พุ่งขึ้นที่5 ! ผี เฮ3นัดรวด บุกถลกหนังจิ้งจอก 1-0 ซานโช่ ฮีโร่
สถานการณ์ ณ ปัจจุบัน น่าจะทำให้แฟนบอลปีศาจแดง ทุเลาความเจ็บปวดจาก2นัดแรกในการออกสตาร์ทฤดูกาล 2022-2023 อยู่ไม่น้อย เมื่อพวกเขาคว้าชัยในพรีเมียร์ลีกได้3นัดติดต่อกันเข้าให้แล้ว จากที่เคยจมเป็นบ๊วยหรือรองบ๊วย พุ่งทยายมาอยู่ที่อันดับ5ของตาราง พร้อมวิธีการเล่นและสไตล์ที่ดูเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น
เกมพรีเมียร์ลีกวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาที่สนาม คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ระหว่างเจ้าบ้าน เลสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังเจอวิกฤติอย่างหนัก ด้วยการจมอยู่อันดับ20ของตาราง มีอยู่เพียง1แต้ม จาก4นัด เปิดบ้านต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่บอลกำลังเป็นทรงขึ้นมา
โดยผลลัพธ์90นาที เป็นทางฝั่งของปีศาจแดง ที่แม้ไม่ได้ฟอร์มฉายแสงไฉไลมาก แต่ทว่าก็บุกมาควัก3แต้มออกไปได้สำเร็จ ด้วยสกอร์ 1-0 จากประตูชัยของ เจดอน ซานโช่ น.23 ที่ล็อกหลบ แดนนี่ วอร์ด เข้าไปเช็กบิลโล่งๆ
รูปเกมโดยรวมต้องบอกได้เลยว่า เป็นทางฝั่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำได้ดีกว่า แต่ทว่าก็ยังมีความผิดพลาดในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่เหมือนกัน นั่นก็คือการจ่ายบอล จังหวะสวนกลับ
เพราะเมื่อคืนลูกทีมของ เอริก เทน ฮาก มีโอกาสหลายครั้งมากๆ ที่จะปิดสกอร์หนีห่างเป็น2-0 หรือ 3-0 หลายครั้ง แต่การต่อบอลจังหวะสุดท้ายตกม้าตายตลอด
สิ่งที่ดีขึ้นอีกอย่างที่ชัดเจนของทีมสีแดงเมืองแมนเชสเตอร์ นั่นก็คือ ความรัดกุมในเกมรับ เพราะพวกเขาได้คู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟที่ลงตัวทั้ง ราฟาเอล วาราน และผู้มาใหม่ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่เข้าขากันเป็นอย่างมาก คนหนึ่งชน คนหนึ่งช้อน ซึ่งวารานเอง ก็บัญชาการจัดระเบียบเกมรับกันได้เป็นอย่างดี
ส่วน สก็อต แม็คโทมิเน่ย์ ก็กลับมาเล่นได้ดีอย่างน่าอัศจรรย์ใจ หลังจากทีมได้เซ็น คาเซมิโร่ เข้ามา ทำให้มิดฟิลด์ชาวบราซิลรายนี้ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวสำรองไปก่อน รวมไปจนถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่น่าจะชัดเจนแล้วว่า เจ้าตัวไม่ใช่ตัวเลือกอันดับแรกในตำแหน่งศูนย์หน้า ตามแท็กติกหรือวิธีการเล่นของทีม
ฝั่งผู้ปราชัย เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ต้องบอกว่าอาการของพวกเขาถือว่าหนักพอสมควร กับการแพ้4จาก 5นัดแรก อมบ๊วยของตาราง ที่ชัดเจนที่สุดเห็นจะเป็นการเสียนายทวารคู่บุญอย่าง แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ไปให้กับนีซ โกลตัวสำรองอย่าง แดนนี่ วอร์ด ก็แทบจะสร้างความอุ่นใจให้ไมได้เลย
การไม่มีผู้เล่นขาเข้าหน้าใหม่เข้ามา ดูจะส่งผลกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่น้อย (ล่าสุดพึ่งได้เซ็นเตอร์อย่าง เว้าท์ ฟาส มาจาก แร็งส์) ทั้งในเรื่องของขนาดทีม และคุณภาพตัวผู้เล่นที่มีอยู่ในทีมตอนนี้ โดยเฉพาะคู่เซ็นเตอร์อย่าง จอห์นนี่ อีแวนส์ ก็อายุปาเข้าไป 34ปีแล้ว ส่วน ดาเนี่ยล อมาร์ตี้ ก็ไม่ใช่เซ็นเตอร์โดยธรรมชาติ
ผีเจอแบ็กโฟร์ที่ลงตัว
การไม่มีกัปตันทีม จอมวางระเบิดอย่าง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ อยู่ในสนาม ก็ทำให้แนวรับของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดูสงบนิ่งกว่าเดิมอยู่ไม่น้อย ไม่ต้องมาคอยเสียวว่าจะมีจังหวะแปลกๆแจกให้คู่แข่งรวมไปจนถึง ให้เพื่อนร่วมทีมช่วยกันแก้ไหม
ราฟาเอล วาราน ผนึกกำลังกับ "พี่เล็ก " ลิซานโดร มาร์ตินเนซ ได้อย่างกลมกล่อมลงตัว คนหนึ่งเข้าปะทะ คอยชน อีกคนคอยเก็บตก สกรีนจังหวะสอง โดยอดีตกองหลัง เรอัล มาดริด ฟอร์มแจ่มมากๆ เมื่อคืน คอยแหย่ คอยซ้อน ดักจังหวะอันตรายได้เกือบหมด
บัญชาการระเบียบเกมรับได้เป็นอย่างดี กองหลังชาวฝรั่งเศสมีสถิติที่ยอดเยี่ยมทั้ง เข้าแท็กเกิ้ล2ครั้ง - ตัดบอลได้1ครั้ง - เคลียร์บอลได้ 3หน ผนึกกำลังกับ ลิซานโดร จนแทบจะทำให้ เจมี่ วาร์ดี้ กลายเป็นวิญญาณ หายออกไปจากเกม
ดาโล่ต์ ที่แต่ก่อนเป็น " ดารั่ว " 3นัดที่ผ่านมา แบ็กขวาชาวโปรตุเกสรายนี้ แม้จะไม่ได้มีสกิลการเล่นเกมรับที่ดีอะไร แต่สิ่งที่มาทดแทนนั่นก็คือ ความขยันความทุ่มเท เข้าบอลหนักในทุกๆจังหวะ ที่ต้องดวลกับพวกนักเตะที่มีความเร็วสูง
เมื่อคืน ดิโอโก้ ดาโล่ต์ มีการเข้าแท็กเกิ้ลได้ถึง5ครั้ง และที่เรียกเสียงปรบมือจากแฟนบอล และเรียกกพาสชั่นจากเพื่อนร่วมทีมแนวรับคนอื่นๆ เห็นทีจะเป็นการพยายามไปบล็อกลูกเปิดของ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ จนทำให้ได้ลูกตั้งเตะจากประตูมา แทนที่จะเสียเป็นลูกเตะมุม
ส่วนไทเรลล์ มาลาเซีย ต้องบอกว่าเป็นนัดที่เจ้าหนูชาวดัตช์ มีการเติมเกมรุกที่ติดๆขัดๆ แต่ทว่าเกมรับก็ไม่มีอะไรผิดพลาด สิ่งสุดท้ายที่ต้องชื่นชมคือ แนวรับปีศาจแดงชุดนี้ สามารถแก้เพรสเวลาโดนคู่แข่งบีบเร็วได้แล้ว ไม่มีเจอบีบแล้วจ่ายบอลออกอ่าวออกทะเลเหมือนอดีตที่ผ่านมา
นัดนี้ทำให้เห็นว่าทำไมผีถึงซื้อ แอนโทนี่
แม้นัดนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้ประตูชัยจากผู้เล่นในตำแหน่งปีกอย่าง เจดอน ซานโช่ แต่ทว่าภาพรวมตลอดทั้งเกมของเหล่าบรรดาตัวรุกริมเส้นของทีมยังถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานที่วางไว้อยู่ไม่น้อย
ซานโช่ รับบอลจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด แล้วแตะหลบ แดนนี่ วอร์ด เข้าไปยิงง่ายๆ แต่ทว่าหลังจากนั้นอดีตปีกดอร์ทมุนด์ ก็เหมือนจะมีฟอร์มที่ค่อยๆแผ่วลงไป จนหายออกไปจากเกม เหมือนหลายๆนัดที่ผ่านมา
รวมไปจนถึงเจ้าหนู แอนโธนี่ อีแลงก้า ที่ยังได้รับความไว้วางใจจาก เทน ฮาก ให้ออกสตาร์ทเป็น11ผู้เล่นตัวจริงอีกครั้ง ซึ่งหนังก็ออกมาเป็นม้วนเดิมนั่นก็คือ แข้งดาวรุ่งชาวสวีเดน ไม่ได้สำแดงพิษสงอะไรออกมาแล้ว
ความเร็วของ อีแลงก้า ไม่ได้ใช้ออกมาให้เป็นประโยชน์ในนัดนี้ เพราะสเต็ปสกิลการหลอกล่อของเจ้าตัว ดูจะพื้นๆเกินกว่าที่ แข้งผู้เล่นเลสเตอร์ จะหลงเหลี่ยม แต่ทว่าก็ยังได้ลูกขยันวิ่งไล่บี้ดเวลาที่เสียบอล ปีกทั้งสองข้างของปีศาจแดงเมื่อคืน ดูจะมีความPassive จนเกินไป
59 คือจำนวนนาทีที่ อีแลงก้า ได้อยู่ในสนามเมื่อคืนโดยแข้งวัย20ปี ไม่สามารถเลี้ยงบอลผ่านผู้เล่นทีมสุนัขจิ้งจอกได้เลยแม้แต่หนเดียว และนี่ก็เป็นนัดที่3ติดต่อกันแล้ว ที่ปีกซ้าย-ขวา ของยูไนเต็ด ไม่ได้อยู่จนครบจบเกม 90นาที เพราะค่อยๆแผ่วและบทบาทหายออกจากทีมไปเอง
โรนัลโด้ กับบทบาทตัวสำรอง
หลังจากที่งอแง แสดงเจตนารมณ์อยากย้ายทีมมาพักใหญ่ๆ แต่ตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะยังคงเป็นผู้เล่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างน้อยไปจนถึงตลาดนักเตะหน้าหนาวเดือนมกราคมนี้
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามแม้จะอยู่ต่อ แต่ทว่าบทบาทของ CR7 ก็ไม่ได้เป็นหัวหอกตัวจริงที่ลงสนามทุกนัดแต่อย่างใด ซึ่งในฤดูกาล 2022-2023นี้ โรนัลโด้ ได้เป็นตัวจริงแค่ 1นัด สำรองอีก4นัด ซึ่งอาจจะด้วยอายุของเจ้าตัวเอง รวมไปจนถึงแท็กติก สไตล์การเล่นของ เอริก เทน ฮาก ที่อยากได้กองหน้าที่สด และคอยวิ่งหาช่องตลอดด้วย
โดยเมื่อคืน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ลงสนามเป็นตัวสำรองมา น.68 ในตำแหน่งหน้าเป้า และขยับเอา มาร์คัส แรชฟอร์ด ไปเล่นทางฝั่งซ้ายแทน ช่วงแรกที่ถูกส่งลงมา เจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ 5สมัย ดูจะติดๆขัดๆบ้างกับเพื่อนร่วมทีม
แต่ทว่าเมื่อจับจังหวะจูนได้ โรนัลโด้ ดูจะมีประโยชน์ไม่น้อย ในเรื่องของการเก็บบอลพักบอลในแดนหน้า ที่ทำได้ดีกว่า แรชฟอร์ด ชัดเจน นอกจากนี้ "พี่โด้ " ยังเกือบทำประตูได้ด้วยจากจังหวะตีลังกา รวมถึงยังใจกว้างจะตบกลับมาให้ อิริคเซ่น เข้าชาร์ต แต่ทว่าโดนเคลียร์ออกไปเสียก่อน
โอเค แม้ว่าจังหวะสปีด กระชาก จะไม่มีให้เห็นแล้ว สำหรับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในวัย37ย่าง38 แต่ทว่าเซนการจ่ายบอลการเคลื่อนที่ของยอดแข้งชาวโปรตุเกส ยังคงดูอันตรายเสมอ แม้จะไม่ได้เป็นตัวจริงทุกนัด แต่นี่จะเป็นอีกหนึ่งอาวุธอันตรายของปีศาจแดงเช่นกัน หากได้ลุกขึ้นมาบนม้านั่งสำรอง
วอร์ด ยังดูไม่น่าไว้ใจเสมอ
การปล่อยนายทวารคู่บุญอย่าง แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ที่อยู่กับทีมมานานถึง 11ฤดูกาล ไปให้กับ นีซ ถือว่าเป็นช่องโหว่ ที่ใหญ่พอสมควรสำหรับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลใหม่ 2022-2023 นี้ เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ผู้รักษาประตูตัวแทนที่สมน้ำสมเนื้อมาเลย
2-3 ซีซั่นที่ผ่านมา ทัพสุนัขจิ้งจอกที่ไม่ได้มีแนวรับที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว หลายครั้งหลายคราพวกเขาก็รอดมีแต้มกลับมาได้ เพราะความเหนียวหนึบของ ลูกชาว ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล รายนี้
ปัจจุบัน เลสเตอร์ ซิตี้ ใช้ แดนนี่ วอร์ด เป็นผู้รักษาประตู ตัวจริงโดยประวัติที่ผ่านมาโกลชาวเวลส์รายนี้ ก็ช่างดูน่าอุ่นใจเหลือเกิน เพราะ4ฤดูกาลยังถิ่น คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม วอร์ด ได้ลงเฝ้าเสาในพรีเมียร์ลีก เพียงแค่1นัดเท่านั้น
เมื่อคืนนายด่านวัย29ปี ถือว่ามีความผิดพลาดเหมือนกันกับประตูของ ซานโช่ เพราะรีบพุ่งออกมา แล้วดันชะลอ สองจิตสองใจ ทำให้ปีกเบอร์25ของปีศาจแดง แตะล็อกไปยิงอย่างง่ายดาย โอเคแม้ลูกนั้นจะยาก แต่ แดนนี่ วอร์ด น่าจะทำได้ดีกว่านี้
อีกสิ่งที่ แดนนี่ วอร์ด ทำได้ไม่ค่อยดีเกมเมื่อคืน ก็คือการออกบอล ที่ทำให้เพื่อนร่วมทีมต้องคอยตามแก้ไขตลอด และออกแต่ละทีก็สุ่มเสี่ยงที่จะโดนผู้เล่น แมนฯยูไนเต็ด ตัดบอลได้
จิ้งจอกปัญหาเยอะ บีร็อด เสี่ยงโดนเด้ง
จริงๆก็แผ่วมาตั้งแต่ฤดูกาล 2021-2022 ที่แล้ว สำหรับ เลสเตอร์ ซิตี้ จากทีมที่มีลุ้นไปฟุตบอลยุโรป กลายมาเป็นทีมกลางตาราง ล่าสุดมีสถานะเป็นทีมบ๊วยของพรีเมียร์ลีกซะงั้นหลังผ่านไปได้5นัด
อันดับแรกเลยในเรื่องของการเสริมทัพ เลสเตอร์ ซิตี้ แทบจะเป็นทีมเดียวเลยในพรีเมียร์ลีก ที่ไม่เสริมใครเข้ามานอกจาก ผู้รักษาประตูอย่าง อเล็กซ์ สมิธตี้ และก่อนเกมกับการคอนเฟิร์มได้ตัวกองหลังจากแร็งส์ อย่าง เว้าท์ ฟาส นั่นทำกับว่าซัมเมอร์นี้ พวกเขาได้แข้งป้ายแดงเข้ามาเพียง2รายเท่านั้น
แผงหลังเมื่อคืน เลสเตอร์ ใช้ จอห์นนี่ อีแวนส์ ผนึกกำลังกับ ดาเนี่ยล อมาร์ตี้ อีกคนอายุ34 อีกรายไม่ใช่เซ็นเตอร์โดยธรรมชาติ ผลลัพธ์เลยออกมาอย่างที่เห็น
อีแวนส์ ที่อืดยังกับเรือเกลือ ส่วน อมาร์ตี้ ก็ดูไม่มีเซนการเป็นเซ็นเตอร์แบ็กเท่าไหร่ หากแนวรุกปีศาจแดงจ่ายบอลกันได้เฉียบคม น่าจะมีลูก 2-0 และ 3-0 ลงโทษให้เห็น
ส่วนแดนกลางต้องบอกได้เลยว่า จากที่เป็นตัวทีเด็ดฟอร์มเด่นของทีม ก็กลับกลายเป็นตัวจ่ายบอลมั่วไปซะงั้นสำหรับ ยูริ ตีเลอมันส์ มีเพียงแค่ เจมส์ แม็ดดิสัน เท่านั้นที่ดูจะสร้างความอันตรายได้
เจมี่ วาร์ดี้ ผู้นิยมชมชอบการยิงประตูทีม ท็อป6 นัดนี่แทบจะหายออกจากเกมไปเลย ด้วยวัย35ปี สภาพร่างกายความสดต่างๆเริ่มจะเป็นสัญญาณเตือน อดีตหนุ่มโรงงานแล้วว่าน่าจะถึงช่วงที่ร่วงโรยตามกาลเวลา
ทางฝั่งของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส แม้ว่าจะเคยสร้างผลงานและยกระดับเลสเตอร์ ขึ้นมาได้ดีขนาดไหน แต่ทว่าด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือรายนี้ ก็มิสิทธิโดนตะเพิดได้เหมือนมัน จากผลงาน เสมอ1 แพ้4 จาก5นัดแรก
- คอลัมน์นิสต์
- 343
- 02 ก.ย. 2565 14:09