ลูปนรกเริ่มกลับมาแล้ว ! ผี เน่า คารัง ฟูแล่ม บุกยิง 2-1 อิโวบี้ ซัดทดเจ็บ นาทีบาป
หลังจากที่ไม่แพ้ใครในปี 2024 แถมในเวทีพรีเมียร์ลีก ก็ชนะมา4นัดรวด สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ทว่าถ้ามองตามรูปเกมแทบไม่มีนัดไหนที่พลพรรคปีศาจแดงเล่นดีเลย จนท้ายที่สุดก็มีฝีแตกจนได้ เมื่อได้เล่นในบ้าน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แท้ๆ ดวลกับทีมที่แพ้ทางพวกเขาสุดๆอย่างฟูแล่ม และสุดท้ายเป็นทัพ " เจ้าสัวน้อย " ที่บุกมายิงดับ ยูไนเต็ดในช่วงทดเวลาเจ็บ 2-1
ก่อนเกมดวลกับฟูแล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีปัญหาในเรื่องการจัดทัพพอสมควร เพราะดาวยิงที่กำลังร้อนแรงของพวกเขาอย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ต้องพักราวๆ 2-3 สัปดาห์ รวมไปจนถึงตำแหน่งแบ็กซ้ายของ ลุค ชอว์ ที่เดี้ยงมากจากเกมชนะ ลูตัน ทาวน์ 2-1
นั่นทำให้กุนซือ เอริก เทน ฮาก ต้องปรับทัพด้วยการให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ออกสตาร์ทเป็นหน้าเป้า พร้อมขยับหน้าซ้ายให้เป็นหน้าที่ของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ตามเดิม ตัวรุกฝั่งขวาให้โอกาสเป็น เจ้าหนูดาวรุ่ง โอมารี่ ฟอร์สัน ลงตัวจริงในลีกนัดแรก ส่วนแบ็กซ้ายก็เป็น วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ
ทางด้านผู้มาเยือน ฟูแล่ม มาในแผนเก่ง 4-2-3-1 อันเดรส เปเรย์ร่า ได้กลับมาเยือนถิ่นเก่าอีกครั้ง ออกสตาร์ทมารูปเกมก็เป็นทีมของ มาร์โก ซิลวา ที่เหนือกว่า ทั้งในเรื่องของการต่อบอลจ่ายบอลที่ทำกันได้อย่างแม่นยำ ฝั่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เล่นเป็นทีมเล็กไปแล้ว รอแค่จังหวะสวนกลับ
ครึ่งแรกเป็นผู้มาเยือนที่หาโอกาสจบได้มากกว่า แต่ทว่า อ็องเดร โอนาน่า ไม่พลาดเซฟในจังหวะสำคัญๆได้ จบ45นาทีแรกสกอร์จึงเป็น 0-0 ครึ่งหลังมา แมนฯยู ก็ยังไม่กระเตื้องขึ้น และความอ่อนด้อยในการรับมือลูกเตะมุมก็มาเล่นงานพวกเขาอีกครั้ง บอลขลุกขลิกในเขตโทษ ไปเข้าทางเซ็นเตอร์ คัลวิน บาสซี่ ยิงแสกหน้า โอนาน่า เข้าไป น.65 ขึ้นนำ 1-0
ช่วง10นาทีสุดท้าย ปีศาจแดง มีฮึดอีกครั้ง และมาได้ประตูตีเสมอจาก จังหวะที่ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ไปซ้ำลูกยิงของ บรูโน่ แฟร์นันเดซ เข้าไป น.89 ตามเจ๊า1-1 ท่ามกลางเสียงเชียร์และการกระตุ้นให้หมายเอาประตูชัย
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม อนิจจาด้วยความที่ดันสูง หวังแซงชนะนั่นทำให้แนวรับเปิดพื้นที่ให้ ฟูแล่ม ได้สวนกลับ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มาเจอหมัดน็อกของ อเล็กซ์ อิโวบี้ ยิงหักมุมเสียบเสาแรกเข้าไป น. 90+7 และทำให้ฟูแล่มบุกมาเอาชนะไปได้ 2-1
ซึ่งนี่คือการบุกมาเอาชนะ ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้เป็นหนแรกในรอบ21ปีของฟูแล่มอีกด้วย ส่วนผู้ปราชัย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นี่เป็นอีกเกมที่พวกเขาเล่นเป็นเหมือนทีมเล็ก โดนคู่แข่งบุกกดเข้าใส่ตลอด แถมความหวังในการไปเล่น ยูซีแอล ก็ชักจะเลือนลานลงไปทุกที ทั้งในเรื่องของระยะห่างแต้ม และฟอร์มการเล่นที่ฤดูกาลนี้ภาพรวม เข็นไม่ขึ้นจริงๆ
แรชฟอร์ด กองหน้าไร้พลังงาน
ลืมฟอร์ม 30ประตู รวมทุกรายการซีซั่นที่แล้วไปก่อนเลย สำหรับ มาร์คัส แรชฟอร์ด มาจนถึงตอนนี้35นัด " แรชชี่ " กดไปได้เพียง5ตุงเท่านั้น ลีลาการกระชากลากเลื้อยริมเส้นฝั่งซ้าย ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว มีเพียงจังหวะนรกเรียกเสียงกร่นด่าจากแฟนบอลเท่านั้น
เมื่อคืนการขาด ราสมุส ฮอยลุนด์ ทำให้ แรชฟอร์ด ต้องถูกปรับมาเล่นเป็นหน้าเป้าอีกครั้ง ซึ่งผลก็ลงเลยแบบเดิมเพราะ สไตล์และความมุ่งมั่นตั้งใจของ มาร์คัส แรชฟอร์ด แตกต่างกับ ดาวยิงวัยรุ่นชาวเดนมาร์กเหลือเกิน
ในบทบาทหน้าเป้า " ดร แรช " ไม่สามารถพิงบอล พักบอล หรืออาศัยความแข็งแกร่งตั๊นกับคู่เซ็นเตอร์ฟูแล่มได้เลย จังหวะปะทะ เราจึงได้เห็นแรชฟอร์ด ล้มจนชินตา ไม่ใช่แค่แมตช์นี้แต่แทบจะทุกๆนัด
ฮอยลุนด์ ที่ขยันวิ่งไล่บอลในแดนหน้าจังหวะที่จำเป็นๆ แต่ทว่าตัดมาที่ แรชฟอร์ด นั้นไม่มีเลย การย่างซอยเท้าเบาๆที่จึงเป็นเอกลักษณ์ของดาวเตะเบอร์10รายนี้ไปแล้ว ในเรื่องของพลังงานในเกมรุกชีวิตชีวา เจ้าตัวก็เพิ่มให้กับทีมไม่ได้เหมือนกัน
เราจึงได้เห็น แรชฟอร์ด แทบจะหายไปจากเกม มีโอกาสยิงเพียง2ครั้ง และได้ผ่านบอลเพียง16หน ไม่ต้องนับการประสานงานกันกับปีก2ข้างซ้ายขวาอย่าง การ์นาโช่ และ โอมารี่ ฟอร์สัน เลย เพราะวิ่งไปคนละช่องคนละทาง และเป็นครั้งแรกด้วยที่3ประสานในแดนหน้าชุดนี้เล่นร่วมกัน
ลินเดอเลิฟ ขัดตราทัพแบกซ้าย เห็นก็รู้ว่าไม่ไหว
ไม่รู้ว่าบริการสควอดอีท่าไหนสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตำแหน่งแบ็กซ้าย เพราะทั้งที่เซ็น เซร์คิโอ เรกีลอน มาแล้วเป็นช่วงเวลาสั้นๆ โอเค แม้ว่าฟอร์มจะไม่ดีมาก แต่ก็ยังเป็นแบ็กซ้ายธรรมชาติ ไว้แทน ลุค ชอว์ ได้ แต่กลับไม่เซ็นต่อไปจนจบฤดกาลซะงั้น ทั้งที่แบ็กซ้ายสำรองอีกคนอย่าง ไทเรลล์ มาลาเซีย ยังเจ็บอยู่และไม่ได้ลงสนามแม้แต่นัดเดียวในซีซั่นนี้
ลุค ชอว์ ที่พึ่งหายเจ็บกลับมา และ2นัดหลังสุด ถูกถอดออกในช่วงพักครึ่งหมดเลย ก่อนจะมาดวงแตก ต้องพักไปราวๆ 2-3 เดือน นั่นทำให้ในตำแหน่งแบ็กซ้าย เอริก เทน ฮาก ไม่มีทางเลือก ต้องเอา วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ไปขัดตราทัพเล่น
กองหลังชาวสวีเดน ขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องของการถอย ยิ่งพอมายืนเป็นแบ็กซ้ายที่ไม่ใช่ตำแหน่งถนัด เจอผู้เล่นริมเส้นอย่าง แฮร์รี่ วิลสัน ลากจี้นั้นมีหวาดเสียวตลอด เพราะไม่ใช่ผู้เล่นที่สกัดบอลแม่นแต่อย่างใด
ส่วนในเรื่องของเกมรุก ต้องบอกว่าบอดสนิทเลย ที่เห็นแตกต่างจาก ลุค ชอว์ แน่ๆคือ จังหวะโอเวอร์แลป ไปครอสเข้าในเขตโทษ " พี่เลิฟ " แทบไม่มีให้เห็น บางช็อตเหมือนไปเกะกะ ขวางทางปืนหรือไลน์วิ่งของเพื่อนร่วมทีมซะงั้น
90นาที เราจึงไม่ได้เห็น ลินเดอเลิฟ มีโอกาสครอสบอลเลย ซึ่งถ้วยความที่ปีศาจแดงไม่มีตัวเลือกในตำแหน่งแบ็กซ้ายนี้ ก็น่าหวาดเสียวเหลือเกิน ในเกมเจอกับ ฟอเรสต์ รายการ เอฟเอ คัพ เพราะต้องเจอกับจอมจี๊ด รุ่นน้องเพื่อนร่วมทีมเก่าอย่าง แอนโธนี่ อีแลงก้า หรือรวมไปจนถึง ใน แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ที่ต้องรับมือกับ ฟิล โฟเด้น
เล่นในบ้านอย่างไรให้เป็นรองทีมเล็ก
ช่วงที่ชนะ 4นัดรวดในพรีเมียร์ลีก ต้องบอกว่ามีเพียงแมตช์เดียวเท่านั้นที่เป็นฟอร์มที่น่าประทับใจนั่นก็คือ นัดเปิดบ้านถลุง เวสต์แฮม 3-0 นอกจากนั้นทั้ง เฉือน วูล์ฟแฮมป์ตัน 4-3 เชือด ลูตัน ทาวน์ 2-1 ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 เลือดตาแทบกระเด็นหมดเลย
ปีศาจแดงภายใต้อุ้งมือของ เอริก เทน ฮาก กลายเป็นทีมใหญ่ที่เล่นแล้วเป็นรองทีมอื่นหมดเลย มีทีเด็ดเพียงแค่จังหวะฉาบฉวยหรือ ทรานซิสชั่น เปลี่ยนจากรับเป็นรุกให้เร็วเท่านั้น แต่หากต้องขึงใส่คู่แข่งที่ตั้งรับลึกๆ พวกเขาไร้ไอเดียหลากหลายทะลุทะลวงในการเข้าทำทันที
จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ครองบอลมากกว่านิดหน่อย แต่ทว่าการได้ครองบอลดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นในพื้นที่แดนตัวเองทั้งสิ้น อีกมุมนั่นก็คือ เมื่อเซ็ตบอลไปแดนคู่แข่ง ปีศาจแดงมักทำเสียเมื่อโดนบีบ หรือเมื่อขึ้นบอลไม่ได้ พวกเขาก็จะคืนหลังมาให้แนวรับ วางบอลยาวแทน
เล่นที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่ทว่าพวกเขากลับโดนทีมที่แพ้ทางพวกเขาสุดๆอย่างฟูแล่ม ขึงเกมใส่แบบหมดเชิง บางช่วงที่ได้ครองเกมบุกเข้าใส่ เป็นเพราะทางทีมเยือนเองเน้นตั้งรับและรอจังหวะสวนกลับมากกว่า
หลายเกมที่ทีมของ ETH รอดมาได้ ก็เพราะว่าคู่แข่งไม่มีความเฉียบขาดนี่แหละ รวมถึงผู้เล่นปีศาจแดง (บางราย บางนัด) ยังพอมีความคม ใช้ความสามารถเฉพาะตัวให้ทีมเก็บผลการแข่งขันออกมาได้ไปวันๆ
จนท้ายที่สุดแผลฝีมาแตกนัดกับฟูแล่ม นี่แหละ และหลังจบเกมดังกล่าวมีสถิติออกมาว่า หลังผ่านมา26นัดในพรีเมียร์ลีก ปีศาจแดงโดนคู่แข่งได้ล่อเป้าไปมากถึง 435 ครั้ง มีเพียง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมเดียวที่ปล่อยให้คู่แข่งล่อเป้ามากกว่า
ลูปนรกกลับมา จบฤดูกาล เทน ฮาก ไม่น่ารอด
ตามหลัง แอสตัน วิลล่า ทีมอันดับ4 มากถึง8แต้ม ตามหลัง ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส ทีมอันดับ5 ที่แข่งน้อยกว่าพวกเขา1นัด อยู่3แต้ม ถ้ามองในเชิงทฎษฎีถือว่ายังเป็นไปได้ กับเส้นทาง12นัดที่เหลือ แต่ทว่าหากมองในเชิงปฎิบัติรวมถึงฟอร์มต่างๆแล้ว เหมือนงานเข็นครกขึ้นภูเขาจริงๆ
ผ่านมา 26 นัด นับนิ้วได้เลยว่ามีเกมไหนที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นดี ครองเกมเหนือกว่าคู่แข่งบ้าง มีหลายนัดที่พวกเขา เก็บ3แต้มได้แบบทุลักทุเล อาศัยความสามารถส่วนตัวของนักเตะ รวมไปจนถึงคู่ต่อสู้ไม่คมกันเองมากกว่า
ปีศาจแดง ชนะได้ต่อเนื่องสูงสุดในลีกฤดูกาลนี้เพียง4นัด แล้วค่อยสลับกลับมาแพ้ตลอด มาตรฐานและความแน่นอนคือสิ่งที่พวกเขาไม่เคยมี โอเคว่า นี่จะเป็นฤดูกาลที่ผู้เล่นของ ยูไนเต็ด บาดเจ็บเยอะ
ซึ่งเรื่องการบาดเจ็บไม่ใช่เรื่องโชคร้าย แต่มันคือการประเมินของทีมแพทย์หลังบ้าน โปรแกรมการฝึกซ้อม ซึ่งเคยมีข่าวหลุดออกมาช่วงหนึ่งว่าผู้เล่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึงสต๊าฟบางส่วนออกมาบ่นว่าโปรแกรมหนักเกินไป จนทำให้นักเตะบาดเจ็บเองไปหลายราย
กุนซือชาวดัตช์ เคยออกมาพูดว่าด้วยทีมชุดนี้ทำให้เขาสร้างปีศาจแดง ให้เล่นแบบ อาแจ็กซ์ ไม่ได้ แต่ทว่า เทน ฮาก เอง ก็ได้รับการสนับสนุนจากบอร์ดบริหารอย่างเต็มทีในการเลือกซื้อนักเตะ อันโตนี่ ที่ราคาแตะหลัก 100ล้านยูโร บอร์ดบริหารยังคงทุบพระคลังให้เพราะ ETH เองต้องการมากๆ
หากจบฤดูกาลอดไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงยังมีสไตล์การเล่นที่จับต้องไม่ได้ เล่นไม่สมเป็นทีมใหญ่ที่หวังผลจะประสบความสาเร็จ จึงเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ จะเคาะให้กุนซือชาวดัตช์รายนี้ ได้พิสูจน์ฝีมือต่อไป
ฟูแล่ม ได้เฮดังๆ ลบอาถรรพ์ 21ปี
ก่อนยกพลมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ฟูแล่มของ มาร์โก ซิลวา อยู่อันดับ12ของตารางคะแนน ไม่ต้องเป็นทีมที่ดิ้นรนหนีการตกชั้น หรือไต่อันดับไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรป แถมยังเป็นทีมที่ฟอร์มขึ้นๆลงๆสลับกันไปมาตลอดทั้งฤดูกาล
รวมถึงสถิติของ " เจ้าสัวน้อย " เวลามาที่ โรงละครแห่งความฝัน พวกเขาไม่สามารถบุกมาเอาชนะที่สนามแห่งนี้มา 21ปี แล้ว รวมไปจนถึง19นัดหลังสุดที่เจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟูแล่มนั้นแพ้ทางมากๆ พ่ายไปถึง 16 / เสมอ 3 และเอาชนะไม่ได้เลย
ยังไม่นับผู้เล่นตัวหลักที่ต่างบาดเจ็บและไม่ได้ลงในแมตช์นี้ทั้ง ราอูล ฮิมิเนซ - วิลเลี่ยน รวมไปจนถึงเซ็นเตอร์ ทิม รีม ยังไม่นับรวม ชูเอา ปาลินญ่า ห้องเครื่องคนเก่งที่ติดโทษแบน2นัด แต่ทว่านี่คือรูปเกมที่ทีมของ ซิลวา ไม่ได้เป็นรองเลย
ฟูแล่ม เหนือกว่ามากๆ หากเลือกที่จะขึงเกมเข้าใส่ เพราะกดเจ้าบ้านได้อย่างอยู่หมัด ช่วงที่โดนกดก็เป็นเพราะเลือกเล่นตั้งรับตามแท็กติกเท่านั้น ผลลัพธ์ 2-1 นี่คือการเอาชนะ ยูไนเต็ด ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 20นัด โดยครั้งสุดท้ายที่เอาชนะ ได้ต้องย้อนไปไกลถึง เดือนธันวาคม 2009 ซึ่งตอนนั้น คริส สมอลลิ่ง ยังเป็นผู้เล่นตัวสำรองของฟูแล่มอยู่เลย
รวมถึงเป็นการบุกมาชนะที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้เป็นหนแรก นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2003 ซึ่ง ตอนนั้นเป็น สตีฟ มาลบล็องก์ - ลี คร้าก และ จุนอิจิ อินาโมโตะ ทำประตูให้ทีม
ส่วนผู้เล่นที่โดดเด่นของเจ้าสัวน้อย เมื่อคืนมีหลายคนทั้งเซ็นเตอร์ที่เติมมาทำประตูได้ คัลวิน บาสซี่ รวมไปจนถึงผู้ทำประตูชัยทดเจ็บนาทีบาป อเล็กซ์ อิโวบี้ ซึ่งนี่คือลูกที่4ในพรีเมียร์ลีกของดาวเตะชาวไนจีเนียในฤดูกาลนี้ ทำได้มากที่สุดต่อฤดูกาล ทั้งในสมัยที่อยู่ อาร์เซน่อล ( 2015-2019) และ เอฟเวอร์ตัน (2019-2023)
- คอลัมน์นิสต์
- พรีเมียร์ลีก คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟูแล่ม เอริก เทน ฮาก แฮร์รี่ แม็คไกวร์
- 455
- 25 ก.พ. 2567 14:09