้ฟอร์มหนึบเป็นปลาหมึกยักษ์ ปัดป้องลูกยิงของผู้เล่นปีศาจแดงได้หลายช็อต ทั้งลูกซัดนอกกรอบของ ดาโล่ต์ 26วินาทีแรก อ่านทางลูกยิงของ การ์นาโช่ ในเขตโทษออก
และหยุดลูกหลุดเดี่ยวของดาวรุ่งชาวอาร์เจนไตน์ อีกช็อต ใช้ขาเซฟลูกยิงมุมแคบของ ฮอยลุนด์ ปัดลูกยิงเรียดในเขตโทษของ ไมนู แต่ถึงกระนั้นก็ดี แม้จะเป็นโกลที่เซฟเยอะเป็นลำดับต้นๆของลีก แต่ทว่าด้วยแนวรับที่หลวมและพร้อมเป็นบ่อเสมอ ทำให้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เก็บได้เพียง1คลีนชีตเท่านั้น จาก34นัดในพรีเมียร์ลีก
- คอลัมน์นิสต์
- พรีเมียร์ลีก คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด บรูโน่ แฟร์นันเดซ เอริก เทน ฮาก
- 433
- 25 เม.ย. 2567 15:21