ทดเจ็บซ้อนทดเจ็บ ! ผี สุดบู่ เบรท์ฟอร์ด ซัดเจ๊า นาทีบาป 1-1 เมาท์ เบิกเม็ดแรก
ไม่รู้ว่าฟอร์มสู้ตาย วิ่งสู่ฟัด ในศึกแดงเดือดล่าสุดเพื่อ2สัปดาห์ที่แล้ว หายไปไหนหมดสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะเมื่อกลับมาเล่นเกมพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ลูกทีมของ เอริก เทน ฮาก ก็ออกอาการเช้าชามเย็นชาม รูปเกมตกเป็นรองคู่แข่งสุดๆ สุดท้ายแล้วเกมกับ เบรนท์ฟอร์ด เมื่อคืน ก็จบลงด้วยผลเสมอ1-1 ชนิดที่มองได้ทั้งสองแบบ โชคทีที่ไม่แพ้ และน่าเสียดายที่ไม่ชนะ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยังต้องรักษาโอกาสในการทำอันดับไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อไป โดยพวกเขาต้องยกทัพไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด ที่ จีเท็ค สเตเดี้ยม ซึ่งฟอร์มระยะหลังของทัพ " ผึ้งน้อย " นั้นไม่เอาอ่าวเลย กลายเป็นทีมครึ่งล่างของตาราง
ปีศาจแดงมาในผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ค็อบบี้ ไมนู แม้มีข่าวว่าป่วย แต่ก็พร้อมลงสนามเป็น11ตัวจริง คู่เซ็นเตอร์ใช้ ราฟาแอล วาราน กับ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ แบ็กซ้ายเป็น อารอน วาน -บิสซาก้า แก้ขัดแทน สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์ ได้เป็นตัวจริงในแดนกลาง 3ประสานในแดนหน้า ราสมุส ฮอยลุนด์ - มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อเลฮานโดร การ์นาโช่
เริ่มมาสัก 10-15 นาทีแรก ทีมของ ETH เหนือกว่าเจ้าบ้านชัดเจน ในเรื่องของการต่อบอลครองบอล ขาดก็แต่เพียงโอกาสจบสกอร์ที่เหมาะเหม่ง แต่ทว่าหลังผ่านช่วงเวลาดังกล่าว " เดอะ บีส์ " ก็ค่อนๆตั้งเกมขึ้นมาได้ ครองเกมบุกเสียเป็นส่วนใหญ่ สร้างสรรค์โอกาส ได้มากกว่า โดยเฉพาะลูกโด่ง บอลไดเร็ค ลูกเตะมุม ที่ปั่นป่วน แมน ฯ ยูไนเต็ด ได้เป็นอย่างดี
จบ45นาทีแรกด้วยสกอร์ 0-0 พร้อมรูปเกมที่น่าเบื่อ เป่านกหวีดครึ่งหลังมาก็ยังเป็นทีมของ โธมัส แฟร้งค์ ที่ทำได้ดีกว่า กดเข้าใส่ผู้มาเยือนอย่างเบ็ดเสร็จ แต่ทว่าพวกเขายิงทิ้งยิงขว้างกันไปเอง โดย เฉพาะในรายของ อีวาน โทนี่ ที่มีจังหวะจบหลายครั้ง แต่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา รวมไปจนถึงนี่คือวันฟอร์มหนึบของ อ็องเดร โอนาน่า
โดยในครึ่งหลัง ยูไนเต็ด ต้องเปลี่ยนเซ็นเตอร์ถึง2คน เพราะอาการบาดเจ็บ วาราน - ลินเดอเลิฟ ออก และเป็น ลิซานโดร มาร์ตินเนซ และ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ลงมาจับคู่กัน อย่างไรก็ดีปีศาจแดงที่เล่นแย่ทั้งเกม ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+6 จากตัวสำรองจอมเจ็บอย่าง เมสัน เมาท์
ณ วินาทีนั้น ด้วยโมเมนตัม รูปเกม และช่วงเวลาที่เหลืออยู่ 3แต้มน่าจะตกเป็นของผู้มาเยือนอย่างดราม่าแล้ว แต่ทว่าด้วยความไม่นิ่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอง พวกเขาก็มาโดนดราม่าซ้อนดราม่า ถูกตีเจ๊า 1-1 แบบน่าเจ็บแสบ น.90+9 จาก คริสโตเฟอร์ อาเยอร์
มิหนำซ้ำช่วงที่ตีเสมอได้ และเหลือเวลาอีกราวๆ 3นาทีของช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เบรนท์ฟอร์ด หมายมั่นจะเอาประตูชัยด้วยซ้ำ แต่ทว่าไม่มันกาลเจ๊ากันไป ผลเสมอนัดนี้ทำให้โอกาสไปเล่นถ้วย ยูซีแอล มืดมนเหลือเกิน เพราะคู่แข่งโดยตรงของพวกเขาอย่าง สเปอร์ส และ แอสตัน วิลล่า เก็บ3แต้มด้วยทั้งคู่
ส่วนปีศาจแดงต้องบอกว่านี่คือการวนลูปนรกของพวกเขาอีกครั้งอย่างแท้จริง ลืมฟอร์มในแดงเดือดออกให้หมด ผู้เล่นที่ทำตัวน่าผิดหวังก็ทายชื่อกันไม่ยาก เพราะเป็นพวกหน้าเก่าขาประจำอย่าง สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด รวมไปจนถึง วาน -บิสซาก้า
โอนาน่า เริ่มกลายเป็น " เดอะ แบก "
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังยุค เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กลายเป็นว่าผู้เล่นที่มักจะโดดเด่นเป็นสง่าที่สุด กลายเป็นตำแหน่งผู้รักษาประตูซะงั้น ซึ่งมันก็เป็นการบ่งบอกรูปเกมและความเปราะบางในการเล่นเกมรับได้เป็นอย่างดี เราจึงได้เห็น ดาบิด เด เคอา โดนทดสอบฝึกปรือวิชาขึ้นมาเป็นโกลระดับท็อป
จะว่าไปก่อนเกมที่จะเจอกับ เบรนท์ฟอร์ด อ็องเดร โอนาน่า ก็ฟอร์มหนึบเป็นตุ๊กแกมาหลายนัดแล้ว หรือนับตั้งแต่กลับมาจากศึก แอฟริกัน เนชั่น คัพ เลยก็ว่าได้ อาการตรงเป็นตุงไม่มีให้เห็น สีหน้าแววตาเต็มไปด้วยความมั่นใจ
อันดับแรกเลย ในเรื่องของการออกบอลด้วยเท้า โอนาน่า ทำได้อย่างดี แม้จะมีพลาดไม่แม่น100%บ้าง แต่ทว่ากับจังหวะที่เพื่อนร่วมทีมโดนบีบจวนตัว แล้วส่งคืนมาให้ โกลชาวแคเมอรูนรายนี้ แก้ไขสถานการณ์ให้ได้ดีตลอด
ช่วงที่ปีศาจแดงโดนขึงเกมใส่ตลอด นอกจากความที่เบรนท์ฟอร์ดจบสกอร์กันไม่คมแล้ว ฟอร์มหนึบเหินหาวของ โอนาน่า นี่แหละที่ช่วยให้ทีมตรึงสกอร์ 0-0 มาได้ โดยเฉพาะช็อตดับเบิ้ลเซฟลูกยิงจะเสียบมุมของ อีวาน โทนี่ย์ และลุกขึ้นมาดักมุมจังหวะซ้ำต่อเนื่องของ เยเกอร์ ยาร์โมลุค ได้อย่างสุดยอด
ส่วนจังหวะที่ควรเซฟได้ อดีตโกลอินเตอร์ มิลาน รายนี้ ก็ไม่ได้พลาดกระฉอกอะไร อาจจะมีข้อเสียหน่อยตรงที่ไม่ค่อยออกมาตัดบอลลูกเตะมุมเท่าไหร่ ประตูที่ถูกตีเสมอ 1-1 ของ คริสโตเฟอร์ อาเยอร์ นั้นจ่อเกินหมดสิทธิจริงๆที่จะปัดป้องได้
แม้จะออกสตาร์ทกับปีศาจแดงแบบตุปัดตุเป๋ แต่มาถึงตอนนี้ต้องบอกว่า อ็องเดร โอนาน่า ได้พิสูจน์ตัวเองขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว แม้ว่าจะเสียประตูเมื่อคืน แต่ฟอร์มทั้งเกมก็ยังดีพอที่จะทำให้เจ้าตัวดีพอได้รับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์
โทนี่ย์ ปั่นป่วนแต่จบไม่คม
นึกว่าจะดับไปแล้วสำหรับ อีวาน โทนี่ย์ ที่โดนลงโทษเล่นพนัน เอฟเอ แบน8เดือน และพึ่งกลับมาลงสนามได้เป็นครั้งแรก เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ทว่าเจ้าตัวก็ใช้เวลาไม่นานเลย กับการจับจังหวะของเกม เรียกฟอร์มเดิมๆ ที่หายไปจากการล้างสนาม
โดยโปรแกรม ฟีฟ่า เดย์ อุ่นเครื่อง โทนี่ย์ ก็พึ่งจะเปิดซิงเม็ดแรกให้กับทีมชาติอังกฤษได้ ด้วยการสังหารจุดโทษสุดนิ่งใส่ เบลเยี่ยม เกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมือคืน ดาวยิงเลือดผู้ดี ได้จับคู่กับ โยฮัน วิสซ่า
หอกวัย29ปี ทำได้ดีมากในการปั่นป่วนเซ็นเตอร์ปีศาจแดง โดยเฉพาะในรายของ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่ทำได้แต่ถอย โทนี่ย์ เป็นดาวยิงประเภทที่ลงต่ำมาเล่นทำทางให้เพื่อนได้ เล่นลูกนิ่งได้ โดยเฉพาะฟรีคิก ทำเป็นเล่นไป 9ครั้ง คือโอกาสของเจ้าตัวเมื่อคืน แต่ทว่าเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาหมด มีช็อตชนเสา รวมถึงเจอเซฟ โอนาน่า
พอจังหวะที่ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้ ก็ล้ำหน้าไปก่อนซะงั้น แต่ถึงกระนั้นก็ดี อีวาน โทนี่ย์ ก็ยังสามารถทำ แอสซิสต์ ได้ เพราะหักจ่ายไปพื้นที่ว่างให้ อาเยอร์ ซัดเหน่งๆ แบบไร้ตัวประกบ
เร็ว แข็งแกร่ง คล่องตัว นี่คือนิยามของ โทนี่ย์ แต่ทว่าความอันตรายในแนวรุกของเบรนฟอร์ด ดูจะพึ่งพาเจ้าตัวมากไปหน่อย โยฮัน วิสซ่า ดูเก้ๆกังๆแม้จะตัวเล็ก แต่พอเป็น ไบรอั้น เอ็มบูโม่ ลงมาแทน ทางเลือกในแนวรุกของผึ้งน้อย ดูหลากหลายและอันตรายขึ้นพอสมควร
บอลไดเร็ค เบรนท์ฟอร์ด โคตรได้ผลเวลาดวลผี
ทีมของ โธมัส แฟร้งค์ ขึ้นชื่ออยูแล้วว่า ถนัดนักแลในเรื่องของลูกกลางอากาศหรือบอลไดเร็ค โดยเฉพาะพวกลูกเตะมุมลูกฟรีคิก บวกกับการเจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมที่มีจุดอ่อนมากๆในเรื่องตั้งเตะ นั่นทำให้จุดแข็งของเบรนท์ฟอร์ด ดูอันตรายเพิ่มเข้าไปอีก
198 ซม. - 193 ซม. และ 191 ซม. นี่คือความสูงของ 3เซ็นเตอร์เบรนท์ฟอร์ด อย่าง คริสโตเฟอร์ อาเยอร์ - นาธาน คอลลินส์ และ ซานก้า นั่นจึงทำให้ ลูกตั้งเตะ ลูกเตะมุม ของพวกเขาน่ากลัวมากๆ เมื่อคืน " เดอะ บีส์ " ได้ลูกเตะมุมมากถึง14ครั้ง
มีโอกาสจบมากถึง 31หน ได้สัมผัสบอลในเขตโทษปีศาจแดงเยอะจนน่าตกใจ 85ครั้ง ผู้เล่นอย่าง อีวาน โทนี่ย์ 15 ครั้ง หรือแม้กระทั่งเซ็นเตอร์อย่าง คริสโตเฟอร์ อาเยอร์ และ ซานก้า ยังได้สัมผัสบอลในเขตโทษคู่แข่งมากถึง 11ครั้ง และ9ครั้งตามลำดับ
หนึ่งในสาเหตุที่พวกเขาไม่ชนะในนัดนี้ นั่นก็เป็นเพราะพวกเขาไม่เฉียบคมกันเองมากกว่า โยฮัน วิสซ่า ดูล้นๆ ส่วน โทนี่ ก็ใช้โอกาสเปลือง สูตรลูกตั้งเตะต่างๆของ โธมัส แฟร้งค์ ถือว่าได้ผลมากๆในการสร้างโอกาส หรือดึงตัวประกบให้เกิดพื้นที่ว่าง แต่ทว่าไปตายตอนจบจังหวะสุดท้าย
แต่จะว่าไปถ้าไม่นับเกมกับปีศาจแดง เบรนท์ฟอร์ด จัดว่าเป็นทีมผลงานดร็อปมากๆทีมหนึ่ง เพราะพวกเขาพ่ายไปถึง 12จาก 16นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก แถมยังอยู่ที่อันดับ15ของตาราง หากเอฟเวอร์ตันไม่โดนตัดแต้ม ทีมผึ้งน้อย จะหล่นมาอยู่อันดับ16ได้เลย
เมาท์ นับหนึ่งเสียที ตัวเจ็บทยอยกลับมาแล้ว แต่...
แฟนบอลปีศาจแดงอย่าพึ่งลืมไปนะว่าพวกเขายังมีนักเตะชื่อ เมสัน เมาท์ อยู่ แถมยังไปซื้อมาด้วยค่าตัวสุดแพง 60ล้านปอนด์ ทั้งที่ตัวนักเตะเหลือสัญญากับเซลซี เพียงแค่1ปีเท่านั้น นับว่าเป็นดีลการซื้อขายที่เราไม่ค่อยได้เห็นระดับท็อปทีมทำกันเท่าไหร่
ช่วงแรกที่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง (ก่อนได้รับบาดเจ็บ) เมาท์ กลายเป็นเหมือนบุคสูญหายสาบสูญในสนามเลย เมสัน เมาท์ ได้ลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกนัดสุดท้าย ต้องย้อนไปไกลถึง วันที่ 11 พฤศจิกายน 2023 ที่เปิดบ้านเฉือน ลูตัว ทาวน์ 1-0 และก็เดี้ยงยาวไป
เกมกับลิเวอร์พูล อดีตลูกหม้อเซลซีรายนี้ ก็ลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่ทว่าแทบไม่ได้ถูกเรียกชื่อเลย นั่นเท่ากับว่าก่อนเกมกับ เบรนท์ฟอร์ด เมสัน เมาท์ ลงเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเพียง13นัดเท่านั้น แถมดาวเตะเบอร์7รายนี้ ยังไม่มีประตูหรือ แอสซิสต์ มาฝากเลย
เมาท์ ลงมาแทน แรชฟอร์ด น.80 (บวกทดเจ็บอีกร่วมๆ10นาที) เมสัน เมาท์ ลงเล่นในตำแหน่งแนวรุกฝั่งซ้าย ก่อนจะมาซัดประตูสุดเฉียบมุมดิกหนีมือ มาร์ค เฟล็คเค่น น.90+6 ซึ่งเกือบจะเป็นฮีโร่ของทีมไปแล้ว แต่มาโดนตีเจ๊าช่วงทดเจ็บเช่นกันแบบสุดแสบ
ปีศาจแดง ได้2นักเตะที่เดี้ยงไปนานกลับมาคืนสนามนั่นก็คือ เมสัน เมาท์ - ลิซานโดร มาร์ติเนซ แต่ทว่าพวกเขาก็ต้องเสีย2เซ็นเตอร์ อย่าง ราฟาแอล วาราน และ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ไป นั่นแสดงให้เห็นว่าทีมแพทย์ของพวกเขา รวมไปจนถึงรูปแบบการฝึกซ้อม มีปัญหาจริงๆ เพราะนักเตะทะยอยกันเดี้ยงจนจะจบซีซั่น
ผีตกที่นั่งลำบาก ยูซีแอล ( อีกแล้ว) นักเตะคุมโมเมนตัมไม่อยู่
ก่อนเกมจะเริ่มต้นขึ้น คู่แข่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการแย่งพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่าง สเปอร์ส และ แอสตัน วิลล่า พวกเขาเก็บ 3แต้มได้ทั้งคู่ (2-1 ลูตัน และ 2-0 แอสตัน วิลล่า) ทำให้ทีมของ เอริก เทน ฮาก ตามหลัง2ทีมนี้ 11และ 8แต้ม ตามลำดับ แต่แข่งน้อยกว่า
ซึ่งปีนี้มีลุ้นมากๆว่าทีมจากอังกฤษ จะได้โควตา5ทีมไปลุย ยูซีแอล แม้แต้มจะดูห่างมาก แต่ทว่าทั้ง2ทีมไก่ และสิงห์ผงาด ไม่ใช่ทีมที่ฟอร์มเสถียรแต่อย่างใด แต่มันจะดูยากเพราะปีศาจแดงก็ฟอร์มไม่สม่ำเสมอเองด้วย
กับเบรนท์ฟอร์ด ลืมฟอร์มในแดงเดือดได้เลย เพราะเป็นทีมของ โธมัส แฟร้งค์ ที่แทบจะโขยกใส่ข้างเดียว โอกาสยิงเจ้าบ้านมากกว่า 31 ต่อ 1ครั้ง และเบรนท์ฟอร์ดได้สัมผัสบอลในเขตโทษ แมนยู มากถึง 85 ครั้ง แดนกลางของยูไนเต็ด เป็นรองมากๆในการเก็บจังหวะสอง
ตอนที่เกมสู้ไม่ได้ เอริก เทน ฮาก เลือกเปลี่ยนตัวแผงมิดฟิลด์ช้าไปหน่อย กว่าที่ กาเซมิโร่ กับ เมสัน เมาท์ จะลงมาก็ปาเข้าไป น.80แล้ว แต่เหลือเชื่อที่นักเตะอย่าง สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์ ได้อยู่จนครบ90นาที เพราะแทบไม่ทำประโยชน์อะไรเลย
แย่งบอลไม่ได้ จ่ายบอลไม่เนี๊ยบ แถมเวลาจะตัดเกมก็ลงเอยด้วยการทำฟาวล์เสียเป็นส่วนใหญ่ รวมไปจนถึง อารอน วาน - บิสซาก้า โอเค เข้าใจว่าแบ็กซ้ายเป็นตำแหน่งที่ไม่ถนัด แต่ " ไอ้แมงมุม " ทำได้น่าน่าผิดหวังเหลือเกินทั้ง การจ่ายบอล เติมเกมรุก รวมถึงการรับมือกับ แมด โรสเลฟ
อีกจุดหนึ่งที่นักเตะปีศาจแดงชุดนี้ต้องปรับมากๆคือ Mentality รวมถึงสมาธิการรักษาโมเมนตัมของเกม การขึ้นนำใน น.90+6 ควรจะเป็นชัยชนะได้แล้ว แต่ทว่ากลับมาโดนตีเจ๊า ช่วงทดเจ็บ 90+9 ดื้อๆ
ฤดูกาลนี้เราจะเห็นว่าปีศาจแดงของ เอริก เทน ฮาก ชอบเสียประตู5นาทีแรก และ5นาทีสุดท้ายของแต่ละครึ่ง มิหนำซ้ำเวลายิงประตูได้ มักจะมีเสียคืนทันควันเสมอ เรียกว่าสมาธิแตกซ่านเร็วเหลือเกิน ซึ่งเป็นคุณสมบัติด้านลบของทีมที่จะไม่ประสบความสำเร็จลุ้นแชมป์แต่อย่างใด
- คอลัมน์นิสต์
- พรีเมียร์ลีก คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เบรนท์ฟอร์ด เมสัน เมาท์
- 351
- 31 ม.ค. 2567 14:45