นัดแรกก็เหนื่อยเลย ! ผี เฉือนหวิว ฟูแล่ม 1-0 เซิร์กซี สำรอง ฮีโร่ น.87
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้กล่มทุนหลังบ้านใหม่ INEOS ที่นำโดย เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ประเดิมพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลใหม่ 2024 -2025 ได้แบบตะกุกตะกัก เพราะกว่าจะเก็บ3แต้มเอาชนะฟูแล่มได้ พวกเขาต้องรอไปจนถึง น.87 กว่าจะมาได้ประตูชัยท้ายเกมจากตัวสำรองหน้าใหม่ป้ายแดง โจชัว เซิร์กซี โดยเป็นเกมที่เห็นทั้งแง่บวกแง่ลบของปีศาจแดง และด้านที่พัฒนาขึ้นจากซีซั่นที่ผ่านมา
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดหัวฤดูกาลใหม่ 2024-2025 ได้เล่นใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของฟูแล่ม ในเรื่องของการจัดทัพตามคาดก็คือผู้เล่นตัวหลักที่เจ็บอยู่อย่าง เลนี่ โยโร่ - ราสมุส ฮอยลุนด์ และ ลุค ชอว์ ที่จะไม่ได้ลงสนามแน่ๆ
เอริก เทน ฮาก จัดแผนเซอร์ไพรส์เล็กน้อย ตรงที่ให้ นุสแซร์ มาซราวี ที่ย้ายมาร่วมทีมได้ไม่ถึง10วัน ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแบ็กขวาเลย แล้วโยก ดิโอโก้ ดาโล่ต์ ไปเล่นเป็นแบ็กซ้าย เซ็นเตอร์ใช้ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ
ระบบ 4-2-3-1 กองกลาง ค็อบบี้ ไมนู - กาเซมิโร่ และ เมสัน เมาท์ หน้าเป้า ฟอลไนส์ เป็น บรูโน่ แฟร์นันเดซ ส่วนริมเส้นขนาบข้างซ้ายขวาเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ อาหมัด ดิยาโล่ ส่วนฟูแล่มก็มาในระบบเก่ง 4-2-3-1
ทัพเจ้าสัวน้อย แทบจะใช้ผู้เล่นชุดเก่งจากฤดูกาลที่แล้ว แต่ก็มีสับเปลี่ยนสอดไส้ขึ้นมาของนักเตะใหม่1ราย นั่นก็คือ เอมิล สมิธ- โรล เปิดเกมมาต้องบอกว่ารูปเกมค่อนข้างสูสี ฟูแล่ม ดูจะคอนโทรลบอลและหาโอกาสจบได้ดีกว่าเล็กน้อย แต่ทว่ากลังจากนาทีที่25รูปเกมก็เป็นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พี่พยายามบีบเร็ววิ่งเข้าใส่
ซึ่งเกมที่ค่อยๆดีขึ้นของปีศาจแดง แต่ทว่าพวกเขาก็เจอปัญหาเดิมนั่นก็คือการจบสกอร์ที่ไม่เฉียบขาด โดยเฉพาะ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ที่ได้โอกาสยิงถึง2ครั้ง แต่ทว่าไปติด แบร์นด์ เลโน่ อย่างน่าเสียดาย ทางฝั่งฟูแล่มมีลุ้นจะได้สวนหลายหนแต่พวกเขาจ่ายบอลได้ไม่เนี๊ยบพอ ทำให้จบ45นาทีแรกสกอร์จึงจบอยู่ที่ 0-0
ครึ่งหลังยังเป็น ทีมของ ETH ที่พยายามครองบอล สร้างสรรค์เกมรุก แต่ทว่าไอเดียการเข้าทำจังหวะสุดท้ายยังดูไม่เข้าขากันเท่าไหร่ แถมยังมีเสียวเป็นระยะเวลาโอเวอร์โหลด แล้วปล่อยให้ฟูแล่ม หลุดมาเป็นระยะ แต่ทว่าอย่างไรก็ตามเกมที่ตื้อๆอยู่ จนทำท่าว่าจะจบลงด้วยสกอร์ 0-0
โจชัว เซิร์กซี ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง น.60 แทน เมาท์ ก็มาสวมบทบาทฮีโร่ เมื่อตัวสำรองอีกราย อเลฮานโดร การ์นาโช่ ได้เปิดบอลจากด้านขวา เซิร์กซี อาศัยเซนส์บอลและความเข้าใจเกมสอดมาสกิดบอลเบาๆ ไหลเปลี่ยนทางเข้าไปประตูไป น.87 และเป็นประตูชัย พาปีศาจแดง ประเดิมเก็บ3แต้มได้สำเร็จ
กาเซมิโร่ ร่างใหม่ ไฉไล แต่ต้องดูระยะยาว
ฉายแววว่าจะกลับมาเล่นดีตั้งแต่ในเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แล้ว สำหรับ กาเซมิโร่ ซึ่งเริ่มต้นซีซั่นใหม่ด้วยสภาพร่างกายที่ผอมเพรียวขึ้น หน้าไม่ตุ้ยนุ้ยเหมือนช่วงเปิดซีซั่นฤดูกาลที่แล้ว แม้จะเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับแต่ " พี่เกษม " ดูจะมีบทบาทกับเกมรุกมากๆ
เมื่อคืน กาเซมิโร่ เหมือนจะเป็นเป้าหมายของทีม เวลาเล่นลูกตั้งเตะเซ็ตพีช ให้เจ้าตัวขึ้นโหม่ง ตลอด90นาที แข้งเบอร์18 มีโอกาสได้จบสกอร์ 3ครั้ง แต่ทว่าไม่มีหนไหนที่ใกล้เคียงต้องทำให้ เลโน่ ออกแรงบินเหินหาวเซฟเลย
อดีตแข้ง เรอัล มาดริด เล่นเหมือนกับเป็นผู้เล่นประเภทเบอร์8เลย กลายเป็น เมนู ที่หลายจังหวะยืนต่ำกว่าซ้อนให้ สิ่งหนึ่งที่เป็นอาวุธของ กาเซมิโร่ หลังจากที่ได้เห็นมาแล้ว2นัดในเกมอย่างเป็นทางการนั่นก็คือการจ่ายบอลคิลเลอร์พาส
กาเซมิโร่ สร้างสรรค์โอกาสได้3ครั้ง ที่จะแจ้งสุดๆเห็นทีจะเป็นจ่ายให้ บรูโน่ หลุดไปยิงแต่ติดเซฟ เลโน่ เมื่อคืนเจ้าตัว เอาชนะการดวลได้มากถึง 7ครั้ง- เอาชนะการครอบครองบอล 6ครั้ง - เคลียร์บอล 4ครั้ง - สัมผัสบอลในเขตโทษคู่แข่ง4หน
ฟอร์มแบบนี้ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดีเลยในซั่นใหม่ ไม่ดูอืดอาดเชื่องช้าเหมือนปีที่แล้ว แต่ทว่าอย่างไรก็ตามด้วยแท็กติกการเล่นแบบนี้ของ เอริก เทน ฮาก ต้องมาคอยดูว่า กาเซมิโร่ ในวัย 32ปี จะยืนระยะไหวไหม และต้องไม่ลืมว่าทีมชุดปัจจุบันของปีศาจแดง ณ นาทีนี้ มีมิดฟิลด์ตัวรับธรรมชาติประเภทเบอร์6 สแตนบายด์ ไว้เพียงคนเดียวเท่านั้นนั่นก็คือ เจ้าหนู โทบี้ คอลเยอร์ วัย20ปี เท่านั้น
มาซราวี เดบิวต์ รุกดี รับไม่แย่
แม้ว่าจะย้ายมาร่วมทีมและเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ไม่ถึง 10 วัน แต่ทว่าด้วยอาการบาดเจ็บของ ลุค ชอว์ นั่นทำให้ แข้งหน้าใหม่ป้ายแดงอย่าง นุสแซร์ มาซราวี ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็กขวาเลย พร้อมโยกเอา ดิโอโก้ ดาโล่ต์ ไปเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้าย
นัดแรกบนเวทีพรีเมียร์ลีก แบ็กจากโมร็อกโกรายนี้ ถือว่าทำได้ดีเกินคาด เอาในเรี่องของเกมรุก มาซราวี ดูจะเป็นธรรมชาติมากกว่า ดาโล่ต์ เสียอีก หรือหากเอาไปเทียบกับคนเก่าที่เก็บเสื้อผ้าย้ายออกไปอย่าง อารอน วาน - บิสซาก้า ต้องบอกว่าดีกว่าเยอะ
แม้จะซ้อมกับทีมได้ไม่กี่วันแต่เจ้าตัว ดูจะเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีมได้ในระดับหนึ่ง เกมรับไม่ได้ก่อความผิดพลาดอะไรน่าเกลียดเมื่อต้องรับมือกับ อเล็กซ์ อิโวบี้ และ อันโตนี่ โรบินสัน สิ่งหนึ่งที่ มาซราวี ทำได้ดีนั่นก็คือการอ่านทางบอล อ่านเกมล่วงหน้า
80นาที ที่ได้อยู่ในสนาม นุสแซร์ มาซราวี ตัดบอลได้3ครั้ง - เคลียร์บอลและแท็กเกิ้ลได้อย่างละ 2หน สิ่งหนึ่งที่ไว้ใจได้สำหรับ อดีตแข้งบาเยิร์นรายนี้ก็คือ การครองบอล เสียบอลอยาก สอดประสานหรือหาพื้นได้ดี เวลาเล่นเกมรุกกับตัวริมเส้น
โอเคแม้จะเป็นเพียงนัดแรก ไม่ได้โดดเด่นถึงขนาดต้องชมอวยเวอร์ๆ แต่ก็เห็นสัญญาณที่ดีมากๆในอนาคต หากว่าตัวของ มาซราวี ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง และจะเบียดแย่งตัวจริงตำแหน่งแบ็กขวากับ ดาโล่ต์ ได้สนุกเลยทีเดียว
อาการจบไม่คม ที่ผียังแก้ไม่หาย
57ประตู จาก38นัดในพรีเมียร์ลีก นี่คือจำนวนประตูที่น้อยมากๆของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาลที่แล้ว 2023-2024 ซึ่งทีมครึ่งบนของตารางไม่มีทีมไหนที่ยิงได้น้อยกว่าพวกเขาอีกแล้ว นอกจากอันดับ10 คริสตัล พาเลซ ที่ยิงได้เท่ากันที่ 57ตุง
หรือก่อนหน้าในเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ที่ไปแพ้ในการดวลจุดโทษ 6-7 ปีศาจแดง ควรที่จะเผด็จศึกเรือใบสีฟ้า ตั้งแต่ในช่วงเวลาปรกติ90นาทีแล้ว แต่ทว่าทิ้งโอกาสทองลงถังขยะไปเอง โดยเฉพาะ มาร์คัส แรชฟอร์ด กับช็อตเหน่งๆ2ครั้ง 2ครา
เมื่อคืนกับฟูแล่ม ลูกทีมของ เอริก เทน ฮาก ก็เข้าอีหร็อบเดิมจนได้ในเรื่องของการจบสกอร์ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ได้โอกาสยิงแจ่มแจ้ง 2ครา หลุดไปยิงติดขา เลโน่ ทั้งหมด ค็อบบี้ เมนู ได้ตั้งป้องยิมหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลถากเสาออกไป
หรือจะเป็นจังหวะลากตะลุยของ แรชฟอร์ด ที่บอลมาเข้าทาง เมาท์ ได้ยิงยัดเข้าไป แต่ เลโน่ เจ้าเก่าก็ผวาผิดมุมได้ทัน หรือตอนที่ขึ้นนำ1-0 ท้ายเกมทดเวลาบาดเจ็บ น.90+4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรที่จะโตกฝาโรงชนะสวยๆ 2-0 มากๆ
เมื่อ คาลวิน บาสซี่ย์ แข้งขาอ่อนแรง เคลียร์บอลวืด ทำให้ แรชฟอร์ด ได้หลุดโล่งๆ ซึ่งก็เหลือเชื่อเหมือนกันที่ " แรชชี่ " เลือกถวายพานทองให้ การ์นาโช่ แต่ทว่าก็มีน่าเหลือเชื่อกว่านั้นอีกตรงที่ ดาวรุ่งเลือดฟ้า-ขาวรายนี้ ยิงโล่งๆออกไปแบบไม่ได้ลุ้นหมูหกเสียของแบบไม่น่าให้อภัยสุดๆ
แง่บวกของผี รู้จักหอกใหม่ เซิร์กซี
ฤดูกาลที่แล้ว 2023-2024 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ประเดิมด้วยการเฉือนเอาชนะ วูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ ด้วยสกอร์ 1-0 เหมือนเมื่อคืนที่เชื่อฟูแล่ม ท้ายเกม1-0 นี่แหละ ประตูชัยปีที่แล้วมาช้าเหมือนกัน น.76 จาก ราฟาแอล วาราน
โอเคแม้ว่าสกอร์จะเฉียดฉิวเหมือนกัน และต้องไปลุ้นกันจนถึงท้ายเกม แต่สิ่งหนึ่งที่ทีมของ เอริก เทน ฮาก จะดีขึ้นมาจากซีซั่นที่แล้วนั้นก็คือ ในเรื่องของรูปเกม เพราะพวกเขาไม่ได้ตกเป็นรองคู่แข่งมาก และไม่ปล่อยให้เกิดจังหวะโดนสวนโล่งๆบ่อยมากเกินไป บวกเวลาไม่มีบอลพวกเขาก็บีบเพรสเข้าไล่เป็นระยะๆ
ขุนพลปีศาจแดง มีจังหวะการเข้าทำไอเดียที่หลากหลายขึ้น แต่ทว่าการจ่ายบอลจังหวะสุดท้ายที่จะเข้าทำยังดูมีปัญหา การไล่บอล เพรสซิ่งบอลจากแดนบน ยูไนเต็ด ก็ทำได้ดี ไม่ปล่อยให้คู่แข่งได้เซ็ตเกมขึ้นมาง่ายๆ แถมยังมีบางช็อตที่บีบสำเร็จด้วย
อีกจุดหนึ่งที่เหมือนพวกเขาจะเน้นขึ้นมากๆนั่นก็คือ จังหวะเซ็ตพีช ที่ได้ลุ้นมากขึ้น แต่ในทางกลับกัน เรื่องของการรับมือลูกเซ็ตพีช ปีศาจแดงยังดูน่าหวาดเสียวเหมือนเดิม โดยเฉพาะลูกเตะมุมที่เปิดมาเสาแรก แล้วมีผู้เล่นฟูแล่มโขกย้อนไปทางเสาไกล
ส่วน ฮีโร่ซุปเปอร์ซับ โจชัว เซิร์กซี ศูนย์หน้าป้ายแดงจากโบโลญญ่า ที่ไม่ได้ปรี-ซีซั่น หรือลงสนามกับทีมมาก่อนเลย แต่ถูกหย่อนลงเล่นเกมแรกเป็นตัวสำรอง น.61 ซึ่งก่อนหน้าที่จะมายิงประตูชัย ต้องบอกว่าเจ้าตัวหายไปจากเกมเลย แทบไม่ได้บอล (บอลไม่มาถึง) ยังจังหวะจะโคน สอดประสานไม่ลิ้งก์กับเพื่อนเท่าไหร่
แต่ทว่าประตูชัยที่ เซิร์กซี ทำได้จากโอกาสเพียงแค่1ครั้ง ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีเหมือนกัน ในเรื่องของเซนส์บอลการทำประตู ดีดเปลี่ยนทางเบาๆ เพราะหากเจ้าตัวรีบสอดเข้าไปในเขตโทษตั้งแต่แรก ไม่รอจังหวะของ การ์นาโช่ อาจไม่ได้จบสกอร์เลยด้วยซ้ำ
เสียดายฟูแล่ม สวนไม่คม
ฟูแล่มกลับมาเยือน โอลด์ แทร็ฟอร์ด ด้วยความทรงจำล่าสุดที่ดีเหมือนกัน เพราะปีที่แล้ว พวกเขาบุกมาคว้าชัยที่นี่ 2-1 จากประตูชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีสุดท้ายของ อเล็กซ์ อิโวบี้ ทำให้หนนี้ ลูกทีมของ มาร์โก ซิลวา หวังเหมือนกันที่จะบุกมาเก็บแต้มออกมาได้
เจ้าสัวน้อยมาในระบบเก่ง 4-2-3-1 มีนักเตะหน้าใหม่ที่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงนั่นก็คือ เอมิล สมิธ -โรล มีบางช่วงเหมือนกันที่ฟูแล่ม ครองเกมต่อบอลได้ดีกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และพวกเขาก็มีสิทธิได้สวนเป็นระยะๆเหมือนปีที่แล้ว
โอกาสทองของฟูแล่ม จะมาให้เห็นในจังหวะที่ แมนฯยูไนเต็ด ดันสูงแล้วทำบอลเสีย อดาม่า ตราโอเร่ ดูวูบวาบ แข็งแกร่งแรงปะทะดี แต่ทว่าหลังจากนั้น แทบไม่มีอะไรเลย ผู้มาเยือนมีจังหวะได้สวยผู้เล่นมากกว่า 3-2 แต่ทว่าจังหวะสุดท้าย เปเรย์ร่า เปิดไปโดน ลิซานโดร มาร์ติเนซ เคลียร์ทิ้งได้ ก่อนมาถึง อดาม่า
หรือมีอีกจังหวะใน45นาทีหลังที่ แมนฯยู หลังลอย ทำให้ฟูแล่มได้สวน หลังบ้านเหลือเพียงแค่ แม็คไกวร์ รายเดียว แต่ อันเดรส เปเรย์ร่า จ่ายไม่ดีไปติดขา แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ซะงั้น ซึ่งหากจ่ายเนี๊ยบๆหน่อย อิโวบี้ จะได้หลุดไปดวลกับโอนาน่า เลย
ส่วนแข้งหน้าใหม่ เอมิล สมิธ- โรล หรือ EMR เริ่มต้นได้ดีเลยเพราะเรียกใบเหลืองจากแข้งเจ้าบ้านได้ถึง2ใบ แต่ทว่าค่อยๆเงียบไป ซึ่งนอกจากจังหวะสวนกลับ ต้องบอกว่าแนวรุกฟูแล่ม เล่นกันไม่ไดัทั้งแผงเลยทั้ง มูนิซ- อิโวบี้ - อดาม่า กลับกลายเป็น เปเรย์ร่า ที่แม้จะยืนต่ำกว่าบทบาทเดิมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ที่พอจะสร้างความปั่นป่วนให้เจ้าบ้านได้
- คอลัมน์นิสต์
- พรีเมียร์ลีก คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟูแล่ม โจชัว เซิร์กซี เอริก เทน ฮาก
- 328
- 17 ส.ค. 2567 13:52