ชัยชนะขี้เหร่ ! ผี เหนื่อยหนัก เชือด เบิร์นลี่ย์ 1-0 บรูโน่ ยิงงามหยด
เป็นชัยชนะที่มีเรื่องต้องให้กังวลหลายอย่างจริงๆสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะแม้พวกเขาจะบุกไปคว้า3แต้มจากเบิร์นลี่ย์ได้ แต่ทว่าก็ต้องบอกว่าด้วยรูปเกมอะไรหลายๆอย่าง เล่นไปเล่นมา พลพรรคปีศาจแดงเป็นรองลูกทีมของ แว็งซอง กอมปานี แบบไม่มีเหตุผลซะงั้น ดีที่มีเจ้าบ้านไร้ดีเด็ดความเฉียบคมทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เอง กลับออกมาพร้อมผลลัพธ์ที่ต้องการได้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ผลงานแย่มากๆในฤดูกาลนี้ ต้องยกผลไปยัง เทิร์ฟ มัวร์ ของ เบิร์นลี่ย์ ทีมน้องใหม่หน้าเก่า ที่ฉายแววเป็นทีมตกชั้นมากๆ ด้วยสไตล์การเล่นต่างๆที่ออกมาในทางเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อนและคางเปราะ
เอริก เทน ฮาก เปลี่ยนแปลงผู้เล่น3ตำแหน่ง ฮันนิบาล เมจบรี้ - สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์ และ จอห์นนี่ อีแวนส์ จากเกมที่บุกแพ้ บาเยิร์น มิวนิค 4-3 เมื่อกลางสัปดาห์ พร้อมมาในแผนการเล่น 4-2-3-1 แต่ทว่ายืนกันแบบแคบไม่ใช่ด้านกว้างที่เคยเห็นกัน
ส่วนเจ้าบ้านเบิร์นลี่ย์ ของ แว็งซอง กอมปานี ที่ออกแววเหลือเกินว่าจะได้กลับบ้านเก่า เดอะ แชมเปี้ยน ชิพ อีกครั้ง ทั้งด้วยสไตล์การเล่นที่อันตรายมากๆกับเวทีพรีเมียร์ลีกที่หินกว่า และคุณภาพนักเตะที่มองยังไงก็ไม่ใช้แข้งระดับลีกสูงสุดอังกฤษ
ทว่าอย่างไรก็ตาม เบิร์นลี่ย์ ที่ก่อนหน้านั้นแทบไม่มีผลงานอะไร ก็มาเล่นดีกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครองบอลเหนือกว่า วิ่งบีบไล่เพรสได้ดีกว่า จ่ายบอลแม่นกว่า แต่ทว่าก็มาเสียตรงที่การเข้าทำไอเดียจังหวะสุดท้ายที่ตีบตันทื่อมากๆ
ด้านปีศาจแดง เป็นปัญหาที่อาการหนักจริงๆสำหรับพวกเขา เวลาโดนบีบเร็ว เพราะทำให้จ่ายบอลได้ไม่เกิน 4-5จังหวะก็ทำเสีย แถมยังเล่นแบบไร้พลังงานไร้จิตวิญญาณอีกด้วย ผู้เล่นที่ทำผลงานได้ห่วยยังไงก็ออกมาหน้าเดิมอย่างงั้น โดยเฉพาะ สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์
ยังโชคดีที่ จอห์นี่ อีแวนส์ ในวัย35ปี กลายมาเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดเมื่อคืน ทั้งเกมรับ และการออกบอล โดย " พี่จ้อน " เป็นคนแอสซิสต์ประตูชัย วางบอลยาวให้ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ซัดแบบไม่ปล่อยให้บอลตกพื้นเข้าไป 1-0 น.45
ช่วง45นาทีหลัง " เดอะ คลาเล็ตส์ " ก็พยายามมากๆที่จะทวงประตูตีเสมอ โอเคว่า แม้จะครองบอลได้แต่ เบิร์นลี่ย์ไอเดียการเข้าทำหมดมุกเหลือเกิน ส่วนปีศาจแดงก็เล่นแบบเป็นทีมเล็กรับและรอสวนกลับ แต่ทว่าก็ขาดๆเกินๆในจังหวะสุดท้าย ก่อนที่สุดท้าย สิ้นเสียงนกหวีดยาว90นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเก็บ3แต้มได้สำเร็จ ด้วยสกอร์1-0
เหลือจะเชื่อ อีแวนส์ กลายเป็นตัวแบกซะงั้น
ลิซานโดร มาร์ติเนซ มีอาการบาดเจ็บ ราฟาเอล วาราน พึ่งสลัดเดี้ยงและมีรายชื่อเป็นเพียงแค่ตัวสำรอง ส่วนจอมคอนเทนต์อย่าง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ก็ไม่มีชื่ออยู่ในทีมซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะอาการบาดเจ็บหรือปัญหาส่วนตัวอะไร ในตำแหน่งเซ็นเตอร์จึงมีเพียง วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ กับ จอห์นนี่ อีแวนส์ ที่พร้อมใช้งาน
ซึ่งความเซอร์ไพรส์ก็เกิดขึ้นเพราะ อีแวนส์ ได้ผนึกกำลังเป็นเซ็นเตอร์ตัวจริงกับ ลินเดอเลิฟ ซึ่งเป็นคู่ที่ทำให้แฟนบอลปีศาจแดงนั่งไม่ติดอยู่พอตัวเพราะ " พี่เลิฟ " ก็ชอบถอย ส่วน " พี่จ้อน " ก็อายุปาเข้าไป35แล้ว บวกกับซีซั่นที่ผ่านมา เจ้าตัวไม่ได้เป็นตัวหลักของ เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วย
แต่ทว่าเมื่อเล่นไปเรื่อยๆ กลับกลายเป็น จอห์นนี่ อีแวนส์ ในวัย35ปี ที่โดดเด่นกว่าใครเพื่อนของปีศาจแดง ด้วยรูปเกมที่เป็นรองทำให้ทีมต้องโดนผู้เล่นตัวริมเส้นของเบิร์นลี่ย์ เปิดครอสจากด้านข้างเข้าใส่เสียเป็นส่วนใหญ่
ซึ่งด้วยคุณภาพของทีมเจ้าบ้านทำให้ จอห์นนี่ อีแวนส์ เก็บกินได้หมดเลย แถมกัปตันทีมชาติไอร์แลนด์เหนือรายนี้ ยังมีจุดเด่นในเรื่องของการออกบอลเสียด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตักแอสซิสต์ให้ บรูโน่ แฟร์นันเดซ กดประตูชัย
อย่างไรก็ตามก็มีเรื่องที่น่าเสียดายเช่นกันที่ประตูจากลูกโขกของ อีแวนส์ ในครึ่งแรก ที่ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายแล้ว แต่ทว่าวีเออาร์ มายึดคืนย้อนหลังเพราะมองว่า ราสมุส ฮอยลุนด์ ไปทำฟาวล์ โกลอย่าง เจมส์ แทร็ฟฟอร์ด เสียก่อน
จอห์นนี่ อีแวนส์ มีสถิติที่ยอดเยี่ยมทั้ง ชนะการดวล100% (จาก4ครั้ง) / ผ่านบอลแม่นยำ 90.9% / เคลียร์บอล 8หน / เอาชนะการครอบครองบอล 2ครั้ง และ ทำฟาวล์0ครั้ง ซึ่งหลังจบเกมที่ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ได้ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ แต่ทว่ากัปตันทีมผีแดง ได้มอบรางวัลให้ อีแวนส์ แทน
ฮันนิบาล เมจบรี้ ยังมีดีแค่ขยัน / บรูโน่ เล่นตำแหน่งไม่ถนัด
หลังจากลงมาเป็นตัวสำรองแล้วยิงไกลสุดสวยในเกมที่แพ้ ไบร์ทตัน 1-3 ฮันนิบาล เมจบรี้ เจ้าหนูดาวรุ่ง ก็ได้รับความไว้ใจจากกุนซือ เอริก เทน ฮาก ทันที เมื่อคืน ฮันนิบาล ได้เล่นในตำแหน่งคล้ายๆเพลย์เมคเกอร์ แทนที่ของ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ที่ต้องขยับเยื้องไปยืนฝั่งขวาแทน
แข้งชาวโมร็อกโก มีจุดที่ดีคือ มีความคล่องและเร็ว ขยันวิ่ง แต่ทว่าทีเด็ดทีขาด หรือการจ่ายคิลเลอร์พาส ไม่ได้มีให้เห็นเลย การเลือกเข้าทำในพื้นที่สุดท้าย อาจด้วยแนวรุกคนอื่นๆที่ดูไม่พร้อมทำให้ ฮันนิบาล ปล่อยของไม่ได้เท่าไหร่
แต่ทว่าเจ้าหนูวัย20ปีรายนี้ ยังดีตรงที่ขยันวิ่งไล่บอล และเล่นเต็มไปด้วยแพสชั่น ซึ่งถ้าไปเทียบกับรุ่นพี่อย่าง สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์ จะเห็นความแตกต่างชัดเจนเลย
สำหรับ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ก็เป็นอีกครั้งแล้ว ที่สตาร์แดนฝอยทอง ไม่ได้เล่นในตำแหน่งที่ถนัดเพลย์เมคเกอร์เบอร์10 เมื่อคืน บรูโน่ ถูกถ่างไปเล่นด้านขวาคล้ายๆปีก แต่ทว่าไม่ได้มีภารกิจหลักในการครอสบอลริมเส้นแต่อย่างใด
ประตูตัดสินเกมของ บรูโน่ ต้องบอกว่าวางเท้ายิงบอลได้เท้าช่างทองดีมากๆ ไม่ต้องปล่อยให้ตกพื้น การถูกฉีกไปเล่นด้านข้างทำให้ไม่ได้เห็นลูกคิลเลอร์พาสจากแดนกลางของเจ้าตัว แต่ก็ยังมีลูกหลอกจะยิงไกลแล้วจ่ายให้ ฮอยลุนด์ ได้ซัดไปติดบล็อก
อีกออปชั่นที่เราเห็นกัปตันทีมปีศาจแดงรายนี้มีนั่นก็คือ ความขยัน บรูโน่ พยายามเป็นอย่างมากที่จะวิ่งไล่บอลในแดนหลังเบิร์นลี่ย์ แต่ทว่าก็ไม่ผลิดอกออกผลเท่าไหร่ เพราะเพื่อนร่วมทีมไม่วิ่งขยับปิดพื้นที่ตาม โดยหลังจบเกม แข้งหมายเลข8ยังได้รับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ อีกด้วย
แม็คทอม ออกไม้เดิม / อัมราบัต ประเดิมสำรองแบ็กซ้าย
ฟอร์มในนามทีมชาติ กับฟอร์มสโมสรแตกต่างกันฟ้ากับเหวเลยสำหรับ สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์ โดยแข้งชาวสก็อต ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในการบุกไปเยือน เทิร์ฟ มัวร์ แทน คริสเตียน อิริคเซ่น ซึ่งกุนซือชาวดัตช์อาจมองว่าพละกำลังคือสิ่งที่จำเป็นในเกมแบบนี้ บวกกับตัวของ อิริคเซ่น อาจไม่ฟิตพอที่จะเล่น2นัดต่อสัปดาห์ได้
ซึ่งฟอร์มของ แม็คโทมิเน่ย์ จะห่วยยังไง แต่ทว่าก็ยังได้อยู่จนครบ90นาที เด็กลูกปั้นผีแดงรายนี้ ขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องของการเล่นลูกหนัก ซึ่งบางจังหวะก็สามารถช่วยเพื่อนร่วมทีมได้ แต่ก็มีหลายช็อตเหมือนกันที่เจ้าตัวเป็นภาระเพื่อน
ด้วยความที่เป็นแข้งทื่อๆทักษะความสามารถไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เราจึงได้เห็นเมื่อ สก็อต แม็คโทมิเน่ย์ เข้าบอลทีไร ก็มักจะลงเอยด้วยการทำฟาวล์หรือใบเหลืองเสมอ ซึ่งหน้าที่ของเจ้าตัวคือการแบ่งเบาภาระของ กาเซมิโร่ ก็มีจังหวะที่ช่วยได้บ้างไม่ได้บ้าง จากประโยชน์จากความหนาถึกของร่างกาย
จังหวะจ่ายบอลที่ไม่เนียนคืออีกสิ่งที่ปรับปรุงไม่หายกับแข้งเบอร์39รายนี้ ช่วงท้ายเกม อีกหนึ่งผู้เล่นที่แฟนบอลผีแดงอยากเห็นไปสัมผัสฟลอหญ้าเสียที ก็ได้ถูกส่งลงสนามอย่าง โซฟียาน อัมราบัต น.89 โดย " บังบัต " สถานการณ์บังคับให้ต้องลงมาเล่นในตำแหน่งเบ็กซ้าย
อาจจะด้วยร่างกายที่ยังไม่ฟิตดี อัมราบัต ก็เกือบนำงานเข้ามาสู่ทีมเช่นกันเพราะช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ไปเข้าบอลพรวด จนทีมเสียฟรีคิกระยะอันตราย ดีที่ทีมไม่ได้เสียประตู โดยเชื่อว่าเกมต่อๆไป หรือเกม คาราบาว คัพ กลางสัปดาห์ มิดฟิลด์หัวเหม่งรายนี้ น่าจะได้ประเดิมตัวจริง
แท็กติก แผนการเล่น เทน ฮาก พาผีเสียเปรียบ
ด้วยผลงานที่ไม่ดีพักหลังๆก็ดูจะทำอะไรค้านสายตา แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหมือนกันสำหรับ เอริก เทน ฮาก ซึ่งก่อนเกมที่ เทิร์ฟ มัวร์ ถือว่าเก้าอี้ของกุนซือชาวดัตช์ร้อนในระดับหนึ่งเพราะพาทีม แพ้ 4จาก 6นัดแรกของฤดูกาลใหม่
เมื่อคืน ETH ปรับตัวผู้เล่นจากเกมที่แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 3คน คริสเตียน อิริคเซ่น- ลิซานโดร มาร์ติเนซ และ ฟาคุนโด้ เปเยสตรี คือนักเตะที่หายไป แทนที่ด้วย สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์ - จอห์นนี่ อีแวนส์ และเจ้าหนู ฮันนิบาล เมจบรี้
แม้ว่าในฝังถ่ายทอดสดจะออกมาว่าปีศาจแดงเล่นในระบบ 4-3-1-2 แต่ทว่า ในสนามจริงๆเป็นแผนการเล่นเดิมนั่นแหละก็คือ 4-2-3-1 แต่ทว่าเป็นในฟอร์เมชั่นที่เล่นแคบกว่าเดิม ผู้เล่นที่รับบทปีกซ้าย-ขวาอย่าง แรชฟอร์ด และ บรูโน่ ไม่ได้ยืนชิดติดริมเส้น
ซึ่งการเล่นในวิธีดังกล่าวทำให้ความอันตรายของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลดน้อยถอยลงมากๆ เพราะโดยปรกติพวกเขา มีทีเด็ดอยู่แล้วในเรื่องของการลากจี้โจมตีทางฝั่งริมเส้น โดยเฉพาะทางฝั่งซ้ายของ แรชฟอร์ด แต่ทว่านัดนี้รูปเกมการยืนทำให้ " แรชชี่ " ไม่ได้สำแดงฤทธิเดชของตัวเองเท่าไหร่ บวกเป็นช่วงที่เจ้าตัวฟอร์มฝืดด้วย
การเจอกับเบิร์นลี่ย์ ที่ชื่อชั้นนักเตะ ค่าเหนื่อยเจ้าบ้านเป็นรองทุกอย่าง แต่ทว่าตลอด90นาที กลายเป็นว่าลูกทีมของ แว็งซองต์ กอมปานี ครองเกมเหนือกว่า ต่อบอลแม่นกว่าซะงั้น มีบางช่วงของครึ่งหลังหลังสถิติออกมาว่า " เดอะ คลาเล็ตส์ " ครองบอลได้มากกว่า 90 ต่อ 10 %
ด้วยรูปเกมที่ไม่ดี บวกกับโอกาสโดนก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่อดีตกุนซืออาแจ็กซ์ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนตัวอะไรเลย ต้องรอจนถึง น.80 ถึงมีการขยับบนม้านั่งสำรอง และมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นเพียงแค่2รายเท่านั้น แม้สุดท้ายจะเป็น3แต้ม แต่ก็เป็นชัยชนะที่เต็มไปด้วยความกังวลในนัดต่อๆไปสุดๆ
เล่นสไตล์นี้ เบิร์นลี่ย์ มีแววกลับบ้านเก่า
หลังจากตกชั้นไปแชมเปี้ยนชิพ เพียงแค่ฤดูกาลเดียว พวกเขาก็ฟื้นคืนกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งทันที สำหรับ เบิร์นลี่ย์ จากการคุมทัพของ แว็งซอง กอมปานี โดยภายใต้การคุมบังเหียนของอดีตกองหลัง ซิตี้ ได้พลิกโฉมสไตล์ทีมได้เป็นอย่างมาก
กับกุนซือคนเก่า ฌอน ไดซ์ " เดอะ คลาเล็ตส์ " ขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องของการเล่นฟุตบอลสไตล์โบราณ ไดเร็ค ลูกโด่ง แต่กับ กอมปานี นั้นแปลงโฉมจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย เพราะ แว็งซอง กอมปานี มาในปรัชญาต่อบอลเล่นบอลจากเท้าสู่เท้าที่สวยงาม
ทำให้ใน เดอะ แชมเปี้ยน ชิพ เบิร์นลี่ย์ คว้าแชมป์ได้ไม่ยาก กวาดไป101แต้ม ยิงไปถึง87ประตู แต่ทว่าสไตล์ดังกล่าวขอพวกเขา ดูจะเป็นขนมกรุบให้กับทีมในพรีเมียร์ลีกเลย
เช่นในเกมกับ ซิตี้ และ สเปอร์ส ลูกทีมของ กอมปานี ต่อบอลสู้เปิดเกมบุกเข้าใส่แบบหมูไม่กลัวน้ำร้อน ผลลัพพธ์จึงออกมาแบบที่เห็น 0-3 และ 1-5 เรียกว่าเลเวลของลีกรองกับลีกสูงสุดนั้นแตกต่างกันราวกับฟ้ากับเหว
ปรกติทีมน้องใหม่มักจะเล่นแบบเจียมเนื้อเจียมตัวรับให้แน่นแล้วโต้กับ แต่กับเบิร์นลี่ย์นั้นไม่ใช่เลย ทำให้พวกเขาเป็นทีมที่คางเปราะมากๆเวลาเจอสวน เปิดพื้นที่ให้คู่แข่งมากๆ บวกด้วยคุณภาพผู้เล่นทีมชุดปัจจุบันก็โนเนมแทบจะทั้งหมด
กับ แมนฯยู แม้ว่าพวกเขาจะเหนือกว่า แต่ทว่าเกมรุกไอเดียต่างๆก็แพทเทิร์นเดิมตลอดนั่นคือการครอส แต่ทว่าก็ไม่แม่น ขนาดปีศาจแดงอยู่ในช่วงฟอร์มตกและแนวรับรั่วยังเอาอยู่เลย
จากประสบการณ์ของทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาใหม่ แล้วไม่เล่นในรูปแบบรัดกุม มีโอกาสสูงมากๆที่จะได้กลับบ้านเก่า เดอะ แชมเปี้ยน ชิพ ทันที ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับ เบิร์นลี่ย์ และ กอมปานี แล้วแหละว่า สุดท้ายแล้วพวกเขาจะเปลี่ยนวิธีการเล่นหรือไม่ ซึ่งท้ายที่สุดอาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนผู้จัดการทีมก็ได้ หากว่าอยากเปลี่ยนสไตล์ทีม
- คอลัมน์นิสต์
- 382
- 24 ก.ย. 2566