เกือบบ๊วยติดคอ ! ผี รัว 10นาทีท้าย แซงดับ นักบุญ 3-1 อาหมัด แฮตทริก กอบกู้
หลังจากที่ได้ความมั่นใจในเกมใหญ่มา2นัด สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อบุกไปเสมอลิเวอร์พูล ถึง แอนฟิลด์ 2-2 และไปยันเจ๊าอาร์เซน่อล 1-1 จนครบ120นาที แล้วผ่านเข้ารอบ เอฟเอ คัพ เอาชนะจุดโทษไปได้ เกมพรีเมียร์ลีกที่จะเปิดบ้านดวลกับว่าที่ทีมตกชั้นแน่ๆ อย่าง เซาธ์แฮมป์ตัน กลางสัปดาห์ ไม่มีนัดไหนแล้วที่จะเรียกโมเมนตัมได้ดีไปกว่านี้ แต่ทว่าพอไปวัดกันในสนามจริงๆ ปีศาจแดง กลับต้องเหนื่อยหนักกว่าที่คิด กว่าจะพลิกแซงเอาชนะ นักบุญ ไปได้3-1ท้ายเกม พร้อมฮีโร่ อย่าง อาหมัด ดิยัลโล่ ที่สมบทพระเอกขี่ม้าขาวทำแฮตทริก
ก่อนแข่งเกมกลางสัปดาห์กับเซาธ์แฮมป์ตัน ลูกทีมของ รูเบน อโมริม ต้องหล่นมาอยู่ที่อันดับ15ของตาราง เพราะเหล่าทีมที่อันดับติดกันอย่าง คริสตัล พาเลซ และ เวสต์แฮม เก็บ3แต้มได้ทั้งคู่ การจัดทัพปีศาจแดง ยังยึดมั่นในระบบหลัก 3-4-2-1 ผู้รักษาประตู อ็องเดร โอนาน่า ส่วน3เซ็นเตอร์ มีการพัก แฮร์รี่ แม็คไกวร์ แล้วให้โอกาส เลนี่ โยโร่ ส่วน ที่เหลือเป็น มาตไตส์ เดอ ลิกต์ และ ลิซานโดร มาร์ติเนซ
วิงแบ็กซ้าย ต้องโยก นุสแซร์ มาซราวี มาเล่น เนื่องจาก ดาโล่ต์ โดนแบนจากใบเหลือง-แดง เกม เอฟเอ คัพ วิงแบ็กขวา ก็ต้องปรับเอา อาหมัด ดิยัลโล่ ถอยมาเล่น มิดฟิลด์คู่กลาง ค็อบบี้ เมนู ยืนกับ มานูเอล อูกาเต้ 2ตัวรุกหลังกองหน้า อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ศูนย์หน้าตัวเป้า ราสมุส ฮอยลุนด์
ฝั่ง เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมบ๊วย ว่าที่ทีมตกชั้นที่เต็งจนไม่รู้จะเต็งยังไง กุนซือ อีวาน ยูริช มาในระบบเหมือน แมนยู 3-4-2-1 โกลเป็น อารอน แรมส์เดล สามเซ็นเตอร์ เจมส์ บรี - แยน เบดราเรค และ เทย์เลอร์ ฮาร์วูด-เบลลิส วิงแบ็กซ้าย-ขวา ไคล์ วอลเกอร์-ปีเตอร์ส กับ ยูกินาริ ซูงาวาระ มิดฟิลด์ เลสลีย์ อูโกชุควู ผนึกกำลังกับ โจ อารีโบ
ตัวทำเกม2ราย มาเตอุส แฟร์นันด์ส กับ คามาลดีน ซูเลมานา และหน้าเป้าดาวรุ่ง ไทเลอร์ ดิบลิง สิ้นเสียงนกหวีดเป่าเริ่มเกมของ จอห์น บรูค กลับกลายเป็นว่าทีมอันดับ20 เซาธ์แฮมป์ตัน ครองบอลบุก และหาโอกาสเข้าทำได้เหมาะเหม่งกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ดื้อๆ และเกือบขึ้นนำไปก่อนจาก ซูเลมานา แต่โดน โอนาน่า เซฟไว้ได้
ฟากปีศาจแดง ก็มีได้ลุ้นเหมือนกันจาก จังหวะที่ การ์นาโช่ ยิงลูกถวายพานของ ฮอยลุนด์ ในเขตโทษ หลุดออกข้างไปแบบน่าเสียดายสุดๆ ส่วนทีมเยือนก็หวิดจะได้ประตูขึ้นนำมากๆ จากจังหวะของ ดิบลิง ได้ลากมาซัดในเขตโทษ แต่ โอนาน่า ยึงหนึบเซฟได้ แถมยังเร็วพอที่จะมาดับเบิ้ลเซฟลูกซ้ำของ แฟร์นันด์ส อีกด้วย
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม " เดอะ เซ็นต์ส " ก็ช็อกเจ้าบ้านตาตั้ง จากลูกเตะมุม บอลเปิดมาโดน ดิบลิง แล้วไปแฉลบ อูกาเต้ เปลี่ยนทางเข้าประตูไป เซาธ์แฮมป์ตัน บุกมานำ 1-0 น. 43 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว ชนิดที่รูปเกมสูสีมากๆ
เริ่ม45นาทีหลังมา กุนซือหนุ่มชาวโปรตุเกส มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นทันที ถอด ค็อบบี้ เมนู ที่เหมือนล้าออก แล้วให้ แอนโทนี่ ลงมาบู๊แทน พร้อมขยับ บรูโน่ ลงต่ำมาเป็นมิดฟิลด์ อย่างไรก็ดีรูปเกมของเจ้าบ้านก็ยังไม่ดีขึ้น เซาธ์ เกือบได้ประตูฉีกหนี2-0 ถึง2ครั้ง2ครา จาก ซูเลมานา ที่ทั้งโดนบล็อคของ เดอ ลิกต์ และซัดเฉียดเสาออกไปเอง
แมนฯยู มาชวดได้ประตูตีเสมอแบบหมูหกสุดๆ การ์นาโช่ ทำดีลากเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้าย ก่อนเปิดเรียดมาให้ แอนโทนี่ ได้ชาร์จ โล่งๆ 2-3 หลา แต่ผิดเหลี่ยมกลายเป็นส่งบอลคืนให้ แรมส์เดล แบบน่าเขกกะโหลกสุดๆ โดย ยูไนเต็ด เกมดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อส่ง โจซัว เซิร์กเซ่ ลงมาแทน ฮอยลุนด์ ซึ่งอดีตแข้ง โบโลญญ่า พักบอล จ่ายบอลในแดนหน้าได้ ทำให้ตัวรุกรายอื่นเล่นได้สะดวก
และแล้วสถานการณ์ก็สร้างวีรบุรุษทางฝั่งเจ้าบ้านจนได้ อาหมัด ดิยัลโล่ เหมาทำแฮตทริก ช่วง 10นาทีสุดท้าย เม็ดแรกเกิดจาก จังหวะที่เจ้าตัวพยายามกระชากไปเปิดฝั่งซ้าย บอลจังหวะสองเป็นใจเด้งมาเข้าทาง ซัดมุมแคบเข้าไปไม่เหลือ 1-1 น.82 ก่อนที่จะมาทำชิ่งกับ ตัวสำรองอีกรายอย่าง อิริคเซ่น เข้าไปในเขตโทษ ดีดด้วยซ้าย เข้าไป 2-1 น.90
ก่อน สตาร์ชาว ไอวอรี่ โคสต์ จะได้ของขวัญ เมื่อ ฮาร์วูด-เบลลิส ที่รับบอลในเขตโทษจาก แรมส์เดล ห่าง กลายเป็น ไปเข้าทาง อาหมัด ได้ยิงง่ายๆ น.90+4 เป็นแฮตทริกแรกในอาชีพการค้าแข้งของเจ้าตัว พาปีศาจแดง รัวเป็นปืนกลช่วง10นาทีสุดท้าย พลิกแซงไป 3-1
อาหมัด แบกทุกอย่าง แฮตทริกแรกในอาชีพค้าแข้ง
ถ้าเอา ณ ตอนนี้ ต้องบอกว่าเป็นตัวรุกที่แบบความหวังได้มากที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้ว สำหรับ อาหมัด ดิยัลโล่ ซึ่งก่อนเกม ดาวเตะเบอร์16รายนี้ ยังถือว่าทำประตูในพรีเมียร์ลีก น้อยไปหน่อยแค่3ประตู แต่ทว่าหลายๆนัดก็มีส่วนร่วมหรืออิมแพคต่อแนวรุกของทีมมากๆ
การขาดหายไปของ ดิโอโก้ ดาโล่ต์ เพราะโดนโทษใบเหลือง-แดง ทำให้ปีศาจแดง ต้องปรับทัพกันหลายตำแหน่ง หนึ่งในนั้นก็คือ อาหมัด เพราะต้องถูกโยกต่ำไปเล่นวิงแบ็กขวา เพราะ นุสแซร์ มาซราวี ต้องขยับไปเล่นวิงแบ็กซ้าย
สำหรับ วิงแบ็กขวา จริงๆ อาหมัด ก็เล่นพอได้นะ แต่ทว่าเรื่องเกมรับยังไม่ได้เท่าไหร่ เพราะไม่ใช่ตำแหน่งที่เจ้าตัวเคยเล่น แถมการยืนเป็นวิงแบ็ก ทำให้ดูเสียของพอสมควร เพราะต้องใช้แรงเยอะ กว่าจะกระชากขึ้นมาได้ แถมยังลดความอันตรายตัวเอง เพราะอยู่ไกลจากเขตโทษคู่แข่งเกินไป
ทว่าอย่างไรก็ตามการถูกส่งลงสนามมาของ แอนโทนี่ บางจังหวะทำให้ ดิยัลโล่ ได้ยืนสูงมากขึ้นเพราะสลับกับ " เดอะ หมุน " ซึ่งเมื่อ อาหมัด ได้อยู่ใกล้เขตโทษนั่นแหละ ความอันตรายจึงบังเกิด และได้วัดกับ ไคล์ วอลเกอร์-ปีเตอร์ส
ลูกแรกต้องชม อาหมัด ที่เลี้ยงจี้เข้าไปเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนบอลเป็นใจจากจังหวะเปิดเรียดติด มาเข้าทางให้ได้ซัดเสาแรกเข้าไป ลูก2 เป็นการเข้าขารู้ใจและเซ็นส์บอลทันกันกับ อิริคเซ่น ที่ตักโด่งมาให้เจ้าตัวดีดด้วยซ้ายผ่าน แรมส์เดล กอ่นที่จะมารับของขวัญจาก ฮาร์วูด-เบลลิส ยิงโล่งๆทำแฮตทริกแรก ในอาชีพการค้าแข้งได้สำเร็จ
เมื่อคืน อาหมัด ดิยัลโล่ หาโอกาสจบสกอร์ได้มากถึง 6ครั้ง / เลี้ยงบอลผ่าน4หน และ จ่ายจังหวะคีย์พาสได้3ครั้ง นี่คือ " เดอะ แบก " ของปีศาจแดงจริงๆเมื่อคืน เพราะนี่คือคนที่ทำให้ทีมคว้า3แต้ม และถ้าหากเอาชนะเซาธ์แฮมป์ตัน ไม่ได้ โมเมนตัม ดิ่งยาวๆไปอีกแน่ สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โอนาน่า เซฟให้ผียังอยู่ในเกม
มีเสียวๆที่จะสูญเสียตำแหน่งมือ1เหมือนกัน สำหรับ อ็องเดร โอนาน่า ที่มักถูกวิจารณ์ว่าหลายลูกที่เสียไป โกลทีมชาติแคเมอรูนรายนี้ ขาตายตลอด บวกกับในเกม เอฟเอ คัพ ที่เอาชนะ อาร์เซน่อล ในการดวลจุดโทษ 5-3 อัลตาย บายินดีร์ ก็ฟอร์มเทพ เซฟจุดโทษทั้งในระหว่างเกมและการดวลเป้าตัดสิน
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม รูเบน อโมริม ก็ยังคงไว้เนื้อเชื่อใจ โอนาน่า ในเกมพรีเมียร์ลีก ให้ได้ทดสอบตัวเองอีกครั้ง และไม่รู้ว่าเป็นเพราะการกลัวที่จะสูญเสียตำแหน่งมือ1เปล่า ทำให้ โอนาน่า โชว์ฟอร์มเชฟให้ปีศาจแดงเมื่อคืน
ต้นเกม " บิ๊กโอ " ก็งานชุกเลย คามาลดีน ซูเลมานา ได้ลากมายิงทางฝั่งซ้าย แต่ทว่า โอนาน่า ยังเซฟไว้ได้ โดยช่วง20นาทีแรกที่โดน นักบุญ พับสนามบุก โอนาน่า ก็มาแผลงฤทธิดับเบิ้ลเซฟ จากลูกลากเข้ามายิงของ ดับลิง แล้วบอลมาเข้าทาง มาเตอุส แฟร์นันด์ส ได้ซ้ำจ่อๆ แต่ทว่าโกลปีศาจแดงยังเข้ามาปิดมุมเซฟได้
หรือตอนท้ายครึ่งแรกที่สกอร์ แมนฯยู ตามอยู่ 0-1 ลูกที่ โจ อารีโบ ไหลมาให้ ดับลิง (เจ้าเก่า) ได้ซัด ดีที่ โอนาน่า ยืนตำแหน่งดีบอลตรงตัวป้องกันไม่ได้ เกมนี้ต้องบอกว่า หากไม่มี โอนาน่า มีโอกาสสูงมากๆที่ ปีศาจแดง จะกลับเข้าสู่เกมไม่ได้ เพราะจะโดนฉีกหนีเป็น 2-0
ฟอร์มเทพของ บายินดีร์ ในเกม เอฟเอ คัพ กลายเป็นตัวกระตุ้นชั้นดีให้ โอนาน่า ต้องทำอะไรสักอย่าง การที่นายด่าน2ราย พยายามโชว์ร่างหนึบ ดูจะเป็นผลดีของทีมเลย กับการมีนายด่านฝีมือดีให้เลือกใช้งาน2คน
โยโร่ โดนเผาเครื่องแบบเสียเชิง
อาจจะด้วยความที่ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่กลายเป็นกองหลังตัวหลักในระบบ3เซ็นเตอร์ไปแล้ว ลงเล่นไปกว่า 100 นาที ในเกม เอฟเอ คัพ ที่ดวลเป้าเอาชนะอาร์เซน่อล บวกอายุอานามที่มากขึ้น นั่นทำให้กุนซือ รูเบน อโมริม เลือกที่จะพักกองหลังเบอร์5รายนี้ แล้วให้โอกาส เลนี่ โยโร่ ดาวรุ่งแทน
นายใหญ่วัย39ปี อาจมองว่า การเจอกับทีมระดับหมูอย่าง เซาธ์แฮมป์ตัน น่าจะเป็นเกมที่ทำให้ โยโร่ ประคองหรือผ่านไปได้ง่ายๆ หรือมองเป็นนัดให้เก็บชั่วโมงบินในพรีเมียร์ลีก เพราะอายุยังเพียงแค่ 19ปีเอง
ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานี่คือนัดฝันร้ายของ โยโร่ ชัดๆประการแรกเลย การที่เมื่อคืนวิงแบ็กขวาเป็น อาหมัด ที่ไม่ใช่ตัวเล่นเกมรับได้ดีอยู่แล้ว ทำให้ เจ้าหนูจากลีลล์ เจอบททดสอบตัวๆตลอด และก็เป็นการต้องดวลกับ คามาลดีน ซูเลมานา
และต้องบอกว่า โยโร่ หมดสภาพเลยเมื่อต้องดวลกับ ซูเลมาน่า เพราะนับครั้งไม่ถ้วนที่ตัวรุกนักบุญรายนี้ กระชากเผาเครื่องง่ายๆสุดๆ ไม่ต้องใช้ชั้นเชิงอะไรในการหลอกล่อ แค่ใช้ความเร็วแตะบอลกระชากแล้ววิ่งตามบอล เลนี่ โยโร่ ก็สปีดไล่ไม่ทันแล้ว
ภาพ โยโร่ วิ่งตามหลัง ซูเลมาน่า เห็นเป็นเดจาวูตลอดทั้งเกม ซึ่งเมื่อมีการเปลี่ยนเจ้าตัวออก ให้ แม็คไกวร์ มาแทน แล้วขยับ เดอ ลิกต์ มาเล่นเซ็นเตอร์ฝั่งขวา แนวรับก็กระชับขึ้นทันตา มีลูกหนักให้เห็น ส่วน โยโร่ แล้ว น่าจะต้องใช้เวลาปรับจูนกับลีกฟุตบอลอังกฤษพอสมควร หรือหากยังส่งลงมาบ่อยๆ มีสิทธิเหมือนกันที่จะโดนเผาเรื่อยๆจนเสียความมั่นใจ
ฮอยลุนด์ หนักข้อเข้าทุกวัน / เซิร์กเซ่ ลงมาดีกว่าชัดเจน
อะไรมันจะขนาดนั้นสำหรับ ราสมุส ฮอยลุนด์ กับบทบาทในตำแหน่งกองหน้า เพราะระยะหลังที่ รูเบน อโมริม ให้โอกาสเจ้าตัวก่อน โจซัว เซิร์กเซ่ หอกชาวเดนมาร์ก ไม่สามารถตอบแทนความไว้วางใจได้เลย หายออกไปจากเกม และไม่ตอบโจทย์ใดๆสำหรับคุณสมบัติของกองหน้าในระบบ 3-4-2-1
นี่เป็นเกมที่ ฮอยลุนด์ ควรจะได้เรียกความเชื่อมั่นกลับมา เพราะเจอกับทีมที่อ่อนและหมูที่สุดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้อย่าง เซาธ์แฮมป์ตัน เพราะมีอยู่เพียง6แต้ม แพ้ 16จาก 20นัด มีอยู่เพียง 6แต้ม จองตั๋วตกชั้นไปแล้วแน่ๆในเชิงปฎิบัติ
แต่กลับกลายเป็นว่า ฮอยลุนด์ ทำอะไรไม่ได้เลยในการดวลกับกองหลังเกรดอย่าง แยน เบดราเรค ดาวรุ่งแดนโคนม เก็บบอลไม่ได้ พักบอลไม่ได้ หรือเมื่อบอลมาถึงเป็นภาพเดิมๆเหมือนทุกนัด นั่นก็คือหันหลังเล่น หรือรอบอลไม่เข้าหาบอล จนแนวรับนักบุญ ชิงจังหวะเล่นก่อน
เรียกว่าไร้ตัวตน ไร้ประโยชน์สุดๆ แม้จะเจอกับทีมบ๊วยอย่างเซาธ์แฮมป์ตัน มีเพียงจังหวะจ่ายสวยๆให้ การ์นาโช่ ยิงเท่านั้นที่เข้าตา นอกนั้นเข้าขั้นสากกะเบือเลย ไม่แปลกใจเลยที่ถูกเปลี่ยนออก น.53 ให้ โจซัว เซิร์กเซ่ ลงมาเล่นแทน
และก็เป็นอีกนัดที่ " อาจารย์ดู๋ " ทำให้เห็นว่า ถ้าเทียบจากฟอร์ม ณ ตอนนี้ ทำได้ดีกว่า ฮอยลุนด์ ชัดเจน เพราะบังบอลได้ ครองบอลได้ แตะพลิกหลบ ให้ตัวรุกเล่นเพลย์ต่อไปได้ เกมในแดนหน้าไหลลื่นขึ้น กองหลังนักบุญมีหัวหมุนเหมือนกัน
ซึ่งไปๆมาๆ กลายเป็นว่า ในตำแหน่งศูนย์หน้า เซิร์กเซ่ ตอบโจทย์ตามแท็กติกของ อโมริม มากกว่า ฮอยลุนด์ ที่ลงมาแล้วไม่มีประโยชน์แถมยังหายตัวเสียอีก และคาดการณ์กันว่า เกมในบ้านกับ ไบร์ทตัน วันอาทิตย์ น่าจะเป็น เซิร์กเซ่ นี่แหละได้ออกสตาร์ทตัวจริง เพราะ ฮอยลุนด์ อาการหนักจริงๆ
นักบุญ สติแตก10นาทีท้าย 21นัด6แต้ม รอแค่ตกชั้น
ไม่รู้ว่าด้วยความห่วยแตกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปล่า ที่ทำให้ทีมอันดับบ๊วย20อย่าง เซาธ์แฮมป์ตัน มาดีเกินคาดมากๆสำหรับการบุกมาเยือนที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพราะ45นาทีแรก แม้พวกเขาจะครองบอล ได้น้อยกว่าเจ้าบ้าน แต่รูปเกมและจังหวะเข้าทำของพวกเขาชัดเจนว่า ปีศาจแดงมากๆ
เซาธ์แฮมป์ตัน ที่มาในชุดเหลืองเล่นเป็น โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เลย เพราะครองบอลต่อบอลกันอย่าง แม่นยำ บีบเพรสซิ่งในแดน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนแกะบอลจากตรงกลางออกมาเล่นไม่ได้ คามาลดีน ซูเลมานา เมื่อเจอกับ โยโร่ ที่อ่อนพรรษาในพรีเมียร์ลีก ทำให้ลากเลื้อยได้มันประดุจเป็น ลิโอเนล เมสซี่ เลย
จริงๆตอนที่นำ 1-0 พวกเขามีโอกาสฝังเจ้าบ้านเป็น 2-0 มากๆ แต่ทว่าติดเซฟของ โอนาน่า หรือตัวของ ซูเลมานา ที่ได้หลุดมาทางฝั่งซ้ายแต่ยิงเฉียดเสาออกไปเอง นักบุญที่เล่นดีมา70-80นาที ก็มาสมาธิสติแตกพ่ายท้ายเกม
พอโดนเม็ดแรกของ อาหมัด ดิยัลโล่ พวกเขาก็ลนแตกพ่ายไปเอง และความผิดพลาดแบบหมูหกเหมือนประตู 3-1 นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่ เซาธ์แฮมป์ตัน แจกแบบนี้ เกมแพ้ เบรนท์ฟอร์ด คาบ้าน0-5 ลูกลักษณะนี้ก็มีให้เห็น
ความปราชัย 3-1 เมื่อคืนเท่ากับว่า หลังผ่านไป 21นัด ทีมดังแดนใต้ มีเพียงแค่ 6แต้ม จากผลงาน ชนะ1 เสมอ 3 และแพ้ 17 มองมุมไหนก็ตกชั้นทั้งนั้น เพราะเซาธ์แฮมป์ตัน มีคุณสมบัติครบถ้วนในการหล่นลงไปเล่นใน เดอะ แชมเปี้ยน ชิพ
ขนาดเล่นดียังไม่ชนะ กองหลังพร้อมแจกตลอดว่า ไม่มีนักเตะคนไหนฝากความหวังในการทำประตูได้ ผ่านมา21นัดในลีก ดาวซัลโวของพวกเขายิงมากที่สุดแค่2ประตู โจ อารีโบ - อดัม อาร์มสตรอง - คาเมรอน อาเชอร์ และ ไทเลอร์ ดิบลิง ในทางปฎิบัติวัดจากฟอร์มแล้วสำหรับ เซาธ์แฮมป์ตัน ตกชั้นแน่ๆ รอเวลาอย่างเป็นทางการตามทฎษฎีเท่านั้น
- คอลัมน์นิสต์
- คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เซาธ์แฮมป์ตัน รูเบน อโมริม อาหมัด ดิยัลโล่ อารอน แรมส์เดล อ็องเดร โอนาน่า ราสมุส ฮอยลุนด์
- 93
- 17 ม.ค. 2568 14:46