แชมป์เก่าไปไม่ลา ! ผี ร่วง เอฟเอ ดวลเป้าพ่าย ฟูแล่ม 3-4 เลโน่ เซฟ2จุดโทษ

แม้ว่าฟอร์มฤดูกาลนี้จะย่ำแย่สุดๆ แต่ทว่าในฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ บอลที่วัดกันแบบนัดต่อนัด สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้ว ก็ยังถือว่าพวกเขามีสิทธิที่จะกรุยทางผ่านเข้าไปในรอบลึกๆได้เช่นกัน โดยในรอบ16ทีม พลพรรคปีศาจแดง ต้องมาเจอกับฟูแล่ม ที่แม้จะทีมที่เล่นดีขนาดไหน ก็ยังแพ้ทางพวกเขาอยู่เสมอ แต่ทว่าหนนี้ไม่ใช่ กลับกลายเป็นเจ้าสัวน้อย อาจหาญมาเขี่ย ยูไนเต็ด ตกรอบ 5ได้สำเร็จ หลังเสมอกันในเวลาปรกติและ120นาที 1-1ก่อนดวลเป้าเอาชนะจุดโทษไปได้ 4-3

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ในพรีเมียร์ลีก พึ่งเอาชนะทีมตกชั้นอย่าง อิปสวิช ทาวน์ แบบกระเสือกกระสนสุดๆ 3-2 พวกเขาได้กลับมาเล่นรายการ เอฟเอ คัพ รอบ16ทีม ดวลกับฟูแล่ม การจัดทัพไม่ต้องพูดถึง รูเบน อโมริม มั่นใจในระบบ 3 -4-2-1 ผู้รักษาประตู อ็องเดร โอนาน่า 3เซ็นเตอร์ฮาร์ฟ มาไตส์ เดอ ลิกต์ - แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และ เลนี่ โยโร่
 

วิงแบ็กซ้าย-ขวา ดิโอโก้ ดาโล่ต์ กับ นุสแซร์ มาซราวี มิดฟิลด์ปักตรงกลาง มานูเอล อูการ์เต้ กับ บรูโน่ แฟร์นันเดซ 2ตัวรุกหลังกองหน้า คริสเตียน อิริคเซ่น กับ โจซัว เซิร์กเซ่ และหัวหอกจอมฝืด ราสมุส ฮอยลุนด์

ทางด้านฟูแล่ม ที่ชนะ3จาก4นัดหลังสุดในลีก บุกมาโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยแผนเก่ง 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู แบร์นด์ เลโน่ แผงแบ็กโฟร์เรียงจากขวาไปซ้าย ติโมตี กัสตาญ - โยอาคิม อันเดอร์เซ่น - คาลวิน บาสซี่ย์ และ แอนโทนี่ โรบินสัน มิดฟิลด์ปักหลักตรงกลาง ซานเดอร์ เบิร์ก กับ ซาช่า ลูคิช เพลย์เมคเกอร์ อันเดรส เปเรย์ร่า ปีกซ้าย-ขวา อเล็กซ์ อิโวบี และ อดาม่า ตราโอโร่ และหน้าเป้า ราอูล ฮิมิเนซ
 

เริ่มเกมมา ปีศาจแดง แม้จะรูปเกมไม่ดีแต่ทว่าพวกเขาได้ลุ้นก่อนจาก ลูกยิงของ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ที่ทำให้ เลโน่ ต้องออกแรงเซฟเป็นเตะมุม หลังจากนั้นอีกไม่นาน หอกจอมสากฮอยลุนด์ ได้โอกาสซัดในเขตโทษเสาแรก แต่บอลเหินข้ามคานแบบไม่ได้ลุ้น
 

ฟูแล่ม ที่แทบไม่ค่อยลำเลียงบอลมาถึงเขตโทษเจ้าบ้าน ก็มีพลาดโอกาสทองเหมือนกันกับลูกโขกโล่งๆของ ลูคิช  แต่โหนตัวโหม่งมากไป บังคิบทิศทางบอลไม่ได้ข้ามคาน เกมครึ่งแรกทำท่าว่าจะจบลงด้วยสกอร์0-0แล้ว แต่ทว่าทีมกระท่อมน้อยก็มาได้ประตูขึ้นนำ1-0 น.45+1 มูนิช ขวิดบอลตกลงพื้นจากลูกเตะมุมไปเสาไกล ให้ บาสซี่ย์ โขกจ่อๆไม่เหลือ จบครึ่งแรก ด้วยการบุกมานำของทีมเยือน

ครึ่งหลัง ยูไนเต็ด พยายามแก้เกมส่งทั้ง อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ลงมาแทน  อูกาเก้ และ โยโร่  ฟูแล่ม น่าจะทิ้งห่างเป็น 2-0 ด้วยซ้ำ จากลูกยิงหักข้อในเขตโทษของ สมิธ -โรล บอลเรียดจะเสียบมุม แต่ โอนาน่า ปัดไว้ได้
 

รูเบน อโมริม แก้เกมอีกครั้ง ด้วยการถอดทั้ง ฮอยลุนด์ และ อิริคเซ่น ออกให้ เจ้าหนูวัย17ปี ชิโด โอบี กับ กาเซมิโร่ ลงมาเล่นแทน และแล้วความพยายามของ แมนยู ก็มาสัมฤทธิผล ดาโล่ต์ ที่เปิดเรียดเข้ามาในเขตโทษให้ บรูโน่ ตวัดเรียดในเขตโทษ ผ่านมือ เลโน่ เข้าไป เสมอ1-1 น.71
 

หลังจากนั้นช่วงท้ายเกมทั้งคู่มีโอกาสทองฝังเพชรทั้ง สมิธ โรล ได้ซัดในเขตโทษแต่ติดมือ โอนาน่า รวมถึง การ์นาโช่ ได้ใช้สปีดวัดความเร็ว แต่ทว่าจัดหวะสุดท้ายด้วยการเจอกองหลังเบียด ทำให้จิ้มบอลเบา จึงไม่ผ่านมือ เลโน่  ทำให้จบ90นาทีด้วยสกอร์ 1-1 ต้องไปวัดกันอีกช่วงต่อเวลาพิเศษ 120 นาที

ช่วงต่อเวลา ชิโด โอบี เกือบได้เป็นฮีโร่แล้ว เมื่อได้ยิงจ่อๆมุมแคบ แต่ทว่า เลโน่ ปฎิกิริยาโคตรเยี่ยม ยกมือขึ้นมาปัดทันออกไปอย่างสุดยอด น.106 โดยหลังจากนั้น น.110 ทีมของ มาร์โก ซิลวา ก็เกือบจะน็อกเจ้าบ้านได้เหมือนกันสำรอง ไรอัน เซสเซอญอง ลากตัดเข้าในมายิงเสาแรก แต่ไม่ผ่าน โอนาน่า ทำให้ท้ายที่สุดแล้ว จบ120นาที เสมอกัน 1-1 ต้องมาดวลจุดโทษ
 

โดยในการดวลเป้า ผู้เล่น3คนแรกของทั้ง2ฝั่ง จะไม่พลาดเลย แต่ทว่าของปีศาจแดงคนที่ 4และ5อย่าง ลินเดอเลิฟ และ เซิร์กเซ่ ซัดไปติดเซฟ เลโน่ นายด่านเมืองเบียร์ที่เดาทางเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ฟูแล่ม เอาชนะการดวลจุดโทษไป 4-3 เขี่่ยแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกรอบ และในรอบ8ทีม ทัพเจ้าสัวน้อย จับฉลาก ได้เล่นใน คราเวน ค็อตเทจ ดวลกับ คริสตัล พาเลซ

 

ชิโด โอบี -มาร์ติน โอกาสของเด็ก17

เนื่องด้วย ราสมุส ฮอยลุนด์ ยังสวมบทเป็นกองหน้าที่ยึดถือสากกะเบือ เป็นแม่แบบไม่เลิก แถมยังอยูไม่ถูกที่ ไม่ถูกเวลา บังบอลแล้วล้ม จับบอลกระฉอก และมักไปแอบอยู่หลังเซ็นเตอร์คู่แข่ง ทำให้นับรวมเกมกับฟูแล่มเมื่อคืน หัวหอกชาวเดนมาร์ก เป้าสะอาดมา18เกม ติดต่อกันเข้าให้แล้ว
 

กับฟูแล่ม ฮอยลุนด์ ได้มีเวลาอยู่ในสนาม 68 นาที พร้อมโอกาสยิง1ครั้งถ้วย แต่ทว่าออกไปไกลแบบไม่ได้ลุ้น ซึ่ง รูเบน อโมริม ก็ให้ได้โอกาสเด็กดาวรุ่งวัย17ปีอย่าง ชิโด โอบี -มาร์ติน
 

เอาจริงๆช่วง 10-15 นาทีแรกต้องบอกว่า ศูนย์หน้าวัยรุ่นนายนี้ แทบจะไม่ได้บอล หรือส่วนร่วมกับเกมเลยนะ เพราะบอลลำเลียงมาไม่ถึง หรือพอช่วงที่ได้บอล เชื่อมเกมกับเพื่อน หรือวิ่งหาไลน์รับบอล ชิโด โอบี ยังไม่เข้าใจจังหวะเท่าไหร่
 

บอลจาก เซิร์กเซ่ มีงงๆกันหลายครั้ง แต่ถึงกระนั้นก็ดี แข้งดาวรุ่งที่ดึงมาจากอาร์เซน่อล รายนี้ จัดได้ว่าอยู่ยืนในตำแหน่งที่ถูกที่ถูกเวลาเช่นกัน เพราะได้โอกาสยิงไปถึง3ครั้ง แต่ทว่าด้วยความเด็กและดิบเกินไปนี่แหละทำให้โอกาสที่น่าจะเข้า กลับหลุดลอยไป
 

มีบางจังหวะที่เห็นได้ชัดเจนว่ากระดูกบอลและความเก๋าเป็นสิ่งที่สำคัญมีจังหวะในเขตโทษที่เจ้าตัวขืนเบียดกันกับแนวรับฟูแล่ม ซึ่งเชื่อว่าหาก ชิโด โอบี - มาร์ติน เลือกที่จะล้มเลยกับจังหวะดังกล่าวมีสิทธิเหมือนกันที่จะเป็นจุดโทษ
 

โดย ช่วงท้ายการต่อเวลาพิเศษ 120นาที ครึ่งแรก ลูกยิงของ ชิโด โอบี ตรงมุมแคบทำได้ดีมากๆแล้ว แต่ โดนปฎิกิริยาที่ว่องไวของ เลโน่ ยกมือขึ้นมาปัดทันเฉย ซึ่งในการดวลจุดโทษ เจ้าหนูวัย17ปี ก็ไม่ได้เป็นมือสังหารด้วย เพราะยังเด็กเกินไป หากพลาดอาจเสียความมั่นใจไปนาน

เลโน่ สวมบทฮีโร่ พาเจ้าสัวเข้ารอบ

นึกว่าจะกลับมาไม่ได้แล้วสำหรับ แบร์นด์ เลโน่ หลังจากที่สูญเสียตำแหน่งผู้รักษาประตัวตัวจริงให้กับ อารอน แรมส์เดล ที่อาร์เซน่อล ทำให้ท้ายที่สุดแล้วนายด่านเมืองเบียร์รายนี้ ต้องย้ายทีมออกมาเพื่อเริ่มต้นใหม่กับฟูแล่ม เมื่อซัมเมอร์ 2022
 

ซึ่งนี่ก็เป็นฤดูกาลที่3ติดต่อกันแล้วที่ เลโน่ ได้เป็นมือ1ให้กับทีมเจ้าสัวน้อย โดยในรายการ เอฟเอ คัพ ก่อนหน้า มาร์โก้ ซิลวา ให้โอกาสเป็นโกลมือ2 สตีเวน เบนดา ได้เฝ้าเสา แต่ทว่าพอมารอบลึกๆขึ้น ทีมก็ต้องเน้นเป็นพิเศษ และเป็นเกมใหญ่ด้วยทำให้ เลโน่ ได้กลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง
 

จริงๆ ช่วง90นาที แบร์นด์ เลโน่ ไม่ต้องออกแรงเซฟลูกยากอะไรมาก เพราะผู้เล่นทีมเจ้าบ้านยิงบอลไม่หนีมือมากนัด จากโอกาสเข้ากรอบ9ครั้งดังกล่าว ลูกยิงดีดของ การ์นาโช่ ที่หลุดเดี่ยวจากจังหวะสวนกลับแต่โดนบีบทำให้ยิงเบาหวิว
 

ถึงอย่างนั้นก็ต้องชมโกล เมด อิน เยอรมัน รายนี้ด้วย ที่ยืนตำแหน่งดี ทำให้ไม่ต้องเหาะเหินบินอากาศเกินควร ซึ่งช็อตเซฟที่น่าเข้าจริงๆมาในช่วงท้ายครึ่งแรกของการต่อเวลาพิเศษ 120นาที ดาวรุ่ง ชิโด โอบี ได้ยิงมุมแคบ แต่ทว่า เลโน่ ยกแขวนขึ้นมาปัดทันปฎิกิริยาโคตรไว บอลไม่เข้าประตูไปอย่างเหลือเชื่อ
 

พอมาถึงฎีกาการดวลจุดโทษ แม้ว่า ฟูแล่ม จะต้องเป็นฝ่ายยิงตามหลังตลอด 3คนแรกของเจ้าบ้านไม่พลาดเลย แต่ทว่า เลโน่ ก็มาสวมบทซุปเปอร์แมน เซฟจุดโทษของ ลินเดอเลิฟ และ เซิร์กเซ่ พาทีมผ่านเข้ารอบ8ทีมไปได้ ชนิดที่คนที่5ของฟูแล่ม ยังไม่ต้องยิงก็เข้ารอบ

 

บาสซี่ย์ หลังสมัยใหม่แข็งแกร่งแววดี

จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกองหลังสมัยใหม่ และแววดีเหมือนกัน สำหรับ คาลวิน บาสซี่ย์ เพราะถึงแม้จะตัวใหญ่ดูเทอะทะ แต่ทว่าความคล่องตัวและความเร็วยังมีให้เห็น แถมยังไม่เคลียร์บอล หลับหูหลับตาสาดอย่างเดียว เวลาโดนบุก
 

เซ็นเตอร์ชาวไนจีเรีย ร่วมมือกันได้เป็นอย่างดีกับ โยอาคิม แอนเดอร์เซ่น ในการรับมือกับจอมฝืด ราสมุส ฮอยลุนด์ โดย บาสซี่ย์ ค่อนข้างนิ่งในการต่อบอลจากแนวหลัง มีพลาดบ้างบางจังหวะแต่ภาพรวมนั้นทำได้ดี
 

และที่สำคัญคือเจ้าตัวเป็นคนโขกประตูขึ้นนำ 1-0 ให้กับทีมด้วย ฉีกหนีตัวประกบ มาซราวี แบบแข้งชาวโมร็อกโก ยังไม่ทันตั้งตัว หลังทำประตูได้นึกว่าจะมีอาถรรพ์แล้ว เพราะเจ้าตัวไปเต้นฉลองดีใจแบบกวนๆ ซึ่งหลายครั้งนักเตะที่ลีลาดีใจแบบนี้แล้วมาทำใส่ปีศาจแดง มักจะกลับมาพ่ายแพ้ภายหลัง
 

พละกำลังและความฟิตเป็นอีกจุดที่ต้องซูฮก บาสซี่ย์ เช่นกัน เราแทบไม่เห็นเจ้าตัวแผ่วหรือหมดแรงในช่วงต่อเวลาพิเศษ 120นาที ค่อนข้างนิ่งเวลาโดนแนวรุกปีศาจแดงพยายามบีบ (ซึ่งบีบไม่ดีไม่กดดันด้วย)
 

บาสซี่ย์ จังหวะกระชากจากหลังเติมขึ้นไปเล่นตรงกลางนั้นดีมาก มีสถิติที่เยี่ยมทั้ง ผ่านบอลแม่นยำ 85 จาก 90ครั้ง / เคลียร์บอล 11ครั้ง / ตัดบอล 3ครั้ง / แย่งบอลกลับมาได้ 7ครั้ง และชนะการดวล8จาก 13หน
 

เดจาวู รวมปัญหาเดิมผีที่แก้ไม่ได้

เวลาที่จะพูดถึง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังเกม แม้ว่าเกมนั้นๆจะชนะ แต่ทว่าพวกเขาก็ยังคงมีปัญหาหรือความผิดพลาดเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ที่แก้ยังไงไม่หายสักที ประการแรก การเสียประตูในช่วงเวลาที่ไม่น่าเสีย พวกเขาก็ทำมันอีกครั้ง
 

ลูกโขกของ บาสซี่ย์ มาในเวลาที่ทีมห้ามเสียประตูนั่นก็คือ 45+1 หรือท้ายครึ่งแรก นั่นเพราะจำให้ครึ่งหลังกลับมาเล่นยากขึ้น เรื่องที่2 การเสียประตูจากลูกตั้งเตะ ก็เป็นอีกครั้ง และอีกครั้ง ที่พวกเขาโดนคู่ต่อสู้จับกดถ่วงน้ำลงโทษ
 

ประการที่สามแนวรุก ราสมุส ฮอยลุนด์  ที่ก่อนหน้านั้นตีนฝืดมา18นัด ก็ยังออกอาการเดิมนั่นก็คือ ทำประตูไม่ได้และยังไร้ประโยชน์กับทีมสุดๆ เหมือนเอาเสาไฟฟ้าไปตั้งไว้เฉยๆกลางสนาม
 

เรื่องที่สี่ การเปลี่ยนตัว นี่ก็เป็นอีกครั้ง และแสดงให้เห็นถึงปรัชญาความมุ่งมั่น ของ รูเบน อโมริม ว่า ไม่ว่าจะในสถานการณ์ไหนๆ ทีมจะแพ้ ทีมจะต้องการประตู กุนซือหนุ่มวัย40ปี ยึดมั่นและมั่นใจในระบบ 3เซ็นเตอร์แบบเต็มประดา ไม่ถอดกองหลังออกสัก1คน แล้วเติมแนวรุกเข้าไป
 

เรื่องที่ห้า จบไม่คม ประทานโทษว่าเมื่อคืน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสได้ยิงมากถึง20ครั้ง ตรงกรอบ9ครั้ง แต่เอาจริงๆเลยคือ มีไม่กี่หนเองที่สร้างความลำบากใจให้ เลโน่ แบบสุดๆ สัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า ปีศาจแดง ก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และไม่มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนแปลงได้ด้วย
 

เซิร์กเซ่ เต็มที่แล้ว ฤดูกาลที่เหลือของ อโมริม

ในเกมมีความผิดพลาดเยอะเหมือนกันนะสำหรับ โจซัว เซิร์กเซ่ แต่ก็ยอมรับอย่างหนึ่งว่า เวลาที่อดีตศูนย์หน้าโบโลญญ่ารายนี้ได้บอล แทบไม่มีตัวสนับสนุน หรือวิ่งมาทำช่องเลย ทำให้โดนนักเตะฟูแล่ม ฉกดักบอลไปดื้อๆ
 

เซิร์กเซ่ ใช้ได้ในฐานะของกองหน้าตัวบังบอล พักบอล  ครองบอลเหนียวแน่น พยายามในทุกจังหวะ แต่ก็จัดได้ว่ามีข้อเสียตรงที่เป็นคนหาโอกาสจับสกอร์ไม่ได้  หรือในหลายๆนัดถ้ามีโอกาสได้ยิง มักจะเบาหวิว
 

ส่วน รูเบน อโมริม ต้องบอกว่า ระบบ 3-4-2-1 ยังไม่เห็นว่าจะมีวี่แววที่ดีขึ้นเลย ผ่าน24นัด ชนะ 10 /เสมอ 5 และแพ้9 โอเคแม้จะอนุโลมให้ว่า อดีตกุนซือ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ยังไม่ได้นักเตะที่ต้องการ แต่ก็ยังมองภาพไม่ออกว่า ด้วยวิธีการเล่นสปีดบอลที่ช้าขนาดนี้  จะดีขึ้นอย่างไรซีซั่นหน้า แม้จะเสริมทัพมาได้ 3-4 ตัว
 

การกระเด็นตกรอบ เอฟเอ คัพ นั่นเท่ากับ ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหลืออีกเพียงความหวังเดียว นั่นก็คือ ยูโรป้า ลีก แต่การเจอกับทีมจาสเปนอย่าง เรอัล โซเซียดาด นั้นไม่ใช่งานง่ายอยู่แล้ว
 

ซึ่งภาพรวมเมื่อดูจากฟอร์ม ใน ยูโรป้า นั้่นยากเหลือเกินที่ปีศาจแดงจะกรุยทางไปคว้าแชมป์ เพื่อได้โควตาทางลัดไปเล่น ยูซีแอล ส่วนในลีกที่ปัจจจุบันอันดับ14 พวกเขาไม่น่า จบเลขอันดับเดียวได้แน่ๆ เพราะแค่เอาชนะ2นัดติดในลีก พวกเขายังทำไม่ได้เลย
 

เชื่อว่านี่น่าจะเป็นฤดูกาลที่ แฟนบอลปีศาจแดง น่าจะอยากให้ปิดม่านซีซั่นไปเร็วๆจริงๆ เพราะด้วยสภาพแบบนี้ พวกเขามีสิทธิแพ้ทุกๆนัดที่ลงสนาม และจะเพิ่มสถิติอันเลวร้ายต่อไปอีกเรื่อยๆ ให้แฟนๆปวดใจเล่นแน่ๆ